
LATEST
‘Book & Host’ โครงการการออกแบบเพื่อสังคม สนับสนุนการเรียนรู้และการปรับตัวสำหรับแรงงานต่างชาติ พร้อมอยู่เคียงข้างตลอดการใช้ชีวิตต่างแดน
แน่นอนว่าเหล่าผู้ใช้ชีวิตไกลบ้านในต่างแดนนั้นมีหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้ รับมือ และปรับตัว ทั้งกำแพงของภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ปัญหาในที่ทำงาน หรือประเด็นการเลือกปฏิบัติในสังคม ปัจจุบันหลากหลายประเทศต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติจำนวนมาก เนื่องจากปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ไต้หวันเองก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน จึงเกิดเป็นโครงการ ‘Book & Host’ ที่ ‘One-Forty’ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรตั้งใจออกแบบสื่อเพื่อเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ และลดปัญหาที่แรงงานข้ามชาติต้องเผชิญ Book & Host เป็นสื่อการเรียนรู้ที่ออกแบบเนื้อหาด้วยแนวคิด ‘ผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง’ จากประสบการณ์ตรงของแรงงานต่างชาติ โดยเลือกใช้ภาษาอินโดนีเซียเป็นภาษาหลัก เนื่องจากมีอัตราการใช้มากที่สุดในกลุ่มแรงงานต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไต้หวัน วัตถุประสงค์ของ Book & Host คือ ต้องการให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้มีโอกาสในการเรียนรู้ สามารถปรับตัวและสร้างความคุ้นชินกับการใช้ชีวิตไกลถิ่นได้ โดยเริ่มจากการเรียนรู้ภาษาจีน เพราะภาษาไม่ได้เป็นเครื่องมือการสื่อสารเพียงเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยวัฒนธรรม วิถีชีวิตทางสังคม และธรรมชาติของเจ้าของภาษานั้นๆ ด้วย เนื้อหาภายในเล่มประกอบด้วย 35 หน่วยการเรียนรู้ เช่น การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ การซื้ออาหารที่ร้านของชำ การพบแพทย์ และสถานการณ์อื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานเรียนรู้คำศัพท์และบทสนทนาที่นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงส่งเสริมให้รู้จักกับวัฒนธรรมไต้หวัน พร้อมด้วยความพิเศษอย่างแพ็กเกจที่มีโปสต์การ์ดข้าวห่อขมิ้น ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่แสดงถึงการอวยพรในวัฒนธรรมอินโดนีเซีย และใช้กระดาษสีขมิ้นทำเป็นที่คั่นหนังสือ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของบ้านเกิด […]
Pai Pai เว็บไซต์ของไต้หวันที่รวมทุกฮาวทูการไหว้เจ้าไว้แบบง่ายที่สุด ด้วยการใช้ดีไซน์และอินเทอร์แอ็กทีฟสนุกๆ
หลายคนคงเคยโดนอาม่าดุ หม่าม้าบ่น หรืออากู๋เครียดที่ไม่เข้าใจว่าการไหว้นับสิบวันของคนจีนคืออะไร ไหว้วันไหน ใช้ผลไม้กี่ลูก เป็ดกี่ตัว แล้วไก่ด้วยไหม จนเกือบจะเป็นปัญหาร่วมของคนยุคสมัยนี้ ต้องบอกว่าไม่ใช่เพียงคนไทยเชื้อสายจีนเท่านั้นที่ประสบ แต่คนรุ่นใหม่ในไต้หวันก็ปวดหัวไม่ต่างกัน โดยในช่วงเทศกาลสารทจีนของปี 2017 ผู้ก่อตั้ง Block Studio ได้เล่าถึงปัญหาของเหล่านักไหว้ไว้ “ผมรู้ว่าจะต้องมีการไหว้บูชาผีไร้ญาติ แต่ไม่รู้เลยว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง รู้เพียงว่าต้องซื้อกระดาษเงินกระดาษทอง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มไหว้อะไรก่อน” นั่นจึงเป็นจุดกำเนิดของ ‘Pai Pai’ หรือโปรเจกต์ของ Block Studio ที่ออกแบบเว็บไซต์รวมวิธีการไหว้บูชาในบ้าน และเปลี่ยนเรื่องยากๆ เหล่านั้นให้กลายเป็นเรื่องสนุก เข้าใจง่าย อีกทั้งยังเป็นโปรเจกต์ที่ได้รับรางวัล Golden Pin Design Award อีกด้วย ตัวเว็บไซต์นำเสนอข้อมูลในรูปแบบอินโฟกราฟิกแบบเข้าใจง่ายว่า แต่ละเทศกาลหรือพิธีกรรมควรไหว้บูชาเทพองค์ไหน ควรไหว้ตอนเวลากี่โมง สิ่งที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง รวมไปถึงขั้นตอนการไหว้และคำอธิษฐาน หลังจาก Pai Pai ได้เป็นตัวช่วยสำคัญของคนรุ่นใหม่ให้ไหว้เจ้าและเข้าใจพิธีกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้นแล้ว ในปี 2023 Block Studio ก็ต่อยอดปล่อย ‘Pai Pai 2.0’ ออกมา […]
The Door’s Whisper เสียงกระซิบวิถีชีวิตคนเมืองผ่านสายตา ‘ประตูเหล็ก’
The Door’s Whisper คือชุดภาพถ่ายจากหนังสือที่เล่าเรื่องราวของคนเมืองผ่านสายตาของ ‘ประตูเหล็ก’ วัตถุธรรมดาที่เราเห็นจนชินตา แต่กลับซ่อนเรื่องราวมากมายไว้เบื้องหลัง โปรเจกต์นี้เริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะชวนให้ผู้คนหันมาสังเกตสิ่งรอบตัว โดยเฉพาะรายละเอียดเล็กๆ ที่มักถูกมองข้าม เราจึงหยิบประตูเหล็กมาเป็นตัวแทนของสิ่งของในชีวิตประจำวันที่เราเดินผ่านทุกวันโดยไม่ทันได้สังเกตหรือตั้งคำถามกับมัน เมื่อได้ลงพื้นที่สำรวจและพูดคุยกับคนท้องถิ่นก็พบว่า ประตูเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงฉากหลังของเมือง แต่แทรกตัวอยู่ในทุกบริบทของชีวิตคนไทย ตั้งแต่หน้าบ้าน ร้านค้า ไปจนถึงตึกแถวเก่าแก่ ทั้งยังบอกเล่าถึงวิถีชีวิตของผู้คน และสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของเมืองในภาพรวมอีกด้วย ในเมืองที่สิ่งของในชีวิตประจำวันมักถูกมองข้าม อาจเพราะรูปลักษณ์ที่ไม่สะดุดตาหรือเพราะความเคยชิน โปรเจกต์นี้จึงอยากบันทึกว่าสภาพบ้านเมืองของเราปัจจุบันมีหน้าตาเป็นอย่างไร พร้อมชวนให้ทุกคนหันกลับมามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง โดยหวังว่าภาพเหล่านี้จะทำให้คุณเห็นบางอย่าง…ที่อาจไม่เคยสังเกตมาก่อน หากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected]
The Recycling Center ศูนย์รีไซเคิลในโรงเรียนประถมกวางอู่ ปรับภูมิทัศน์ใหม่ เชิญชวนให้เด็กๆ เรียนรู้การแยกขยะ
หนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้การแยกขยะในสถานที่ต่างๆ เป็นไปอย่างยากลำบากคือ ข้อจำกัดด้านสถานที่แยกขยะที่มักอยู่ในมุมอับ ไม่ค่อยระบายอากาศ รวมถึงไม่มีพื้นที่จัดเก็บขยะที่เหมาะสม เพื่อทำให้การแยกขยะเป็นเรื่องน่าสนุก โรงเรียนประถมศึกษากวางอู่ (Guang Wu Primary School) ที่เมืองเกาสง ไต้หวัน ได้ปรับปรุงศูนย์รีไซเคิลขยะของโรงเรียนให้น่าใช้งานมากขึ้น เริ่มด้วยการใช้ตาข่ายเหล็กโปร่งใสเป็นตัวแบ่งสัดส่วนพื้นที่เก็บขยะรีไซเคิลแต่ละประเภทอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ทำความสะอาด และคัดแยกขยะ รวมถึงก๊อกน้ำคอยให้บริการ เพื่อสร้างความสะดวกในการทำความสะอาดอุปกรณ์และทำให้การรีไซเคิลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งพื้นที่โดยรอบของศูนย์รีไซเคิลยังรายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ให้ความรู้สึกกลมกลืนไปกับทิวทัศน์ในโรงเรียน เพิ่มความโปร่งโล่ง สบายตา ทำให้ศูนย์รีไซเคิลดูมีชีวิตชีวามากขึ้น The Recycling Center เป็นหนึ่งในโครงการ ‘การพัฒนาการออกแบบในสถานศึกษา (Design Movement on Campus)’ ที่กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันร่วมมือกับสถาบันวิจัยการออกแบบไต้หวัน (Taiwan Design Research Institute) และโรงเรียนต่างๆ โดยเชิญบริษัทออกแบบ ‘Meta House (暁房子創意設計)’ มาช่วยนำร่องออกแบบโรงเก็บขยะแบบปิดของโรงเรียนกวางอู่ให้กลายเป็นสถานที่แบบเปิดโล่ง เพื่อเชิญชวนเด็กๆ ให้เข้ามาแยกขยะ ปลูกฝังพฤติกรรมการรีไซเคิลให้ประชาชนตั้งแต่เนิ่นๆ Source : Golden Pin Design Award | goldenpin.org.tw/goldenpin/en/winners/1281
เงินภาษีของฉันถูกใช้ไปอย่างไรบ้าง ชวนสำรวจทุกสตางค์ของภาษีที่เสียไปกับเว็บไซต์ สำรวจงบประมาณปี 69
ต้อนรับเทศกาลการจัดทำงบประมาณประจำปี ที่จะเกิดการแบ่งสันกันว่า แต่ละจังหวัด แต่ละกระทรวงนั้นจะได้งบเป็นจำนวนเท่าไหร่ เพื่อนำไปพัฒนาพื้นที่และความเป็นอยู่ของประชาชน Urban Creature อยากชวนทุกคนมาลองเช็กงบประมาณ ที่สามารถแยกดูตามหน่วยงานว่า แต่ละกระทรวงจะได้รับงบเท่าไหร่ และภายในกระทรวงนั้นๆ มีการจัดการงบให้แต่ละภาคส่วนงานอย่างไร รวมถึงดูแยกเป็นรายจังหวัด เพื่อเช็กต่อไปว่าจังหวัดนั้นๆ นำงบไปบริหารหรือแก้ปัญหาส่วนใด เพราะทุกบาทของภาษีที่จ่ายไปนั้นมีค่า อย่าลืมติดตามและสำรวจการใช้งบประมาณของภาครัฐ (แบบเข้าใจง่าย) ได้ที่ wevis.info/thbudget69
เติมหมาเติมแมววันละนิดจิตแจ่มใส ไม่มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเองก็สุขภาพจิตดีได้ ถ้าเมืองมีพื้นที่ Pet Friendly ให้เจอกับน้องๆ บ้าง
รู้สึกเหมือนกันไหมว่า การเล่นกับน้องหมา น้องแมว หรือสัตว์อื่นๆ ช่วยชุบชูใจให้วันเทาๆ ของเราสดใสขึ้นมาได้ทันที เพราะว่าบางครั้งวิธีการคลายเครียดอย่างการนอน เล่นเกม หรือฟังเพลงก็อาจไม่ได้ช่วยให้เลิกโฟกัสกับความเครียดได้ขนาดนั้น แต่ในขณะเดียวกัน การเติมหมาเติมแมวกลับทำให้เราลืมความขมุกขมัวในใจไปได้ เหมือนกับว่าในความน่ารักของสัตว์เหล่านี้ซ่อนพลังพิเศษที่ช่วยไล่ความเครียดที่ติดอยู่กับเราให้หายไปอย่างไม่น่าเชื่อ สุขภาพจิตดีเพราะมีสัตว์เลี้ยง การที่รู้สึกสบายใจสดใสแฮปปี้จากการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นไม่ใช่การรู้สึกไปเอง เพราะข้อมูลจาก National Library of Medicine พบว่า การมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย ได้ยินเสียง หรือแม้แต่การมองเห็นความน่ารักของน้องๆ ก็ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นแล้ว ยิ่งถ้าได้สัมผัสตัวสัตว์ ลูบคลำ หรือเล่นด้วย จะช่วยส่งผลต่อการลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เกิดความผ่อนคลาย และระดับความวิตกกังวลก็จะลดลงตามไปด้วย สอดคล้องกับการศึกษาของ University of Washington ที่พบว่าเพียงแค่ระยะเวลา 10 นาทีที่ปล่อยให้นักศึกษาได้ใช้เวลากับน้องหมาน้องแมว สามารถช่วยลดระดับคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดลง และเพิ่มเซโรโทนินกับโดพามีน สารที่ทำให้มีความสุขและสร้างความผ่อนคลาย ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นได้ เพราะฉะนั้น หากใครกำลังรู้สึกเครียดกับเรื่องราวต่างๆ แค่วางทุกอย่างลงและเดินไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยใหญ่ คอยเกาพุงหรือลูบหัวให้น้องๆ สักพัก เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้นได้แล้ว Pet Friendly พื้นที่บูสต์เอเนอร์จีทั้งคนและสัตว์ แล้วถ้าไม่มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเองล่ะ จะเยียวยาจิตใจอย่างไรได้บ้าง คาเฟ่สัตว์อาจเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดในการไปเล่นกับน้องหมาน้องแมว แต่การเข้าคาเฟ่แต่ละครั้งย่อมต้องมีค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าถ้าครั้งสองครั้งก็คงพอจ่ายไหว […]
เกม ‘Night Drive : คืนหลอน ซ่อนทาง’ ช่วยเป็นเสียงสู่ความหวังของการรอคอย ผ่านการติดป้ายตามหาคนหายของมูลนิธิกระจกเงาในเกม
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวเลขสถิติคนสูญหายยังคงมีอยู่เรื่อยๆ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี มีหลายครอบครัวที่กำลังรอใครสักคนกลับบ้าน และอีกหลายหน่วยงานที่ร่วมกันประชาสัมพันธ์เพื่อช่วยพาคนกลุ่มนั้นกลับคืนสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย นอกจากความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินการติดตามคนหายแล้ว ยังต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของภาคประชาชนในการช่วยกันสอดส่องเพื่อนร่วมสังคม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายแสงแห่งความหวังนี้ได้ ‘Night Drive : คืนหลอน ซ่อนทาง’ เกมขับรถยามค่ำคืนที่มาพร้อมภารกิจอันท้าทาย ได้ขอเป็นหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ติดตามคนหายเช่นกัน โดยทาง ‘Zebraman555’ ผู้สร้างเกมนี้ชี้แจงว่า หนึ่งในป้ายริมทางที่ผู้เล่นเห็นระหว่างขับรถนั้นคือป้ายตามหาคนหายจริงจากมูลนิธิกระจกเงา ไม่ใช่ป้ายที่ออกแบบจำลองสำหรับเกมเพียงเท่านั้น Zebraman555 เห็นว่าเกมนี้เป็นเกมที่เข้าถึงกลุ่มคนได้มาก และมูลนิธิกระจกเงาเองก็มีเคสคนหายจำนวนมากเช่นกัน เขาจึงใช้ช่องทางนี้เป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ และหวังว่าจะมีคนพบเห็นผู้สูญหายในป้ายแล้วแจ้งเบาะแสสำคัญแก่ครอบครัวผู้สูญหายได้ ระหว่างที่กำลังหาทางออกให้ตัวเอง คุณอาจเป็นคนช่วยพาใครกลับบ้านและกลับถูกทางได้ในเวลาเดียวกัน สัมผัสประสบการณ์ขับรถตอนกลางคืนสุดลุ้นระทึกใน Night Drive : คืนหลอน ซ่อนทาง ได้ที่เว็บไซต์ Steam tinyurl.com/an4pz7 Source : Facebook : Zebraman555 | tinyurl.com/2zc3yfp2
ยกระดับชีวิตมังกรจากแอนิเมชัน How to Train Your Dragon จะคนหรือสัตว์ (วิเศษ) ก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
“มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับมังกรได้” ประโยคนี้คงเป็นสมมติฐานที่ชาวไวกิงและเหล่ามังกรจากเรื่อง อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร (How to Train Your Dragon) ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า ระหว่างคนและมังกร พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกันได้ หากใครเคยรับชมแอนิเมชันเรื่องนี้ นอกจากเรื่องราวการต่อสู้ของมังกรและคน เราจะเห็นความสัมพันธ์และรูปแบบวิถีชีวิตร่วมกันระหว่างมนุษย์และสัตว์วิเศษ โดยอยู่ภายใต้การอยู่อาศัยบนเกาะเบิร์ก เกาะต้นกำเนิดของชนเผ่าไวกิง อีกทั้งยังเป็นเหมือนบ้านเฉพาะกิจของเหล่ามังกร แม้ในท้ายที่สุดชาวไวกิงจำเป็นต้องบอกลากับเพื่อนซี้เหล่ามังกร เพื่อให้พวกมันได้กลับไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยและเป็นที่ของพวกมันจริงๆ แต่ในช่วงที่เหล่ามังกรยังอาศัยอยู่บนเกาะเบิร์ก เรื่องราวในแต่ละวันก็ไม่ได้ดำเนินไปอย่างราบรื่นและสวยงามสักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเมืองแออัด หรือผลกระทบข้างเคียงในพลังงานมหาศาลของเจ้ามังกรที่ต่างส่งผลกระทบต่อทั้งคนและมังกร จนถึงกับทำให้พวกเขามีแผนการตามหาที่อยู่อาศัยใหม่ดังที่ปรากฏในภาค 3 เนื่องในโอกาสการกลับมาของ How to Train Your Dragon ฉบับ Live Action คอลัมน์ Urban Isekai อยากชวนทุกคนนั่งไทม์แมชชีนย้อนคิดไปกับพวกเรา ถ้าหากเหล่ามังกรยังคงอยู่อาศัยร่วมกับชาวไวกิงบนเกาะเบิร์ก เราจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์มีปีกเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง 1) จัดสรรพื้นที่ใหม่ แบ่งสัดส่วนระหว่างคนและมังกร ปัญหาเมืองแออัดดูจะเป็นปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในเกาะเบิร์ก หลังจากการอยู่อาศัยร่วมกันระหว่างชาวเมืองและมังกร จนทำให้ชาวไวกิงบางส่วนตั้งคำถามต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนมังกร หากเมืองมีการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม กำหนดเขตที่พักอาศัยระหว่างมังกรและมนุษย์ จะเป็นทางแก้ที่ช่วยให้มังกรได้ใช้พื้นที่ตามธรรมชาติของร่างกาย และไม่สร้างความเสียหายแก่ชาวเมือง 2) บริการตรวจสุขภาพมังกรประจำปี สุขภาพของคนและสัตว์เป็นสิ่งสำคัญ สัตว์วิเศษก็เช่นกัน เราจึงควรมีโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปีเต็มรูปแบบ […]
‘T77 Community’ ออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ใช้ Quality Time ในเมืองเล็กๆ ย่านสุขุมวิท เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ท่ามกลางความสงบ
ถ้าพูดถึงชีวิตในเมืองย่านสุขุมวิท โซนอ่อนนุช ภาพแรกที่นึกถึงอาจเป็นความวุ่นวายตามสไตล์ชีวิตเมือง ทั้งผู้คนพลุกพล่าน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และพื้นที่ที่สะดวกสบายต้องอยู่ใกล้รถไฟฟ้าหรือถนนหลักเท่านั้นถึงจะตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบของคนเมือง แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ในย่านนี้มีพื้นที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งหนึ่งอย่าง ‘T77 Community’ หรือ ‘Sansiri Town Sukhumvit 77’ ตั้งอยู่ด้วย ที่นี่เป็นพื้นที่อันเงียบสงบท่ามกลางความวุ่นวายของเมือง ที่คนจำนวนมากเข้าใจว่าเป็นเพียงโครงการที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ความจริงแล้วพื้นที่แห่งนี้คือ Quality Community ที่มีความสะดวกสบายมากมายรองรับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลทันตกรรม ทั้งสำหรับลูกบ้านและพร้อมต้อนรับคนอื่นๆ ให้แวะเวียนเข้ามาใช้ Quality Time อย่างสงบ คอลัมน์ Urban Guide ขออาสาพาทุกคนไปสำรวจพื้นที่ใน T77 Community กันว่า ถ้าไม่ได้มีแค่โครงการที่อยู่อาศัย ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีพื้นที่ไหนที่น่าสนใจอีกบ้าง คอมมูนิตี้สเปซที่เดินทางง่าย เลือกได้หลายเส้นทาง เมื่อการใช้ชีวิตในเมืองวุ่นวายจนต้องหาที่พักผ่อน T77 Community จึงเป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับความเงียบสงบในโซนอ่อนนุช แม้ไม่ได้อยู่ติดรถไฟฟ้าหรือถนนใหญ่เหมือนกับภาพจำของคอมมูนิตี้สเปซในย่านอื่น แต่การเดินทางเข้ามายัง T77 Community นั้นกลับไม่ยากอย่างที่คิด เพราะล้อมรอบไปด้วยความสะดวกที่เลือกได้ตามสบาย ถ้าขับรถส่วนตัวมาก็สามารถเข้าออกได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นเส้นสุขุมวิท […]
‘Loopme’ เทคโนโลยีจากกลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์กรุ๊ป ที่นำเศษฝ้ายจากการผลิตมารีไซเคิล ช่วยลดขยะ ส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
การผลิตเส้นด้ายแต่ละครั้ง นอกจากจะได้วัตถุดิบหลักนำไปถักทอเสื้อผ้าแล้ว ระหว่างทางยังเกิดขยะจากเศษด้ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งขยะที่ได้มานั้นสามารถนำไปสร้างมูลค่า รวมถึงนำกลับไปทำเสื้อผ้าได้อีกครั้งจากการรีไซเคิล ผ่านกระบวนการย้อนกลับจากการนำเศษด้ายมาเปลี่ยนให้เป็นเส้นใยฝ้ายแทน ทีม Urban Creature ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเส้นด้ายของ ‘กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์’ และทำความรู้จักเทคโนโลยี ‘Loopme’ ที่เป็นการนำเศษผ้าฝ้ายที่เหลือจากกระบวนการผลิตมารีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ผลิตเป็นผ้าใหม่อีกครั้ง นับเป็นวิธีการลดขยะจากอุตสาหกรรมสิ่งทอที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วย เปลี่ยนขยะให้กลับมาเป็นเส้นใย Loopme เริ่มต้นจากโครงการที่ทางบริษัทสนับสนุนให้พนักงานสร้างสรรค์นวัตกรรมของตนเอง โดย ‘อี๋-พิชัย สุวรรณทอง’ Technical Center Division Manager ‘หนึ่ง-ภัคพงศ์ ท้าวเพชร’ Technical Center Department Manager และทีม Technical Center ได้ร่วมกันคิดค้นเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาจากการเห็น Yarn Waste หรือเศษด้ายที่เกิดจากการผลิตเส้นด้าย ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า จะทำอย่างไรให้ของเหลือทิ้งเหล่านี้กลับมาเป็นเส้นใยฝ้ายเพื่อนำไปใช้ใหม่ได้ ในเส้นทางการผลิตเส้นด้าย วัตถุดิบที่ใช้คือฝ้ายดิบที่จะผ่านกระบวนการปั่นด้ายประมาณ 8 – 13 ขั้นตอน กว่าจะได้เป็นเส้นด้ายที่ส่งต่อไปยังกระบวนการทอผ้าต่อไป ซึ่งในกระบวนการทำเส้นด้ายที่มีความซับซ้อนแบบนี้ย่อมตามมาด้วยการเกิดของเสียจากกระบวนการผลิตอยู่แล้ว เหตุผลเพราะกว่าจะได้ด้ายแต่ละหลอดที่จะนำไปใช้งานจริงนั้น ต้องผ่านกระบวนการตัดต่อจากเทคโนโลยีที่ใช้ตรวจสอบคุณภาพเส้นด้ายในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งหากเจอส่วนของเส้นด้ายที่ไม่ได้คุณภาพก็จะตัดส่วนเหล่านั้นออก เพื่อให้ได้เส้นด้ายคุณภาพดีที่สุด และแม้ว่าในการตัดทิ้งแต่ละครั้งจะได้เศษด้ายความยาวเพียงหนึ่งคืบ ทว่าเมื่อรวมกันก็ทำให้เกิดเป็นขยะปริมาณมหาศาล […]
ศิลป่า Khao Yai Art Forest แกลเลอรีศิลปะกลางพื้นที่สีเขียวไร้พรมแดน ที่ซึ่ง ผู้คน/ศิลปะ/ธรรมชาติ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
จะเป็นยังไงถ้าเราได้เดินดูงานศิลปะในแกลเลอรีที่ปราศจากสถาปนิกในการออกแบบ แต่เป็นพื้นที่ที่ถูกสร้างสรรค์อย่างอิสระโดยธรรมชาติ หากพูดถึงสุนทรียศาสตร์ ‘ศิลปะและธรรมชาติ’ คงเป็นความงามที่ปรากฏให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ และ ‘ศิลป่า เขาใหญ่’ Khao Yai Art Forest คือสถานที่ที่ผนวกสิ่งเหล่านี้ ผ่านการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินระดับโลกและศิลปินไทยในพื้นที่ป่าและธรรมชาติ พื้นที่นี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของ ‘มาริษา เจียรวนนท์’ ที่อยากสนับสนุนและผลักดันศิลปินให้ได้สร้างผลงานท่ามกลางธรรมชาติ และสร้างประสบการณ์รอบด้านให้ผู้มาเยือน ที่นี่จึงเป็นมากกว่าแกลเลอรีจัดงานศิลปะ เพราะยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิด พร้อมให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติ ปัจจุบันทาง Khao Yai Art Forest จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยจากทั้งศิลปินไทยและศิลปินระดับโลกจำนวน 7 ชิ้น ได้แก่ 1) Maman โดย หลุยส์ บูร์ชัวส์ : ประติมากรรมแมงมุมบรอนซ์ขนาดยักษ์ หลายคนอาจคุ้นตาจากการจัดแสดงประติมากรรมชิ้นนี้ที่ Louisiana Museum of Modern Art ประเทศเดนมาร์ก แต่ตอนนี้ขาทั้งแปดได้เดินมาหาเราที่เขาใหญ่แล้ว ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพสีเขียว ครั้งแรกที่งานชิ้นนี้จัดแสดงกลางแจ้ง 2) Khao Yai Fog Forest, Fog Landscape […]
ธีสิสจิงเกิลรถไฟฟ้า ‘RailTones’ ใช้เสียงดนตรีบอกจุดเด่นของย่าน ผู้โดยสารรู้ว่าสถานีต่อไปคือที่ไหน
“เวลาได้ยินชื่อสถานี คนไทยอาจจะพอเดาได้ว่าชื่อนี้มีที่มาจากอะไร แต่ต่างชาติเขาจะได้ยินแค่ชื่อผ่านๆ ไป แต่ไม่รู้เลยว่าสามย่านคืออะไร อิสรภาพมีชื่อมาจากอะไร” RailTones เป็นโปรเจกต์ธีสิสจบการศึกษาของ ‘รักษ์ ศิวรักษ์’ นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CommDe) ที่ตั้งใจออกแบบจิงเกิลเพลงสำหรับรถไฟฟ้า MRT แต่ละสถานีให้มีความแตกต่างและดึงอัตลักษณ์ของย่านนั้นๆ ออกมา จากญี่ปุ่นสู่จิงเกิลไทย รักษ์เล่าให้เราฟังว่า เขาได้แรงบันดาลใจในการทำเรื่องนี้จากการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น และสังเกตว่าสถานีรถไฟฟ้าแต่ละสถานีจะมีเพลงของตนเอง ซึ่งหลังจากหาข้อมูลเพิ่มเติม รักษ์ยังพบว่าเพลงเหล่านั้นประพันธ์โดยมือคีย์บอร์ดวงคาสิโอเปีย ผู้เป็นศิลปินคนโปรดของเขา ประกอบกับตัวรักษ์มีความสนใจเรื่องเพลงและเล่นคีย์บอร์ดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงอยากนำทั้งหมดนี้มาผสมผสานเป็นงานจบปีการศึกษาของตนเอง แต่ความแตกต่างสำคัญระหว่างจิงเกิลของสถานีรถไฟฟ้าญี่ปุ่นและโปรเจกต์ที่รักษ์ตั้งใจทำคือ จุดประสงค์ในการใช้งาน เนื่องจากของญี่ปุ่นเป็นการใช้เพลงความยาว 7 วินาทีที่เท่ากับเวลาก่อนประตูรถไฟฟ้าจะปิด เพื่อเป็นการเตือนให้ประเทศที่มีผู้คนใช้รถสาธารณะหนาแน่นสูงได้รู้ตัวและไม่วิ่งฝ่าเข้าไป รวมถึงจังหวะและทำนองเพลงยังต้องแต่งให้ผู้ได้ยินเกิดความรู้สึกสว่าง สดใส เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายในสถานีที่เป็นปัญหาใหญ่ของแดนปลาดิบนั่นเอง เสริมจุดเด่นของย่านด้วยจิงเกิล ในขณะที่ประเทศไทยนั้นมีบริบทที่ต่างออกไป จากข้อมูลที่รักษ์ได้สืบค้นและวิเคราะห์พบว่า ไทยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวซึ่งสร้างรายได้ให้ประเทศสูง การสร้างจิงเกิลโดยเน้นแหล่งท่องเที่ยวหรือจุดเด่นของย่านละแวกสถานีนั้นดูจะเหมาะสมมากกว่า ซึ่งความคิดนี้ก็สอดคล้องกับ MRT หรือรถไฟฟ้าใต้ดินของไทย ที่ตกแต่งบางสถานีให้เป็นธีมตามย่านหรือสถานที่สำคัญบริเวณนั้นๆ เช่น สถานีสามยอดที่มีตึกด้านนอกสถานีเป็นโทนเดียวกันกับตึกโดยรอบ สถานีสนามไชยที่ตกแต่งภายในอาคารด้วยสถาปัตยกรรมไทยโบราณสอดคล้องกับวัดและวังโดยรอบ รักษ์จึงแบ่งประเภทของสถานีรถไฟฟ้า MRT ออกเป็นสามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มย่านการค้า […]