ปลุกความสร้างสรรค์ที่ย่าน ‘เจริญรัถ’ แหล่งค้าหนังและอุปกรณ์งานคราฟต์ของกรุงเทพฯ

ถ้าอยากทำกระเป๋าหนังสักใบ หรือหาอะไหล่นำกลับไปทำงาน DIY ที่บ้านในวันที่ไอเดียพรั่งพรู เหล่านักประดิษฐ์ตัวยงหรือดีไซเนอร์มือฉกาจต่างแนะนำเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘เจริญรัถ’ คือคำตอบชนิดที่มาครบจบในที่เดียวได้ ย่านเจริญรัถ ใกล้กับวงเวียนใหญ่ ในฝั่งธนบุรี เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมกิจการร้านค้างานหนังแบบครบวงจรที่ขึ้นชื่อลือชามานานหลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหนังแท้และหนังเทียม สารพัดอุปกรณ์ตัด ตอก หรืออะไหล่ตกแต่งกระเป๋าให้สวยเก๋ ไปจนถึงร้านลับคมกรรไกรที่แทบไม่ค่อยเห็นแล้วในทุกวันนี้ ต่างแทรกตัวอยู่บนถนนเจริญรัถทั้งสิ้น คอลัมน์ Neighboroot ชวนสาวเท้าก้าวตามเจ้าของโรงเรียนสอนทำกระเป๋าบนถนนเจริญรัถ ฟังความเป็นมาของย่าน ทำความรู้จักร้านขายหนังและสารพัดอุปกรณ์รุ่นเก๋าที่เด็ดดวงสุดในย่าน จากปากของคนพื้นที่ที่คัดสรรมาให้แล้ว   MHA Art & Craft : โรงเรียนสอนทำกระเป๋าหนังแห่งย่านเจริญรัถ “เคยพูดเล่นๆ ว่า ถ้าหาหนังแล้วที่อื่นไม่มี และที่นี่ก็ไม่มี ก็ไม่ต้องหาละ” เจ้าของ MHA Art & Craft โรงเรียนสอนทำกระเป๋าอย่าง ‘พี่แบงค์-บุญชัย บุญนพพรกุล’ บอกอย่างติดตลก ถึงนิยามความเป็นย่านเจริญรัถ ย่านค้าหนังอันเลื่องชื่อของไทย  บทสนทนานี้เกิดขึ้นใต้ชายคาของตึกแถวที่เป็นทั้งโรงเรียนสอนทำกระเป๋า คาเฟ่ และประตูบานแรกก่อนเข้าสู่ถนนเจริญรัถ จากปากของทายาทโรงงานทำกระเป๋าหนังส่งออกและเจ้าของโรงเรียน เวิร์กช็อปสเปซสำหรับผู้สนใจและหลงใหลในงานหนัง ซึ่งเข้าสู่ขวบปีที่สิบแล้วในวันนี้ “ช่วงนั้นเกิดปรากฏการณ์ใหม่ คนสร้างแบรนด์เองง่ายขึ้นผ่านโซเชียลมีเดีย จังหวะนั้นก็เลยเกิดโรงเรียนของเรา […]

KARAVA แบรนด์องค์เทพตั้งโต๊ะของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนภาพจำไอเทมมูฯ ให้ดูโมเดิร์น

ไม่ว่าคุณจะเรียกตัวเองว่าสายมูฯ หรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตประจำวันของเราเชื่อมโยงกับการมูเตลูไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การไหว้พระและรูปบรรพบุรุษให้คุ้มครองก่อนออกจากบ้าน การตามหาเลขเด็ดก่อนวันที่ 1 และ 16 ของเดือน หรือการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือก่อนการพิตช์งานใหญ่ เหล่านี้คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่ถ้าคุณไม่ได้ทำเอง ก็ต้องมีคนใกล้ตัวสักคนทำ แน่นอน เรามูฯ เพราะคาดหวังความสำเร็จในสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรืออย่างน้อยที่สุดเราก็มูฯ เพื่อหล่อเลี้ยงความหวังและความสบายใจ บางครั้งการมูฯ ก็เป็นการตั้งหลักในใจก่อนจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง ‘บุ๊ค-หัสวีร์ วิรัลสิริภักดิ์’ และ ‘เคน-นันท์ธร พรกุลวัฒน์’ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Karava ก็คุ้นเคยกับการมูเตลูมาตั้งแต่เด็กๆ พวกเขาอินกับการมูฯ มากจนเปิดธุรกิจไอเทมมูเตลูของตัวเอง เริ่มตั้งแต่สร้อยข้อมือหินมงคลพลังงานดี ไปจนถึงองค์เทพตั้งโต๊ะบูชา ที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ว่า องค์เทพของแบรนด์ Karava ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนองค์เทพที่เราเคยเห็นทั่วไป แต่ผ่านการดีไซน์ให้โมเดิร์นขึ้นเพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ ให้นำไปจัดวางไว้กับบ้าน Modern Luxury ที่ได้รับความนิยมในยุคนี้ได้อย่างไม่เคอะเขิน แนวคิดเบื้องหลังการดีไซน์ไอเทมมูเตลูของทั้งคู่เริ่มต้นยังไง คอลัมน์ Re-desire รอบนี้พาไปหาคำตอบกัน ธุรกิจมูเตลูของสายมูฯ ตัวจริง “ที่บ้านคนนี้เลยครับ” เคนผายมือไปที่บุ๊ค เมื่อเราถามถึงจุดเริ่มต้นการเป็นสายมูฯ ของทั้งคู่ บ้านของบุ๊คเป็นบ้านคนจีน คุณพ่อของเจ้าตัวมีตู้พระตู้ใหญ่ที่สะสมองค์พระดังๆ จากวัดมากมายในหลักร้อยชิ้น […]

สำรวจ ‘เมืองทองธานี’ เมืองเล็กในเมืองใหญ่ที่ไม่เคยหยุดเติบโต

“ครั้งล่าสุดที่ไปเมืองทองคือเมื่อไรกันนะ” คนรักบ้านและสวนอาจตอบว่าเมื่อปลายปีที่แล้วที่งานแฟร์ คนรักรถน่าจะไปเดินเล่นงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน หรือหลายคนอาจไปคอนเสิร์ตของศิลปินที่ชื่นชอบเมื่อไม่นานมานี้ ‘เมืองทองธานี’ ไม่ได้ขึ้นชื่อแค่เรื่องอีเวนต์ที่จัดอยู่ตลอดทั้งปี แต่ยังมีที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม ออฟฟิศ ร้านรวงยันห้างสรรพสินค้า ศูนย์ราชการ และสนามกีฬาประเภทต่างๆ โดยเฉพาะฟุตบอล กับการมีสโมสรประจำย่านที่มีแฟนคลับเข้าเส้นไม่ต่างจากสโมสรในต่างประเทศ ปกติแล้วคอลัมน์ Neighboroot มักจะชวนผู้อ่านลงพื้นที่ ย่ำตรอก ออกซอย สำรวจย่านต่างๆ ในเมืองหลวงเป็นหลัก แต่สำหรับครั้งนี้เราขอชวนออกไปปริมณฑลเพื่อนบ้านเมืองหลวง อัปเดตวิถีชีวิตชาวเมืองทอง กินอย่างคนเมืองทอง และเชียร์ฟุตบอลอย่างทีมเมืองทองฯ กันดูบ้าง ‘เมืองทองธานี’ เรียกว่าเป็นเมืองขนาดย่อมๆ ก็ไม่ผิดนัก หากเล่าอย่างคร่าวๆ เพื่อให้รู้จักที่มาที่ไปเร็วที่สุด โครงการอภิมหาโปรเจกต์มิกซ์ยูสนี้เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2533 จากความตั้งใจของบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่อยากสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ขยับออกมาในเขตชานเมือง ตามอย่างในฮ่องกง พื้นที่รวมๆ ในเมืองทองธานีสามารถแบ่งได้เป็น 2 โซนหลักคือ โซนที่อยู่อาศัย มีทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว แบ่งซอยย่อยๆ แยกจากถนนใหญ่ไม่ต่างจากในเมือง วางแลนด์สเคปและผังเมืองในโครงการมาอย่างดี หากโซนแรกมีวิถีชีวิตที่เงียบๆ และไม่ค่อยพลุกพล่าน อีกฟากหนึ่งคงให้ความรู้สึกต่างออกไป เพราะโซนพื้นที่เชิงพาณิชย์-ศูนย์แสดงสินค้า จะคึกคักตลอดทั้งปี สถานที่ที่หลายคนคุ้นชินน่าจะเป็นชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค […]

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe พื้นที่เปิดกว้างที่อยากสร้างบทสนทนาเรื่องรสนิยมทางเพศ

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะพูดถึงเรื่องเซ็กซ์หรือรสนิยมทางเพศได้อย่างเปิดเผยในสถานที่สาธารณะอย่างร้านกาแฟหรือคาเฟ่ทั่วไป ยิ่งเป็นการพูดถึงรสนิยมทางเพศที่มีความเฉพาะเจาะจงขึ้นไปอีกอย่าง Fetish และ BDSM ที่ไม่ได้เป็นเรื่องคุ้นชินในไทยด้วยแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ ‘ตอง-ศานตรส ชูชีพ’ ผู้บริหารร้าน ‘FORFUN STORE’ ที่ขายสินค้าเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับและอุปกรณ์เกี่ยวกับ Fetish และ BDSM มาก่อน ตัดสินใจเช่าห้องแถวฝั่งตรงข้ามร้านเดิม เพื่อเปิด ‘500 Cafe’ เป็นอีกหนึ่งสถานที่นัดพบแห่งใหม่ของคนในคอมมูนิตี้ 500 Cafe เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่อยากให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นเหมือนศูนย์รวมของคนที่ชื่นชอบรสนิยมทางเพศในรูปแบบ Fetish และ BDSM ได้มาพูดคุยกัน และทำให้ลูกค้าทั่วไปเข้าใจความชอบในอีกรูปแบบหนึ่งมากขึ้น Fetish & BDSM คือรสนิยมทางเพศ ไม่ใช่เรื่องแปลก ก่อนจะไปพูดคุยเรื่องตัวร้าน เราคิดว่าหลายคนอาจยังไม่ค่อยรู้จักคำว่า Fetish และ BDSM ที่อยู่ในชื่อร้านกันมากนัก ขนาดตองเองยังบอกกับเราว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่มองเข้ามาและรู้สึกว่าความชอบเหล่านี้เป็นเรื่องประหลาดหรืออาจถึงขั้นวิตถาร เราเลยขอให้ตองช่วยแนะนำรายละเอียดเรื่องนี้แบบพื้นฐาน 101 ให้ผู้อ่านก่อน “ถ้าคุณชอบเซ็กซ์ในรูปแบบที่ต้องมีอุปกรณ์ มีการแต่งตัวร่วมด้วย หรือเห็นเท้า รองเท้า ถุงเท้า อวัยวะในร่างกาย หรือใส่เสื้อผ้าบางประเภทแล้วมีอารมณ์ เราจะเรียกคนที่ชอบและคลั่งไคล้แบบนี้ว่า […]

เส้นทางโรแมนติกในฤดูหนาว

เป็นเรื่องตลกร้ายที่เราอยู่ถูกที่แต่ผิดเวลาเสมอ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเส้นทางลุ่มแม่น้ำไรน์และโมเซลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่โรแมนติกที่สุด แต่สิ่งที่เห็นมีเพียงไร่องุ่นที่เหลือแค่ต้นที่ไร้ใบ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีเพียงเหล่าผู้มาเยือนอันน้อยนิด เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นไม่เป็นใจ  แต่นั่นไม่สำคัญเลย เพราะความสวยงามอาจไม่ใช่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเพียงอย่างเดียว สถานการณ์และผู้ร่วมเดินทางไปกับเราต่างหากคือความสวยงามที่สุด อีกอย่าง การเดินทางในฤดูหนาวบางครั้งก็ทำให้เราได้เห็นสิ่งสวยงามในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม ใครมีเซตภาพเจ๋งๆ อยากมาแบ่งปัน Urban Creature เปิดรับต้นฉบับในคอลัมน์ Urban Eyes บันทึกภาพเมืองและผู้คนผ่านสายตาหลังเลนส์ เพียงแค่ส่งเซตภาพ คำอธิบาย และชื่อผลงานมาที่อีเมล [email protected]

ปากคลอง Pop-Up ครั้งแรกของ Bangkok Design Week ที่มีตัวเอกเป็นตลาดดอกไม้

“อยากให้พระเอกของงานคือร้านดอกไม้ในตลาด ส่วนผลงานเป็นเพียงพระรองที่จะทำให้การเดินตลาดรู้สึกสนุกขึ้น”  เพราะต้องการให้ปากคลองตลาดกลับมาคึกคักเหมือนในอดีต หลังจากเกิดวิกฤตโรคระบาดจนตลาดดอกไม้ซบเซา ทำให้ ‘หน่อง-ผศ. ดร.สุพิชชา โตวิวิชญ์’ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมมือกับทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ก้าวขึ้นเป็นแม่งานประจำย่านปากคลองตลาดเป็นครั้งแรกกับงาน ‘ปากคลอง Pop-Up’ กิจกรรมหนึ่งใน Bangkok Design Week 2023 ของปีนี้ ในธีม ‘urban‘NICE’zation เมือง-มิตร-ดี’ ภายในงานประกอบไปด้วยโปรเจกต์และกิจกรรมจากนักสร้างสรรค์และคนในพื้นที่ที่กระจายครอบคลุมทั่วทั้งย่านปากคลองตลาด แบบที่เดินเชื่อมกันได้ตั้งแต่ลง MRT สนามไชย ผ่านยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ไปยังอาคารไปรษณียาคาร ก่อนจะวนกลับมาทางถนนจักรเพชร ในระยะทางเพียง 2 กิโลเมตร  ‘ปากคลอง Pop-Up’ จัดแสดงวันนี้ – 12 กุมภาพันธ์ 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. โดยประมาณ และจะมีบางกิจกรรมที่เปิดเฉพาะช่วงเย็น Urban Creature เลยขอนำเส้นทางนิทรรศการจากคำแนะนำของอาจารย์หน่องมาฝากทุกคน จะได้ไม่พลาดจุดน่าสนใจภายในงานกัน […]

ไปปรับสมดุลร่างกาย บำรุงหัวใจ และเสริมสร้างจิตวิญญาณ ที่งาน ‘ข้างใน Festival’

‘ปัจจุบัน’ เป็นเรื่องยาก และเราถอยห่างจากช่วงเวลาตรงหน้าทุกขณะ เพราะมีสิ่งต่างๆ มากมายที่เข้ามากระทบจิตใจให้เรานึกย้อนกลับไปหาอดีต และกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงอยู่เสมอ  นอกจากร่างกายที่ต้องดูแลเป็นอย่างดี หัวจิตหัวใจก็เป็นเรื่องสลับซับซ้อนและต้องคอยเยียวยารักษา การหมั่นสำรวจข้างในอยู่เสมอคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ชีวิตเกิดความสมดุล ด้วยเหตุนี้ เราจึงเลือกพาตัวเองลุกจากที่นอนในวันหยุดแสนน้อยนิด ออกไปใช้ชีวิตอยู่กับช่วงเวลาปัจจุบัน ในงาน ‘ข้างใน Festival’ เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะช่วยทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นกับโลกข้างนอก ได้กลับมาสงบเงียบและมีชีวิตชีวามากขึ้น  ‘ข้างใน Festival’ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดย ‘Muchimore’ ชุมชนผู้คอยเป็นตัวกลางเชื่อมโยงพาทุกคนกลับมาดูแลจิตใจ และเปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้เข้ามาพักใจ พร้อมกับศาสตร์ต่างๆ มากมายที่ช่วยให้สติเกิดความมั่นคง และจิตวิญญาณได้กลับมาสว่างไสว  งานครั้งนี้ มัชฌิมอร์ได้ขยายพื้นที่จากข้างในอาคาร Awareness Space ออกไปสู่พื้นที่กว้างในสวนวนธรรม และรวบรวมเหล่ากิจกรรมฮีลจิตใจไว้อย่างครอบคลุมหลากหลาย คอลัมน์ Experimentrip อยากพาทุกคนออกเดินทางย้อนกลับไปข้างในอีกครั้ง เพื่อสำรวจสิ่งที่เคยเกิดขึ้นและนำมันมาทบทวนเพื่อก้าวต่อไปในชีวิตปัจจุบัน  เราอยู่ที่ไหน เรามาทำอะไร แม้แดดต้นปีจะแรง แต่ปลายฤดูหนาวก็ยังทำให้ลมเย็นๆ พัดมาสัมผัสผิวอยู่บ้าง เมื่อเดินเข้าไปในสวนวนธรรม การถูกห้อมล้อมด้วยเสียงนกร้องกับพื้นที่สีเขียว ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากการเดินทางบนท้องถนนที่ผ่านมาไม่น้อย ผู้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างทยอยกันเข้ามาในสวนหนาตา ‘สนัด-ณัฐพงษ์ โสธรวัฒนา’ ผู้ก่อตั้ง Muchimore เริ่มต้นต้อนรับทุกคนด้วยคำถามที่ว่า “วันนี้เราอยู่ที่ไหน และวันนี้เรามาทำอะไร” เพื่อเน้นย้ำให้สติของทุกคนในเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์กลับมาอยู่กับลมหายใจของปัจจุบัน และเมื่อการเคลื่อนไหวของทุกสิ่งสงบนิ่ง […]

Thai Lebenspartner บริษัทจัดหาคู่ที่ไม่ได้เกิดจากความรักอย่างเดียว แต่เกิดจากความต้องการที่ขาดไป

ลมหนาวหวนคืนมาในทุกๆ สิ้นปี ถนนถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบสงัด ท้องฟ้าเป็นสีควันบุหรี่รอวันผลัดเปลี่ยนฤดูกาล ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องพลัดถิ่นฐานออกจากบ้านเกิดด้วยเหตุผลบางประการ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกหนีวิถีชีวิตเดิมที่ย่ำแย่ การออกเดินทางเพื่อแสวงโชค การไปศึกษาต่อในสถาบันต่างแดน และอื่นๆ อีกมากมายที่รวมถึงเรื่องของชีวิตคู่ด้วย ผมเดินทางมายัง Koblenz เมืองที่อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือไม่ใกล้ไม่ไกลนักจากเมือง Frankfurt ประเทศเยอรมนี เพื่อพูดคุยกับ ‘พิมพ์พัฒน์ มาตรังศรี เมนด์ลิ่ง’ หรือพี่พิมพ์ เจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับการจัดหาคู่ Thai Lebenspartner (คู่ชีวิตไทย-เยอรมัน) ที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้เป็นเวลากว่าสิบหกปีแล้ว  ผมเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจนี้ได้ ทั้งในเรื่องของการทำงานและเหตุผลต่างๆ ในการประกอบธุรกิจ ไปจนถึงเหตุผลที่ผู้หญิงไทยจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะแต่งงานกับชาวต่างชาติ ครั้งนี้นับว่าเป็นโชคดีที่พี่พิมพ์เปิดโอกาสให้ผมได้ทำความรู้จักกับเรื่องราวของธุรกิจนี้ ผ่านบทสนทนากับพี่พิมพ์ เกือบสามสิบปีที่ผ่านมาก่อนพลัดถิ่นฐาน เราทำมาหลายอย่างมาก เริ่มทำงานจริงๆ ตั้งแต่อายุสิบเจ็ด เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เริ่มต้นจากการเป็นสาวโรงงานที่โรงงานผลิตฮาร์ดดิสก์แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ เราทำได้แค่สามปีก็ลาออก เนื่องจากเราเป็นคนชอบพัฒนาตนเองและอยากเรียนรู้ทักษะอื่นๆ นอกเหนือจากสิ่งที่ทำซ้ำๆ ทุกๆ วัน ตอนนั้นเราอยากพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ด้วยความที่ไม่มีทุนทรัพย์มากพอที่จะไปลงคอร์สเรียนภาษา เราเลยตัดสินใจเข้าไปทำตำแหน่งประชาสัมพันธ์ที่โรงเรียนสอนภาษาแทน ตรงนี้เองที่ทำให้เราได้รู้จักคนเพิ่มและได้ถูกชักชวนให้ไปทำงานในสายงานนำเข้าและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ ในตอนนั้นโฮมคอมพิวเตอร์ถือว่าเป็นสิ่งใหม่และเป็นที่นิยมในสังคมมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งประเทศก็เจอกับวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง บริษัทที่เราทำอยู่ก็ได้รับผลกระทบมาก แต่เจ้านายเขาไม่อยากเลย์ออฟพนักงาน เลยเลือกปรับโครงสร้างบริษัทจากเดิมที่มีเพียงแค่การนำเข้าและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์เพิ่มมาเป็นบริการ One Stop Service คือรับทำงานเอกสาร ไม่ว่าจะพิมพ์งาน […]

BRAVE SHOES แบรนด์สินค้าอัปไซเคิลที่เปลี่ยนเปลือกกล้วยและเศษมะนาวให้กลายเป็นรองเท้าทรงเก๋

สำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อรองเท้าบ่อยๆ อย่างเรา โอกาสที่จะหยุดดูรองเท้าสักคู่ในช็อปอาจมีไม่มาก  แต่บ่ายวันนี้ รองเท้าคู่หนึ่งชวนให้เราเดินทางมาถึงช็อปเล็กๆ ในย่านพุทธมณฑล สาย 2 เพื่อมันโดยเฉพาะ คุณอาจสงสัยว่า แล้วคนไม่ค่อยซื้อรองเท้าอย่างเราทำไปทำไม เฉลยให้ฟังว่าเพราะรองเท้าคู่นี้ไม่ใช่รองเท้าธรรมดา แต่เป็นรองเท้าหนังสังเคราะห์ที่ทำจากผักผลไม้เหลือทิ้งในอุตสาหกรรมเกษตร ทั้งเปลือกกล้วย เศษมะนาว และลูกมะพร้าว BRAVE SHOES คือชื่อแบรนด์รองเท้าที่เรากำลังพูดถึง เหมือนกับชื่อแบรนด์ นอกจากความกล้าที่จะใช้วัสดุซึ่งไม่เคยเห็นดีไซเนอร์ไทยคนไหนใช้มาก่อน ‘ตะวัน-กฤดิพัชร เจริญชัยปิยกุล’ และ ‘มาย-มาย การุณงามพรรณ’ สองผู้ก่อตั้งแบรนด์ยังใส่ความกล้าลงไปในแทบทุกองค์ประกอบ ไล่ไปตั้งแต่ดีไซน์รองเท้าสุดเก๋ไก๋ที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังไซไฟสักเรื่อง การผลิตแบบสล็อตเล็กๆ ไม่มีซีซัน ไม่ขายตลาดแมส ไปจนถึงการตั้งราคาที่สูงเมื่อเทียบกับรองเท้าแฟชั่นแบรนด์อื่น ไม่ใช่เพราะอยากให้แบรนด์มีรายได้เยอะๆ แต่อยากให้ทุกคนในสายพานการผลิตได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งคู่เอาความกล้านี้มาจากไหน ตะวันและมายพร้อมตอบคำถามเราแล้ว แบรนด์แฟชั่นยั่งยืนของเพื่อนสนิท BRAVE SHOES เปิดตัวแบรนด์ครั้งแรกบน Instagram ในเดือนธันวาคม 2564 แต่ความเป็นเพื่อนของตะวันกับมายเริ่มต้นมาเนิ่นนานก่อนหน้านั้น เรียนมัธยมฯ ที่เดียวกัน มหาวิทยาลัยก็อยู่คณะใกล้กัน ตะวันเรียนจบด้านแฟชั่นดีไซน์จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ส่วนมายจบสถาปัตย์ ต่างคนต่างแยกย้ายไปใช้ชีวิตของตัวเองหลังสำเร็จการศึกษา มายผู้สนใจเรื่องความยั่งยืนเป็นทุนเดิมเปิดสตาร์ทอัปทำเทคโนโลยีที่แปลงวัสดุใช้แล้วในอุตสาหกรรมต่างๆ ให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง ส่วนตะวันบินลัดฟ้าไปเรียนต่อปริญญาโทที่อิตาลี และมีโอกาสได้ทำงานเป็นฟรีแลนซ์ดีไซเนอร์ที่เมืองโคเปนเฮเกน […]

ฐาปณี หลูสุวรรณ ผู้กำกับ Blue Again กับสถานะ ‘ไม่เป็นคนของที่ไหนเลย’ ในชีวิตและวงการหนัง

ฐาปณี หลูสุวรรณ เป็นลูกครึ่งอีสาน-จีน เกิดที่กรุงเทพฯ แต่ไปโตที่สกลนคร ก่อนจะเข้ามาเรียนหนังและทำงานในกรุงเทพฯ อีกครั้ง เธอพูดอีสานไม่คล่องปร๋อ แต่พอพูดไทยกลางก็ติดเหน่ออีสานจนโดนล้อ เหนือความซับซ้อนและย้อนแย้งทั้งปวงในตัวเธอ สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดและไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ ฐาปณีไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนของที่ไหนเลย เหมือนกับ ‘เอ’ ตัวละครเอกใน Blue Again หนังเรื่องแรกในชีวิตของเธอ ผู้เป็นลูกครึ่งที่มีพ่อเป็นคนขาว แม่เป็นคนสกลนคร แต่ตัวเองกลับรู้สึกแปลกแยกจากสังคมรอบตัวไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากจะมีใครหรือสิ่งใดที่เอเรียกว่าเพื่อนได้เต็มปาก หนึ่งคือ ‘เมธ’ เพื่อนชายที่รู้จักกันตั้งแต่มัธยมฯ แต่ต้องแยกย้ายกันไปหลังเรียนจบ อีกสิ่งคือ ‘คราม’ วัตถุดิบย้อมผ้าที่เธอเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ในทางหนึ่ง Blue Again คือเครื่องบันทึกความรู้สึกโดดเดี่ยวและเป็นอื่นที่ผู้กำกับอย่างฐาปณีรู้สึกมาตลอด แต่ในอีกทางหนึ่ง นี่คือผลพิสูจน์ความรักที่มีต่อการทำหนังของผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้นิยามตัวเองว่าเป็นคนกลางๆ ไม่โดดเด่น และแม้จะไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนของที่ไหน แต่แวดวงที่มั่นใจว่าอยากผลักตัวเองเข้าไปคือวงการผู้กำกับ นับแต่วันแรกเริ่ม Blue Again ใช้เวลาถึง 8 ปีกว่าจะได้ออกมาสู่สายตาผู้ชม และหนังเรื่องนี้ยังได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปฉายที่เทศกาลหนังปูซานในสาขา New Currents ที่มีหนังเพียงไม่กี่เรื่องได้เข้ารอบ พิสูจน์ในตัวมันเองแล้วว่าเป็นหนังที่พิเศษแค่ไหน แต่ใน 8 ปีของ Blue Again […]

Menschen ถึง…ผู้คนและสถานที่ระหว่างทาง

‘Menschen’ เป็นเพียงแค่ชุดภาพถ่ายธรรมดาๆ ที่ถูกบันทึกอย่างตรงไปตรงมาและปราศจากคำบรรยายที่แสนวิเศษหรือเหนือความเป็นจริง ผลงานชุดนี้เป็นเพียงแค่บันทึกระหว่างการเดินทาง ที่เราได้พบเจอกับบุคคลต่างๆ สถานที่ที่ไม่คุ้นชิน สภาพอากาศที่ผิดแผกจากประเทศบ้านเกิด หรือกระทั่งภูมิทัศน์และสิ่งปลูกสร้างที่แปลกตาเท่านั้นเอง

JUST READ นักอ่านที่ไม่ได้แค่อ่านหนังสืออย่างเดียว แต่ยังขับเคลื่อนการอ่านผ่านอีเวนต์

ความชอบหนังสือและนิสัยรักการอ่าน พาให้เราไปทำอะไรได้บ้าง บางคนเดบิวต์เป็นนักเขียน บางคนเป็นนักสะสมหนังสือ บางคนลงทุนเปิดร้านขายหนังสือ แต่ความชอบหนังสือของ ‘เวฟ-สหัสวรรษ ธนสุขสวัสดิ์’ เจ้าของเพจ ‘JUST READ’ นั้นพาให้เขาเข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนวงการการอ่านผ่านการจัดอีเวนต์ต่างๆ โดยเริ่มจาก Book Club วงเล็กๆ ในมหาวิทยาลัย จนมาถึงงานหนังสือสเกลใหญ่ระดับเมือง อย่างงาน ‘หนังสือในสวน’ ที่มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนหลายร้อยคน คอลัมน์ Art Attack ขอชวนทั้งนักอ่านและนักอยากอ่านไปพูดคุยกับผู้ก่อตั้งเพจ JUST READ ถึงจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนเรื่องหนังสือและการอ่าน มุมมองการจัดงานหนังสือจากภาคประชาชน และความคิดเห็นต่อวัฒนธรรมการอ่านในประเทศไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มต้นด้วยกลุ่มคนผู้รักการอ่าน แรกเริ่มเดิมที JUST READ เป็นเพียงคอมมูนิตี้เล็กๆ ที่เวฟก่อตั้งขึ้น สำหรับกลุ่มคนที่อ่านหนังสือแบบเดียวกันในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อปี 2563 และได้จัด Book Club เป็นครั้งแรกกับกลุ่มคนเล็กๆ เพียง 5 คนเท่านั้น ซึ่งถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เพราะคำว่า Book Club ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย “ขนาดเรายังเพิ่งเคยได้ลองทำอะไรแบบนี้ครั้งแรกเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ก็เลยไม่แปลกใจที่คนไทยอาจยังไม่ค่อยรู้จัก คุ้นชิน […]

1 3 4 5 6 7

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.