งานศิลปะถือว่าเป็นตัวกลางรูปแบบหนึ่งที่ก่อให้เกิดความรู้สึกร่วมในหลายๆ ทาง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถาม การตระหนักรู้ หรืออาจเป็นการเรียนรู้บางเรื่องราวที่ศิลปินนำเสนอผ่านชิ้นงาน เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
เช่นเดียวกันกับงาน ‘Thailand Biennale, Chiang Rai 2023’ ที่คราวนี้ขึ้นเหนือไปจัดแสดงผลงานศิลปะกันถึงจังหวัดเชียงราย โดยผลงานที่จัดแสดงนั้นก็ได้สะท้อนถึงความน่าสนใจของเมืองเชียงรายที่ซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ผ่านการตีความของศิลปินที่เข้าร่วมงานนี้
และในช่วงเดือนสุดท้ายของการจัดแสดงงาน Urban Creature ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมผลงานบางส่วนมาด้วย เราจึงอยากพาไปย้อนชมผลงานเหล่านั้น เพื่อซึมซับความงดงามและตีความสารที่ศิลปินต้องการสื่อพร้อมๆ กัน
Thailand Biennale
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/Artattack_Chiangrai-Biennale_square-01-1024x1024.jpg)
‘Thailand Biennale’ คืองานมหกรรมศิลปะระดับชาติที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ สองปี โดยปีก่อนๆ ที่ผ่านมานั้น จังหวัดที่เป็นสถานที่จัดงานล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เรื่องราวทางวัฒนธรรม รวมถึงเป็นพื้นที่แห่งเมืองท่องเที่ยว ที่พร้อมเปิดให้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างถิ่นได้เข้ามาใช้เวลาไปกับการชมงานศิลปะร่วมสมัยที่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ของจังหวัด
เปิดโลก ที่เชียงราย
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/Artattack_Chiangrai-Biennale_square-02-1024x1024.jpg)
สำหรับครั้งที่ผ่านมา ‘Thailand Biennale, Chiang Rai 2023’ จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงราย ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเชียงแสน และ 13 พาวิลเลียนในจังหวัดเชียงราย จากศิลปินกว่า 60 คนทั่วโลก
โดยงานนี้มาพร้อมกับคอนเซปต์ ‘เปิดโลก’ หรือ ‘The Open World’ ที่มาจากพระพุทธรูปปางเปิดโลก วัดป่าสัก อำเภอเชียงแสน สื่อความหมายถึงการเปิดโลกการรับรู้ทางศิลปะที่เชื่อมโยงความจริง และนำไปสู่การตั้งคำถามผ่านผลงานศิลปะ และเชื่อมโยงร้อยเรียงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
แหล่งรวมศิลปิน ชุมชน และศิลปะ
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/Artattack_Chiangrai-Biennale_square-03-1024x1024.jpg)
นอกจากนั้น เชียงรายยังเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในแง่การเป็นเมืองที่มีความเป็นพหุวัฒนธรรมสูง เพราะเป็นเมืองเก่าแก่แห่งอาณาจักรล้านนาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีชายแดนที่เชื่อมต่อพรมแดนของ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว เมียนมา ทำให้ดินแดนแห่งนี้เป็นศูนย์รวมความหลากหลายที่มีผู้คนมากถึง 30 ชาติพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกัน
ด้วยเหตุนี้ เชียงรายจึงมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว และมีประเด็นร่วมสมัยน่าสนใจหลายประการ มากไปกว่านั้น ศิลปินในจังหวัดเชียงรายยังมีการรวมกลุ่มที่นำไปสู่การพัฒนาชุมชนศิลปะร่วมสมัยที่เข้มแข็งอีกด้วย
เมื่อพิจารณาในแง่มุมเหล่านี้แล้ว เชียงรายก็เหมาะสมกับการเป็นพื้นที่ที่เปิดรับการนำเสนองานศิลปะหลากหลายรูปแบบ และเป็นพื้นที่ให้ศิลปินหน้าใหม่หลายคนได้อาศัยช่วงเวลานี้ในการนำเสนอผลงานสู่สายตาคนทั่วไป
งานศิลป์ที่ยึดโยงกับชุมชนและพื้นถิ่น
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/Artattack_Chiangrai-Biennale_square-04-1024x1024.jpg)
แม้ว่าจะเป็นการแสดงผลงานของศิลปินจากหลากหลายพื้นที่ แต่ผลงานส่วนใหญ่ล้วนมีความเชื่อมโยงกับจังหวัดเชียงราย เพราะทางทีมภัณฑารักษ์ได้มีการพาศิลปินลงพื้นที่สำรวจประเด็นน่าสนใจ เพื่อจุดประกายความคิดให้เกิดแรงบันดาลใจในการสะท้อนความเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมของเชียงรายผ่านผลงานศิลปะ เพื่อนำเสนอและถ่ายทอดข้อมูลให้กับผู้ชมได้ซึมซับงานศิลป์และอินไปกับความเป็นเชียงรายด้วย
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/Biennale-Chiang-Rai-05-1024x576.jpg)
งานแรกที่เราอยากยกตัวอย่างคือ ผลงานศิลปะขนาดใหญ่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า โดย ‘ไมเคิล ลิน’ ศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานด้วยแรงบันดาลใจจาก ‘ลายผ้า’ ที่เป็นความทรงจำร่วมทางสังคมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น
สำหรับผลงานชิ้นนี้ ไมเคิลได้ผสมลวดลายและสีสันของผ้าจากชาวเขาในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ โดยเปรียบผืนผ้าเหมือนงานฝีมือที่รำลึกถึงสหภาพแรงงานและชุมชน เป็นการผสมผสานเสียงที่หลากหลาย รวมพลังที่ขัดแย้งระหว่างผู้ปกครองจากส่วนกลาง และฝ่ายที่ถูกปกครองจากชายขอบ แสดงถึงการเจรจา ต่อรอง และตั้งคำถามต่อบทบาทของศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยที่มีความหลากหลายและสลับซับซ้อนของภูมิภาคนี้
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/Biennale-Chiang-Rai-06-683x1024.jpg)
อีกแห่งคือ ‘ไทยวนปิ๊กบ้าน : การสืบทอดและส่งต่อ’ ผลงานของ ‘บ้านนอก ความร่วมมือทางศิลปวัฒนธรรม (Baan Noorg Collaborative Arts And Culture)’ ตั้งอยู่ใน ‘โบราณสถานหมายเลข 16’ ที่แม้ว่าศิลปินจะมาจากจังหวัดราชบุรี แต่ผลงานชิ้นนี้เป็นการเล่าเรื่องราวของชุมชนยวนพลัดถิ่นในตำบลหนองโพ จังหวัดราชบุรี ที่อพยพจากเมืองเชียงแสนเนื่องจากบรรพบุรุษถูกกวาดต้อน โดยศิลปินได้พยายามสืบค้นร่องรอยของคนไทยวนด้วยการจินตนาการถึงอดีตที่ย้อนกลับไปไม่ได้ และแสดงออกมาให้เห็นผ่านเจดีย์เป่าลมและแพเป่าลม ที่ชวนให้ผู้ชมได้ปีนป่ายและขึ้นไปกระโดดบนผลงาน
โดยในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ยืนชมผลงานอยู่ เราจะเห็นได้ว่าเจดีย์เป่าลมนั้นค่อยๆ แฟบลงจากการถูกปล่อยลมออก ก่อนที่จะค่อยๆ กลับไปตั้งตรงอีกครั้ง และวนซ้ำอยู่อย่างนี้ เพื่อเป็นการเปรียบเทียบการสร้างชีวิตให้กับวัตถุที่มีสภาวะชั่วขณะ เกิดขึ้น และจางหาย วนเวียนต่อเนื่องไป
งานศิลปะที่ชวนให้ขบคิดและตั้งคำถาม
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/Biennale-Chiang-Rai-07-683x1024.jpg)
นอกจากการเปิดโลกนี้จะพาเข้าสู่โลกศิลปะแล้ว หลายผลงานยังชวนให้เกิดการตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ รอบตัว ผ่านการแสดงออกในรูปแบบของศิลปะด้วย อย่างที่ ‘พิพิธภัณฑ์บ้านดำ’ มีผลงาน ‘ตำนานนางบัวแดง’ งานโฟโต้คอลลาจของ ‘กมลลักษณ์ สุขชัย’ โดยเป็นการนำนิทานเรื่องเล่าแต่โบราณที่เกิดขึ้นจากการหลอมรวมกันของอำนาจจากศาสนาหลักอย่างพุทธ พราหมณ์ และผี โดยเฉพาะการใช้ความเชื่อเป็นเครื่องมือในการช่วงชิงพื้นที่อำนาจระหว่างเพศชายและเพศหญิง มาสะท้อนโครงสร้างและอุดมการณ์ทางสังคม
ตำนานนางบัวแดงเป็นเรื่องเล่าที่ว่าด้วยนางบัวแดง หญิงสาวที่ลอยมากับน้ำและถูกเจ้าเมืองบังคับให้ไปอยู่กับฤๅษีในป่า เรื่องเล่าในส่วนนี้แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างทางสังคมที่ผู้หญิงไม่มีเสรีภาพในการตัดสินใจเลือกชีวิตของตนเอง ชวนให้ตั้งคำถามว่า ความเชื่อที่สอดแทรกมากับตำนานเหล่านี้ ส่งอิทธิพลและกำหนดบทบาททางเพศในสังคมอย่างไรบ้าง
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/DSC8977-1024x683.jpg)
อย่างไรก็ตาม พื้นที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเต็มไปด้วยศิลปะแห่งความเป็นชาย เพราะภายในบ้านดำมีแต่งานศิลปะที่มีความเป็นชายอยู่เต็มไปหมด ด้วยเหตุนี้ การที่พื้นที่เดียวกันนี้มีการจัดแสดงผลงานของศิลปินหญิงอีกสามคนที่มีความเฟมินีนมาก จึงช่วยเน้นย้ำภาพการกดทับทางเพศของหญิงสาวทั้งในงานศิลปะและพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อที่ผู้เข้าชมจะได้เกิดการตั้งคำถามผ่านเรื่องราวและรูปแบบการนำเสนอผลงานด้วย
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/DSC8997-1024x683.jpg)
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/DSC9037-1024x683.jpg)
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/DSC2563-1024x683.jpg)
นอกจากนี้ยังมีผลงานที่ทำให้เกิดความตระหนักต่อการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นปัญหามลภาวะ หรือ PM 2.5 ของทางภาคเหนือ ที่สะท้อนผ่านผลงานจาก ‘all(zone)’ และ ‘รชพร ชูช่วย’, ผลงานที่ใช้ยางล้อรถเก่ามาสร้างสรรค์ สะท้อนปัญหาจากระบบอุตสาหกรรม ลัทธิบริโภคนิยม และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย ‘ชาไคอา บุคเคอร์’ หรือการสร้างความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในลุ่มแม่น้ำโขง ผ่านผลงานสารคดี Summer Holiday with Naga โดย ‘วิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์’ และ Path 14, The River Flows Two Ways โดย ‘โบดี วิดจายา’ เป็นต้น
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/DSC8882-1024x683.jpg)
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/DSC9442-1024x683.jpg)
![Thailand Biennale, Chiang Rai 2023](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2024/05/DSC8221-1024x683.jpg)
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ที่เรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมมา น่าเสียดายที่งานนี้เพิ่งจบไปเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา หากใครที่สนใจแต่พลาดโอกาสทำความรู้จักและเรียนรู้พื้นที่ผ่านงานศิลปะในครั้งนี้ไปก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะครั้งต่อไป Thailand Biennale จะจัดขึ้นในปี 2568 ที่จังหวัดภูเก็ต
รับรองว่าเทศกาลครั้งหน้าก็จะเต็มไปด้วยผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์และน่าสนใจมากมายไม่แพ้กับปีอื่นๆ แน่นอน