Featured
‘ซาว เอกมัย’ ร้านอาหารอีสานที่มีกฎเหล็กว่า ‘อย่าใช้สมอง แต่ให้ใช้ลิ้นกิน’
“อะไรคือสิ่งที่ทำให้อีฟหันมาเสนอความแซ่บของสำรับอีสาน” “เราต้องการให้คนเปลี่ยน Perception ที่มีต่ออาหารอีสาน ว่ามันไม่ใช่แค่ของราคาถูก” คำตอบของ อีฟ-ณัฐธิดา พละศักดิ์ เมื่อเราถามถึงเป้าหมายของร้าน ‘ซาว เอกมัย’ ที่เธอลงมือฟูมฟักตั้งแต่สาขาแรกในจังหวัดอุบลราชธานี จนขยับขยายสู่สาขาสองที่เพิ่งแลนดิ้งในย่านเอกมัยมาได้ไม่นาน พร้อมหยิบวัตถุดิบพื้นบ้าน กรรมวิธีการปรุง และสำรับอาหารในแบบที่คนอีสานกินแบบไหน ซาวก็เสิร์ฟแบบนั้นให้ได้ลิ้มลอง อันที่จริงคุณอาจจะรู้จักอีฟจากบทบาทหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Foundisan กลุ่มคนทำงานด้านดีไซน์ที่เล่าเรื่องอีสานผ่านงานออกแบบและงานคราฟต์ร่วมสมัย ซึ่งฉีกกรอบภาพจำของสินค้าโอท็อปแบบเดิมๆ ด้วยการ Redesign โปรดักต์เพื่อสร้างมูลค่าให้สูงขึ้น แน่นอนว่าวิชวลที่ออกมานั้นเต็มไปด้วยสีสัน ความสนุก และทันสมัยมากกว่าที่เคย หลังจากลงมือทำ Foundisan มานาน 3 – 4 ปี อีฟก็เจอโจทย์หินว่าจะทำอย่างไรให้สินค้าโอท็อปขายได้ แม้จะเอามายกเครื่องใหม่ก็ยังไม่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนดีขึ้น ประกอบกับการลงพื้นที่ในทุกๆ ครั้ง อีฟจะได้ชิมอาหารฝีมือแม่ๆ ซึ่งมีคัลเจอร์ที่น่าสนใจ เพราะอีสานแต่ละจังหวัดก็มีเครื่องปรุงและวัตถุดิบบางอย่างแตกต่างกัน จึงกลายเป็นจุดประกายเล็กๆ ที่อยากเล่าวัฒนธรรมอีสานให้ง่ายกว่างานคราฟต์ ซึ่ง ‘อาหาร’ คือคำตอบ ร้านที่อยากเปลี่ยนมุมมองของคนต่ออาหารอีสาน ‘ซาว อุบลฯ’ คือซาวสาขาแรกที่อีฟได้เริ่มทำในช่วงที่ธุรกิจรถเกี่ยวข้าวของเธอกำลังจะไม่ได้ไปต่อ จึงชวนพนักงานของบริษัทลงพื้นที่ตระเวนกิน เฟ้นหาวัตถุดิบ รวมไปถึงสูตรอาหารต่างๆ โดยมีระยะเวลาเตรียมการเพียง […]
“ประดับวงการใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์” 20 ปีของ ‘ภูมิจิต’ วงดนตรีที่ไม่มีวันดังอีกแล้ว
“วงดนตรีของเรายี่สิบปีพอดี ถ้ามองมุมนี้ก็ถือว่าเรามาได้ไกลกว่า The Beatles ประมาณหนึ่ง” เสียงของชายผู้รับหน้าที่เป็นนักร้องดังขึ้น “พรุ่งนี้พาดหัวข่าว วง ‘ภูมิจิต’ เย้ย The Beatles ไอ้ห่าดังเลยกู” มือกลองตบจังหวะนี้เรียกเสียงฮาลั่นห้องอัด ต่อหน้าเราขณะนี้คือวงดนตรีภูมิจิต ในวันที่พวกเขากำลังอัดเพลงอัลบั้มใหม่ วงภูมิจิตมีสมาชิก 4 คนไล่จากนักร้องนำที่ทั้งแต่งเพลงและเล่นกีตาร์ พุฒิ-พุฒิยศ ผลชีวิน ถัดไปคือ กานต์-เกษม จรรยาวรวงศ์ มือกีตาร์เพื่อนสนิทร่วมห้องของพุฒิสมัยเรียนวิศวะที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนอีกสองคนคือสมาชิกใหม่ที่กลายมาเป็นฟันเฟืองสำคัญ ได้แก่ บอม-ธิตินันท์ จันทร์แต่งผล เล่นเบส และ แม็ก-อาสนัย อาตม์สกุล มือกลอง 20 ปีที่ผ่านมา วงดนตรีภูมิจิตมีผลงานเพลงทั้งหมด 4 อัลบั้ม ได้แก่ ‘Found and Lost’ (2551), ‘Bangkok Fever’ (2553), ‘Home Floor’ (2555) และปี 2561 คือ ‘MIDLIFE’ อัลบั้มล่าสุดที่ทั้งวงยกให้เป็น […]
การอนุรักษ์อาคารเก่าในเมือง กับ Foto_momo | Unlock the City EP.06
หัวข้อการอนุรักษ์อาคารและสถาปัตยกรรมเก่า มักได้รับการหยิบยกมาพูดถึงบ่อยครั้ง เพราะนอกจากคุณค่าทางใจและความทรงจำของผู้คนที่เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่เหล่านั้นแล้ว ยังมีมิติของกฎหมายและธุรกิจที่ซ้อนทับอยู่ด้วย ซึ่งเขตแดนพวกนี้ช่างพร่าเลือนและมักนำมาซึ่งข้อขัดแย้งอยู่บ่อยครั้ง การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย กระแสการท่องเที่ยวที่สุดโต่ง มูลค่าของที่ดิน หลักเกณฑ์การตัดสินและวัดคุณค่าอาคารเก่า ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างสาเหตุที่ทำให้เกิดข้อพิพาทในการเลือกเก็บหรือไม่เก็บอาคารและสถาปัตยกรรมเก่าสักแห่งไว้ Unlock the City อีพีนี้ ‘พนิต ภู่จินดา’ พูดคุยกับ ‘วีระพล สิงห์น้อย’ ช่างภาพสถาปัตยกรรม เพจ Foto_momo ถึงเหตุการณ์ทุบทำลายอาคารเก่าที่เกิดขึ้น แนวทางในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมในเมือง ไปจนถึงฮาวทูการอยู่ร่วมกันระหว่างคนในชุมชนกับเมืองที่พัฒนาก้าวหน้าไปทุกนาที
What Did You Eat Yesterday? หนังฟีลกู้ดไม่ขายจิ้น แต่ถ่ายทอดชีวิตจริงของเกย์ญี่ปุ่นที่ดูแล้วยิ้ม + หิว
What Did You Eat Yesterday? หรือ เมื่อวานคุณทานอะไร น่าจะเข้าไปอยู่ใน Watchlist ของใครหลายคนตอนที่สตรีมมิงเจ้าใหญ่นำมาเผยแพร่ให้คนไทยดู พร้อมกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากนักรีวิวที่ดูแล้วว่า นี่คือซีรีส์ญี่ปุ่นแนว Slice of Life ที่ดูแล้วทั้งฟินและหิวไปพร้อมกัน ที่ว่าฟิน เพราะมันถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักเกย์วัยกลางคนอย่างสมจริงและแสนจะอบอุ่นใจ โดยไม่ได้เน้นขายความจิ้น ความโป๊ หรือการแสดงความรักด้วยการแตะเนื้อต้องตัว กอดจูบกัน เหมือนซีรีส์ชายรักชายส่วนหนึ่งในสื่อเมนสตรีมจะเป็น อันที่จริง ถ้าจะมีอะไรในเรื่องนี้ที่นับเป็น ‘การแสดงความรัก’ ได้ มันคงจะเป็นบทสนทนาเรียบง่ายที่ตัวละครถามไถ่ความเป็นไปของกันและกันทุกวัน รวมไปถึงการทำอาหารอันละเอียดลออ ใส่ใจของ ‘ชิโร่’ ที่สอดแทรกเป็นกิมมิกในทุกๆ ตอน นำมาซึ่งความหิวของทั้ง ‘เคนจิ’ และคนดูอย่างเราและเพราะติดใจความฟิน/ความหิวของมันนี่แหละ เราจึงไม่พลาดจะเดินเข้าโรงหนังทันที เมื่อ What Did You Eat Yesterday? เวอร์ชันภาพยนตร์เข้าฉาย ย้อนกลับไปก่อนที่เรื่องนี้จะกลายเป็นซีรีส์ฮิต What Did You Eat Yesterday? เคยเป็นมังงะที่มียอดพิมพ์กว่า 5 ล้านเล่มในญี่ปุ่น ในความนิยมอันล้นหลาม Fumi […]
ไขคดีฆาตกรรมท้องมหาสมุทร หนังสือภาพที่สอนให้คนระวังพิษสัตว์ทะเล
พบผู้เสียชีวิตหลังจากไปดำน้ำในทะเล ไม่พบบาดแผลเด่นชัด เจอเพียงรอยบวมบนแขนเล็กๆ และเนื้อซีดจนเป็นสีน้ำเงินคล้ำ จากข้อมูลผู้ตายเป็นคนชอบดำน้ำและสะสมของสวยงาม คาดว่าฆาตกรน่าจะใช้ของมีคมปลายแหลมขนาดเล็กทำร้ายเหยื่อ แล้วคนร้ายคือใครกัน? ผู้ต้องสงสัย 1 : หมึกสายวงน้ำเงิน ลายของมันเป็นวงแหวนสีน้ำเงินและเรืองแสงได้ พิษของมันอยู่ในน้ำลาย สามารถพบได้ในฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ผู้ต้องสงสัย 2 : หอยเต้าปูน มีลวดลายของหอยเป็นเอกลักษณ์ พิษของมันอยู่ที่งวงที่ยื่นออกมาเป็นเข็มพิษ มักจะพบตามแนวปะการัง ——————————————————————- เฉลย : ผู้ร้ายคือ หอยเต้าปูน เนื่องจากแผลของผู้เสียชีวิตมีรอยบวมเล็กๆ จนแทบมองไม่เห็น สอดคล้องกับหอยเต้าปูนที่มีอาวุธตรงงวงเป็นเข็มพิษเล็กๆ และตัวมันมีลวดลายสวยงามตรงกับนิสัยผู้ตายที่ชอบสะสมของแปลกตา วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากถูกหอยเต้าปูนทำร้ายคือ ใช้แอลกอฮอล์รีบเช็ดบาดแผล ดึงเข็มพิษออกแล้วคัดเลือดบริเวณแผลให้ออกมากที่สุดและรีบนำส่งโรงพยาบาล จากเนื้อหาคดีฆาตกรรมดังกล่าวอาจจะมองเป็นเกมสืบสวนทั่วไป แต่สิ่งสำคัญที่ซ่อนไว้คือ การทำให้คนตระหนักถึงพิษสัตว์น้ำในมหาสมุทรและการป้องกันตนเองเบื้องต้น ผ่านการเล่าเรื่องสืบสวนคดีฆาตกรรมที่น่าติดตาม ซึ่งเป็นแนวคิดของ ‘แอล-นวพรรษ เอื้อพัทธยากร’ ผู้ทำหนังสือภาพประกอบแนวสืบสวนคดีฆาตกรรมเกี่ยวกับพิษสัตว์ทะเล ‘Criminal of the Sea’ ผลงานวิทยานิพนธ์ภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร น้อยคนรู้จักพิษสัตว์ทะเล จุดตั้งต้นทำหนังสือเกี่ยวกับพิษสัตว์ทะเล เริ่มมาจากแอลสังเกตเห็นว่า ความสัมพันธ์ของคนและสัตว์เป็นสิ่งใกล้ตัว ส่วนใหญ่คนรับรู้อันตรายของสัตว์บก เช่น แมงป่อง […]
‘ยกทรงสมสมัย’ ร้านชุดชั้นใน Tailor-made ที่ทำให้ผู้ใหญ่อายุ 40 – 90 ปี มั่นใจในการแต่งตัว
แกร๊ก แกร๊ก ครืกกก แกร๊กกก… ภาพที่ฉันเห็นตรงหน้าคือคุณป้าตัวเล็กๆ ท่านหนึ่งกำลังง่วนกับการเย็บผ้าบางสิ่งอยู่บนโต๊ะ รอบข้างเต็มไปด้วยกองผ้า เข็มและด้ายวางเรียงรายเต็มไปหมด มองไปบนไหล่เธอมีสายวัดตัวคล้องคอ และสายตาที่จดจ่อกับเครื่องจักรตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ เขาคือ ‘สมสมัย ทิตะเชียง’ ช่างตัดชุดชั้นในวัย 58 ปี ผู้ออกแบบและตัดเย็บเสื้อในด้วยสองมือมานานกว่า 40 ปี และเป็นเจ้าของร้านชื่อ ‘สมสมัย’ ในย่านเจริญกรุง ปัจจุบันยังตัดชุดชั้นในอยู่กับหลานของเขาทุกๆ วัน ด้วยจุดเด่นการตัดเย็บชุดชั้นในที่ลูกค้าสั่งตัดได้ทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะหน้าอกเล็กใหญ่หรือหุ่นผอมอวบบาง คุณป้าก็สามารถเนรมิตชุดชั้นในที่เหมาะสมกับหุ่นลูกค้าได้ทุกรูปแบบ แถมยังสร้างความมั่นใจในการแต่งตัวให้กับคนใส่ด้วยชุดชั้นในเพียงแค่ชิ้นเดียว เธอทำได้อย่างไรกัน…ฉันไม่รีรอที่จะขอสัมภาษณ์คุณป้าสมสมัยทันที ชุดชั้นใน เสื้อผ้าที่ใกล้ชิดร่างกายที่สุด ก่อนจะลงลึกถึงเรื่องเสื้อผ้า ฉันชวนคุยถึงที่มาของอาชีพช่างตัดชุดชั้นใน เธอจึงย้อนอดีตให้ฟังว่า สมัยยังสาวๆ เคยเรียนตัดเสื้อผ้ามาก่อน จากนั้นมีโอกาสได้ไปทำงานเป็นลูกน้องในร้านตัดเย็บชุดชั้นในมานานหลายสิบปี เมื่อถึงจุดอิ่มตัวเลยอยากออกมาเปิดร้านตัดชุดชั้นในของตนเอง เธอเล่าเสริมว่า การตัดเย็บชุดชั้นในมีความซับซ้อนไม่แพ้เสื้อผ้าที่ทุกคนสวมใส่ เพราะมันเป็นสิ่งที่ใกล้ชิดกับร่างกายมากที่สุด จึงต้องมีขนาดพอดีกับหน้าอก ใส่แล้วต้องไม่รู้สึกอึดอัดตัว แตกต่างจากเสื้อผ้าด้านนอกที่ไม่จำเป็นต้องเป๊ะ หรืออยากใส่หลวมๆ ก็ไม่เป็นไร ทางร้านทำชุดชั้นในแบบสั่งตัดที่ลูกค้าสามารถเลือกทุกรายละเอียดได้เอง ตั้งแต่รูปทรงชุดชั้นใน ความยาวเนื้อผ้า โครงเหล็ก ยางยืด ตะขอ ไปจนถึงสีผ้า และมีรูปแบบชุดชั้นในให้เลือกทั้งหมด 2 […]
ยาดมพาสเทล พกติดตัวไปด้วยทุกที่เป็นอาวุธคู่กาย รับมือกับทุกสถานการณ์น่าปวดหัว
แม้จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว แต่บางวันอากาศก็ยังร้อนอบอ้าวชวนให้เวียนหัว วันนี้ ‘Urbans Pick’ มีไอเทมพิเศษสีสันน่ารักที่จะช่วยให้ทุกกิจกรรมประจำวันได้หอม เย็น สดชื่นทุกเวลา พกติดตัวไปไหนก็สะดวกสบาย ดีไซน์ใหม่ไม่ซ้ำใคร ไม่ต้องหวั่นกลัวเรื่องฝาหายให้ปวดใจ มีช่องใส่สายใช้คล้องคอ ห้อยแล้วเท่เก๋น้ำหนักเบา พกพาติดตัวได้ ใช้งานง่ายสะดวกสบาย เป็นไอเทมที่ใครๆ ก็ต้องมีมานำเสนอ นั่นคือ ‘Pastel Pocket Inhaler’ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘ยาดมพาสเทล’ จะอีกกี่เรื่องน่าปวดหัว แค่พกยาดมพาสเทลเป็นอาวุธคู่กาย ก็สามารถรับมือได้สบายๆ ในทุกสถานการณ์ ยามเช้าที่หลายคนต้องโหน BTS เบียดผู้คนแน่นๆ ไปทำงาน ช่วงเวลาเย็นก็ไม่เคยจะได้นั่งเหมือนใครเขา แม้จะต้องใช้มือข้างหนึ่งจับราวหรือเกาะเสาไว้ มืออีกข้างก็สามารถสไลด์ยาดมได้ด้วยมือเดียว แก้ปัญหาให้คนที่ชอบใช้ยาดมด้วยดีไซน์ใหม่ หมดห่วงเรื่องฝาหาย ใช้ง่ายสะดวกสบายแม้ในที่คับแคบ วันไหนที่ตื่นสาย หรือมีนัดหมายเร่งด่วน ต้องโบกวินฯ ลัดเลาะไปตามถนนโฉบเฉี่ยวแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวยาดมหล่นหาย เพราะดีไซน์มาให้สามารถใส่สายคล้องคอได้ ห้อยเป็นพวงกุญแจ หรือจะห้อยติดไว้กับมือถือก็อุ่นใจหายห่วง ยาดมรุ่น Original มี 6 เฉดสีให้เลือกใช้สลับไม่ซ้ำวันไม่มีเบื่อ ช่วงเวลาใกล้สิ้นเดือนอาจเป็นช่วงที่เงินในบัญชีเหลือน้อย รถเมล์ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แม้จะต้องยืนโหนราวเบียดเสียดไปกับผู้คนมากมาย ก็ยังมียาดมพาสเทลช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน ใช้ง่ายสะดวกสบาย เพียงดันหมุนกลับสไลด์เปิดสูดดมได้ไม่ถึงวินาที […]
PASULOL ถึงเวลาใช้การ์ตูนมาเปลี่ยนภาพจำเรื่องเล่าแบบไทยๆ l Somebody Ordinary EP.11
‘คุณคิดว่าหากหุ่นยนต์แมวสีฟ้าจากอนาคตอย่างโดราเอมอนมีนิสัยเลวจะเป็นยังไง?’ หรือแม้แต่ ‘รามเกียรติ์ตอนนนทก เทพคูลๆ อย่างพระอิศวร ที่แค่ลูกน้องบ่นใส่เฉยๆ ก็สาปเอาไปล้างเท้าแล้ว’ หากเรื่องราวเหล่านี้ถูกหยิบขึ้นมาเล่าใหม่ในมุมที่แตกต่างไปจากเดิม แต่ไม่ทำลายแก่นหรือความเชื่อดั้งเดิม จะออกมาหน้าตาประมาณไหน? Somebody Ordinary ครานี้ขอพาคุณท่องโลกแห่งการ์ตูน ไปกับ ‘ช่อง PASULOL’ ที่หยิบเรื่องราวต่างๆ มาเล่าใหม่ในมุมที่ตลก (ร้าย) ไม่ว่าจะนิทานพื้นบ้าน การ์ตูนสุดคลาสสิก นิทานคนบาป หรือแม้แต่เจ้าริกกี้แมลงสาบตัวน้อยที่ต้องการเป็นที่ยอมรับของสังคมป่าเถื่อน ด้วยมุมมองที่แปลกใหม่ ทำให้ PASULOL ได้รับความนิยมและมียอดวิวถล่มทลาย เรื่องราวของ PASULOL กว่าจะมาถึงวันนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้การ์ตูนในช่องเช่นกัน เหตุผลที่ PASULOL อยู่รอดได้ตอนนี้ ไม่ใช่เพราะว่าทำแอนิเมชันดีหรือทำแอนิเมชันเก่ง แต่เป็นเพราะการเข้าใจว่าคนดูต้องการอะไร และพร้อมคิดบท แก้บท เขียนบท เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด “ถ้าคุณมีความฝันอย่าให้ใครมาฉุดกระชากคุณ” #UrbanCreature #ReinventTheWayWeLive #SomebodyOrdinary #PASULOL #การ์ตูน
ชีวิตที่ไม่ง่ายของคนทำละครไทยในอเมริกา สู่ Thai Theatre Showcase โชว์เคสที่เปิดให้พวกเขาได้โชว์ของ
บิ๊ก-รักษ์ศักดิ์ ก้งเส้ง คือคนทำละครเวทีไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกามาตั้งแต่ปี 2557 รักษ์ศักดิ์เป็นคนนครศรีธรรมราช ชอบเล่นละครเวทีมาตั้งแต่มัธยมฯ หลังเรียนจบปริญญาตรีสาขาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอบินลัดฟ้าไปปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความฝันที่อเมริกาเพราะเห็นโอกาสเติบโตที่มากกว่า ที่นั่น รักษ์ศักดิ์ได้พบรัก แต่งงาน และได้เรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารจัดการศิลปะ ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยเสน่ห์ของบรอดเวย์และละครเวทีอย่างนิวยอร์ก เริ่มทำงานจากตำแหน่ง Arts Administrator อย่างที่เรียนมา จนตอนนี้กลายเป็น Asistant Director of Grantmaking Programs หรือรองผู้อำนวยการฝ่ายโปรแกรมทุนของ Theatre Communications Group องค์กรที่ตามหาและแจกจ่ายทุนให้คนละครเวทีในดินแดนแห่งเสรีภาพได้สานฝันในการทำละครของตัวเอง ช่วงปี 2561 รักษ์ศักดิ์และเพื่อนในแวดวงได้ก่อตั้ง Thai Theatre Foundation หรือ TTF เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ละครเวทีไทยร่วมสมัย และในวันที่ 23 – 24 กรกฎาคมนี้ TTF จะจัดโชว์เคสครั้งแรกของพวกเขา ความพิเศษของงานนี้คือการรวบรวมศิลปินละครเวทีไทยในสหรัฐอเมริกามาโชว์ของ ซึ่งมีทั้งตัวท็อปและหน้าใหม่ในวงการที่คนไทยอาจไม่คุ้นชื่อ แต่คนดูชาวอเมริกันคุ้นชินกับพวกเขาเป็นอย่างดี และนี่เป็นครั้งแรกที่ศิลปินไทยเหล่านี้ได้มีพื้นที่ในการเปล่งเสียง โชว์ความเป็นไทยของตัวเอง แบบที่ไม่เคยได้แสดงที่ไหน เช้าวันแดดร่มวันหนึ่งที่ไทย เราต่อสายหารักษ์ศักดิ์ในอีกซีกโลกหนึ่งที่ท้องฟ้ากำลังระบายสีครึ้ม เพื่อพูดคุยกันถึงโชว์เคสครั้งสำคัญ […]
ผจญภัยและสำรวจความหมายของความรักอีกครั้งกับ ‘นกก้อนหิน’ โดย ‘บินหลา สันกาลาคีรี’
ย่ำสนธยาวันนั้นฟ้าสีสวย นกหลายฝูงกำลังบินกลับรัง เบื้องหน้าภูเขาสูงซ้อนกัน ดวงจันทร์กลมโตลอยเด่นในวันพระใหญ่ “ความงามทั้งหลายที่เราเห็นต่างบันทึกกันคนละแบบ ช่างภาพลั่นชัตเตอร์ จิตรกรละเลงสีบนเฟรมผ้าใบ ศิลปินบรรเลงเป็นบทเพลง และนักเขียนบันทึกผ่านตัวอักษร” เรานึกถึงประโยคนี้อีกครั้งยามสามนาฬิกา หลังปิดหน้าสุดท้ายของ ‘นกก้อนหิน’ ที่เขียนโดย ‘บินหลา สันกาลาคีรี’ นวนิยายแอ็กชันลุ้นระทึกที่เคลือบด้วยเรื่องรักแสนโรแมนติก นกก้อนหิน พิมพ์ครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์วงกลม ในปี 2552 อีกสามปีถัดมาพิมพ์ครั้งที่สองโดยสำนักพิมพ์ไรท์เตอร์ และในเดือนมิถุนายนปีนี้ หนังสือเล่มนี้ก็พิมพ์เป็นครั้งที่สามโดยสำนักพิมพ์บางลำพู (banglumpoo) ของ ‘หนึ่ง-วรพจน์ พันธุ์พงศ์’ “เมื่อคุณบอกว่าอยากพิมพ์ หนึ่ง, ผมดีใจ สอง, ผมต้องกลับไปขวนขวายอ่าน ประเมินมัน ว่ามันยังอยู่ในวิสัยที่คนจะเสพสุนทรียะหรือเสพความคิด เรื่องเล่าที่เราต้องการส่งมอบและตั้งคำถามให้เขาได้อยู่มั้ย ถ้าได้ก็โอเค…กับ ‘นกก้อนหิน’ ผมไม่คิดว่ามันจะมีคำถาม หรือมีปัญหาในเรื่องที่ผมกังวลอยู่ โดยสรุปก็คิดว่าน่าจะยังผ่านอยู่ ยังอ่านได้ แต่บางทีผมก็ไม่กล้าพูดตรงๆ” – บางบทสนทนาของบินหลา ที่วรพจน์บันทึกไว้ในช่วงท้ายเล่มนกก้อนหินพิมพ์ครั้งล่าสุดว่าไว้แบบนี้ จากการสอบถามผู้อ่านหน้าใหม่วัยละอ่อน หลายคนเห็นด้วยกับข้อความของนักเขียนว่านิยายเล่มนี้ยังไม่ตกยุคสมัย และยังทำหน้าที่มอบสุนทรียะระหว่างบรรทัดให้ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเรื่องเล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อ 14 – 15 ปีที่แล้ว “เบรกแตก, รวดเดียวจบ, […]
Tabisuru Kissa ท่องเที่ยวทั่วญี่ปุ่นไปกับแกงกะหรี่และครีมโซดา
โคเอนจิ (Koenji) เป็นย่านหนึ่งในโตเกียวที่เต็มไปด้วยคาเฟ่ แต่บรรยากาศไม่เก๋ชิกแบบ ชิบุย่า (Shibuya) หรือ โอโมเตะซันเด (Omotesando) ส่วนมากจะเป็นคาเฟ่ที่มีบรรยากาศเฉพาะตัว เรโทรนิดๆ วินเทจหน่อยๆ หรือมีธีมเฉพาะทางที่อาจจะดูอะไรเอ่ยไม่เข้าพวกในตัวเมือง แต่ตั้งอยู่ที่นี่ได้อย่างไม่เคอะเขิน เวลาเดินกลับบ้านหรือแวะซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต เรามักจะค้นพบคาเฟ่เปิดใหม่อยู่เรื่อยๆ แต่ Tabisuru Kissa เป็นร้านที่ตรงกันข้าม เห็นลงสื่อญี่ปุ่นบ่อยแต่หาไม่เจอสักที ได้แต่เดาไปเองจากชื่อร้านอย่าง Tabisuru แปลว่าไปเที่ยว ส่วน Kissa คือร้านคาเฟ่แบบเรโทรของญี่ปุ่น ดังนั้นที่นี่ก็คงเป็นร้านที่เจ้าของชอบไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วนำองค์ประกอบต่างๆ จากแต่ละที่มาขายหรือตกแต่งร้าน มีเมนูจากหลายประเทศให้ลองแน่ๆ ความจริงแล้วเราคิดถูกแค่ครึ่งเดียว Tabisuru Kissa คืออดีตคาเฟ่มีขาที่ตระเวนไปเที่ยว (เปิดร้านป็อปอัป) ตามจังหวัดต่างๆ ของญี่ปุ่น โดยมีแค่สองเมนู นั่นคือ แกงกะหรี่และครีมโซดา เจ้าของร้านพาความอร่อยไปนำเสนอให้คนในท้องถิ่น โดยใช้วัตถุดิบกรุบกริบสร้างสรรค์เมนูลิมิเต็ดเฉพาะเมืองนั้นๆ หลังจากร่อนเร่เป็นคาเฟ่พเนจรอยู่เกือบๆ 2 ปี ในที่สุดก็ตัดสินใจลงหลักปักฐาน นำสิ่งที่เรียนรู้จากการเดินทางตะลุยเหนือจรดใต้รวม 13 จังหวัดมาเปิดหน้าร้านจริงจังในโตเกียวช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา คาเฟ่ที่ใช้แกงกะหรี่และครีมโซดานำทาง แค่ฟังก็ทั้งน่ากินและน่าสนุก ทำไป […]
ไบรอัน ตัน อินฟลูฯ สายลักซูฯ ที่จัดเวทีเพื่อความเท่าเทียมและทำเพลงเพื่อสานฝันวัยเด็ก
บ่ายวันที่เรานัดคุยกับ พลากร แซ่ตัน หรือ ไบรอัน ตัน เขาปล่อยซิงเกิลล่าสุดอย่าง ‘ต๊าช (Touch)’ มาแล้วหนึ่งสัปดาห์ สารภาพตามตรงว่า ทุกวันในสัปดาห์นั้นที่เรารอจะคุยกับเขาด้วยใจจดจ่อ ไม่มีวันไหนที่เราจะไม่นึกถึงภาพของไบรอันก้าวลงจากรถด้วยท่าทางหัวรัดฟัดเหวี่ยง พอดนตรีขึ้นก็เดินสับๆ ประหนึ่งฟุตพาทที่ย่ำอยู่คือรันเวย์ ยิ้มแบบลักซูฯ (นิยามการยิ้มแบบไบรอันที่ชาวเน็ตตั้งให้) ให้กล้องสลับกับร้องอย่างมั่นใจ รู้ตัวอีกที เราก็กดฟัง ‘ต๊าช’ ซ้ำๆ จนถึงวันที่ได้คุยกัน ไบรอันบนหน้าจอปรากฏตัวด้วยชุดสบายๆ ต่างจากคนในยูทูบอย่างชัดเจน แต่เมื่อบทสนทนาดำเนินไป จริต อินเนอร์ น้ำเสียง และคำตอบของคนตรงหน้าก็ทำให้เรารู้สึกคุ้นเคย นี่แหละคือหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ตัวท็อปของแวดวงนางงาม โฮสต์ของเรียลลิตี้ประกวดนางงาม Miss Fabulous Thailand ที่เป็นไวรัลไปทั่วอินเตอร์ เจ้าของประโยค ‘เวอร์ เวอร์ เวอร์ เวอร์ เวอร์’ ที่ถูกนำมาต่อยอดเป็นซิงเกิลฮิต ในขณะเดียวกัน บางช่วงของบทสนทนานี้ ไบรอันก็เล่าเรื่องชีวิต ความฝัน และมุมมองต่อการงานที่เรามั่นใจว่าหลายคนไม่เคยได้ยินจากที่ไหน ชาวเน็ตหลายคนบอกว่าชอบคุณเพราะจริตแบบลักซูฯ คำว่าจริตแบบลักซูฯ ในความหมายของไบรอันเป็นยังไง ตามความหมายแล้วจริตลักซูฯ มันแปลว่าจริตของการเป็นคนรวยถูกไหม ซึ่งเราน่าจะได้มาจากเวลาเราขายสินค้าแบรนด์เนมและเครื่องประดับ เราต้องพรีเซนต์สินค้าเหล่านั้นออกมาให้คนซื้อ […]