People-friendly Signs ออกแบบป้ายหาเสียงอย่างสร้างสรรค์และเป็นมิตรกับเมือง

ป้ายหาเสียงที่สร้างสรรค์และเป็นมิตรกับเมือง - Urban Creature

1,220

April 29, 2022April 24, 2023

สำหรับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หรือเลือกตั้งนายกฯ คนใหม่ หนึ่งในประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางก็คือเรื่อง ‘ป้ายหาเสียง’ เพราะในหลายพื้นที่ป้ายหาเสียงหลากขนาด หลากสี ถูกติดตั้งไว้ริมถนนจนเกะกะทางเท้า บดบังทัศนียภาพ และขัดขวางการจราจรของผู้คน

ซึ่งจากกระแสเหล่านี้ก็ทำให้เราได้เห็นปรากฏการณ์ที่ผู้สมัครหลายรายลุกขึ้นมาปฏิวัติดีไซน์ป้ายหาเสียงให้เป็นมิตรกับคนเมืองมากขึ้น เช่น ป้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส ป้ายขนาดเท่าเสาไฟ ป้ายที่นำไปรีไซเคิลได้ รวมไปถึงกลยุทธ์ลดการติดป้ายและติดเท่าที่จำเป็น เพื่อสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนน้อยที่สุด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการติดตั้งป้ายเหล่านี้ก็ยังก่อให้เกิดปัญหาและความรำคาญใจต่อการใช้ชีวิตของคนในประเทศอยู่ไม่น้อย

คอลัมน์ Urban Sketch จึงอยากช่วยเหล่าผู้สมัครต่อยอดไอเดียการทำป้ายหาเสียงให้น่าสนใจกว่าเดิม ผ่านการออกแบบป้ายหาเสียงตามพื้นที่และบริเวณต่างๆ ที่จะช่วยให้บรรยากาศการเลือกตั้งเป็นระเบียบและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการออกแบบป้ายหาเสียงที่คำนึงถึงการใช้ชีวิตของประชาชนจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัคร อีกทั้งยังสะท้อนความหวังในการพัฒนาเมืองและคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วย

การดีไซน์ป้ายหาเสียงจะเป็นอย่างไร และจะติดตั้งบริเวณใดบ้าง ไปติดตามพร้อมกันได้เลย!

หมายเหตุ : ทั้งหมดเป็นแนวคิดที่เราอยากให้เกิดขึ้น หากประเทศไทยไม่มีเกณฑ์ ข้อกำหนด หรือกฎระเบียบใดๆ เกี่ยวกับการติดป้ายหาเสียง

01 | หาเสียงแบบไม่ขวางทางใครด้วยป้ายสไตล์มินิมอล

ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายครั้งป้ายหาเสียงของเหล่าผู้สมัครเลือกตั้ง ถูกติดตั้งตามท้องถนนอย่างกระจัดกระจายและไม่เป็นระเบียบ ในบางพื้นที่ป้ายจำนวนมากวางทับซ้อนกันจนไม่น่ามอง ส่วนในบางพื้นที่ก็มีป้ายชำรุดเสียหาย เนื่องจากพายุฝนลมแรงและฝีมือของคนมือบอน ทำให้บ้านเมืองสกปรก รกรุงรัง ที่หนักไปกว่านั้น ยังอาจทำให้ประชาชนที่สัญจรไปมาประสบอุบัติเหตุได้ด้วย

เราจึงอยากติดตั้งป้ายหาเสียงให้เป็นระเบียบและเรียบง่ายที่สุด โดยเอาไอเดียมาจากการติดตั้งป้ายหาเสียงในต่างประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่รูปภาพและข้อมูลของแคนดิเดตทุกคนถูกรวมไว้ใน ‘ป้ายเดียว’ อย่างเป็นระเบียบ

สำหรับในประเทศไทย เราจะติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ตามพื้นที่สาธารณะต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ สถานที่ราชการ โรงเรียน โรงพยาบาล หน้าทางเข้าตลาดสด และพื้นที่หน้าศูนย์การค้า ที่เอื้อให้ประชาชนเข้าถึงและพบเห็นป้ายหาเสียงได้ง่ายขึ้น หรือจะยืนพิจารณาผู้สมัครที่พวกเขาอยากจะเลือกแบบเพลินๆ ก็ได้เช่นกัน

การออกแบบข้อมูลของผู้สมัครไว้ในป้ายเดียวจึงเป็นวิธีที่ประหยัดพื้นที่ เป็นระเบียบ ไม่เปลืองวัสดุ ไม่ขวางทาง และเป็นมิตรกับคนใช้รถใช้ถนน ที่สำคัญ ยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมการหาเสียงที่สร้างสรรค์และใส่ใจประชาชน รวมไปถึงเป็นการสร้างกิมมิกให้แก่พื้นที่นั้นๆ ด้วย ไม่แน่นะ ป้ายหาเสียงสไตล์มินิมอลแบบนี้อาจกลายเป็นแลนด์มาร์กของแต่ละพื้นที่ที่ทุกคนต้องแวะมาถ่ายรูปไปโดยปริยายเลยก็ได้

02 | ใช้สตรีทสติกเกอร์ช่วยเรียกคะแนนเสียง

เราเชื่อว่าป้ายหาเสียงไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบโปสเตอร์สี่เหลี่ยมแบบดั้งเดิมเสมอไป อีกหนึ่งวิธีที่น่าจะทำได้ก็คือการหาเสียงผ่าน ‘สตรีทอาร์ต (Street Art)’ ที่ทำให้การหาเสียงกลมกลืนไปกับเมืองและเข้าถึงประชาชนวงกว้างมากขึ้น

เราจึงอยากทดลองใช้ ‘สตรีทสติกเกอร์ (Street Stickers)’ หรือสติกเกอร์ขนาดเล็กที่คนนิยมใช้ติดทับกันหลายๆ ชั้นตามกำแพงและป้ายต่างๆ มาปรับใช้กับการหาเสียง ผู้สมัครสามารถออกแบบสติกเกอร์ของตัวเองให้เป็นชื่อ เบอร์ หรือสโลแกน ถ้าผู้สมัครมีสติกเกอร์เป็นของตัวเอง ต่อไปนี้เราอาจไม่เห็นการติดป้ายขนาดใหญ่ซ้อนกันแล้ว แต่อาจเปลี่ยนเป็นการบอมบ์สติกเกอร์ทับกันแทน

ส่วนวัสดุที่ติดสติกเกอร์ได้อาจจะเป็น ‘เสาไฟ’ และ ‘ตู้เก็บสายไฟสีเขียว’ ซึ่งคนมักติดป้ายโฆษณาและสติกเกอร์อยู่แล้ว โดยแต่ละเขตอาจต้องกำหนดโลเคชันสำหรับติดสติกเกอร์หาเสียงอย่างชัดเจน เพื่อให้การหาเสียงเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และไม่เละเทะจนเกินไป

วิธีนี้อาจช่วยให้คนเดินเท้าหรือคนที่ยืนรอรถเมล์มองเห็นและเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ที่สำคัญ ยังทำให้การหาเสียงไม่จำเจหรือเป็นทางการจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมการหาเสียงและการประชาสัมพันธ์แบบใหม่ หากมีกิจกรรมอื่นๆ เกิดขึ้นในอนาคต เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อีเวนต์ หรือนิทรรศการ ผู้สมัครหรือผู้จัดงานก็สามารถทำสติกเกอร์มาติดทับสติกเกอร์เดิมได้เลย

03 | ตอกย้ำปัญหาทางเท้าด้วยป้ายหาเสียงบนพื้น

ปัญหาใหญ่ที่คนเมืองต้องเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก็คือ ‘ทางเท้า’ ที่มีสภาพเป็นหลุมบ่อ ไม่เรียบ และมีน้ำขัง ถ้าเหยียบผิดอาจมีน้ำพุ่งใส่โดยไม่ทันตั้งตัว การเดินทางในแต่ละวันของชาวกรุงจึงไม่ต่างจากการเล่นเกมผจญภัยที่มีอุปสรรคขวางกั้นแบบไม่บันยะบันยัง

ทั้งนี้ เรามองว่าแคนดิเดตสามารถติดป้ายหาเสียงบนทางเท้าหรือบล็อกปูพื้นที่แตกและหลุดล่อน เพื่อสะท้อนว่าทางเท้าทั่วเมืองหลวงแห่งนี้ควรได้รับการแก้ไขและพัฒนาโดยด่วน โดยผู้สมัครยังสามารถติดนโยบายหรือสโลแกนสั้นๆ เกี่ยวกับการแก้ปัญหานี้ได้อีกด้วย

เราอยากให้ความสำคัญกับเรื่องทางเท้าเป็นพิเศษ เพราะปัจจุบันปัญหานี้สร้างความเดือดร้อนและความลำบากให้ประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ที่ต้องใช้รถเข็น หรือคุณแม่ต้องเข็นรถให้ลูก หากนายกฯ คนใหม่ให้ความสำคัญและมีแนวทางพัฒนาทางเท้าที่ชัดเจน เราเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยจะสามารถใช้ทางเท้าได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรได้รับอยู่แล้ว

04 | ทาสีทางม้าลายเพื่อรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน

อีกหนึ่งอุปสรรคในการใช้ชีวิตของคนไทย ก็คือ ‘ทางม้าลาย’ ที่ชำรุด ซีดจาง เป็นอันตรายต่อการข้ามถนน ที่แย่ไปกว่านั้นคือผู้ใช้รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์จำนวนมากยังขาดจิตสำนึกและวินัยการจราจร ทำให้มีคนเดินถนนประสบอุบัติเหตุระหว่างข้ามทางม้าลายนับครั้งไม่ถ้วน

เนื่องจากการปรับปรุงทางม้าลายให้ปลอดภัยถือเป็นวาระด่วน เราจึงอยากใช้ทางม้าลายเป็นพื้นที่สำหรับแคนดิเดตผู้สมัครใช้หาเสียงและสะท้อนนโยบายด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โดยการทาสีในช่องแนวขวางของทางม้าลาย ทั้งนี้ การทาสียังต้องคงรูปทรงและกรอบของทางม้าลายไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย

แนวคิดการหาเสียงบนทางม้าลายของเราได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ และจีน ที่เปลี่ยนทางม้าลายในบางพื้นที่ให้เป็นสตรีทอาร์ตและพื้นที่โฆษณา ซึ่งช่วยทำให้ถนนมีสีสันและน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญ การใช้ประโยชน์จากทางม้าลายยังจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงบริเวณรอบๆ เช่น การติดสัญญาณจราจรให้คนข้ามถนนและการเพิ่มแสงสว่าง เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ประชาชนด้วย

05 | สร้างการจดจำผ่านป้ายหาเสียงในห้องน้ำสาธารณะ

อีกหนึ่งพื้นที่ที่ผู้คนส่วนใหญ่ต้องใช้งานก็คือ ‘ห้องน้ำสาธารณะ’ แม้คนทั่วไปจะใช้เวลาในห้องปลดทุกข์เพียงไม่กี่นาที แต่เราเชื่อว่าการติดป้ายหาเสียงในพื้นที่นี้จะสร้างการจดจำให้แก่ผู้ใช้งานไม่มากก็น้อย

การติดป้ายประชาสัมพันธ์ในห้องน้ำอาจฟังดูแปลก แต่ข้อมูลจากหลายเว็บไซต์ เช่น Ecoprod, Mascola, American Restroom Assocation และ Accel Entertainment ระบุว่า การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ในห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากห้องน้ำมีพื้นที่จำกัด และไม่ได้มีความบันเทิงหรือสิ่งดึงดูดความสนใจมากมาย จึงเป็นเรื่องง่ายที่ผู้คนจะอ่านข้อความประชาสัมพันธ์ที่อยู่รอบๆ

นอกจากนี้ การติดป้ายโฆษณาหรือป้ายประชาสัมพันธ์ในห้องน้ำสาธารณะที่คนต้องใช้บริการมากกว่าหนึ่งครั้ง เช่น ห้องน้ำในคาเฟ่ ร้านอาหาร และศูนย์การค้า ยังจะช่วยให้ผู้คนจดจำข้อความได้มากขึ้น เพราะต้องเห็นป้ายเหล่านี้ซ้ำหลายครั้ง

เราจึงอยากนำประโยชน์จากการโฆษณาในห้องน้ำสาธารณะมาใช้กับการติดป้ายหาเสียง สำหรับแคนดิเดตผู้สมัครเลือกตั้งสามารถติดป้ายหาเสียงในห้องน้ำของสวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ รวมไปถึงร้านอาหาร รูปแบบการโปรโมตอาจเป็นการติดโปสเตอร์บนกำแพงห้องน้ำ หรืออาจใช้วิธีสร้างสรรค์ เช่น การติดสติกเกอร์ข้อความและเบอร์ของผู้สมัครบนกระจกห้องน้ำก็ได้เช่นกัน

06 | ประชาสัมพันธ์แบบรวดเร็วบริเวณจุดคัดกรองโควิด-19

เราเชื่อว่าการหาเสียงอย่างสร้างสรรค์และมีอารมณ์ขันเล็กน้อยจะช่วยให้คนมีมุมมองเชิงบวกต่อผู้สมัครรายนั้นๆ โดยเฉพาะการหาเสียงที่ทันกระแสหรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของประชาชน

สำหรับช่วงที่โควิด-19 ระบาด สถานที่ต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ สนามกีฬา ศูนย์การค้า และหน่วยงานต่างๆ ล้วนต้องมีจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าเพื่อป้องกันและยับยั้งการระบาดของไวรัส เราจึงอยากปรับพื้นที่ด่านหน้าเหล่านี้ให้เป็นบริเวณหาเสียงขนาดจิ๋ว ที่ผู้สมัครสามารถติดตั้งสแตนดีพร้อมเบอร์และนโยบายของตัวเองกับเครื่องวัดอุณหภูมิ รับรองว่าทุกคนที่ผ่านจุดคัดกรองจะต้องเห็นป้ายเหล่านี้ เป็นอีกวิธีหาเสียงที่ใกล้ชิดกับประชาชนโดยที่ผู้สมัครไม่ต้องลงพื้นที่ด้วยตัวเองเลย

นอกจากนี้ ผู้สมัครยังสามารถทำ QR Code สำหรับอ่านนโยบายและวิสัยทัศน์ของตัวเองมาติดที่จุดคัดกรองได้เช่นกัน ใครที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาสแกนเช็กอิน จะได้สแกนอ่านนโยบายของผู้สมัครไปพร้อมๆ กันได้เลย ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยลดการใช้ใบปลิวได้ด้วย

07 | ให้วินมอ’ไซค์ช่วยหาเสียงแบบทะลุตรอกซอกซอย

ใครๆ คงรู้ดีว่าการเดินทางในประเทศแห่งนี้ไม่สามารถพึ่งพาระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า รถเมล์ หรือสองแถวได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะขนส่งมวลชนยังไม่เพียงพอและครอบคลุมทุกเส้นทาง จึงไม่แปลกใจที่คนส่วนใหญ่ต้องใช้บริการ ‘วินมอเตอร์ไซค์’ ให้ไปส่งที่จุดหมายปลายทางที่กระจายอยู่ตามเส้นเลือดฝอยของเมืองนี้

เนื่องจากวินมอเตอร์ไซค์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันคนไทย เราจึงมองว่าผู้สมัครสามารถติดโปสเตอร์หาเสียงที่ด้านหลังเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ หรือจะติดสติกเกอร์ขนาดเล็กที่หมวกกันน็อกก็ได้เช่นกัน แม้ในชั่วโมงเร่งด่วน คนที่ใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ต้องไม่พลาดเห็นเบอร์และสโลแกนของเหล่าผู้สมัครแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เรามองว่าวินมอเตอร์ไซค์มีความสำคัญและเปรียบเสมือนเอกลักษณ์ของประเทศไทยไปแล้ว เราเชื่อว่าถ้าผู้สมัครมีแผนและนโยบายที่จะส่งเสริมและพัฒนาระบบวินมอเตอร์ไซค์ให้ดีขึ้นได้ การเดินทางจะสะดวกสบาย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพกว่าเดิมแน่นอน