
LATEST
ประเทศฮาบ่ใจ่ของคิง : ฮ่องเต้ ธนาธร ผู้เรียกร้องความเท่าเทียมจากล้านนาสะเทือนกรุงเทพฯ
นัดพบฮ่องเต้ ผู้ประสบภัย 112 ในเชียงใหม่ ขณะที่หลายประเทศเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตโลกร้อนด้วยนวัตกรรม เพราะแผ่นทวีปที่กำลังจะจมน้ำจากธารน้ำแข็งขั้วโลกละลายในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า แต่สิ่งที่รัฐไทยกำลังเลือกทำในปัจจุบัน คือการไล่ทุบกำราบคนเห็นต่างให้สยบยอมอยู่ใต้ตีนอย่างแข็งขัน นี่คือข้อบ่งชี้ว่า ประเทศเรากำลังหมดหวังและถอยหลังลงคลองในสายตาคนรุ่นใหม่ แต่ขั้วอนุรักษนิยมกลับมองว่า นี่คือการรักษาความมั่นคงอันดีงามของชาติที่แสนสงบและดีพร้อมกว่าชาติใดใดในโลก และนี่คือสาเหตุที่ช่วงเกือบปลายปี 2564 เราตัดสินใจเดินทางไปพบนักกิจกรรมอย่าง ฮ่องเต้-ธนาธร วิทยเบญจางค์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังจากเขาถูกแจ้งจับคดีมาตรา 112 ก่อนหน้านั้นเพียงไม่นานนัก ฮ่องเต้ตั้งใจนัดให้เราไปพบที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ไม่ไกลจากคณะสังคมศาสตร์ คณะที่เขากำลังศึกษาวิชาปรัชญา ชั้นปีที่ 3 ในปัจจุบัน นี่คืออาคารที่ผู้บริหารมหา’ลัยตัดสินใจสั่งริบเอาพื้นที่จอดรถของนักศึกษามาสร้างอาคารที่ผู้เรียนแทบไม่ได้ใช้งาน เราถามฮ่องเต้ถึงจำนวนคดีความที่เขาได้รับ หลังการลุกขึ้นมาเรียกร้องความเท่าเทียมบนพื้นที่สาธารณะ “เกินสิบ (หัวเราะขื่นๆ) ส่วนใหญ่เป็นคดี พ.ร.บ.ชุมนุม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค และจะโดน 116 จำนวนหนึ่งหรือสองคดีนี่แหละ แล้วก็มี 112 อีกจำนวนหนึ่งคดี ผมคิดอยู่ว่า อีกหน่อยอาจจะมีคดีแปลกๆ โผล่ขึ้นมาอีก” เด็กหนุ่มยิ้มขื่นบางๆ หลังพูดจบ “หน้าที่ของเราคือยิ้ม และขัดขืนมัน เพื่อทำให้ประเทศนี้เปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นกว่านี้ให้ได้ ผมไม่คิดว่าเราต้องกลัวกฎหมายฉบับนี้ แค่ต้องทำงานของตัวเองต่อไป […]
จิบกาแฟ แลดูหนังทางเลือกครั้งแรก ในเมืองชายโขง กับ ‘พนมนครรามา’ พื้นที่ฉายหนังอิสระแห่งเดียวในนครพนม
หลังจากที่หนังนอกกระแสเริ่มมีพื้นที่ในวงการคนดูหนังในไทยมากขึ้น เริ่มต้นในกรุงเทพฯ ก่อนขยายไปยังเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่และขอนแก่น คนอยากดูหนังนอกกระแสในจังหวัดอื่นๆ จึงพยายามขับเคลื่อนทำโปรเจกต์ให้ฉายหนังนอกกระแสในจังหวัดของตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการจัดฉายเองหรือเรียกร้องให้โรงหนังฉายก็ตาม ยกตัวอย่าง HomeFlick (นครราชสีมา) Lorem Ipsum (หาดใหญ่) เราว่าหนังเรื่องนี้ควรมีฉายที่อยุธยา (อยุธยา) เป็นต้น ล่าสุด ที่จังหวัดชายแดนอย่างนครพนม ก็มีกลุ่ม ‘พนมนครรามา’ ออกมาขับเคลื่อนเรื่องนี้ ด้วยการจัดฉายหนังนอกกระแสเอง โดยจะประเดิมฉาย ‘Drive My Car’ โดย ริวสุเกะ ฮามากุชิ หนังนอกกระแสมาแรงเป็นเรื่องแรกในเดือนเมษายนนี้ เพราะอยากเห็นพื้นที่ฉายหนังนอกกระแสในเมืองที่ห่างไกลจากพื้นที่ส่วนกลางอย่างกรุงเทพฯ บ้าง จึงทำให้ ‘พนมนครรามา’ ก่อตั้งขึ้น “อีกอย่างเราอยากรู้ด้วยว่าที่นี่จะทำแบบจังหวัดอื่นๆ ที่ทำพื้นที่ฉายหนังอิสระได้ไหม และถ้าทำแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง” จากความตั้งใจและความสงสัยที่เป็นแรงขับเคลื่อนนี้ ทำให้ ‘พนมนครรามา’ ตัดสินใจติดต่อ Doc Club เพื่อทำเรื่องขอหนังนอกกระแสมาฉาย ซึ่งแน่นอนว่า Doc Club เองก็สนับสนุนเต็มที่ “เราไม่แน่ใจว่าสุดท้ายโปรเจกต์จะได้รับผลตอบรับที่ดีไหม แต่ถ้าเกิดมันไปต่อได้ มีคนให้ความสนใจมากพอ เราหวังว่าพื้นที่ตรงนี้จะกลายเป็นจุดแลกเปลี่ยนบทสนทนาระหว่างคนไทย คนลาว และคนเวียดนาม จากภูมิศาสตร์ที่ใกล้เคียงกันในอนาคต” […]
#gentlemenchoosegreen โปรเจกต์ครบรอบ 10 ปี MANGO MOJITO ที่ทำให้แฟชั่นหมุนเวียนเกิดขึ้นได้จริง
ทุกวันนี้การตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่ในทุกมิติของชีวิตประจำวันของผู้คน คงจะดีไม่น้อยถ้าการซื้อเสื้อผ้าของเราในแต่ละครั้ง นอกจากจะทำให้เราดูดีแล้วยังช่วยสิ่งแวดล้อมไปด้วย ปีนี้ MANGO MOJITO ฉลองครบรอบ 10 ปีด้วยโปรเจกต์ #gentlemenchoosegreen ที่ต้องการสื่อสารว่าสุภาพบุรุษนอกจากจะดูดีแล้ว เราสามารถมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันได้ ในปี 2022 นี้ MANGO MOJITO ยังคงพัฒนาและต่อยอดโดยมีการนำหลักการ Circular Fashion หรือแฟชั่นหมุนเวียนมาปรับใช้ เช่น การรีไซเคิลและการอัปไซเคิล เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม #gentlemenchoosegreen เป็นโปรเจกต์ที่ MANGO MOJITO ร่วมมือกับ CIRCULAR แบรนด์เสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และห้องผ้า SC GRAND ออกแบบเสื้อผ้าร่วมกันเพื่อให้แฟชั่นหมุนเวียนเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งนอกจากจะรักษ์โลกแล้วยังดูดีในสไตล์ของ MANGO MOJITO อีกด้วย โดยโปรเจกต์นี้จะนำเสนอเรื่องราวผ่าน 10 ศิลปินที่จะมาแชร์ทั้งมุมมองเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และนำเสนอการแต่งตัวในแบบ #gentlemenchoosegreen อาทิ ณัฏฐ์เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ตุลย์-ภากร ธนศรีวนิชชัย, กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ ฯลฯ โปรเจกต์นี้ยังเปิดตัวหลายไอเทมใหม่ที่น่าสนใจ […]
ร้านเลโก้คัสตอมเมด ขายเลโก้ ปธน.ยูเครน และโมโลตอฟ ระดมทุนช่วยเหลือทางการแพทย์ให้ยูเครน
Citizen Brick เป็นร้านเลโก้คัสตอมเมดในชิคาโกที่ทำตัวต่อออกมาเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นตัวละครดีไซน์จัดจ้านอย่างเจ้าสาวในคราบเลือด ผู้พันถือมีดเบเรต์ หรือตัวละครจาก Squid Game ก็มีวางจำหน่ายในราคา 25 เหรียญ และยังขายตัวต่อที่ขัดกับภาพลักษณ์ของ LEGO อย่างสิ้นเชิงอย่างบุหรี่ หรือถุงยางอนามัยด้วย ตอนนี้พวกเขาผุดไอเดียที่จะช่วยเหลือชาวยูเครนโดยจะวางจำหน่ายตัวต่อโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนในราคา 100 เหรียญ และระเบิดโมโลตอฟในราคา 10 เหรียญ และส่งรายได้ทั้งหมดไปให้ Direct Relief ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและภัยพิบัติแก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก และได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในเคียฟเพื่อจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือยูเครนและประเทศข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ตามข้อมูลของ Citizen Brick บอกว่าระดมทุนได้ 16,450 ดอลลาร์จากการขายทางเว็บไซต์ และอีก 170 ดอลลาร์ผ่านปุ่มบริจาคบนเฟซบุ๊ก “เรากำลังทุ่มเทอย่างมากเพื่อสร้างเลโก้ชุดใหม่ หลังจากได้รับการพูดถึงบนหน้าอินสตาแกรมของยูเครน” Joe Trupia เจ้าของ Citizen Brick ให้สัมภาษณ์กับ VICE ร้านเลโก้คัสตอมเมดแห่งนี้ไม่ใช่กลุ่มเดียวที่ลุกออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนชาวยูเครน ก่อนหน้านี้ St.Javelin องค์กรการกุศลระดมเงินได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ผ่านการขายเสื้อยืด สติกเกอร์ ธง […]
Chitofoam พลาสติกชีวภาพจากหนอนนก ทางเลือกใหม่ของการผลิตบรรจุภัณฑ์ ไม่มีมลพิษ ย่อยสลายในธรรมชาติได้
ปัจจุบันทั่วโลกเพาะเลี้ยง ‘หนอนนก’ กันอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นอาหารที่มีโปรตีนและไขมันสูง เกษตรกรจึงนิยมนำมาใช้เป็นอาหารแก่สัตว์น้ำและสัตว์ปีกเช่นนกและไก่ ส่วนในประเทศไทยก็นิยมเอาหนอนชนิดนี้ทำเมนูทานเล่นที่เห็นได้ทั่วไปอย่าง ‘รถด่วนทอด’ นอกจากจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้ว โครงกระดูกภายนอกของเจ้าหนอนนกยังเปลี่ยนเป็น ‘แพ็กเกจจิ้งทางเลือก’ ที่มีน้ำหนักเบา ทนน้ำ และย่อยสลายตามธรรมชาติได้ด้วย ‘Chitofoam’ คือบรรจุภัณฑ์ผลิตจากระบบหมุนเวียนที่เปลี่ยนโครงกระดูกภายนอก (Exoskeletons) ของหนอนนก (Mealworms) ให้เป็นวัสดุสำหรับทดแทน ‘พอลิสไตรีน’ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า ‘โฟม’ พลาสติกที่ทั่วโลกนิยมใช้ทำแพ็กเกจจิ้งอาหารอย่างแพร่หลาย เช่น ถ้วย จาน และแก้ว ซึ่งขยะเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และต้องใช้เวลานับร้อยๆ ปีจนกว่าจะเสื่อมสภาพตามชีววิทยา ก่อนจะกลายเป็นขยะธรรมดา ผู้พัฒนาวงจรหมุนเวียนรักษ์โลกนี้ก็คือ Charlotte Böhning นักออกแบบเชิงอุตสาหกรรมชาวอเมริกัน ร่วมกับ Mary Lempres ศิลปินจากสตูดิโอออกแบบ Doppelgänger ในอเมริกา พวกเขาเลือกใช้โครงกระดูกภายนอกของหนอนนก (หนอนของแมลงปีกแข็ง) ทำแพ็กเกจจิ้งทดแทน เพราะพวกมันกินพลาสติกเป็นอาหารอยู่แล้ว โดยในหนึ่งวัน หนอนนก 100 ตัว สามารถกินพลาสติกได้ถึง 40 มิลลิกรัม หรือปริมาณเทียบเท่ากับยาหนึ่งเม็ด โดยขั้นตอนของการผลิต Chitofoam เบื้องต้นมีดังต่อไปนี้ […]
MILKBREW COFFEE ร้านกาแฟนมสุดชิกในอาคารมรดกทางวัฒนธรรมญี่ปุ่น
ความผูกพันที่มีกับจังหวัดซะกะพาเรากลับไปเยี่ยมที่นี่ทุกครั้งที่มีโอกาส เมืองลูกรักที่แอบแวะไปบ่อยๆ คือ Ureshino ซึ่งมีทั้งเครื่องปั้นดินเผาเก๋ไก๋ อนเซ็น ชาเขียวและคาเฟ่กรุบกริบ สร้างความเพลิดเพลินแบบไม่เคยทำให้ผิดหวัง และแล้วทริปล่าสุด ซะกะก็กัมบัตเตะ (พยายาม) นำความกรุบกริบใหม่ๆ มาทำให้ประหลาดใจอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ชาเขียวของดังประจำเมือง แต่เป็นร้านกาแฟในย่านอนุรักษ์อันเงียบสงบที่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมายเพราะความกรุบกริบหลายสิ่ง คุณ MILKBREW COFFEE เป็นร้านกาแฟนมสุดชิกภายในอาคารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม การตกแต่งภายในดูล้ำอย่างไม่รุกรานความเก่าแก่ นอกจากนี้ยังนำเสนอกาแฟรูปแบบใหม่ที่นมได้รับบทเด่นไม่แพ้กันเพราะ Hirotaka Nakashima คุณพี่เจ้าของร้านคือทายาทของ Nakashima Farm ฟาร์มนมชื่อดังซึ่งเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากนมจนได้รับรางวัลระดับนานาชาติมาแล้ว ยามบ่ายวันอาทิตย์ที่มีแดดออกหลังหิมะเพิ่งหยุดโปรยปราย ฮิโระทะกะพร้อมแจกแจงความกรุบกริบที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วให้เราฟังอย่างละเอียดยิบ เขาบอกว่าคาเฟ่แห่งนี้ไม่ใช่ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม แต่เป็นร้าน Monozukuri ที่แปลว่าการผลิต เพราะพวกเขามีแบ็กกราวนด์ที่แข็งแกร่งในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ยังไงล่ะ ชงนมกับกาแฟ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าว่า MILKBREW COFFEE คืออะไร ทุกคนน่าจะรู้จักกาแฟ Cold Brew (กาแฟสกัดเย็น) อยู่แล้ว MILKBREW COFFEE เป็นกาแฟนมที่เกิดขึ้นจากหลักการเดียวกันนั้น แต่แทนที่จะนำกาแฟไปแช่น้ำก็แช่นมสดจากเต้าของพี่วัวในฟาร์มจนได้กาแฟนมที่มีความละมุน รสเบาๆ แต่สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมและเอกลักษณ์ของกาแฟได้อย่างชัดเจน ฮิโระทะกะค้นพบความอร่อยนี้โดยบังเอิญเมื่อเขาซื้อ Cold Brew Pack […]
ชวนดู ลุงดร เกตุเผือก สื่อประชาชน ไลฟ์สดเพื่อประชาธิปไตย สารคดีเชิงข่าวรางวัล Amnesty จาก Urban Creature
“เราต้องการที่จะให้ประชาชนได้รู้ ใครจะไม่ถ่ายไม่ว่า แต่เราต้องการถ่าย” นี่คือคำพูดง่ายๆ จากน้ำเสียงอันเป็นมิตรของ ‘ลุงดร เกตุเผือก’ เจ้าของเพจชื่อเสียงเรียงนามเดียวกับตัวเอง ลุงดรคือตัวอย่างของคนธรรมดาที่ผันตัวมาเป็นสื่อประชาชนติดตามถ่ายทอดสดเหตุการณ์ร้อน เพื่อส่งสารความจริงจากแทบทุกพื้นที่ที่มีการจัดม็อบประชาธิปไตย และติดตามไปยังพื้นที่ศาลต่างๆ ที่กำลังมีการดำเนินคดีกับประชาชนที่ออกมาชุมนุม เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความเป็นไปแบบวินาทีต่อวินาทีอย่างถึงลูกถึงคน จากประชาชนที่ใช้โทรศัพท์ไม่ค่อยเป็น ผุดลุกขึ้นมาเรียนรู้ฟังก์ชันการใช้งานของมือถือใหม่ทั้งหมด และตะลุยถ่ายทอดภาพการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยบนท้องถนน ผ่าน ‘ไลฟ์สด’ แบบฉบับง่ายๆ และซื่อตรงของตัวเอง ในยุคที่สื่อถูกบงการ ถูกเซนเซอร์ และถูกบิดเบือน จนผู้ชมตามหาชุดความจริงได้อย่างจำกัด ลุงดรเป็นหนึ่งในคนไทยที่เลือกเป็นสื่อด้วยตัวเอง เมื่อไม่ต้องทำตามคำสั่งใคร การไลฟ์สดของเขา จึงเปรียบเสมือนความหวังเล็กๆ ของคนดูที่ต้องการเสพสื่อและตัดสินเหตุการณ์นั้นจากมุมมองของประชาชนจริงๆ สารคดีสั้นจาก Urban Creature ชิ้นนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า ‘ลุงดร เกตุเผือก : สื่อ – ชาวบ้าน – ประชาธิปไตย I เมื่อชีวิตอุทิศเป็นสื่อประชาชน’ กำกับโดย ‘แทนชนก มุสิกธรรม’ และสร้างสรรค์โดยทีมโปรดักชันทั้งทีม ด้วยตั้งใจและเห็นว่าความจริงเป็นสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้สังคมเราก้าวไปสู่ความยุติธรรม และแทนชนกยังเชื่ออีกว่า ถ้าเรามีใจ ใครๆ ก็เป็นกระบอกเสียงเพื่อขับเคลื่อนสังคมได้ ทั้งนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ […]
ชาวคอนโดฯ ทำอะไรได้บ้าง ถ้ามีตึกสูงมาสร้างข้างๆ บดบังวิวที่เคยมองเห็น
เมื่อไม่นานนี้ มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของตึก One City Centre ตึกสำนักงานสร้างใหม่ที่อยู่ติดกับตึก 98 Wireless คอนโดมิเนียมสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ข้อถกเถียงที่ว่าคือ ทำไมตึกที่ดูใหญ่โตขนาดนี้ถึงสร้างติดกับคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยได้อย่างใกล้ชิดสุดๆ จนสร้างความรู้สึกกังวลใจให้ผู้คนในแถบนั้น นอกจากประเด็นความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยที่น่าขบคิดต่อแล้ว การที่มีสิ่งก่อสร้างมาตั้งตระหง่านบดบังทิวทัศน์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในตัวเพิ่มมูลค่าการซื้อ-ขายของห้องที่อยู่บนชั้นสูงๆ ก็ดูเป็นปัญหาใหญ่ และในอนาคต เราคาดเดาว่ากรุงเทพฯ น่าจะมีกรณีแบบนี้ให้เห็นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่คนรุ่นใหม่เลือกอยู่คอนโดมิเนียมมากกว่าบ้านเดี่ยวในสมัยก่อน คำถามสำคัญคือ ถ้าหากวันหนึ่ง คอนโดฯ ที่เราทำงานเก็บเงินเช่าหรือซื้อ เพื่อให้ได้มองวิวสวยๆ เกิดมีตึกสูงใหญ่มาสร้าง บดบังสิ่งที่เคยเห็นทั้งหมด เราในฐานะเจ้าของห้องจะทำอะไรได้ไหม สิทธิของผู้อยู่อาศัย และตัวกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มีข้อมูลชุดใดที่ควรรู้และตั้งคำถามต่อบ้าง เราจึงชวน แทนศร พรปัญญาภัทร กรรมการผู้จัดการ และสถาปนิกผังเมือง บริษัท เออเบิ้น รูม จำกัด ที่คลุกคลีกับการทำงานพัฒนากรุงเทพฯ มาเกือบสิบปี มาพูดคุยถึงประเด็นนี้ รวมถึงบริบทรอบข้างที่อาจเป็นประโยชน์กับคนเมืองในอนาคต อาคารสูงกวนตาเป็นปัญหากวนใจ เริ่มด้วยข้อควรรู้เกี่ยวกับอาคารสูงให้ทุกคนเข้าใจร่วมกัน ที่จริงแล้วประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับอาคารมาตั้งแต่ปี 2533 แต่เมื่อเริ่มมีการพัฒนาอาคารสูงกันมากขึ้น รัฐจึงบัญญัติคำว่าอาคารสูงขึ้นในปี 2543 โดยนิยามของอาคารสูงตามกฎหมายคือ อาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 23 เมตรหรือ 8 […]
ชวนรำลึกความทรงจำก่อนบอกลาถาวร ร้านนายอินทร์ สาขาท่าพระจันทร์ ปิด 31 มี.ค. 65 โปรฯ ส่งท้ายลด 20%
สำหรับนักอ่านหรือคนที่ชอบเข้าร้านหนังสือ ถ้ามีโอกาสเดินทางไปแถวสนามหลวง ท่าพระจันทร์ เมื่อไหร่ คงแวะไปร้านนายอินทร์ สาขาท่าพระจันทร์ ด้วยแน่ๆ นอกจากหนังสือที่มากมายหลายประเภทแล้ว ร้านนายอินทร์สาขานี้ที่เป็นอาคาร 2 คูหา 4 ชั้น ยังมีเสน่ห์ตรงกลิ่นอายประวัติศาสตร์ เนื่องจากร้านดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2537 ในย่านที่เต็มไปด้วยวัดวาอาราม สถานศึกษา และชุมชนเก่าแก่ กลุ่มนักอ่านประจำส่วนใหญ่จึงเป็นพระ และนิสิตนักศึกษาที่มาเรียนแถวนั้น กลายเป็นภาพที่คนในชุมชนเห็นจนชินตา ถ้าขึ้นไปบนชั้น 2 ของร้าน เรามักจะเห็นนักอ่านมาปักหลักอ่านหนังสือกันอยู่บ่อยๆ ไหนจะงานเสวนาและกิจกรรมดีๆ ที่ชาวสำนักพิมพ์ นักเขียน นักวิชาการใช้ที่นี่เป็นสถานที่จัดงานอยู่เรื่อยๆ ยังไม่นับความประทับใจอื่นๆ ที่กลายเป็นความผูกพันของแต่ละคนอีก จะบอกว่าเป็น Comfort Place ในย่านท่าพระจันทร์ก็ยังได้ เพราะใครที่มารอนัดหรือนึกอะไรไม่ออกก็มักมาเดินเตร่ดูหนังสือที่ร้านนายอินทร์สาขานี้ ทว่าหลังจากดำเนินกิจการมาเกือบ 30 ปี ร้านนายอินทร์ สาขาท่าพระจันทร์ ก็ประกาศปิดตัวถาวรในวันที่ 31 มีนาคม 2565 นี้ จากผลกระทบทางเศรษฐกิจและการหายไปของผู้คนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สร้างความน่าตกใจและเสียดายให้คนที่เคยมาเยือนไม่น้อย ใครที่คิดถึง และอยากไปย้อนรำลึกความหลัง ร้านยังเปิดให้บริการจนถึงสิ้นเดือนนี้ โดยจัดโปรโมชันพิเศษ […]
ใครติดคลิปสตรีทฟู้ดอินเดียเชิญทางนี้ ดูแบบยาวๆ ที่ช่อง Aamchi Mumbai ยูทูบที่พาไปดูทุกขั้นตอน พร้อมบอกพิกัด
เคยไหม? กำลังจะล้มตัวลงนอนอยู่แล้ว แต่คลิปสตรีทฟู้ดอินเดียโผล่ขึ้นมาบนเฟซบุ๊ก แล้วนั่งดูวนไปจนดึกดื่น เพราะสงสัยว่าเขาทำเมนูอะไรกันอยู่ ถ้าคุณเป็นแฟนคลับคลิปสตรีทฟู้ดอินเดียและรอดูคลิปแบบแรนด้อมทุกคืน เราอยากชวนดูกันแบบยาวๆ ที่ยูทูบช่อง Aamchi Mumbai ช่อง Foodie ในเมืองมุมไบที่มีชื่อว่า Mehul Mahendra Hingu จะพาเราไปลิ้มรสความอร่อยตามข้างทาง ในเมืองมุมไบซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีสตรีทฟู้ดน่าตื่นตาตื่นใจอยู่หลายร้าน บางคลิปมีคำบรรยายเมนูให้เราเข้าใจด้วยว่ากำลังดูอะไรอยู่ พร้อมทั้งบอกพิกัดให้เหล่าฟู้ดดี้จากทั่วโลกตามไปกินได้ เสน่ห์ของอาหารอินเดียไม่ได้อยู่ที่รสชาติเท่านั้น หากใครเคยดูคลิปสตรีทฟู้ดอินเดียและติดใจจนต้องดูต่ออีกหลายคลิป คงคุ้นเคยกับขั้นตอนการทำที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะความรวดเร็ว คล่องแคล่ว ว่องไว ของบรรดาพ่อครัวสตรีทฟู้ดทั้งหลาย (บางร้านเน้นทำหกมากกว่าเน้นกิน) แค่ดูลีลาการทำอาหารของแต่ละร้านก็ชวนฉงนแล้วว่าทำอะไร หรือใส่อะไรให้เรากินบ้าง แต่นี่แหละคือจุดขายชั้นดีที่ทำให้คนมามุง หรือแม้แต่คนไทยเองก็ยังมุงผ่านอินเทอร์เน็ตว่าเขาขายอะไรกัน บางร้านเสิร์ฟธรรมดาก็ได้ แต่พี่ๆ เขาไม่ทำ ต้องโยนขึ้นกลางอากาศแล้วใช้จานรับ คลิปถึงได้ Viral เพราะสกิลการเสิร์ฟสุดเทพนี้ ใครยังไม่เคยดูคลิปสตรีทฟู้ดอินเดียต้องลองดูสักคลิปแล้วจะรู้ว่ามันเพลินกว่าที่คิด เพราะความสนุกอยู่ที่การดูความคิดสร้างสรรค์ของบรรดาพ่อครัวทั้งวัตถุดิบและลีลา และดูความหลากหลายทางวัฒนธรรมอาหารที่น่าไปตามรอยสักครั้ง ที่แน่ๆ เราเชื่อว่ามีบางคนดูแล้วหิวและอยากออกจากบ้านไปหาอาหารอินเดียกินทันที ติดตามคลิปสตรีทฟู้ดอินเดียเพิ่มเติมได้ที่ YouTube : Aamchi Mumbai Instagram : @StreetFoodRecipeFacebook : https://www.facebook.com/street.food.videos/
3D OCEAN FARMING ฟาร์มกลางทะเลที่ให้ผลผลิตจำนวนมาก และทำให้ทะเลสะอาดไปพร้อมกัน
องค์การสหประชาชาติคาดว่าเราจะต้องผลิตอาหารเพิ่มขึ้น 60 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 เพื่อรองรับประชากรที่เพิ่มขึ้น ปัญหาคือพื้นที่การเกษตรที่มีคุณภาพของโลกถูกใช้ไปหมดแล้ว และในขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็ยิ่งทำให้การเพาะปลูกเป็นเรื่องยากและมีผลผลิตน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งการทำฟาร์มรูปแบบใหม่ในมหาสมุทรคือความหวังที่จะแก้โจทย์เรื่องวิกฤตอาหารโลก และสามารถทำความสะอาดท้องทะเลไปพร้อมกัน แม้ว่าอาหารส่วนใหญ่ที่เรารับประทานถูกผลิตขึ้นบนแผ่นดิน แต่ท้องทะเลก็เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญเช่นกันไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์หรือพืชบางประเภท ทำให้เป้าหมายของ GreenWave ที่ไม่ใช่คลื่นวิทยุแต่เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในอเมริกาเหนือ สนับสนุนเกษตรกรและชาวประมงในการจัดตั้งฟาร์มในทะเลในรูปแบบ 3 มิติ ที่จะใช้เชือกและตะกร้าในการปลูกอาหารทะเลประเภทต่างๆ ในเสาใต้ผิวน้ำ ในแต่ละเสาจะแบ่งเป็นพื้นที่หลายชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะปลูกพืชที่มีชนิดแตกต่างกันแต่สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้บนพื้นที่แนวตั้ง และด้วยลักษณะพื้นที่แบบนี้จึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตเป็นพืชทะเลได้มากถึง 30 ตัน และหอย 250,000 ตัวต่อปี โดยใช้พื้นที่แค่ 1 เอเคอร์ ฟาร์มเหล่านี้ช่วยฟื้นฟูท้องทะเลด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของพืชที่ปลูก และมีส่วนช่วยในการดูดซับมลพิษจากน้ำ ที่สำคัญคือท้องทะเลเป็นสถานที่แห่งชีวิตที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ จึงไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ย ไม่ต้องใส่ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าปฏิชีวนะ หรือไม่จำเป็นต้องมีระบบน้ำชั้นยอด เพียงแค่หาที่ที่เหมาะสมสำหรับการทำฟาร์ม แล้วเก็บเกี่ยวเมื่อถึงเวลาเท่านั้น ความหลากหลายทางชีวภาพในฟาร์มนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม อย่างแรกคือผลผลิตทั้งหมดจะไม่ล้มหายตายจากไปพร้อมกันด้วยโรคชนิดเดียว และฟาร์ม 3 มิติ ซึ่งเต็มไปด้วยพืชหลากชนิดยังสามารถดึงดูดสัตว์ทะเลให้เข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้นกว่า 150 สายพันธุ์อีกด้วย สาหร่ายทะเลและสัตว์บางชนิดยังทำหน้าที่เป็นเครื่องกรองน้ำธรรมชาติ หอยนางรมสามารถกรองน้ำได้มากถึง 225 ลิตรในแต่ละวัน ทำให้ฟาร์มแบบนี้สามารถลดทั้งปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน และมลพิษต่างๆ ลงได้ […]
รู้จัก อั๋น ทศพงศ์ Props Maker แห่ง The Mask Singer ผู้รับหน้าที่ออกแบบชุดเกราะ ให้โอม Cocktail ใน MV ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร
ในปัจจุบันที่การแข่งขัน ความกดดันสูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุมาจากโลกที่กว้างใหญ่ขึ้น จะมีสักกี่คนที่นำเอาความชื่นชอบและความสนใจไปต่อยอดสร้างงานสร้างอาชีพได้ ซึ่งถ้าเรามีแพสชันกับมัน ก็คงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่างอาชีพ Props Maker ที่ออกแบบพร็อป-อุปกรณ์คอสเพลย์ แม้มองเผินๆ ดูเป็นอะไรที่ทำเล่นๆ สนุกๆ แต่ความจริงแล้วต้องใช้ทักษะและความคิดสร้างสรรค์มาก ในบรรดาคนทำงานด้านนี้ของไทย อั๋น-ทศพงศ์ จิตรรัตนพงษ์ คือ Props Maker ที่มีผลงานมาแล้วมากมาย ทั้งออกแบบชุดและพร็อปบางส่วนให้รายการ The Mask Singer, รายการ The Rapper, บริษัทเกมระดับโลก รวมถึงแบรนด์ดังอย่าง AirAsiaGo และไม่นานมานี้ก็ออกแบบชุดเกราะกับอาวุธให้โอม-ปัณฑพล ประสารราชกิจ นักร้องนำวง Cocktail ในมิวสิกวิดีโอเพลงล่าสุดอย่าง ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร ด้วย แพสชันการทำงานของทศพงศ์เริ่มต้นจากการเติบโตกับการดูหนัง อ่านหนังสือการ์ตูน และเล่นเกม “เราซึมซับหลายๆ อย่างจากสื่อที่ติดตาม พอเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตก็เห็นการแต่งคอสเพลย์ในต่างประเทศ นั่นเลยจุดประกายให้เรามีความสนใจในการทำชุดและพร็อป” หลังจากฝึกฝนและลองทำได้พักใหญ่ ทศพงศ์จึงต่อยอดความชอบนี้ให้เป็นงานที่มั่นคง เพื่อจะได้ทำสิ่งที่ชอบและงานที่อยากทำไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ เขายังมองว่าความยาก-ง่ายของการคิด ตีโจทย์ ใส่ไอเดีย และการคราฟต์ชิ้นงานแต่ละชิ้นเป็นความท้าทายที่สนุกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น […]