
LATEST
ส่งต่อสมบัติที่หมดใจให้เจ้าของใหม่ไปดูแล ด้วยการ ‘แลก’ ของกันแบบไม่ใช้เงินในงาน ตลาดนัด-แลก-พบ ครั้งที่ 2 วันที่ 11 ม.ค. 68 ที่อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ
เก็บบ้านแต่ละทีก็มักเจอกับสิ่งของที่มาพร้อมความทรงจำ ทั้งชิ้นที่เราสปาร์กจอยอยากเก็บเอาไว้ และชิ้นที่เราหมดใจไม่อยากใช้ต่อ แต่จะให้หยิบไปทิ้งก็ไม่กล้า ถึงเวลาหอบสมบัติที่หมดใจมา ‘แลก’ กันในงาน ili U BARTER SYSTEM FAIR ตลาดนัด-แลก-พบ ครั้งที่ 2 ครั้งนี้ไอแอลไอยูกลับมาพร้อมเพื่อนคนใหม่อย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะมาช่วยกันเนรมิตตลาดนัด-แลก-พบ ให้เกิดขึ้น ในตอน ‘สมบัติผู้มี’ ขอชวน ‘ผู้มี’ สมบัติสภาพดีที่หมดใจกับมันมาแลกกันที่งานโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท รายละเอียดสมบัติที่จะนำมาแลก ต้องเป็นของมือสองที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ยังมีสภาพดี นำของมาได้ทุกหมวด ยกเว้นอาหารและสัตว์เลี้ยง โดยผู้สนใจเลือกเข้าร่วมงานได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1) สมัครมาเป็น ‘คนปูเสื่อรอ’ : เพื่อนำสมบัติมาจัดแผงรอแลกกับเจ้าของใหม่ที่จะเดินเข้ามาขอเจรจาแลกภายในขนาด 1 เสื่อ โดยคนปูเสื่อที่ได้มาออกงานนี้จะต้องสมัครผ่าน lin.ee/9i9ehSW และผ่านการคัดเลือกสิ่งของและเรื่องราวจากไอแอลไอยูเท่านั้น 2) มาในฐานะ ‘คนแลก’ : ที่จะถือสมบัติมากี่ชิ้นก็ได้ เพื่อมาแลกกับผู้ปูเสื่อรออยู่ก่อนหน้า เพียงแค่เจอสมบัติที่ถูกใจก็เดินไปเจรจาขอแลกด้วยสมบัติที่ตัวเองนำมาได้เลย โดยคนแลกเข้างานได้ฟรี เพียงลงทะเบียนกดบัตรล่วงหน้า และ 300 คนแรกที่มาถึงงาน ได้สิทธิ์แลกรับ […]
Gongdid Design รีโนเวตบ้านเก่ากลางสาทรให้เป็นโชว์รูมเสื้อผ้าสุดลื่นไหลเสมือนผ้าพลีต
แบรนด์ ‘Gongdid Design’ เริ่มต้นขึ้นมาจากความชอบในผ้าพลีตตั้งแต่เด็กของ ‘พีช-วิชชา โสภณพัฒนา’ ผู้หันจากการทำงานด้านหลักทรัพย์มาเปิดแบรนด์เสื้อผ้าแบบ One size fits all เป็นของตัวเอง ที่มีจุดเด่นอย่างการนำผ้าพลีตมาดีไซน์เป็นเสื้อผ้าหลากหลายแบบ หลังจากขายออนไลน์โดยไม่มีหน้าร้านมาได้สักพัก ก็ถึงเวลาที่ Gongdid Design จะขยับขยายที่ทางด้วยการรีโนเวตทาวน์เฮาส์เก่าขนาด 2 คูหา อายุกว่า 30 ปี ให้เป็นโชว์รูมเสื้อผ้าที่เปิดให้ผู้ที่มีใจรักในผ้าพลีตเหมือนกับพีชได้เข้ามาเยี่ยมชม Gongdid Design หลังนี้เกิดขึ้นจากการร่วมงานกับทีมสถาปนิกชาวเกาหลีอย่าง ‘Creative Studio Unravel’ จากความชื่นชอบส่วนตัวของพีชเองหลังมีโอกาสแวะไปเยี่ยมชมงานออกแบบร้านของสตูดิโอนี้ในหลากหลายประเทศ พีชรีโนเวตบ้านเก่าโดยเลือกเก็บโครงสร้างเดิม และชูจุดเด่นของห้องภายในบ้านที่มีหน้าต่างบานหนึ่งซึ่งมองทะลุไปเห็นลานซักล้างได้ จากคีย์เวิร์ด 3 คำที่สื่อถึงแบรนด์อย่าง ‘สงบ เรียบง่าย และคงความธรรมชาติในแบบที่เป็น’ จนออกมาเป็นโชว์รูมเสื้อผ้า 3 ชั้น ที่มีบันไดนอกอาคารที่สามารถขึ้นจากชั้น 1 ไปสู่พื้นที่ชั้น 2 ได้ทันที ด้านพื้นของชั้น 2 มีการปูทับพื้นเดิมด้วยลามิเนต ตกแต่งด้วยไฮไลต์ของร้านอย่างเก้าอี้จากไม้กันเกราขนาด 2.2 เมตร ที่ใช้เป็นที่นั่งและจุดวางสินค้าได้ และชั้น […]
City in Patterns ความซ้ำซ้อนของเมือง
ภาพชุดนี้สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างเมือง มนุษย์ สัตว์ หรือสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ผ่านการจัดวางองค์ประกอบที่เน้นรูปแบบซ้ำๆ เป็นตัวเดินเรื่อง โดยลดทอนความหลากหลายอันยุ่งเหยิง นำกลับไปสู่ความเรียบง่ายและดูเป็นระบบระเบียบ ถ้าหากพิจารณาให้ดีจะพบว่า มนุษย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในพื้นที่เหล่านั้น เราจึงมองว่าความซ้ำซ้อนไม่เพียงแค่ทำให้เกิดเป็นภาพ แต่ยังฉายภาพที่ ‘ซับซ้อน’ ภายในใจของเราด้วย ติดตามผลงานของ พุทธิพงศ์ นิพัทธอุทิศ ต่อได้ที่ Facebook : amp.puttipongInstagram : amp_puttipong หากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected] หรือ [email protected]
SUETOMI AoQ Cafe Stand คาเฟ่วินเทจในเกียวโตที่มีความลึกเพียง 1 เมตร
คุณคิดว่าร้านกาแฟจะเล็กได้แค่ไหน ที่เกียวโตมีร้านกาแฟที่มีขนาดเพียง 10 ตารางเมตร ด้วยความลึกของร้านเพียง 1 เมตรเท่านั้น ‘SUETOMI AoQ Cafe Stand’ คือคาเฟ่ที่มีเจ้าของเดียวกันกับ ‘SUETOMI’ ร้านอาหารชื่อดังในเกียวโตจากผลงานการออกแบบของสตูดิโอ G architects studio และ Ryohei Tanaka ที่ตั้งอยู่บนหัวมุมถนน Matsubara-dori ติดกับร้านราเมน Chanponteiso Honkeshijokarasumaten ใกล้กับสถานีรถไฟ Shijō Station ความพิเศษคือ ที่นี่เป็นคาเฟ่ไม้ในรูปแบบวินเทจ ที่นั่งพักและด้านข้างของร้านมีการติดตั้งแผ่นทองแดงที่ถูกออกซิไดซ์ด้วยซอสถั่วเหลืองและแอมโมเนียมคลอไรด์ในปริมาณเหมาะสมเพื่อให้เกิดการกัดกร่อน กลายเป็นสีสนิมออกโทนฟ้า คล้ายกับสี ‘Suetomi Blue’ ซึ่งเป็นสีประจำร้าน SUETOMI เดิมที่อยู่ห่างจากตัวคาเฟ่ไปเพียงสามนาทีเท่านั้น ทำให้นอกจาก SUETOMI AoQ Cafe Stand จะเป็นคาเฟ่คอนเซปต์เก๋ที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นป้ายบอกทางเพื่อนำลูกค้าไปยังร้านเรือธงของ SUETOMI บนถนน Tamatsushimachō อีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ ในช่วงนอกเหนือเวลาทำการ พื้นที่นั่งพักของ SUETOMI AoQ Cafe […]
เยี่ยมสเปซน่าสนใจในตึกแถว ‘วงเวียน 22 กรกฎาคม’ โอลด์ทาวน์ที่น่าไปใช้ชีวิตและเป็นมิตรกับคนเมือง
เทศกาลแห่งการสังสรรค์ แสงสี และการรวมตัวกันของผู้คนในช่วงปลายปีใกล้เข้ามาทุกที แม้เป็นเพียงไม่กี่วันก่อนที่กรุงเทพฯ จะกลับสู่การเป็นเมืองที่มีคนเหงามากกว่าเสาไฟฟ้า ผู้คนตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองตามวิถีคนเมือง ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบจนขาดการปฏิสัมพันธ์กันก็ตาม คงดีไม่น้อยหากเมืองฟ้าอมรแห่งนี้เป็นมิตรกับผู้คนมากขึ้น มีพื้นที่ส่วนกลางให้มนุษย์กรุงเทพฯ ได้พบปะพูดคุยกันแบบเห็นหน้า พักผ่อนจากการงานที่แสนหนักหน่วง ได้วางโทรศัพท์หรืออุปกรณ์สื่อสารในห้วงยามที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการใช้ชีวิตจนคล้ายเป็นอวัยวะที่ 33 เพื่อใช้เวลาไปกับการพูดคุยกันสารพัดเรื่อง แลกเปลี่ยนสิ่งที่สนใจกับเพื่อนทั้งเก่าและใหม่ หรือรวมตัวทำกิจกรรมร่วมกัน แต่เดิม ‘วงเวียน 22 กรกฎาคม’ ก็เป็นเหมือนโอลด์ทาวน์ทั่วไป ยังคงความเป็นชุมชนคล้ายกับหลายย่านเก่าในเมืองหลวง โดยมีธุรกิจอย่างอู่ซ่อมรถและร้านทำป้ายโฆษณาตั้งเรียงรายเป็นภาพจำของผู้คน ทว่าในวันนี้หากลองเดินเท้าสำรวจย่านเก่าอายุกว่าร้อยปีแห่งนี้จะพบว่า นอกจากซอยนานาที่โด่งดังมาก่อนหน้าแล้ว ในมุมอื่นๆ ของย่านก็มีกิจการใหม่ในตึกเก่าที่แทรกตัวเข้ามาเป็นสมาชิกหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้คนเมืองมีกิจกรรมหลากหลายแวะเข้ามาทำมากขึ้นตั้งแต่กลางวันยันกลางคืน คอลัมน์ Neighboroot รอบนี้ไม่ได้พาไปดูอู่รถหรือเข้าร้านป้าย แต่อยากชวนสำรวจ Creative & Community Space รอบวงเวียน 22 กรกฎาคม ย่านที่วันนี้มีหลายสเปซน่าสนใจที่กวักมือเรียกผู้คนเข้ามาสัมผัสย่านในมุมมองใหม่ๆ ด้วยความตั้งใจของผู้ประกอบการที่อยากให้บ้านของเขาไม่เงียบเหงา และอยากเป็นเฉดสีอื่นๆ ที่แต้มแต่งเพิ่มเข้ามาในเมืองนี้ ในแง่ประวัติศาสตร์ เมื่อศตวรรษที่แล้วมีการตัดถนนสายใหม่ 3 สาย ผ่านชุมชนของชาวจีนในตำบลหัวลำโพงที่เกิดไฟไหม้ ตรงกลางของเส้นเลือดใหม่ที่วิ่งไขว้กันไปมาทำเป็นวงเวียน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามทั้งถนนและวงเวียนว่า ‘22 กรกฎาคม’ เพื่อระลึกถึงวันเดือนที่ประเทศสยามเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 กับฝ่ายสัมพันธมิตร […]
‘อีสานเอิ้นหา (Isan Calling)’ เสพงานศิลป์พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมอีสาน ที่จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม นครราชสีมา วันที่ 7 ธ.ค. 67 – 1 ม.ค. 68
ก่อนหมดปีนี้ Urban Creature อยากชวนคนรักงานศิลปะออกเดินทางไปเสพงานอาร์ตท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ที่ ‘จิมทอมสันฟาร์ม’ กับโครงการ ‘อาร์ต ออน ฟาร์ม ณ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม’ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่อยู่ภายใต้การดูแลและคัดสรรโดยทีมงานหอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน ที่เชิญศิลปินเข้ามาทำงานและสร้างสรรค์ผลงานในฟาร์มมาตั้งแต่ปี 2552 สำหรับปีนี้อาร์ต ออน ฟาร์มมาพร้อมกับธีม ‘อีสานเอิ้นหา (Isan Calling)’ ที่รวม 17 ศิลปิน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่ล้วนแล้วแต่เคยมีผลงานร่วมกับงานมหกรรมศิลปะนานาชาติระดับโลก เช่น ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ เชียงราย (2566) เวนิส เบียนนาเล่ (2566) เอเชีย แปซิฟิก ไทรเอ็นเนียล บริสเบน (2567) เป็นต้น มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่เชื่อมโยงงานศิลปะจากหลากหลายวัฒนธรรมกับพื้นที่ของฟาร์ม โดยเน้นเรื่องการใช้วัสดุพื้นถิ่น งานฝีมือ ความยั่งยืน และระบบนิเวศ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จะทำให้เราเข้าใจถึงวัฒนธรรมอีสานมากขึ้น เช่น นิทรรศการลำโลก, นิทรรศการอเมริกันอีสาน ที่มาพร้อมแนวเพลงคันทรีเพื่อกล่อมเกลาบรรยากาศในโซนอเมริกันอีสาน, […]
คุยเรื่องแสงไฟ ชีวิต และเมือง กับ ‘ผศ. ดร.จรรยาพร สไตเลอร์’
เมืองยามค่ำคืนเต็มไปด้วยแสงสว่างจากหลากหลายที่ จนหลายครั้งก็อาจเป็นมลภาวะทางแสงให้กับเราโดยไม่รู้ตัว จะดีกว่าไหมหากเมืองเรามีการออกแบบแสงสว่างที่เหมาะสมซึ่งจะช่วยชีวิตเราได้ในทุกมิติ “การออกแบบแสงสำหรับเมือง มันก็จะมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาชุมชนเมืองอย่างยั่งยืนในทุกมิติ” Urban Creature คุยกับ ‘ผศ. ดร.จรรยาพร สไตเลอร์’ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนวัตกรรมการส่องสว่าง (LRIC) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ถึงเรื่องแสงสว่างที่ส่งผลกับการใช้ชีวิตของเราและควรถูกให้ความสำคัญทั้งจากภาครัฐและเอกชน
Hello Stranger คลายข้อสงสัย เหตุใดเราถึงไว้ใจเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนแปลกหน้าฟัง
ก่อนจะเริ่มเขียนเรื่องนี้ ผู้เขียนเพิ่งเข้าไปใน TikTok และบังเอิญไปเจอหมอดูคนหนึ่งกำลัง Live เปิดไพ่อยู่ ก็เลยถามคำถามที่อยากรู้กับหมอดู ‘แปลกหน้า’ คนนี้ ซึ่งผู้เขียนไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อเขามาก่อน แต่เราก็ไว้ใจเหลือเกินที่จะให้เขาตอบหน่อยว่า “การเงินเดือนนี้จะเป็นอย่างไรคะ” โชคดีที่เป็นเรื่องเงิน ซึ่งสำหรับตัวผู้เขียนไม่ได้กลัวว่าจะได้ยินอะไรบาดใจ และโชคดีอีกที่คำตอบออกมาในระดับที่พอรับได้ “คุณไม่ต้องกังวลนะคะ มีพอใช้ ไม่ได้เยอะ แต่พอใช้แน่นอน” ตัดภาพมาที่คุณผู้หญิงอีกคนที่ถามคุณหมอดูว่า “สามีกำลังนอกใจอยู่หรือเปล่า” “นอกใจค่ะ เขาไม่ได้มีคุณคนเดียว” หมอดูเปิดไพ่อย่างรวดเร็ว แล้วรีบตอบแบบไม่มีการเกริ่นใดๆ จนถึงตอนนี้ ผู้เขียนก็ยังนึกถึงหญิงสาวคนนั้นอยู่ว่าจิตใจจะเป็นอย่างไรบ้างนะ การทำนายอนาคตคงต้องใช้ศาสตร์เฉพาะ หากต้องการรู้ก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์นี้เป็นคนตอบให้ แต่ก็มีหลายเรื่องราวส่วนตัว โดยเฉพาะปัญหาที่มีความซับซ้อนและเจ็บปวดใจ ที่หลายคนไว้ใจให้คนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่ได้สนิท ไม่ได้เข้าใจความเป็นเราขนาดนั้น เป็นผู้รับฟังและช่วยชี้แนะ มอบกำลังใจ อะไรใน ‘ความไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว’ ของคนอื่น ที่ทำให้เราอยากเล่า ‘เรื่องราวส่วนตัว’ ให้ฟังขนาดนี้ เรากับคนแปลกหน้าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียทางความรู้สึกต่อกัน หลายครั้งหลายคราที่เรามีปัญหาเดิมๆ กับเรื่องเดิมๆ คอยฟังคำแนะนำ (หรือบางครั้งก็เป็นคำบ่น) จากคนที่สนิทกันจนชินชา กลายเป็นการฟังหูซ้ายทะลุหูขวา นั่นทำให้เราไม่มีแรงบันดาลใจมากพอที่จะลุกขึ้นมาแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เป็นอยู่ แม้จะไม่ได้ชอบสถานการณ์ตอนนี้มากนักก็ตาม แต่พอได้ฟังคำแนะนำจากคนที่ไม่เคยถามเขามาก่อน กลับรู้สึกเหมือนได้รับมุมมองแปลกใหม่ ไม่เคยลองมองสถานการณ์ที่เป็นอยู่ด้วยเลนส์นี้มาก่อน ราวกับได้รีเฟรช เห็นภาพชัดรอบด้าน […]
ขนหัวลุกกับน้าผี ไปเรียนรู้เรื่องไทยๆ ในช่วงค่ำคืนส่งท้ายปีกับงาน ‘What’s Thai วัดไทย 2024’ วันที่ 20 – 22 ธ.ค. 67 ที่ Museum Siam
Night at the Museum กลับมาชวนให้ทุกคนได้ออกมาใช้ชีวิตและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ในช่วงค่ำคืนกันอีกครั้ง โดยในปีนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 14 แล้ว และแน่นอนว่าก็ยังมีพิพิธภัณฑ์อีกมากมายทั่วกรุงเทพฯ ที่เข้าร่วมเทศกาลนี้ และเชื้อเชิญให้ชาวเมืองได้แวะเวียนมาเยี่ยมชมสถานที่ในตอนกลางคืนกัน เช่นเดียวกับที่ Museum Siam ที่ในปีนี้มาพร้อมกับตอน ‘What’s Thai วัดไทย 2024’ ที่จะพาไปเรียนรู้เรื่องราวความเป็นไทยผ่านความสนุกในแบบไท้ป์ไทย จากปกิณกะ ประวัติศาสตร์ งานรื่นเริงของวัดไทย สื่อสารความเป็นไทยที่สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของคนไทยผ่านทุนทางวัฒนธรรมที่กลายมาเป็นอำนาจทางวัฒนธรรมทั่วโลก รวมไปถึงยังมี ‘Ghost Power ส่งผีไทย ไปผีโลก’ เรื่องของผีไทยที่จะทำให้ทุกคนได้ใกล้ชิดและตามติดเรื่องราวในแง่ของตำนาน การแบ่งปันประสบการณ์ และการเล่าเรื่องราวของผีที่เราเองอาจไม่เคยรู้มาก่อน พร้อมกิจกรรมชวนขนหัวลุกอื่นๆ อีกมากมายจัดแสดงขึ้นในห้องคลังความรู้อีกด้วย มากไปกว่านั้น ตลอดทั้งสามวันนี้จะมีกิจกรรมมากมายกว่าแค่เปิดห้องให้เรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นโชว์ต่างๆ ทอล์ก รวมไปถึงคอนเสิร์ต ที่ชวนให้มาสนุกกันฟรีๆ ตั้งแต่ 16.00 – 22.00 น. What’s Thai วัดไทย 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 – 22 ธันวาคม […]
ชวนรู้จัก Uniqlo UTme บริการออกแบบเสื้อได้ตามใจ พบกับสองสาขาใหม่ เมกาบางนาและไอคอนสยาม
หากใครเคยแวะเวียนไปที่ยูนิโคล่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ จะต้องเคยเห็นบูทสีขาวขนาดใหญ่ตรงกลางร้านอย่างแน่นอน ในบูทนั้นมีทั้งเครื่องพิมพ์ลาย เสื้อและกระเป๋าวางให้เลือกสรร พร้อมแท็บเล็ตหลากหลายอันให้ได้ใช้งาน พื้นที่นั้นเรียกว่า Uniqlo UTme หรือบริการสุดพิเศษจากยูนิโคล่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สนุกกับการออกแบบเสื้อยืดและกระเป๋าผ้าตามต้องการ ไม่ว่าจะลายเสื้อหรือกระเป๋าจากภาพถ่ายอย่างรูปสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ภาพวิวที่คิดถึง หรือหากสนใจเป็นคาแรกเตอร์ต่างๆ ที่มีอยู่แล้วก็ยังได้ เพราะที่นี่มีทั้ง Snoopy, Minecraft, Doraemon และตอนนี้ที่กำลังเป็นกระแสสุดๆ กับ Monchhichi ตุ๊กตาสุดน่ารัก วันนี้ชาว Urban Creature ขอร่วมพิมพ์ลายน้อง Monchhichi ลงบนเสื้อและกระเป๋าผ้าง่ายๆ ผ่านแท็บเล็ตที่ยูนิโคล่จัดไว้ให้ โดยเลือกประเภทของสินค้าที่สนใจ ได้แก่ กระเป๋าหรือเสื้อ แล้วจึงเลือกรูปแบบของลายที่ต้องการพิมพ์ ประกอบด้วยรูปภาพ ข้อความ ลายเพนต์ และสติกเกอร์ต่างๆ ในหมวดสติกเกอร์ของแต่ละคาแรกเตอร์ก็มีลายให้เลือกหลากหลาย โดยเราเลือกน้อง Monchhichi ที่มีตั้งแต่น้องตัวเดี่ยว เป็นกลุ่ม หรือแม้แต่ชื่อทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น จากนั้นก็ได้เวลาออกแบบให้สติกเกอร์ที่เราเลือกอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ โดยสามารถลดหรือขยายขนาดของสติกเกอร์ได้ เมื่อออกแบบจนพอใจแล้วก็บอกพนักงานยูนิโคล่ให้เข้ามาช่วยดู และใช้เวลาเพียงไม่นานเสื้อหรือกระเป๋าที่ออกแบบก็จะอยู่ในมือเราแล้ว ส่วนใครสนใจเสื้อ UTme ที่ออกแบบไว้อยู่แล้ว สามารถเลือกซื้อได้ที่ชั้นในโซน Uniqlo UTme เช่นเดียวกัน เสื้อยืดผู้ใหญ่ราคา 790 […]
ทำความเข้าใจ ‘บ้านเพื่อคนไทย’ โครงการใช้พื้นที่การรถไฟฯ สร้างเป็นบ้านให้ผ่อนเดือนละ 4,000 บาท อยู่ได้นาน 99 ปี
หลายคนอาจเห็นข่าวโครงการนี้ผ่านๆ ตากันบ้างแล้ว แต่อาจยังมีข้อสงสัยหรือรายละเอียดที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ วันนี้ Urban Creature ขอสรุปรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ‘บ้านเพื่อคนไทย’ ว่ามีความสำคัญ รายละเอียด รวมถึงไทม์ไลน์ความเป็นไปมาให้ทุกคน บ้านเพื่อคนไทยคืออะไร โครงการนี้สร้างขึ้นโดยใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีจุดเด่นคือ เป็นที่ดินที่เดินทางสะดวก ใกล้ขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถไฟหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งพบว่าที่ดินรอบพื้นที่สถานีรถไฟหรือมีทำเลใกล้กับระบบรางแต่ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถ มีอยู่ถึงประมาณ 38,000 ไร่ ทั่วกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ไปจนถึงทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยจะดำเนินการสร้างเป็นคอนโดมิเนียม 2 ขนาด คือ 30 และ 45 ตารางเมตร และบ้านเดี่ยวขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ พร้อมลานจอดรถสองคัน พื้นที่ 50 ตารางวา เป้าหมายคือการเน้นสร้างบ้านคุณภาพดี ผ่อนเริ่มต้นที่เดือนละ 4,000 บาท ในระยะเวลา 30 ปี หลังจ่ายครบยอดสามารถถือครองได้ 99 ปีก่อนกลับคืนสู่มือรัฐบาล ซึ่งมีความละม้ายคล้ายคลึงกับโครงการที่อยู่อาศัยของหน่วยการเคหะแห่งชาติสิงคโปร์ หรือ Housing & […]
โลกหลังกำแพง ลูกกรง ลวดหนาม ที่กักขังความฝันให้ต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ใน ‘วัยหนุ่ม 2544’
นับตั้งแต่หนังอย่าง 4 Kings ทั้งสองภาคออกฉาย สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนในสไตล์งานของผู้กำกับ ‘พุฒิพงษ์ นาคทอง’ คือการมีท่าทางเป็นบทเรียนสอนใจผู้ชมด้วยบริบทปัญหาเรื่องราวในสังคมไทย หากว่าเป็นหนังเรื่องอื่น ด้วยท่าทีเช่นนี้ผู้ชมหลายคนอาจรู้สึกเหมือนกำลังถูกชี้หน้าสั่งสอน หรือรับชมละครคุณธรรมที่มีคติสอนใจในตอนจบ แต่กับงานที่ผ่านมาตั้งแต่ 4 Kings ทั้งสองภาค จวบจนมาถึง ‘วัยหนุ่ม 2544’ นั้นกลับดูกลายเป็นเสน่ห์ของหนังที่ทำมาด้วยความซื่อตรง จริงใจ และมีความรู้สึกร่วมส่วนตัวแฝงอยู่จนผู้ชมสามารถสัมผัสได้ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่มากไปไม่น้อยไปแบบนี้นี่เอง ทำให้ท่าทีของการสั่งสอนผู้ชมกลายเป็นการเชื้อเชิญไปร่วมสัมผัสประสบการณ์ช่วงหนึ่งในช่วงชีวิตของคนที่พลาดพลั้ง และไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้ไปเกิดขึ้นกับใคร หรือกระทั่งเป็นการยับยั้งไม่ให้คนที่กำลังหลงทางไปก่อกรรมทำเข็ญแก่ชีวิตผู้อื่นดั่งบรรดาตัวละครสมมุติในเรื่อง และในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งเป็นผลงานลำดับที่สามของผู้กำกับก็ดูเหมือนยังคงย่ำอยู่กับคอนเซปต์เดียวกันกับผลงานหนังสองภาคก่อนหน้า แค่ที่ต่างจากเดิมคือบริบทสถานที่ จากสถาบันช่างกลมาสู่ภายในรั้วของเรือนจำ และตัวละครเด็กช่างกลที่ทำผิดพลาดในชีวิต ซึ่งครั้งนี้ไม่อาจหลีกหนีผลของการกระทำของตัวเองได้เหมือนในผลงานก่อน วัยหนุ่ม 2544 จึงคล้ายวางตัวเป็นเรื่องราวภาคต่อจาก 4 Kings ได้อย่างกลายๆ ราวกับนี่คือหนังปิดไตรภาคของเรื่องราวเด็กช่างของผู้กำกับคนนี้ และนำไปสู่การสานต่อเรื่องราวว่า ความผิดพลาดทั้งหลายที่ช่วงวัยหนุ่มก่อขึ้นอาจนำไปสู่ปลายทางอันดำมืดภายหลังได้เพียงใด นอกจากเรื่องราวที่เข้มข้นจริงจังลึกลงไปยังมุมมืดแล้ว ด้านฝีมือการกำกับของผู้กำกับคนนี้ยังพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยการนำเสนอภาพที่ปล่อยให้ผู้ชมเห็นห้วงเหตุการณ์ชั่วขณะโดยไม่ต้องมีบทพูดอธิบาย และการตามติดตัวละครโดยไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่อง ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนร่วมสังเกตเหตุการณ์ชีวิตคนคนหนึ่งมากกว่าชมภาพยนตร์ที่มีเซตติ้งซีเควนซ์ชัดเจน มากไปกว่าการถ่ายทอดภาพชีวิตในคุกที่ดูสมจริง เป็นธรรมชาติ และเต็มไปด้วยความหดหู่ที่ดูเป็นความโดดเด่นของหนัง ซึ่งได้มาจากการไปถ่ายทำกันในสถานที่จริง อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ บรรดาเหล่านักแสดงทั้งหลายที่ปรากฏตัวบนจอ แต่ละคนมีบทบาทหน้าที่โดดเด่นแตกต่างกันไป แต่ทุกคนล้วนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะถ้าใครคนใดคนหนึ่งทำพลาดไปแม้สักนิดเดียว อาจส่งผลให้หนังทั้งเรื่องเสียรูปไปเลยก็ได้ […]