
LATEST
ออกแบบ ‘Hawker Center’ แบบไทยๆ แก้ปัญหาหาบเร่แผงลอย คืนพื้นที่ทางเท้าที่หายไป
‘ไทยแลนด์ดินแดนสตรีทฟู้ด’ หนึ่งในอัตลักษณ์ของไทยที่เลื่องลือกันไปทั่วโลก ทว่าเบื้องหลังก็มีปัญหาคลาสสิกมากมายที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไข อย่างที่รู้กันว่า กรุงเทพฯ กับหาบเร่แผงลอยเป็นปัญหาคาราคาซังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งการล้ำเส้นทางเท้า กีดขวางทางสัญจร ความสกปรกจากน้ำทิ้งและเศษซากจากการประกอบอาหารหรือตั้งร้าน รวมถึงสุขอนามัยของผู้บริโภค ปัจจุบันกรุงเทพฯ นำ ‘Hawker Center’ โมเดลศูนย์อาหารจัดระเบียบร้านของสิงคโปร์มาปรับใช้บ้างแล้ว แต่ก็เจอทางตันและข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่ไม่เอื้อต่อการจัดสรร การควบคุมมาตรฐาน ทุนสนับสนุน ไปจนถึงการคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของสตรีทฟู้ดแบบไทยๆ ส่งผลให้ประเด็นหาบเร่แผงลอยเป็น Love-Hate Relationship ที่อยู่คู่คนกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน ถึงอย่างนั้น การแก้ไขปัญหาก็ไม่ควรเป็นการขับไล่ร้านเหล่านั้นออกไปเพื่อเป็นการตัดจบ แต่ควรเป็นประเด็นขบคิดว่า เราจะทำอย่างไรให้ทางเท้ากลับมาเป็นทางเท้าเหมือนเดิม ในขณะเดียวกันก็ไม่กระทบการทำมาหากินของเหล่าผู้ประกอบการ คอลัมน์ Urban Sketch ขอเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ ‘Hawker Center แบบไทยๆ’ สีสันจัดจ้านตามแบบฉบับสตรีทฟู้ดไทยที่ขมวดจบทุกปัญหา เสนอทางออกที่หลายฝ่ายจะแฮปปี้ คืนทางเท้าที่ดีให้นักสัญจรทางเท้าทุกท่าน อีกทั้งยังคงความเป็นสตรีทฟู้ดอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของไทย ขอให้ทางเท้ามีทางให้เท้าเดิน อย่างแรกร้านค้าต้องรู้ก่อนว่า ตรงไหนบ้างที่ห้ามตั้งร้านหาบเร่แผงลอย ปัจจุบันเทศกิจกำหนดว่า บริเวณที่ห้ามจำหน่ายสินค้าเด็ดขาดคือทางเท้าแคบที่กว้างไม่ถึง 2 เมตร ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทางเท้าที่ดีควรมีความกว้างมากกว่าหรือเท่ากับ 2 เมตร แต่ประเทศไทยเองยังมีหลายพื้นที่ที่ทางเท้าแคบและไม่ได้มาตรฐาน เมื่อมีหาบเร่แผงลอยมาตั้งร้านอีกจึงเกิดปัญหาซ้ำซ้อนตามมา ถ้าไปดูกรณีของไต้หวันจะพบว่า […]
‘บ้านบรรทัดทอง’ จุดพักใจกลางเมือง พื้นที่พบปะสำหรับคนรักงานสร้างสรรค์ที่เกิดจากการชุบชีวิตบ้านเก่าอายุ 60 ปี
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘บรรทัดทอง’ กลายเป็นย่านตัวแทนความสดใหม่และทันกระแสของยุคสมัยปัจจุบัน แต่ท่ามกลางร้านรวงสมัยใหม่ที่ผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงมีบ้านเก่าอายุ 60 ปี ที่นำเสนอกลิ่นอายบรรยากาศอบอุ่นของอดีตในชุมชนบรรทัดทอง ผ่านคอมมูนิตี้ที่สร้างพื้นที่ให้เหล่าคนรักงานคราฟต์และงานศิลปะได้มารวมตัวกัน ‘บ้านบรรทัดทอง’ คือคอมมูนิตี้เปิดใหม่บริเวณซอยจุฬาฯ 18 ภายใต้คอนเซปต์ชุบชีวิตบ้านเก่าสามชั้น เป็นสถานที่รวบรวมงาน Art & Craft ของศิลปินคนไทย และความต้องการที่อยากทำให้บรรทัดทองมีพื้นที่นั่งชิล เป็นเหมือนจุดพักใจกลางเมืองครบจบในที่เดียว Community Space แห่งนี้ประกอบด้วยตลาดอาหารบริเวณชั้น 1 ที่รวบรวมร้านอาหารและเครื่องดื่มไว้มากมาย อีกทั้งยังมี ‘ไอศกรีมสโมสร’ ไอศกรีมโฮมเมดเจ้าดังประจำบรรทัดทองไป Pop up อยู่บริเวณบ้านบรรทัดทองอีกด้วย พอขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียน โดยมุ่งเน้นไปยังการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินไทยหน้าใหม่ได้มาโชว์ฝีมือ นำเสนองานคราฟต์ของตัวเองผ่านสินค้าและเวิร์กช็อป รวมถึงประติมากรรมและภาพวาดต่างๆ ส่วนชั้น 3 มี Live DJ มาเปิดแผ่นให้ผู้มาเยือนได้เสพสุนทรีย์ไปกับลมช่วงเย็นบริเวณดาดฟ้าท่ามกลางบรรยากาศความคึกคักของย่านบรรทัดทอง ตอนนี้บ้านบรรทัดทองมีกิจกรรม BTT House Market ซึ่งเป็นการกลับมาจัดครั้งที่ 2 ภายใต้คอนเซปต์ Art & Craft Night Market […]
The Sounds of CDMX เว็บไซต์ที่ชวนไปฟังเสียงบนท้องถนนในเม็กซิโกซิตี ความจอแจในวันธรรมดาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ว่ากันว่า ถ้าอยากรู้ว่าประเทศนั้นๆ เป็นอย่างไร ให้ลองเดินดูเมือง ฟังเสียงวิถีชีวิตของชาวเมืองดู ‘The Sounds of CDMX’ คือคอนเทนต์ในเว็บไซต์ ‘The Pudding’ ที่จะพาเราไปสำรวจเมืองเม็กซิโกซิตีผ่านภูมิทัศน์เสียงของเมือง (Urban Soundscape) ที่มาพร้อมกราฟิกน่ารักๆ ส่วนใหญ่แล้วเสียงของเมืองเม็กซิโกซิตีจะเป็นเสียงของพ่อค้าแม่ขายหาบเร่แผงลอย ซึ่งถือเป็นแรงงานนอกระบบที่เดินไปเดินมาตามท้องถนนและตรอกซอกซอยของเมือง เพื่อขายสินค้า ซื้อของ และเสนอบริการด้วยการส่งเสียงหรือร้องเรียกลูกค้า ด้วยสุ้มเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น – คนลับมีด : อาชีพที่ปรากฏตัวพร้อมเสียงขลุ่ยอินคา และจักรยานดัดแปลงพิเศษที่ติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้การหมุนของล้อจักรยานช่วยหมุนหินลับมีดไปด้วย– คนเก็บขยะ : ผู้เดินไปมาบนท้องถนน และสั่นกระดิ่งเล็กๆ เพื่อประกาศเตือนคนให้นำถุงขยะมาวางไว้หน้าบ้าน– คนขายทามาเล : บุคคลบนรถเข็นบรรจุทามาเล ขนมพื้นเมืองหน้าตาคล้ายข้าวต้มมัด พร้อมเสียงจากลำโพงที่เชิญชวนให้คนแวะเวียนเข้ามาซื้อสินค้า ให้ความรู้สึกเหมือนรถกับข้าวของไทย นอกจากนี้ ในเว็บไซต์ยังมีสุ้มเสียงอีกมากมายที่เมื่อผสมรวมกันภายใต้บริบทเมืองก็กลายเป็นเครื่องมือบอกเล่าวิถีชีวิตคนท้องถิ่นในพื้นที่สาธารณะ ที่สร้างให้เมืองเม็กซิโกซิตีมีเอกลักษณ์แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ใครที่อยากรู้ว่าแต่ละเสียงในเมืองเม็กซิโกซิตีเป็นอย่างไร ตามไปฟังได้ที่ pudding.cool/2022/09/cdmx/
โยกย้ายโยะๆ กับช่อง YouTube ‘Tuktuk Radio’ ดีเจมิกซ์เพลงบนรถตุ๊กตุ๊ก ตะลุยรอบกรุงเทพฯ สัมผัสเสน่ห์ความเป็นไทยป็อปๆ ผ่านหน้าจอ
เสน่ห์ความเป็นไทยในสายตาต่างชาติ นอกจากมวยไทยก็คงมี ‘รถตุ๊กตุ๊ก’ นี่แหละที่หลายคนอยากลองนั่งสักครั้ง รถสามล้อคู่ใจที่พาซิ่งไปบนท้องถนน พร้อมกับเพลงมันๆ จากลำโพงที่ถูกโมดิฟายให้เป็นเพื่อนร่วมทาง สร้างบรรยากาศชมวิวเมืองให้ม่วนจอย แต่สำหรับคนไทยอย่างเราๆ อาจไม่ค่อยได้นั่งตุ๊กตุ๊กแบบปล่อยตัวปล่อยใจกันสักเท่าไหร่ วันนี้ Urban Creature เลยขอมาป้ายยา ‘Tuktuk Radio’ ช่อง YouTube ที่จะพาทุกคนไปตะลุยรอบกรุงเทพฯ ด้วยรถตุ๊กตุ๊ก พร้อมดีเจที่จะมาเปิดเพลงให้ฟังกันแบบ Longplay แถมล่าสุดพวกเขายังขออัปเกรดด้วยการเปลี่ยนจากเปิดเพลงบนท้องถนนไปเปิดน่านน้ำใหม่ที่แปลตรงตัวว่าในแม่น้ำจริงๆ เพราะเหล่าดีเจเล่นไปเปิดเพลงฮิตกันบนเรือแม่น้ำเจ้าพระยากันเลย นอกจากเราจะได้ฟังเพลงที่เหล่าดีเจมิกซ์มาให้ในบรรยากาศบนยานพาหนะแล้ว ช่องนี้ก็เหมือนเป็นสนามทดลองให้คนที่สนใจเป็นดีเจไปลองสัมผัสประสบการณ์มิกซ์เพลงใหม่ๆ ด้วย ตามไปฟังกันได้ที่ www.youtube.com/@TuktukRadio
‘ลีลาดอกไม้ ตอน ดอกไม้ม(า)หานคร’ นิทรรศการที่จะพาไปรู้จัก 4 ดอกไม้ประจำจังหวัด ผ่านความสวยงามของงานศิลปะรูปแบบต่างๆ
หากพูดชื่อดอกทองกวาว ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ และชบาขึ้นมา หลายคนคงคุ้นเคยกับดอกไม้เหล่านี้ในฐานะสัญลักษณ์ประจำจังหวัด แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ดอกไม้เหล่านี้มีเรื่องราวใดที่น่าสนใจอีกบ้าง มาทำความรู้จักกับดอกไม้ประจำ 4 จังหวัด ได้แก่ ดอกทองกวาว (เชียงใหม่), ดอกราชพฤกษ์ (ขอนแก่น), ดอกกัลปพฤกษ์ (ราชบุรี) และดอกชบา (ปัตตานี) ให้มากขึ้น ผ่านงานศิลปะที่เข้าถึงง่าย สนุก และมีพลังในการเล่าเรื่อง ที่นิทรรศการ ‘ลีลาดอกไม้ ตอน ดอกไม้ม(า)หานคร (Petals of Identity : Cities in Bloom)’ ภายในนิทรรศการประกอบไปด้วย 4 โซนหลัก ที่จะพาไปสัมผัสความสวยงามของดอกไม้ที่เชื่อมโยงกับชุมชน วัฒนธรรม และผู้คนในเมืองอย่างมีชีวิตชีวา อีกทั้งยังเพลิดเพลินกับจินตนาการที่ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมได้ โซนที่ 1 Interactive and Immersive Art Installation โดย 27June Studio งานศิลปะที่นำเสนอลีลาของดอกไม้ผ่าน Projection Mapping และ […]
FRIEND FRIEND ร้านที่เปลี่ยนพื้นที่ลานจอดรถห้างฯ เป็น Hybrid Space ให้ทุกคนได้ใช้เวลาช้าๆ ในพื้นที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ
ด้วยพื้นที่กรุงเทพฯ อันแสนจำกัด มองไปทางซ้ายก็เป็นตึก ทางขวาก็เป็นที่จอดรถ การเอาพื้นที่เดิมที่มีอยู่แล้วมาปรับใช้ใหม่จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและเหมาะกับเมือง Urban Creature อยากชวนมารู้จัก FRIEND FRIEND, life-friendly store ร้านที่ตั้งใจเปลี่ยนพื้นที่ชั้น 3 ของ Emporium ซึ่งเคยเป็นลานจอดรถให้กลายเป็นร้านค้าที่ไม่ได้เน้นแค่การซื้อของให้ครบ แต่เน้นให้ทุกคนได้นั่งพัก ใช้เวลาอย่างไม่เร่งรีบ การเปลี่ยนพื้นที่นี้เริ่มต้นจากแนวคิดที่ไม่รื้อของเดิมทิ้ง แต่ใช้วิธีตีความใหม่ ให้พื้นที่ของรถกลายเป็นของคน โดยรักษาโครงสร้างเดิมไว้เกือบทั้งหมด ทั้งผนังคอนกรีต ทางลาด และเสาแบ่งช่องจอด จากนั้นจึงเพิ่มพื้นที่ให้แสงธรรมชาติสาดส่องและพื้นที่สีเขียว มีจุดนั่งพักที่มองออกไปเห็นวิวสวนเบญจสิริ และจัดทางลาดบางส่วนของลานจอดรถเดิมให้เป็นพื้นที่กึ่งอัฒจันทร์ ใช้นั่งพักหรือเปลี่ยนเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมขนาดเล็กได้ รวมถึงใช้เฟอร์นิเจอร์วินเทจแบบลอยตัว เพื่อให้ขยับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามการใช้งานจริง ไม่ยึดติดกับการตกแต่งถาวร ร่วมกับการออกแบบร้านให้เป็นเหมือน ‘ช่องว่างที่หายใจได้’ ระหว่างความเร่งรีบของเมือง ใช้ความเรียบง่ายให้คนที่เดินผ่านเข้ามารู้สึกถึงบรรยากาศที่เบาลง ช้าลง และรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย ที่นี่ใช้พื้นที่ร้านแบบ Hybrid Space ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์น้ำผลไม้ และบริการอื่นๆ โดยตัวร้านค้าดึงดูดกลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องบ้าน หรือที่เรียกว่า Modern Housekeepers ผู้ชอบดูแลบ้านและคนรอบข้างด้วยความสุข เอนจอยกับการทำอาหารทานเองที่บ้าน สนุกกับการทำความสะอาด จัดบ้านให้เป็นระเบียบ […]
นกพิราบในเมือง อารยธรรมความเป็นเมืองที่เอื้อต่อพัฒนาการและปัญหานกพิราบล้นกรุง
ขึงตาข่าย งูปลอม หรือโมไบล์กระดิ่งลม ดูจะเป็นสิ่งของที่ชาวเมืองคุ้นเคยกันดีในฐานะเครื่องมือต่อกรกับ ‘นกพิราบ’ ที่มักมาทำรังบริเวณระเบียงตึกสูงและที่อยู่อาศัย ปัญหานกพิราบในกรุงเทพฯ ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งในสเกลของที่อยู่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ จนถึงขนาดมีการออกกฎหมายและข้อระเบียบมาใช้ ภาพจำของนกกับธรรมชาติดูเป็นของคู่กัน แต่พวกมันกลับเจริญเติบโตได้ดีในเมืองที่เต็มไปด้วยพื้นที่คอนกรีต และดูเหมือนว่าอัตราการเพิ่มจำนวนของเจ้าสัตว์ชนิดนี้จะสูงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมของโลก ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้นกพิราบเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมความเป็นเมือง ตามไปดูกันในบทความนี้ โครงสร้างของตึกสูงคล้ายกับถิ่นกำเนิดของนกพิราบ ในอดีตนกพิราบมักอาศัยอยู่บริเวณปากถ้ำหรือหน้าผาหิน พัฒนาการของนกพิราบบนตึกจึงเหมือนเป็นการอยู่อาศัยบนหน้าผาจำลอง โดยเฉพาะตึกสูงที่มีระเบียงให้พวกมันเกาะหรือมีช่องให้ทำรัง อีกทั้งนกพิราบยังมีความสามารถในการจดจำเส้นทางได้ดีมาก ส่งผลให้การจดจำที่อยู่อาศัย หรือมองหาพื้นที่ทำรังในเมืองที่มีผังเมืองซับซ้อนแบบที่มนุษย์อย่างเราแค่มองยังปวดหัว ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกมัน และเมื่อจดจำเส้นทางได้ดี นกพิราบจึงควบตำแหน่งสัตว์ที่มีชื่อเสียงในการหาทางกลับบ้าน จนเคยถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารในฐานะเครื่องส่งข้อความหรือที่เรารู้จักในนาม ‘นกพิราบสื่อสาร’ ตั้งแต่ประมาณ 3,000 ปีก่อน ไม่แปลกเลยที่ฉายาเจ้าแห่งเส้นทางจะเป็นที่มาให้พวกมันสามารถเอาชีวิตรอดและเติบโตในเมืองใหญ่ได้ แหล่งอาหารนกพิราบ เศษซากของเหลือและความใจบุญสุนทาน โดยปกติแล้วสิ่งมีชีวิตจะมาคู่กับห่วงโซ่อาหาร มีผู้ล่าและผู้ถูกล่า เพื่อให้เกิดระบบนิเวศที่สมดุล แต่สถานการณ์ของวงจรนกพิราบตอนนี้คือ ระบบนิเวศในเมืองกำลังขาดความหลากหลายของผู้ล่าอย่างเหยี่ยวหรืองู อีกทั้งนกพิราบยังเป็นสัตว์ที่ผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี ปริมาณจึงเพิ่มอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสิ่งใดมาควบคุม ไม่มีผู้ล่าคอยควบคุมจำนวนก็เรื่องหนึ่ง แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นกพิราบใช้ชีวิตในเมืองรุ่นสู่รุ่นได้คือ แหล่งอาหารของพวกมัน คนเมืองจำนวนมากน่าจะคุ้นเคยกับภาพการจิกหาอาหารตามลานโล่งของนกพิราบ โดยเฉพาะบริเวณสวนสาธารณะ ลานโล่ง หรือท่าเรือ พวกมันล้วนแล้วแต่มองหาอาหารที่ชอบ เช่น เมล็ดธัญพืช หนอน และแมลง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นบริบทของเมืองใหญ่ อาหารลักษณะนี้คงไม่ได้หาได้ง่ายนัก […]
‘ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกระบบ แรงงานก็คือแรงงาน’ คุยถึงปัญหาแรงงานนอกระบบกับตัวแทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)
ทำไม ‘แรงงานนอกระบบ’ ยังไม่ได้รับความคุ้มครองเทียบเท่ากับ ‘แรงงานในระบบ’ กันนะ ในเมื่อไม่ว่านายกฯ ตำรวจ วิศวกร กรรมกร หรืออาชีพใด ต่างล้วนเป็น ‘แรงงาน’ ที่มีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจและสังคมด้วยกันทั้งนั้น คำถามนี้คือจุดตั้งต้นที่ทำให้ Urban Creature ตัดสินใจติดต่อไปยัง ‘องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO)’ เพื่อพูดคุยกับ ‘เปิ้ล-จิตติมา ศรีสุขนาม’ เจ้าหน้าที่บริหารโครงการอาวุโสประจำประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ถึงสถานการณ์แรงงานนอกระบบในประเทศไทยที่ต้องเผชิญ และสิ่งที่ ILO พยายามผลักดันในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้อง รับหน้าที่ตัวกลางประสาน เข้าไปพูดคุยกับนายจ้าง หรืออยู่ข้างลูกจ้างที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งหมดนี้ ILO ทำโดยมีหัวใจหลักที่มีชื่อว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ เป็นหลักการขั้นพื้นฐาน “เวลาพูดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน คำแรกที่เจอเลยคือ ‘มนุษย์’ เพราะฉะนั้นคนทุกคนที่ทำงานก็ต้องมีสิทธิเหล่านี้ มันไม่ใช่ควรได้ แต่ต้องมี” ก่อนอื่นอยากให้คุณอธิบายก่อนว่า องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เป็นองค์การแบบไหน ILO เป็นหนึ่งใน ‘องค์การชำนาญการพิเศษประจำสหประชาชาติ (Specialized UN […]
‘สัปดาห์ร้านหนังสืออิสระแห่งชาติ ครั้งที่ 8’ งานสำหรับชุมชนนักอ่านและคนรักร้านหนังสืออิสระ ฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนวงการสิ่งพิมพ์
‘ร้านหนังสืออิสระ’ ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนวงการหนังสือและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขาย ผู้อ่าน และผู้สร้างสรรค์เข้าด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นสถานที่รวบรวมสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทต่างๆ เพิ่มโอกาสในการกระจายหนังสือสู่มือนักอ่าน และบางครั้งบางคราร้านหนังสืออิสระเหล่านี้ยังเป็นศูนย์รวมคนในย่าน ดึงดูดให้คนเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน เป็นพื้นที่แบ่งปันความชอบเรื่องหนังสือ และเป็นเส้นเลือดฝอยสำคัญที่หยั่งรากวัฒนธรรมการอ่านไปทั่วประเทศ น่าเสียดายที่ปัจจุบันนี้จำนวนหนังสืออิสระมีแนวโน้มน้อยลง หลายร้านปิดตัวไปเนื่องด้วยหลายสาเหตุ ทั้งขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ ราคาหนังสือที่สูงขึ้น ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และพฤติกรรมของคนซื้อหนังสือเปลี่ยนไป แม้แต่สัปดาห์งานหนังสืออิสระแห่งชาติก็ห่างหายไปหลายปี แต่วันที่ 21 – 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568 นี้ จะเป็นการกลับมาอีกครั้งของงานนี้ในรอบ 6 ปี แม้ว่าจะมีประเด็นคำถามชวนแสดงความเห็นว่า วงการหนังสือตายไปแล้วหรือยัง คำตอบนั้นย่อมแตกต่างไปตามประสบการณ์ของแต่ละคน แต่สำหรับนักอ่าน ผู้ชื่นชอบกลิ่นกระดาษ หรือชุมชนคนรักหนังสือแล้ว หนังสือยังคงเป็นสื่อที่มีชีวิต ชุบชูหัวใจ และเปิดโลกใบใหม่ให้พวกเขาเสมอ นำมาสู่การรื้อฟื้นงานสัปดาห์ร้านหนังสืออิสระแห่งชาติในปีนี้ จัดโดยเครือข่ายร้านหนังสืออิสระ เป็นการเชิญชวนร้านหนังสืออิสระทั่วประเทศมาร่วมจัดงานในพื้นที่ร้านของตัวเองตามสไตล์ที่แต่ละร้านต้องการ โดยผู้ที่สนใจดูรายชื่อร้านหนังสืออิสระที่เข้าร่วมได้ที่ www.facebook.com/IndieBookstoreClub “เพราะเรารู้ว่าหนังสือดีจะงอกงามได้ต้องมีพื้นที่ดีให้วางขาย และร้านหนังสืออิสระคือพื้นที่ที่หนังสือกับผู้อ่านได้พบกันอย่างตั้งใจ” ข้อความบางส่วนจากเพจสโมสรคนรักร้านหนังสืออิสระ
‘Bangkok World Expo 2032’ ธีสิสว่าด้วยการจัดงานมหกรรมระดับโลกที่จะพลิกโฉมมักกะสันในฐานะหัวใจเชื่อมเมือง
‘Osaka World Expo 2025’ กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในปีนี้ที่คนพูดถึงกันทั่วโลก และน่าไปเยือนสักครั้งหากมีโอกาส เพราะนอกจากเป็นหนึ่งในงานมหกรรมระดับโลกที่แต่ละประเทศได้ร่วมเวทีประกาศความสำเร็จในแบบของตัวเองแล้ว ยังเป็นสปอตไลต์ที่ฉายความพร้อมในหลากหลายมิติของประเทศเจ้าภาพอีกด้วย แต่ที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้คือ จริงๆ แล้วไทยเองก็เคยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานนี้ถึงสองครั้งสองคราในปี 2020 และ 2028 แต่สุดท้ายกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน เนื่องจากความไม่พร้อมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านทุนสนับสนุนหรือด้านโครงสร้างพื้นฐานในเมือง ทว่าความหวังนี้ยังคงไม่หายไป แม้จะมีคำถามว่า แล้วตอนนี้ไทยเราพร้อมหรือยังที่จะขึ้นสู่การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก แต่อีกคำถามที่น่าสนใจและชวนจินตนาการต่อไม่แพ้กันคือ แล้ว ‘Bangkok World Expo’ จะหน้าตาเป็นยังไงกันนะ คอลัมน์ Debut พาไปพูดคุยกับ ‘ธีร์-ธนกฤต กาญจนารมย์’ นิสิตจากภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะทำให้เราเห็นภาพอนาคตและศักยภาพของไทยมากขึ้น ผ่าน ‘Bangkok World Expo 2032’ ธีสิสจบการศึกษาของเขา วาระพิเศษพลิกโฉมประเทศไทย การทำธีสิสเกี่ยวกับงานมหกรรมระดับโลกของธนกฤตเริ่มต้นจากความชอบในการดูบอล และเห็นว่าการจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่อย่างบอลโลกหรือบอลพรีเมียร์ลีกมักตามมาด้วยอีเวนต์ที่ช่วยดึงดูดให้คนมาใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกันได้ ในขณะเดียวกัน ธนกฤตเองก็อยากทำงาน Redevelopment หรืองานพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่หยิบเอาพื้นที่ว่างมาฟื้นฟูพัฒนากลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เขาจึงเล็งเป้าไปที่ ‘World Expo’ ซึ่งเป็นงานมหกรรมขนาดใหญ่ระดับโลก สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่า World […]
‘Book & Host’ โครงการการออกแบบเพื่อสังคม สนับสนุนการเรียนรู้และการปรับตัวสำหรับแรงงานต่างชาติ พร้อมอยู่เคียงข้างตลอดการใช้ชีวิตต่างแดน
แน่นอนว่าเหล่าผู้ใช้ชีวิตไกลบ้านในต่างแดนนั้นมีหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้ รับมือ และปรับตัว ทั้งกำแพงของภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ปัญหาในที่ทำงาน หรือประเด็นการเลือกปฏิบัติในสังคม ปัจจุบันหลากหลายประเทศต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติจำนวนมาก เนื่องจากปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ไต้หวันเองก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน จึงเกิดเป็นโครงการ ‘Book & Host’ ที่ ‘One-Forty’ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรตั้งใจออกแบบสื่อเพื่อเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ และลดปัญหาที่แรงงานข้ามชาติต้องเผชิญ Book & Host เป็นสื่อการเรียนรู้ที่ออกแบบเนื้อหาด้วยแนวคิด ‘ผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง’ จากประสบการณ์ตรงของแรงงานต่างชาติ โดยเลือกใช้ภาษาอินโดนีเซียเป็นภาษาหลัก เนื่องจากมีอัตราการใช้มากที่สุดในกลุ่มแรงงานต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไต้หวัน วัตถุประสงค์ของ Book & Host คือ ต้องการให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้มีโอกาสในการเรียนรู้ สามารถปรับตัวและสร้างความคุ้นชินกับการใช้ชีวิตไกลถิ่นได้ โดยเริ่มจากการเรียนรู้ภาษาจีน เพราะภาษาไม่ได้เป็นเครื่องมือการสื่อสารเพียงเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยวัฒนธรรม วิถีชีวิตทางสังคม และธรรมชาติของเจ้าของภาษานั้นๆ ด้วย เนื้อหาภายในเล่มประกอบด้วย 35 หน่วยการเรียนรู้ เช่น การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ การซื้ออาหารที่ร้านของชำ การพบแพทย์ และสถานการณ์อื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานเรียนรู้คำศัพท์และบทสนทนาที่นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงส่งเสริมให้รู้จักกับวัฒนธรรมไต้หวัน พร้อมด้วยความพิเศษอย่างแพ็กเกจที่มีโปสต์การ์ดข้าวห่อขมิ้น ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่แสดงถึงการอวยพรในวัฒนธรรมอินโดนีเซีย และใช้กระดาษสีขมิ้นทำเป็นที่คั่นหนังสือ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของบ้านเกิด […]
Pai Pai เว็บไซต์ของไต้หวันที่รวมทุกฮาวทูการไหว้เจ้าไว้แบบง่ายที่สุด ด้วยการใช้ดีไซน์และอินเทอร์แอ็กทีฟสนุกๆ
หลายคนคงเคยโดนอาม่าดุ หม่าม้าบ่น หรืออากู๋เครียดที่ไม่เข้าใจว่าการไหว้นับสิบวันของคนจีนคืออะไร ไหว้วันไหน ใช้ผลไม้กี่ลูก เป็ดกี่ตัว แล้วไก่ด้วยไหม จนเกือบจะเป็นปัญหาร่วมของคนยุคสมัยนี้ ต้องบอกว่าไม่ใช่เพียงคนไทยเชื้อสายจีนเท่านั้นที่ประสบ แต่คนรุ่นใหม่ในไต้หวันก็ปวดหัวไม่ต่างกัน โดยในช่วงเทศกาลสารทจีนของปี 2017 ผู้ก่อตั้ง Block Studio ได้เล่าถึงปัญหาของเหล่านักไหว้ไว้ “ผมรู้ว่าจะต้องมีการไหว้บูชาผีไร้ญาติ แต่ไม่รู้เลยว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง รู้เพียงว่าต้องซื้อกระดาษเงินกระดาษทอง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มไหว้อะไรก่อน” นั่นจึงเป็นจุดกำเนิดของ ‘Pai Pai’ หรือโปรเจกต์ของ Block Studio ที่ออกแบบเว็บไซต์รวมวิธีการไหว้บูชาในบ้าน และเปลี่ยนเรื่องยากๆ เหล่านั้นให้กลายเป็นเรื่องสนุก เข้าใจง่าย อีกทั้งยังเป็นโปรเจกต์ที่ได้รับรางวัล Golden Pin Design Award อีกด้วย ตัวเว็บไซต์นำเสนอข้อมูลในรูปแบบอินโฟกราฟิกแบบเข้าใจง่ายว่า แต่ละเทศกาลหรือพิธีกรรมควรไหว้บูชาเทพองค์ไหน ควรไหว้ตอนเวลากี่โมง สิ่งที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง รวมไปถึงขั้นตอนการไหว้และคำอธิษฐาน หลังจาก Pai Pai ได้เป็นตัวช่วยสำคัญของคนรุ่นใหม่ให้ไหว้เจ้าและเข้าใจพิธีกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้นแล้ว ในปี 2023 Block Studio ก็ต่อยอดปล่อย ‘Pai Pai 2.0’ ออกมา […]