500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe พื้นที่เปิดกว้างเรื่องทางเพศ - Urban Creature

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะพูดถึงเรื่องเซ็กซ์หรือรสนิยมทางเพศได้อย่างเปิดเผยในสถานที่สาธารณะอย่างร้านกาแฟหรือคาเฟ่ทั่วไป ยิ่งเป็นการพูดถึงรสนิยมทางเพศที่มีความเฉพาะเจาะจงขึ้นไปอีกอย่าง Fetish และ BDSM ที่ไม่ได้เป็นเรื่องคุ้นชินในไทยด้วยแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

‘ตอง-ศานตรส ชูชีพ’ ผู้บริหารร้าน ‘FORFUN STORE’ ที่ขายสินค้าเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับและอุปกรณ์เกี่ยวกับ Fetish และ BDSM มาก่อน ตัดสินใจเช่าห้องแถวฝั่งตรงข้ามร้านเดิม เพื่อเปิด ‘500 Cafe’ เป็นอีกหนึ่งสถานที่นัดพบแห่งใหม่ของคนในคอมมูนิตี้

500 Cafe เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่อยากให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นเหมือนศูนย์รวมของคนที่ชื่นชอบรสนิยมทางเพศในรูปแบบ Fetish และ BDSM ได้มาพูดคุยกัน และทำให้ลูกค้าทั่วไปเข้าใจความชอบในอีกรูปแบบหนึ่งมากขึ้น

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

Fetish & BDSM คือรสนิยมทางเพศ ไม่ใช่เรื่องแปลก

ก่อนจะไปพูดคุยเรื่องตัวร้าน เราคิดว่าหลายคนอาจยังไม่ค่อยรู้จักคำว่า Fetish และ BDSM ที่อยู่ในชื่อร้านกันมากนัก ขนาดตองเองยังบอกกับเราว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่มองเข้ามาและรู้สึกว่าความชอบเหล่านี้เป็นเรื่องประหลาดหรืออาจถึงขั้นวิตถาร เราเลยขอให้ตองช่วยแนะนำรายละเอียดเรื่องนี้แบบพื้นฐาน 101 ให้ผู้อ่านก่อน

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

“ถ้าคุณชอบเซ็กซ์ในรูปแบบที่ต้องมีอุปกรณ์ มีการแต่งตัวร่วมด้วย หรือเห็นเท้า รองเท้า ถุงเท้า อวัยวะในร่างกาย หรือใส่เสื้อผ้าบางประเภทแล้วมีอารมณ์ เราจะเรียกคนที่ชอบและคลั่งไคล้แบบนี้ว่า Fetish

“ถ้าไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของคนอื่น ก็จะเป็นแค่ความชอบ เป็นรสนิยมแบบหนึ่ง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน อันนี้เข้าข่ายเรื่องของจิตเภท”

ส่วน BDSM เป็นส่วนย่อยหนึ่งของ Fetish ลงไป คำอธิบายคร่าวๆ ของรสนิยมนี้คือ การคลั่งไคล้ในรูปแบบของการกระทำ การถูกกระทำ หรือความเจ็บปวด แต่ความชอบทั้งหมดทั้งมวลต้องอยู่บนบรรทัดฐานของความยินยอม (Consent) จากทั้งสองฝ่าย

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

“อย่างเมื่อก่อนเวลาเราเห็นภาพยนตร์มีฉากตบจูบ ก็จะมองไปในทางไม่ดี จริงๆ มันเป็น Sadism แบบหนึ่ง แต่เมื่อไม่ได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่ายตั้งแต่ต้น มันเลยไม่ใช่เรื่องของ BDSM

“จุดนี้เองที่ทำให้เราตัดสินใจเปิด 500 Cafe ขึ้นมา เพื่อสื่อสารความเป็น Fetish และ BDSM ที่ถูกต้องออกไป ต่อให้คุณทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน แต่ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่อยากทำ แต่ต้องจำใจทำเพราะอยากให้อีกฝ่ายมีความสุข นั่นไม่ใช่เรื่องของ BDSM ที่ถูกต้อง”

500 Cafe ชื่อใหม่ที่โอบรับคนทุกคนที่สนใจเรื่องเพศ

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

“เราตั้งใจให้ 500 Cafe เป็นจุดเชื่อมโยงจาก FORFUN STORE เพราะเวลาลูกค้ามาที่ร้าน เขาอยากมีพื้นที่สำหรับดื่มกาแฟ พูดคุย และรวมตัวเป็นคอมมูนิตี้ เราเลยรู้สึกว่าถ้ามีสถานที่ที่คนมีรสนิยม Fetish และ BDSM จะมาพบปะกันเหมือนกิจกรรมทั่วไป ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองแปลกประหลาดหรือแตกแยกจากคนอื่นๆ คงจะดี”

ตองเล่าว่า ก่อนหน้านี้ในร้าน FORFUN STORE มีเพียงเคาน์เตอร์กาแฟเล็กๆ ไว้บริการ ทำบ้างไม่ทำบ้างตามอารมณ์ของตัวเอง แต่พอมีกลุ่มลูกค้าที่ถามหาสถานที่สำหรับนั่งพูดคุยมากขึ้น จึงตัดสินใจเช่าตึกฝั่งตรงข้ามกับร้านเดิมเพื่อสร้างร้านกาแฟอย่างจริงจังขึ้นมาสักที

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe
ร้าน FORFUN STORE

“เรารู้สึกว่าลูกค้าไม่ได้อยากจะเต้นหรือกินดื่มเวลากลางคืน เขาแค่อยากแต่งตัว แล้วมีที่ให้มาถ่ายรูป มีที่ให้เขาพบเจอกันเท่านั้นเอง”

ส่วนที่มาเรื่องชื่อ 500 Cafe ตองบอกกับเราด้วยเสียงหัวเราะว่า ความจริงแล้วตอนแรกที่ตั้งไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ “เอาตรงๆ มันมาจากเลขที่บ้านหลังนี้แหละ เพราะจำง่าย แล้วเอาไปพูดคุยสนุกสนานเป็น Dirty Joke ได้ด้วย”

และในอีกแง่หนึ่ง เหตุผลที่เขาตัดสินใจไม่ใช้ชื่อ FORFUN เหมือนร้านที่ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับ Fetish และ BDSM ก็เพราะเข้าใจคนบางกลุ่ม

“เราเข้าใจว่าบางคนเขาไม่ได้อยากเปิดเผยตัวตนว่าติดตาม FORFUN STORE ด้วยสถานภาพทางสังคมหรืออะไรหลายๆ อย่าง เราเลยแยกชื่อมันออกมา อีกอย่างคนที่อยากมาที่นี่ก็สามารถพูดชื่อร้าน 500 Cafe ได้โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ส่วนจะแอบไปดู FORFUN STORE ไหมก็อีกเรื่อง” ตองหัวเราะสนุก

แม้ที่ตั้งจะอยู่ไกล แต่สร้างความเข้าใจเรื่องเพศได้มากขึ้น

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe


ถ้าจะบอกว่าการมีอยู่ของร้าน 500 Cafe เป็นหนึ่งในตัวเชื่อมที่ทำให้คนทั่วไปโอบรับกลุ่มคนที่มีรสนิยมทางเพศที่แตกต่างจากนอร์มสังคมไทยได้มากขึ้นก็คงไม่ผิดนัก

เพราะเมื่อสนทนากับตองไปได้สักพัก เราก็ได้ทราบถึงข้อมูลที่ทำให้ประหลาดใจไม่น้อย เพราะแรกเริ่มเราเข้าใจว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี่น่าจะเป็นกลุ่มคนในคอมมูนิตี้ แต่ความจริงแล้วกลับกลายเป็นคนทั่วไปเสียมากกว่า

“ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมที่ Test Run และ Soft Opening ไปเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลูกค้า Walk-in ส่วนใหญ่คือคนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในวงการนี้ และอยากรู้ว่าเราคืออะไร รวมไปถึงลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่กล้าเข้าร้าน FORFUN STORE แต่อยากมาที่นี่ เพราะฝั่งคาเฟ่ให้ความรู้สึกที่เป็นมิตรกับเขามากกว่า โดยเขาจะมาถาม มาลองเมนูแปลกๆ และใช้พื้นที่นี้พูดคุยกัน” ตองเล่า

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

นอกจากนี้ ตองยังบอกอีกว่าลูกค้าในร้านเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ทำให้ในช่วงแรกเขารู้สึกเป็นกังวลว่าจะมีคนมาที่ร้านไหม เพราะปิ่นเกล้าเป็นเขตที่ชาวต่างชาติแทบไม่รู้จักและเดินทางมาลำบาก

แต่เมื่อตองเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของร้านลักษณะเดียวกันในต่างประเทศ ก็พบว่าส่วนใหญ่ตั้งอยู่นอกเมืองเหมือนกัน บวกกับเมื่อสอบถามไปยังลูกค้าเก่าและคนในคอมมูฯ พวกเขาก็ต่างยินดีเดินทางมาใช้บริการ ทำให้ 500 Cafe กลายเป็นรูปเป็นร่างจนเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในที่สุด

มาให้รู้ คุยเรื่องเพศให้เข้าใจ

ก่อนเข้าสู่ช่วงเมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษจากทางร้าน เราอยากพาทุกคนเดินทัวร์ไปรอบๆ ร้านคาเฟ่เล็กๆ สีแดงดำแห่งนี้ พร้อมกับคำแนะนำจากเจ้าของร้านก่อน

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

ถ้าคุณเห็นรูปปั้น ‘น้องปิกาจู’ สีแดงอันใหญ่ตั้งต้อนรับอยู่บริเวณหน้าร้าน ขอให้เตรียมใจไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย เพราะภายในร้านคุณจะเจอกับสิ่งนี้ในขนาดเล็ก ใหญ่ ธรรมดา และรูปทรงประหลาดแตกต่างกันไปทั่วทุกมุมร้าน หรือแม้กระทั่งในจานขนมและเครื่องดื่มก็ตาม

“เราอยากให้ทุกคนตัดความเขินอายทิ้งเอาไว้หน้าร้าน เพราะที่นี่เราจะพูดถึงเซ็กซ์เหมือนเป็นเรื่องปกติ เปิดใจและเตรียมเมมโมรีในกล้องมาเยอะๆ เพราะทุกมุมของที่นี่ถ่ายรูปได้หมด”

ตองพยายามออกแบบร้านให้ทุกจุดสามารถเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับกักขังหน่วงเหนี่ยวที่ถ่ายรูปได้อย่างอันลิมิเตต ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกรงขังด้านล่างเคาน์เตอร์, Sex Chair, Love Sofa, X Bar ไปจนถึงอุปกรณ์อย่างเชือกชิบาริ โซ่ แส้ กุญแจมือ และตู้โชว์ดิลโด้ที่บางชิ้นหาไม่ได้จากที่ไหน

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

เจ้าของร้านยังแอบบอกกับเราอีกว่า ถ้าใครมาแล้วสนใจโปรดักต์ประเภทไหนเป็นพิเศษ (ยกเว้นของในตู้ดิลโด้ ซึ่งทางร้านไม่ได้จำหน่าย) ก็สามารถแจ้งกับทางพนักงานในร้าน เพื่อเดินข้ามฝั่งไปยัง FORFUN STORE ได้ หรือคู่รักคู่ไหนมาเห็นบรรยากาศในร้านแล้วเกิดแรงบันดาลใจ อยากสร้าง Sex Room เอาไว้ที่บ้าน ตองก็บริการให้ได้

“ที่นี่สแตนด์อะโลนที่ไม่มีที่จอดรถ ไม่มีปลั๊กไฟให้เสียบ เพราะเราต้องการให้คุณมาแล้วพูดคุยกัน เราอยากให้คุณมาดื่มด่ำกับความรู้สึก ไม่ต้องนาน แต่อยู่แล้วได้ความรู้สึกบางอย่างกลับออกไป”

แค่ชื่อเมนูก็มีเรื่องให้คุยอีกยาว

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

ปิดท้ายด้วยไฮไลต์ของวันนี้ มาถึงร้านที่เรียกตัวเองว่า Fetish & BDSM Cafe ทั้งที ไม่พูดถึงเครื่องดื่มและขนมในร้านคงเป็นไปไม่ได้ โดยร้านได้แบ่งหมวดหมู่ของเครื่องดื่มด้วยชื่อที่แตกต่างกันไปตั้งแต่ Fetish Signature, Vanilla Sex, Bondage, Pet Play, Master & Slave และ Fore Play

“ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อจาก Fetish และหนัง AV พร้อมกับบอกเหตุผลว่าแต่ละเมนูมีที่มาที่ไปยังไง” เจ้าของร้านอธิบาย พร้อมทั้งแนะนำ 4 เมนูซิกเนเจอร์ที่มีชื่อสุดพิเศษ

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

เริ่มกันที่ตัวแรกกับซิกเนเจอร์ตัวท็อปอย่าง ‘BowJob’ กาแฟ Dirty แบบเย็นที่ใส่มาในภาชนะรูปทรงอวัยวะเพศชาย รูปทรงว่าเสียวแล้ว แต่ตองแนะนำว่าถ้าจะให้ดีต้องอย่าใช้มือช่วยจับ ให้ใช้ปากเพียงอย่างเดียวดูก่อน

หรือถ้าใครไม่ใช่สายกาแฟ ที่นี่ก็มี ‘Rubber’ เป็นเมนูโกโก้พรีเมียมที่ถูกใจลูกค้าต่างชาติ เพราะรสชาติขมของโกโก้ตัวนี้ ไม่มีรสชาติติดหวานเหมือนโกโก้ทั่วๆ ไป แต่ถ้าใครชิมแล้วรู้สึกว่ามันขมเกินไป อยากได้ความหวานเพิ่มอีกนิด ก็แจ้งกับพนักงานได้ตลอดเวลา

ถัดมาคือ ‘Orgy’ ที่ตองเรียกว่าเป็นกาแฟแบบไทยสไตล์ เพราะเป็นเอสเปรสโซเย็นที่ใส่นมข้น นม และครีม ให้ความรู้สึกหวานมันถูกปากคนไทย และปิดจบน้ำสุดท้ายด้วย ‘Facesitting’ เมนูสำหรับคนที่ชอบกินกาแฟดำ ที่เสิร์ฟเอสเปรสโซท็อปด้วยโฟมนมในแก้วช็อตรูปหัวกะโหลก ส่วนเมนูขนมจะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ แต่ยังคงคอนเซปต์ของร้านเอาไว้ด้วยการใส่กิมมิกปิกาจูเข้าไปทุกชิ้น

.

หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน 500 Cafe จะเปลี่ยนตัวเองเป็นตัวพ่อตัวแม่แซ่บๆ ด้วยบาร์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเปลี่ยนโทนสีและมู้ดภายในร้านให้กลายเป็นเหมือน Red Room ขนาดย่อม เพื่อเปิดโอกาสให้คนในคอมมูฯ และคนทั่วไปที่อายุเกิน 20 ปีขึ้นไป วาดลวดลายเต้นสะบัดแบบไม่ยอมใคร พร้อมทั้งมีเมนูค็อกเทลที่มีชื่อจากรสนิยม Fetish คล้ายเครื่องดื่มในช่วงกลางวันให้บริการ

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

ฮับ Fetish & BDSM ที่ใหญ่และครบเครื่องที่สุด

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

นอกจากดื่มกาแฟและจิบค็อกเทล 500 Cafe ยังมีอีเวนต์พิเศษทั้งกลางวัน-กลางคืนตามแต่ละเทศกาล และเปิดโอกาสให้คนกลุ่มต่างๆ ได้มีพื้นที่จัดกิจกรรมด้วย

“อย่างเดือนมีนาคม เราจะทำ Blind Date สำหรับคนที่สนใจเรื่องพวกนี้ หรืออยากหาคู่เล่นกับตัวเองแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง โดยเราจะสกรีนให้ก่อนหนึ่งรอบด้วยการให้ทุกคนยื่นใบสมัครมา ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ทุกคนได้มาพูดคุยกัน”

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

ยังไม่จบเท่านั้น ตองยังทิ้งท้ายกับเราอีกว่า ตัวตึกข้างๆ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ก็เป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักร FORFUN ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะปลายปีนี้เขามีแพลนที่จะเปิด hostel & studio สำหรับคู่รักที่อยากมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมเกี่ยวกับรสนิยมความชอบแบบ Fetish และ BDSM รวมไปถึงสายถ่ายรูปให้ได้ใช้บริการ โดยมีทั้งหมด 4 ห้อง ได้แก่ Black Room, Red Room, Shibari Room และ Wet Room ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัวแตกต่างกัน

เรียกว่าเป็นธุรกิจที่เติบโตไปพร้อมๆ กับความคิดของคนรุ่นใหม่ ตามความตั้งใจของตองที่ต้องการให้คนที่แวะเวียนมาที่นี่มีมุมมองเรื่องเพศ ไม่ว่าจะเป็นด้านเพศสภาพ เพศสัมพันธ์ หรือรสนิยมทางเพศ เปลี่ยนไปในทิศทางที่เปิดกว้าง โอบรับความหลากหลายมากขึ้น

“เราอยากให้ 500 Cafe และ FORFUN STORE เป็นสถานที่ที่คนกล้าเดินเข้าไปพูดคุย ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศ แล้วมีความสุขกลับออกไป เพราะจุดประสงค์หลักของเราคือ การเปิดพื้นที่ให้คนได้มาเรียนรู้และทำความรู้จักกันอย่างเข้าใจ”

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe

500 Cafe : Fetish & BDSM Cafe
เวลาเปิดทำการ : อังคาร – อาทิตย์ เวลา 13.00 – 23.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
โทรศัพท์ : 09-4881-0500
ที่ตั้ง : 500 ซอยแซมมี่ (ข้างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า) แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 | goo.gl/maps/uwvdRX3dLZATUcsT7
Facebook : facebook.com/500cafebangkok

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.