‘โมนาโก’ เมืองที่ใช้คาสิโนสร้างชาติ พลิกฟื้นเศรษฐกิจทั้งประเทศด้วยธุรกิจการพนัน

‘การพนันไม่เคยทำให้ใครรวย’ ประโยคข้างต้นอาจมีมูลความจริงอยู่ไม่น้อยสำหรับบางสังคม แต่แนวคิดนี้ไม่สามารถใช้ได้กับ ‘ราชรัฐโมนาโก’ (Monaco) ประเทศขนาดเล็กอันดับสองของโลก ที่สามารถกู้วิกฤตเศรษฐกิจจนร่ำรวยด้วยธุรกิจคาสิโน ภาพจำของโมนาโกสำหรับหลายคนคือเมืองแห่งความร่ำรวยหรูหรา ท่าเรือที่เต็มไปด้วยเรือยอช์ตจอดเรียงรายริมชายฝั่ง สถาปัตยกรรมที่สวยงามราวกับหลุดมาจากนิยาย หรือเส้นทางถนนเก่าแก่สำหรับการแข่งขัน ‘โมนาโก กรังด์ปรีซ์’ (Monaco Grand Prix) แต่รู้หรือไม่ ก่อนโมนาโกจะกลายเป็น ‘สนามเด็กเล่นของคนรวย’ ประเทศนี้ต้องเผชิญกับปัญหาการสูญเสียรายได้มหาศาลหลังจากแยกตัวออกจากฝรั่งเศส กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘มอนติคาร์โล’ (Monte Carlo) คาสิโนเก่าแก่ผู้กลายเป็นหัวหอกพลิกฟื้นนำประเทศไปสู่ความร่ำรวยจากเม็ดเงินของนักเสี่ยงโชคทั่วโลก เพราะเหตุใดคาสิโนเพียงหนึ่งแห่งถึงพลิกฟื้นเศรษฐกิจทั้งประเทศได้ และความท้าทายของเมืองแห่งความร่ำรวยอย่างโมนาโกมีอะไรบ้าง ตามไปหาคำตอบได้ในบทความนี้ ฟื้นฟูเมืองด้วยธุรกิจคาสิโน ภายหลังการรับรองเอกราชจากฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1861 ประเทศโมนาโกจำเป็นต้องเริ่มต้นวางระบบเศรษฐกิจของประเทศที่ใกล้ล้มละลายใหม่อีกครั้ง จากดินแดนเล็กๆ ที่มีพื้นที่เพียง 0.81 ตารางไมล์ ทรัพยากรธรรมชาติแทบไม่มี พื้นที่ใช้สอยก็น้อยนิด ข้อจำกัดมากมายเหล่านี้นำพวกเขาไปสู่ลู่ทางธุรกิจใหม่ที่ยังคงผิดกฎหมายในประเทศโดยรอบในสมัยนั้นอย่าง ‘คาสิโน’ คาสิโนแห่งแรกของประเทศสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1865 แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ต่อมาโมนาโกได้สร้างคาสิโนแห่งใหม่อีกครั้งที่เมืองมอนติคาร์โล ผนวกกับเส้นทางรถไฟสายใหม่จากกรุงปารีสมายังโมนาโก ที่สร้างความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้นหลายเท่า ทำให้นักเสี่ยงโชคจากทั่วยุโรปหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก คาสิโนมอนติคาร์โลจึงประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจนประเทศกลับมาร่ำรวยอีกครั้ง ถึงอย่างนั้น คาสิโนแห่งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่งที่สืบทอดมาจวบจนปัจจุบัน เนื่องจากรัฐที่เห็นโอกาสตรงนี้ได้ต่อยอดจากเพียงคาสิโนหนึ่งแห่ง กลายเป็นนโยบายและสิทธิประโยชน์เอาใจคนรวยอย่างการ ‘ยกเลิกภาษีเงินได้’ […]

3 เมืองในไทยครองแชมป์ หมุดหมายที่นักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุดในโลก

ปัจจุบันการที่สถานที่ใดสถานที่หนึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนจำนวนมาก อาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป  เพราะถ้าเลือกได้ หลายคนก็คงอยากไปสถานที่สวยๆ ที่มีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย จะได้ไม่ต้องไปเบียดกับฝูงชนจำนวนมาก และมีมุมถ่ายรูปสุดเอ็กซ์คลูซีฟไว้ลงโซเชียลมีเดียของตัวเอง แม้ว่าในเชิงเศรษฐกิจ การมีจำนวนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศจำนวนมหาศาล อาจเท่ากับว่าพวกเขากำลังนำเม็ดเงินจำนวนมากมาสู่ประเทศเราด้วยเช่นกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเรามองดูในมิติอื่นๆ การเข้ามาของนักท่องเที่ยวที่มากเกินไปจนล้นเมืองหรือที่เรียกว่า ‘Overtourism’ อาจทำให้จุดหมายปลายทางยอดนิยมเหล่านั้นได้ไม่คุ้มเสีย ไม่เว้นแม้กระทั่ง ‘ประเทศไทย’ ของเราเอง นักท่องเที่ยวมากอาจไม่ใช่เรื่องดี ในอดีตการที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในประเทศจำนวนมาก อาจเป็นการการันตีว่าประเทศเหล่านั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อันนำมาซึ่งรายได้ที่เติบโตตาม แต่การที่นักท่องเที่ยวเหล่านั้นมีมากจนเกินกว่าจะควบคุม ก็อาจตามมาซึ่งผลกระทบจำนวนมากได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพสูงขึ้น สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติเสื่อมโทรมลง ระบบสาธารณูปโภคเกิดปัญหา เนื่องจากไม่เพียงพอในการรองรับนักท่องเที่ยว จนทำให้ความประทับใจของบรรดานักเดินทางลดลง อีกทั้งการมีอยู่ของนักท่องเที่ยวที่มากเกินไปอาจสร้างความรบกวนให้กับคนท้องถิ่น จนความเป็นอยู่ของพวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงไป ปัญหาเหล่านี้ทำให้รัฐบาลหลายประเทศต้องกุมขมับ จนต้องสร้างมาตรการต่างๆ ที่จะมาควบคุมให้จำนวนนักท่องเที่ยวสมดุลกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เพื่อปกป้องแหล่งท่องเที่ยวไปพร้อมกับดูแลคนท้องถิ่นของตัวเอง อาทิ การปิดอ่าว ‘มาหยา’ ที่หมู่เกาะพีพีของประเทศไทย หลังจากภาพยนตร์ชื่อดัง The Beach จุดกระแสให้ชาวต่างชาติแห่มาเที่ยวจนทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลถูกทำลาย และมาตรการลดจำนวนนักท่องเที่ยวในเวนิส ด้วยการจำกัดจำนวนเรือสำราญที่เข้ามาเทียบท่า และคิดค่าปรับกับนักท่องเที่ยวที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไปจนถึงการเรียกเก็บภาษีนักท่องเที่ยว (Tourist Tax) ในหลายประเทศรวมถึงไทยเอง นโยบายต่างๆ เกิดขึ้นหลังจากหลายเมืองทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง จนทำให้สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศที่ใครหลายคนเคยอยากไปเยือน กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่คนจำนวนไม่น้อยอยากหลีกเลี่ยงมากที่สุด เมืองที่นักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุดในโลก […]

เวนิสเตรียมจำกัดกรุ๊ปทัวร์ไม่เกิน 25 คน ห้ามใช้ลำโพงสร้างเสียงรบกวน เพื่อแก้ปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง

การมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยือนมากเกินไปใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะความนิยมนี้อาจก่อให้เกิดปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง (Overtourism) ที่ทำลายศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวของเมืองนั้นๆ และกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ด้วย ล่าสุดเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี กำลังประสบปัญหานี้อย่างรุนแรง ทางการจึงได้ประกาศเตรียมจำกัดนักท่องเที่ยวแบบกลุ่มไม่ให้เกิน 25 คน รวมถึงห้ามไม่ให้กรุ๊ปทัวร์หยุดเดินในถนนแคบๆ กลางทางเดิน หรือบนสะพาน มากไปกว่านั้น เวนิสยังห้ามการใช้ลำโพง เพราะอาจก่อให้เกิดความสับสนและการรบกวนได้ โดยจะเริ่มบังคับใช้มาตรการเหล่านี้ในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเวนิส รวมถึงบริเวณหมู่เกาะมูราโน บูราโน และทอร์เซลโล ในเดือนมิถุนายน 2024 มาตรการนี้สอดคล้องกับแผนการก่อนหน้านี้ที่เวนิสได้ประกาศเตรียมเก็บค่าธรรมเนียมการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับของนักท่องเที่ยวที่มีอายุ 14 ปีขึ้นไป ซึ่งกำหนดไว้ที่ 5 ยูโรต่อคน (ราว 192 บาท) โดยจะดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในวันที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดระหว่างเดือนเมษายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม ซึ่งส่วนใหญ่จะตรงกับช่วงสุดสัปดาห์ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของอิตาลีในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สร้างสมดุลที่ดีขึ้นระหว่างความต้องการของผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน แก้ปัญหานักท่องเที่ยวล้นทะลัก และลดความเสี่ยงที่เมืองจะถูกถอดออกจากรายชื่อเมืองมรดกโลกของยูเนสโก Sources :CNN | bit.ly/47xURF8Euronews | bit.ly/3ScqMGWTravel + Leisure | bit.ly/48Mc8LW

Pokémon Go เปิดรูตพิเศษในงานยี่เป็ง ให้ไปตามจับโปเกมอนภายในเกม 24 – 28 พ.ย. 66 ที่ตัวเมืองเชียงใหม่

งานลอยกระทงปีนี้จะสนุกขึ้น และเราอาจไม่ต้องโฟกัสที่การลอยกระทงอย่างเดียว เนื่องจากหลายๆ งานที่จัดได้เพิ่มกิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมงานทุกเพศทุกวัยเอนจอยได้ แถมยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่นด้วย หนึ่งในนั้นคือเทศกาลยี่เป็งที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 – 28 พฤศจิกายน 2566 บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘เทศกาลแห่งแสงไฟที่สะท้อนวิถีชีวิตล้านนาอย่างร่วมสมัย’ ที่จะมีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย เพื่อบอกเล่าถึงวัฒนธรรมยี่เป็งแห่งล้านนา และชูความโดดเด่นของพื้นที่ นอกจากการประดับประดาไฟตามเส้นทางเดินและพื้นที่สาธารณะในเมือง กิจกรรมเดินชมเมืองในยามค่ำคืน รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการพิเศษที่เตรียมไว้เพื่องานนี้โดยเฉพาะแล้ว ความพิเศษสุดๆ ของงานยี่เป็งครั้งนี้คือ ‘Pokémon GO x Yi-Peng’ การร่วมมือกับบริษัท Niantic, Inc. ผู้เป็นเจ้าของเกม Pokémon GO ในการพัฒนาเส้นทางพิเศษภายในเกมที่จะเปิดให้บริการในช่วงเทศกาลครั้งนี้ เพื่อเชิญชวนผู้เล่นเกมให้มาสัมผัสกับงานเทศกาลยี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่เกม Pokémon GO จะร่วมมือกับเทศกาลท้องถิ่น ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านแพลตฟอร์มที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ ใครที่ไปร่วมกิจกรรมรับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ในการลอยกระทงที่สนุกกว่าครั้งไหนๆ แน่นอน Source : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ | tinyurl.com/ymokw27m

Sustainable Tourism Goals เปลี่ยนการท่องเที่ยวไทยให้สนุกและยั่งยืน กับแคมเปญ ‘STGs เที่ยว 4 ดี’

การท่องเที่ยวของคนยุคนี้ไม่ได้นึกถึงแค่ความสนุกและความสวยงามของจุดหมายปลายทางเหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะการพักผ่อนหย่อนใจที่ได้มาต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อโลกของเราด้วย ข้อมูลจาก World Travel & Tourism Council ปี 2023 เปิดเผยว่า 69 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ช่วยยืนยันว่า ‘การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน’ (Sustainable Tourism) ได้กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ การรณรงค์การท่องเที่ยวที่แคร์สิ่งแวดล้อมจึงถือเป็นความท้าทายที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพื่อพาประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอันดับต้นๆ ของโลกให้ได้ นี่คือเหตุผลที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดเป้าหมายที่จะยกระดับและสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ‘Sustainable Tourism Goals: STGs’ และจัดทำโครงการ ‘STGs เที่ยว 4 ดี ดีต่อโลก ดีต่อเรา’ ขึ้นมา แคมเปญนี้จะช่วยสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างไร คอลัมน์ Green Insight ชวนไปหาคำตอบพร้อมกัน เปลี่ยนการท่องเที่ยวให้ยั่งยืนด้วยแนวคิด STGs การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมลพิษให้กับโลกของเราไม่น้อย เพราะมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) ราว 8 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากทั่วโลก โดยปริมาณหลักๆ มาจากการเดินทาง การบริโภคสินค้าและบริการ ซึ่งรวมถึงอาหารและที่พัก เพื่อทำให้ประเทศไทยพร้อมเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน […]

จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม รถเช่า และบัตรกิจกรรม ครบจบในที่เดียวกับ TraveliGo

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ชอบวางแผนเที่ยวเอง เพราะเลือกเที่ยวบินที่ต้องการ โรงแรมที่อยากพัก หรือกิจกรรมที่อยากทำให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ แต่การจัดทริปจะทำได้ง่ายกว่าเดิม หากเราวางทุกขั้นตอนการเดินทางได้ครบจบในช่องทางเดียว ‘TraveliGo’ (ทราเวลไอโก) คือผู้ให้บริการการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ผู้ใช้งานสามารถจองตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก รถเช่า บัตรกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกในราคาสบายกระเป๋า ผ่านแพลตฟอร์มของ TraveliGo ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน โดยขั้นตอนการจองบริการต่างๆ ทำได้ง่ายๆ ดังนี้ สำหรับวิธีจองตั๋วเครื่องบิน ผู้ใช้งานเริ่มต้นเลือกว่าจะเดินทางแบบไป-กลับหรือเที่ยวเดียว เลือกวันที่ต้องการเดินทาง จากนั้นระบบจะเปรียบเทียบราคาของสายการบินกว่า 500 สายการบินทั่วโลก เมื่อเลือกสายการบินที่ราคาโดนใจแล้ว ผู้ใช้งานแค่ใส่ข้อมูลผู้โดยสาร กรอกรหัสส่วนลด และกดจองเพื่อชำระเงินได้เลย ถัดมาคือขั้นตอนจองโรงแรมที่ทาง TraveliGo มีให้เลือกมากกว่าล้านแห่งทั่วโลก ผู้ใช้งานสามารถกดค้นหาชื่อโรงแรมหรือใส่จุดหมายปลายทาง เลือกวันเข้าพัก จากนั้นเลือกประเภทห้องพักและราคาที่ชื่นชอบ กรอกข้อมูลผู้เข้าพัก แล้วชำระเงินได้ทันที  ที่สำคัญห้องพักทั่วโลกใน TraveliGo ยังมาพร้อมราคาพิเศษและรีวิวจากผู้ใช้งานจริง โดยผู้เข้าพักยังเลือกชำระเงิน ณ ที่พัก หรือชำระเงินด้วยการสแกน QR Code โดยไม่มีค่าธรรมเนียมบวกเพิ่ม รวมถึงยกเลิกการจองได้ฟรี เมื่อมีตั๋วเครื่องบินพร้อม ห้องพักพร้อม ถัดมาคือการจองรถเช่าเอาไว้ขับเที่ยวกันแบบชิลๆ ซึ่งวิธีการจองรถผ่าน TraveliGo ก็ทำได้ง่ายเช่นกัน […]

‘สิงคโปร์’ กลยุทธ์ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศด้วยการเป็นฮับความบันเทิงของเอเชีย

ไหนใครวางแพลนไปคอนเสิร์ตวง Coldplay หรือ Taylor Swift ที่จัดกันแบบจุใจถึง 6 รอบที่สิงคโปร์บ้าง ในช่วงที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นคนรอบตัวเดินทางไปประเทศสิงคโปร์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไปดูคอนเสิร์ตหรือเที่ยวพักผ่อนด้วยตัวเองก็ตาม เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เป็นผลลัพธ์จากความพยายามของรัฐบาลสิงคโปร์มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 เพื่อผลักดันให้สิงคโปร์ขึ้นเป็น​​ ‘เมืองหลวงแห่งกิจกรรมและความบันเทิงของเอเชีย’ เบื้องหลังความสำเร็จของแผนพัฒนานี้คืออะไร สิงคโปร์ดำเนินงานอย่างไรถึงทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในประเทศได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว คอลัมน์ City in Focus จะพาไปหาคำตอบ ประเทศเกิดใหม่ มองหาจุดขายเรื่องการท่องเที่ยว หากย้อนไปที่จุดเริ่มต้นของประเทศ สิงคโปร์ถือเป็นประเทศที่เพิ่งเกิดใหม่ได้ไม่นาน จากการแยกตัวออกจากมาเลเซียมาเป็นประเทศอิสระที่ตั้งอยู่บนหมู่เกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 1965 ในช่วงแรกที่ตั้งประเทศ สิงคโปร์ต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นประเทศเปิดใหม่ที่ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่จะดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้มากนัก และครั้นจะไปตามหามรดกทางวัฒนธรรมเดิมหรือสร้างวัฒนธรรมใหม่ขึ้นมาก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะคนในประเทศมีความหลากหลายทางเชื้อชาติจนยากจะหาวัฒนธรรมร่วม จุดยืนของรัฐบาลสิงคโปร์ในตอนนั้นจึงเป็นการสร้างแผนนโยบายทางเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาประเทศให้เติบโตด้วยเทคโนโลยีและการจัดกิจกรรมภายในเมือง เพื่อดึงดูดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเข้ามาแทน ทั้งหมดนี้นำมาสู่การพยายามผลักดันให้สิงคโปร์กลายเป็น​​ ‘เมืองหลวงแห่งกิจกรรมและความบันเทิงของเอเชีย’ (The Events and Entertainment Capital of Asia) ครั้งแรกในปี 2007 ที่ผลิดอกออกผลอย่างเด่นชัดในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลผลักดันประเทศผ่านการวางนโยบาย แต่การจะทำให้สิงคโปร์กลายเป็นเมืองหลวงแห่งกิจกรรมและความบันเทิงของเอเชียได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยการวางนโยบายที่ดีและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน […]

ร่วมออกแบบนโยบายเพื่อยกระดับ ‘การท่องเที่ยวชุมชนของสระบุรี’ ให้เป็นเศรษฐกิจที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

‘สระบุรี’ คือจังหวัดเมืองรองในภาคกลางที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก มีพื้นที่ราบสลับกับพื้นที่ภูเขา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมผสมผสานกับพื้นที่การเกษตร ทว่านอกจากเป็นเมืองทางผ่านที่สำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศแล้ว สระบุรียังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์กระจายตัวอยู่มากมาย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะชุมชนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในลุ่มแม่น้ำป่าสักของสระบุรี เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพย้ายถิ่นมาไม่น้อยกว่า 150 ปี ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวบรวมความหลากหลายของชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ไทยวน ลาวเวียง พวน มอญ และจีน ทำให้สระบุรีมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ที่กำลังรอให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสด้วยตัวเอง ทั้งนี้ สระบุรีและอีก 3 จังหวัดในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก ได้แก่ เพชรบูรณ์ ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา กลับต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการท่องเที่ยวชุมชนในมิติต่างๆ เช่น ชุมชนไม่ได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยว เพราะส่วนใหญ่จะตกอยู่ในมือภาคธุรกิจขนาดใหญ่ รวมไปถึงการสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์จากทุนทางวัฒนธรรม การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การเปลี่ยนกรอบความคิดของคนในชุมชน การสร้างผู้ประกอบการเชิงสร้างสรรค์ และการพัฒนามาตรฐานของสินค้าและบริการต่างๆ เป็นต้น เพื่อยกระดับและพัฒนา ‘การท่องเที่ยวชุมชน’ ของสระบุรีให้กลายเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทาง Thailand Policy Lab และ UNDP Accelerator Lab Thailand จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้จัดกิจกรรม ‘Policy Innovation […]

‘สกลจังซั่น’ อีสานม่วนซื่น เทศกาลสร้างสรรค์ จ.สกลนคร

สกลนครเป็นจังหวัดสนุก ถ้าหน้าหนาวนี้ไม่มีแพลนไปไหน Urban Creature อยากชวนคุณไปเที่ยวย่านเมืองเก่าและพื้นที่โดยรอบจังหวัดนี้ให้หนำใจ เพราะปีนี้เมืองสกลมีเทศกาลงานสร้างสรรค์ชื่อ ‘สกลจังซั่น l SAKON JUNCTION’ ที่อยากชวนทุกคนมาม่วนซื่นกับกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งจัดครั้งแรกในย่านเมืองเก่าแบบจุใจตั้งแต่วันที่ 9 – 12 ธันวาคม 2564  งานครั้งนี้จะนำเสนอสิ่งที่มีคุณค่าต่างๆ ในท้องถิ่น ผ่านนิทรรศการศิลปะ งานออกแบบ และกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้คนหยิบเอาความคิดสร้างสรรค์มาช่วยพัฒนามิติต่างๆ ของเมือง กิจกรรมทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยฝีมือของกลุ่มภาคีเครือข่ายในพื้นที่ และส่งเสริมการรวมกลุ่มของนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ที่สืบต่อภูมิปัญญาท้องถิ่น  ด้วยความร่วมมือร่วมใจของศิลปิน ผู้คนจากภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้ประกอบการ และเจ้าของธุรกิจท้องถิ่นต่างๆ เพื่อยกระดับศักยภาพของพื้นที่ไปสู่การขับเคลื่อนเป็นเมืองครีเอทีฟ ร่วมสำรวจแต่ละย่าน และทำความรู้จักกับเรื่องราวหลากมิติในสกลนคร ผ่านกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นรอบๆ เมือง อาทิ ‘จังซั่น WALK’ ที่เดินสนุกตั้งแต่สี่แยกวัดพระธาตุเชิงชุม, สี่แยกเทศบาลเมือง และสี่แยกศรีนคร (ข้างร้านแมนคราฟท์) หรือจะเป็น ‘จังซั่น GALLERY’ นิทรรศการภาพวาดแสดงวิถีชีวิต สินทรัพย์ในย่านเมืองเก่า ผ่านประวัติศาสตร์และคำบอกเล่าของชาวสกลฯ  แต่ถ้าชอบงานดีไซน์ก็อยากชวนให้ไปเลาะเบิ่งที่โซน ‘จังซั่น DESIGN SHOWCASE’ นิทรรศการศิลปะ งานออกแบบ และงานผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่จะแสดงศักยภาพการต่อยอดวัสดุท้องถิ่น […]

คืนชีวิตให้ ‘โรงหนังมหาราช’ กลางเมืองกระบี่ให้เป็นศูนย์การประชุม ที่จุคนได้ 1,000 คน

กระบี่เป็นเมืองที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว แต่โควิด-19 ทำให้เมืองท่องเที่ยวนี้เงียบเหงาลงในชั่วพริบตา จำนวนนักท่องเที่ยวน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด กระบี่จึงมีแผนฟื้นฟูย่านกลางเมือง เพื่อมารับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ โดยการเปลี่ยนโรงหนังมหาราชเป็นศูนย์การประชุมที่จุคนได้ประมาณ 1,000 คน แบ่งเป็นโรงละครเมืองกระบี่ และศูนย์การเรียนรู้กระบี่ หรือ Krabi Learning Center ซึ่งคาดว่าจะเริ่มสร้างในปี 2565 และเปิดให้บริการในปี 2567 – 2568 แม้ว่าการลงทุนในครั้งนี้จะขาดทุน แต่ในระยะยาว มันอาจมาช่วยเสริมการท่องเที่ยวในช่วง Low Season ได้ นอกจากนี้ยังมีแผนฟื้นฟูถนนมหาราช ระยะทาง 300 เมตร ให้กลายเป็นถนนคนเดิน แบ่งทางเท้าชั้นในประมาณ 2.5 เมตร เป็น Street Food และที่เหลืออีก 3.5 เมตร เป็นทางเท้าและที่นั่งริมทาง  โควิด-19 คงไม่มีทางหายไปในเร็ววัน แต่สิ่งที่เราทำได้คือการตั้งรับและปรับตัวไปพร้อมๆ กับมัน แล้ววันหนึ่งเราจะอยู่ร่วมกับมันได้อย่างแน่นอน Source : https://bit.ly/3c8XZMZ 

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.