LATEST
Rocks on Wheels สนามเด็กเล่นก้อนหินในเมืองเมลเบิร์น ให้เด็กได้ปีนป่ายและผจญภัยไปกับพื้นที่เสี่ยง
สนามเด็กเล่นที่ดีนอกจากจะทำให้เด็กได้เล่นสนุกแล้ว ยังเสริมสร้างประสบการณ์และช่วยพัฒนาการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี เราเลยอยากชวนมาดูว่าสนามเด็กเล่นในเมืองที่น่าอยู่ติดอันดับต้นของโลกอย่าง ‘เมลเบิร์น’ ประเทศออสเตรเลียนั้นเป็นอย่างไร ‘Rocks on Wheels’ คือสนามเด็กเล่นที่ออกแบบโดยศิลปิน Installation Art ชาวนิวซีแลนด์อย่าง ‘Mike Hewson’ สนามแห่งนี้แตกต่างจากสถานที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งสำหรับเด็กทั่วไป เพราะเต็มไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ 24 ก้อน ซึ่งถูกจัดวางไว้บนพื้นที่ของ Southbank Boulevard แลนด์มาร์กอีกแห่งในเมลเบิร์น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เด็กๆ ได้ออกไปวิ่งเล่น ปีนป่ายอย่างอิสระในพื้นที่เสี่ยงที่ออกแบบไว้ให้กับความสนุกสนาน สนามเด็กเล่นแห่งนี้มีเครื่องเล่นหลายประเภท เช่น สไลเดอร์ ชิงช้า บาร์โหน เชือก และบ่อทราย ที่นำมาวางเชื่อมกันจนเกิดเป็นสนามเด็กเล่นที่มีพื้นที่กว้างขวาง โดยเครื่องเล่นต่างๆ ถูกนำมาติดตั้งไว้กับก้อนหินด้วยวิธีการยึดติดที่มั่นคง และยังมีเศษชิ้นส่วนจากการก่อสร้างตามซอกหลืบของก้อนหินซึ่งทำหน้าที่เป็นที่จับสำหรับเด็กๆ ที่ชื่นชอบปีนป่ายห้อยโหนผจญภัย ที่น่าสนใจก็คือ ก้อนหินขนาดใหญ่เหล่านี้ไม่ได้วางอยู่แน่นิ่ง แต่ถูกจัดวางอยู่บนชุดล้อเลื่อนที่รองรับน้ำหนักได้ดี โดยตั้งอยู่บนพื้นยางแบบนิ่มกันลื่นที่ออกแบบให้มีหน้าตาคล้ายคลึงกับทางเท้าที่พบเห็นได้ในเมืองแห่งนี้ และในพื้นที่รอบๆ สนามเด็กเล่นยังมีวัตถุขนาดเล็กหลายชิ้นที่ถูกซ่อนไว้ทั่วโครงการ เช่น แก๊งสัตว์จิ๋ว รถของเล่น ของใช้ในบ้าน และอื่นๆ เพื่อเป็นรางวัลให้กับการสำรวจของนักผจญภัยตัวน้อยทั้งหลายด้วย หากมองดูจากรูปภาพ สนามเด็กเล่นแห่งนี้ดูเสี่ยงและน่าหวาดเสียวว่าเด็กๆ อาจจะเกิดอันตรายได้ แต่ทาง Jocelyn Chiew […]
เราจะใช้เน็ต 100 GB ไปทำไม | Now You Know
จากผลสำรวจบอกว่า อินเทอร์เน็ตไทยเร็วเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่เคยสงสัยกันหรือเปล่าว่าเราในฐานะคนใช้งานทั่วไป จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่เร็วขนาดนี้หรือไม่ รายการ Now You Know ชวนมาทำความเข้าใจศัพท์เน็ตๆ ในฉบับง่ายๆ ไอ้เมกๆ กิกๆ คืออะไรกันแน่ แล้วเวลาสมัครแพ็กเกจควรดูอะไรเป็นหลัก รวมถึงหันกลับมาสำรวจการใช้งานของตัวเองว่า เราจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องเสียเงินเพื่อใช้อินเทอร์เน็ตที่เร็วทะลุโลก
จากเต้าหู้ยี้อายุ 70 ปี สู่ Have a nice bean แบรนด์น้ำเต้าหู้เจียงใหม่ที่อยากให้คนกิน Have a nice day
เช้านี้เชียงใหม่อากาศเย็นกำลังดี เรามาถึง The Goodcery ร้านขายของชำย่านช้างม่อยตั้งแต่ประตูเปิด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าร้านขายของชำขนาดสองคูหาแห่งนี้จะกลายเป็น Safe Space ที่เราปวารณาตนว่าจะมาทุกครั้งถ้าได้มาเชียงใหม่ อาจเพราะที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ขายวัตถุดิบและของกินคัดสรรจากทั่วไทย แต่ยังมีร้านกาแฟ ร้านขนมปัง ร้านอาหารฟิวชัน ทุกสิ่งที่เราต้องการภายในที่เดียว แต่เช้านี้ สิ่งแรกที่เข้าปากเราไม่ได้อยู่ในลิสต์นั้น แต่เป็นน้ำเต้าหู้ของ Have a nice bean ที่วางเด่นหราอยู่ในตู้แช่ของร้าน ปกติเราไม่ค่อยกินน้ำเต้าหู้ ยิ่งเต้าหู้ก้อนหรือเต้าหู้ยี้นี่ไม่ต้องพูดถึง แต่ความเข้มข้นของน้ำเต้าหู้แบรนด์นี้ทำให้เราลองเปิดใจ Have a nice tofu Have a nice bean คือแบรนด์น้ำเต้าหู้สุดเข้มข้นจากเชียงใหม่ ฝีมือ ‘ฝน-รวิพร พึ่งโพธิ์เจริญพันธ์’ ทายาทรุ่นสามของธุรกิจเต้าหู้ยี้ห่อใบไผ่ตราลูกโลกที่มีอายุกว่า 70 ปี ย้อนไปราว 70 ปีก่อน อากงของฝนอพยพจากเมืองจีนแบบเสื่อผืนหมอนใบมาอยู่ย่านหัวลำโพง หาบเร่ขายอาหารแถวเยาวราชอยู่พักใหญ่ก่อนจะเปิดธุรกิจของดองบรรจุกระป๋องของตัวเอง อากงขายทั้งซีเซ็กฉ่าย ตั้งฉ่าย ขิงดอง และจับพลัดจับผลูมาทำเต้าหู้ยี้ ‘ทวีผล พึ่งโพธิ์เจริญพันธ์’ ผู้เป็นทั้งป๊าของฝนและเป็นลูกชายคนที่ 3 ของอากงเล่าให้ฟังว่า กว่าสินค้าจะติดตลาดก็ลำบากใช่เล่น […]
The Hope of Us สวมบทเป็นผู้รอดชีวิตใน The Last of Us และช่วยให้ผู้คนพ้นวิกฤตเชื้อรากลายพันธุ์
“มนุษย์นั้นทำสงครามกับเชื้อไวรัสมาทุกยุคสมัย แม้จะมีผู้คนที่ต้องสูญเสียชีวิตมากมาย แต่มนุษย์ก็ยังเป็นฝ่ายชนะอยู่เสมอ” แต่ในปี 2003 คือจุดเริ่มต้นความพ่ายแพ้ของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง เพราะเชื้อราคอร์ไดเซป (Cordyceps) ได้ปนเปื้อนไปกับพืชผลทางการเกษตรที่ถูกส่งออกไปทั่วโลก เมื่อผู้คนบริโภคเข้าไปเชื้อราก็จะแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย มนุษย์ที่ติดเชื้อจะเสียการควบคุมและมีพฤติกรรมดุร้าย วิ่งเข้าโจมตีกัดกินคนอื่นๆ เพื่อหวังแพร่เชื้ออย่างไม่เลือกหน้า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มจากร้อยคนเป็นอีกหลายล้านล้านคนทั่วโลกในเวลาไม่นาน เกิดเป็นโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก บ้านเมืองพังพินาศ มีเหตุการณ์นองเลือด มีเหตุจลาจล มีอุบัติเหตุที่ยากจะควบคุม รวมถึงการแย่งชิงอำนาจ ฯลฯ สงครามระหว่างเชื้อรากับมนุษย์ได้ทำให้ทุกอย่างบนโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีวันหวนคืน บางอย่างดับสูญ บางคนก็สูญเสียคนรักและครอบครัว ทุกคนต่างดิ้นรนเอาชีวิตรอดท่ามกลางความโกลาหล กว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ก็ผ่านเวลาไป 20 ปี คอลัมน์ Urban Isekai วันนี้เราจึงขอสวมบทบาทเป็นผู้รอดชีวิตในปี 2023 ที่อาศัยอยู่ใน Boston Quarantine Zone หรือพื้นที่กักกันผู้รอดชีวิตจากการติดเชื้อจากโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ ที่มวลมนุษยชาติในโลกต้องพบเจอในเกมยอดนิยมที่ถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์อย่าง ‘The Last of Us’ ในเวลาที่ทุกฝ่ายกำลังหาทางออกของวิกฤตการณ์สำคัญครั้งนี้ เราในฐานะผู้รอดชีวิต จึงมองเห็นว่าความเป็นอยู่ที่ดีจะช่วยให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตเลวร้ายไปได้ จึงทำการเสนอข้อเรียกร้องต่างๆ ดังนี้ สร้างระบบคัดกรองที่เป็นมิตรกับทุกคน ‘Boston Quarantine Zone’ หรือ ‘Boston QZ’ […]
ซื้อหนึ่ง ได้บริจาคอีกหนึ่งให้เด็กๆ เฟอร์นิเจอร์โต๊ะ-เก้าอี้ จาก ‘บริ-บุญ’ พร้อมสลักชื่อหรือข้อความได้ด้วย
หลังจากเปิดตัวและให้บริการขายพวงหรีดกับบริจาคโลงศพที่ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญให้คนทั่วไป ‘บริ-บุญ’ ธุรกิจใหม่ในเครือสุริยาหีบศพ (สาขาศิริราช) ก็มีโปรเจกต์น่ารักๆ ออกมาให้คนเข้าถึงง่ายมากขึ้น นั่นคือ ซื้อเฟอร์นิเจอร์โต๊ะหรือเก้าอี้ 1 ตัว = บริจาคโต๊ะหรือเก้าอี้อีก 1 ตัว เฟอร์นิเจอร์ที่ว่านั้นประกอบด้วยโต๊ะกับเก้าอี้รูปทรงต่างๆ ที่รับรองว่าถูกใจเด็กๆ (และผู้ใหญ่) แน่นอน ตั้งแต่เก้าอี้พี่ยีราฟ โต๊ะเขียนหนังสือน้องสุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์ เก้าอี้น้องสุนัขพันธุ์พุดเดิล โต๊ะและเก้าอี้น้องแมว และเฟอร์นิเจอร์ตัวเปิดปี 2023 เก้าอี้น้องเบคอน ที่ทั้งน่ารัก น่ากิน และน่านั่งสุดๆ นอกจากหน้าตารูปทรงที่เอาใจเด็กๆ แล้ว ตัวเฟอร์นิเจอร์ยังผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ไม่เป็นพิษต่อผิวที่บอบบางของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นไม้ปาร์ติเกิล ไม้อัด หินอ่อน ไม้สักทอง ทั้งยังปรับขนาดและความสูงได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของ ‘คณกฤษ สุริยเสนีย์’ ทายาทสุริยาหีบศพ และที่ปรึกษา ‘นิธิศ บัญชากร’ ที่อยากทำเพื่อสังคม เริ่มตั้งแต่ต้นทางอย่างแนวคิดการออกแบบและผลิต จนถึงปลายทางที่เป็นการจำหน่าย “เราใช้เครื่องจักรผลิตโปรดักต์ แต่ผมดีไซน์ดีเทลให้ประกอบได้ง่าย โดยสอนสกิลการประกอบให้คนในชุมชน เพื่อสร้างงานและกระจายรายได้ให้พวกเขา เพื่อทำให้ธุรกิจนี้มีความยั่งยืนในด้านการช่วยเหลือสังคม ทั้งยังอยู่ด้วยตัวเองได้” นิธิศที่รับหน้าที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดอธิบายให้เราฟัง […]
สิ่งพิมพ์กับการอ่าน ความสร้างสรรค์ที่ทำให้เมืองมีชีวิต กับ PUBAT | Unlock the City EP.18
หนึ่งในตัวชี้วัดความน่าอยู่ของเมืองที่นิตยสารระดับโลก Monocle เคยนำมาใช้คือ ‘จำนวนร้านหนังสืออิสระในเมือง’ เนื่องจากตัวเลขเหล่านี้เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมการอ่าน การเขียน และการพิมพ์ของชาติ ยิ่งเมืองไหนเป็นเมืองหนังสือ มีนโยบายที่โอบอุ้มและซัปพอร์ตนักเขียน คนทำหนังสือ และนักอ่าน เมืองนั้นยิ่งมีเสน่ห์และอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความคิดสร้างสรรค์ แถมวัฒนธรรมเหล่านี้ยังล้วนส่งผลดีทางอ้อมให้อุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างการท่องเที่ยว การศึกษา เศรษฐกิจ เป็นต้น คำถามที่สำคัญคือ แล้วเมืองไทยอยู่ตรงไหนของพื้นที่สร้างสรรค์ส่วนนี้ ‘พนิต ภู่จินดา’ โฮสต์ผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมือง กับ ‘อนรรฆ พิทักษ์ธานิน’ กรรมการสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ชวนกันมาสนทนาถึงความเชื่อมโยงของการอ่านและการพัฒนาเมือง ติดตามฟัง Unlock the City ได้ทาง YouTube : https://youtu.be/pDGfAHAY8d8 Spotify : http://bit.ly/3GNWIu8 Apple Podcasts : https://bit.ly/3WjvUHZ Podbean : https://bit.ly/3iKpPqb #UrbanCreature #UrbanCreaturePodcast #UnlocktheCity
‘สถานีกลางบางซื่อ’ จากชุมทางสู่จุดเชื่อมขนส่งมวลชนที่มีชื่อใหม่ ‘กรุงเทพอภิวัฒน์’
ผู้เขียนจำได้ว่าสมัยเดินทางไปมาเลเซียครั้งแรกช่วงปี 2559 รู้สึกประทับใจกับความเป็นระบบระเบียบของระบบขนส่งมวลชนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ระบบขนส่งมวลชนที่ว่าคือรถไฟฟ้าบนดินที่แผนผังและกระบวนการซื้อตั๋วนั้นเข้าใจง่าย และยิ่งประทับใจมากขึ้นเมื่อเดินทางไปต่อรถที่ KL Sentral หรือศูนย์กลางของระบบทั้งหลายทั้งปวง ใครจะเปลี่ยนสายรถไฟ ต่อรถไปสนามบิน หรือหารถบัสไปรัฐอื่นต้องมาลงที่นี่ บรรยากาศภายใน KL Sentral จึงไม่เคยว่างเว้นจากผู้คนที่เดินขวักไขว่กันไปมาราวกับมดงาน ภายในมีร้านอาหาร ร้านค้าให้ช้อปปิงรอเวลาพอประมาณ รวมถึงใครจะนัดเจอเพื่อนหรือนัดรับญาติที่มาจากต่างเมืองก็มากันที่นี่ หลังจากทริปนั้นผู้เขียนมีโอกาสได้กลับไปมาเลเซียอีก 2 ครั้งในช่วง 2 ปี และทุกครั้งก็ต้องมาเยือน KL Sentral เพื่อต่อรถรา ที่เล่าเรื่องของ KL Sentral เพราะในตอนนี้กรุงเทพฯ ก็มีสถานที่แบบนั้นแล้วในชื่อของ ‘สถานีกลางบางซื่อ’ หรือ ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์’ สถานีรถไฟหลักของกรุงเทพฯ ที่เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อปี 2564 แทนสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่กำลังถูกลดบทบาทลงเรื่อยๆ พร้อมกันนั้นยังพ่วงเป็นจุดเปลี่ยนสายของรถไฟฟ้าไปด้วย ด้วยตำแหน่งที่ตั้งที่ค่อนไปทางทิศเหนือของกรุงเทพฯ สถานีกลางบางซื่อเป็นประตูเปิดขึ้นไปยังจังหวัดปทุมธานี เส้นทางที่เปิดใช้งานแล้ว ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มที่มุ่งตรงไปยังหลักสี่ ดอนเมือง และแถวรังสิต ซึ่งในอนาคตทางการมีแผนจะขยายต่อไปให้ถึงอยุธยา ส่วนทิศอื่นๆ เช่น ตะวันออก บางซื่อก็ขยายต่อไปถึงฉะเชิงเทราได้ ในขณะที่ตะวันตกไปต่อได้ถึงนนทบุรีและนครปฐม เรียกได้ว่าด้วยตำแหน่งที่ตั้งของสถานีกลางบางซื่อ […]
พูดคุย ทำเวิร์กช็อป ฟังดนตรี ดูศิลปะ สำรวจจิตใจ กับ ‘ข้ า ง ใ น Festival’ ที่ Muchimore วันที่ 21 – 22 ม.ค. 66
ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เราอาจเผลอทำตัวเองหล่นหายไปในระหว่างทาง หากคุณกำลังรู้สึกหลงลืมตัวตนภายใน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเดินไปทางไหน เมื่อสิ่งที่จำเป็นกำลังกลบทับสิ่งที่ใช่ ลองมาสำรวจจิตใจตัวเองในงาน ‘ข้ า ง ใ น Festival’ กัน นี่คืองานที่รวมคนทำงานเกี่ยวกับศาสตร์ของจิตใจและจิตวิญญาณ รวมถึงผู้ที่ให้ความสนใจเรื่องของจิตใจ ให้มาพบปะ พูดคุย ทำเวิร์กช็อป ฟังดนตรี และชมศิลปะร่วมกัน เพื่อพาตัวเองย้อนกลับไปค้นพบตัวตนที่แท้จริงอีกครั้งผ่าน 5 โซนกิจกรรมค้นหาตัวตน ได้แก่ 1) Awareness Neighbourhood โซนหมู่บ้าน 14 หลัง ที่จำหน่ายโปรดักต์และบริการที่ดีต่อใจ2) Workshops กิจกรรมเพื่อการตระหนักรู้ภายใน (Self-awareness) และดูแลจิตใจทั้งสองวันเต็ม3) Talk Circle วงคุยหัวข้อเรื่องจิตใจที่ไม่สามารถพูดได้ที่ไหน4) Love&Peace Island เกาะกลางหมู่บ้าน สถานที่แสดงดนตรีและศิลปะดูแลใจแขนงอื่นๆ5) One Hall พื้นที่กิจกรรมรวมหมู่ที่ช่วยให้เราเชื่อมโยงความเป็นมนุษย์ แลกเปลี่ยนพลังดีๆ สัมผัสความเป็นหนึ่งเดียวกัน ‘ข้ า ง ใ น Festival’ จัดขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 21 […]
เมืองเสียงดัง เราเสียงดัง กรุงเทพฯ ติดอันดับ 9 เมืองเสียงดังที่สุดในโลก
แดดยามสายฉายเข้ามาผ่านหน้าต่างห้องทำงาน กาแฟคั่วอ่อนเพิ่งดริปจบมาหมาดๆ ไออุ่นและกรุ่นคาเฟอีนช่วยออกแรงผลักให้สมองเริ่มประมวลผล แต่แล้วรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็ถอยหลังเครื่องกระหึ่มเข้ามาอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงสัญญาณแหลมกวนประสาท ต่อด้วยเสียงเพื่อนพนักงานที่ตะโกนคุยกันระหว่างบุหรี่หลังมื้อเช้า อีกสักพักเสียงเคลื่อนย้ายสิ่งของก็ดังขึ้นต่อเนื่องนานกว่าชั่วโมง ความเงียบสงบเมื่อครู่พาสมาธิเตลิดไปไกลกว่าจะเรียกคืนมาได้ก็เสียเวลาอยู่หลายนาที เหตุการณ์เช่นนี้เป็นปัญหามลภาวะทางเสียงรูปแบบหนึ่งในอีกหลายพันปัญหามลภาวะทางเสียงที่เราหลายคนต่างพบเจอ เมื่อต้องใช้ชีวิตประจำวันอยู่ร่วมกันกับผู้คนในสังคม ปัจจุบันเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ มีประชากรมากเกือบถึงหกล้านคน พูดได้ว่านอกจากเสียงที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติแล้ว เราต่างเป็นแหล่งกำเนิดเสียงภายในเมืองเช่นเดียวกัน ด้วยปัญหามลภาวะทางเสียงส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึก และปัญหาของเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติเรื่อยไปเช่นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองในระยะยาว ในวันที่เมืองยังมีเสียง คอลัมน์ City by Numbers ขอพาทุกคนไปสำรวจดูว่า ย่านไหนในกรุงเทพมหานครที่มีเสียงดังที่สุด ไปฟังกันว่าเสียงที่ได้ยินอยู่นั้นยังคงเป็นเสียงที่ดังปกติหรือเปล่า พื้นที่สาธารณะเสียงดังได้แค่ไหน ข้อมูลระดับเสียงที่อนุญาตจากองค์การอนามัยโลก (WHO) คือ 55 เดซิเบล (dB) สำหรับพื้นที่พักอาศัยกลางแจ้ง และ 70 dB สำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์และที่ที่มีการจราจรติดขัด หูของมนุษย์นั้นสามารถได้ยินเสียงตั้งแต่ 0 dB ขึ้นไป เพื่อให้นึกระดับความดังของเสียงออกมากยิ่งขึ้น เราขอลองยกตัวอย่างเปรียบเทียบดังนี้ – ระดับเบามาก 0 – 20 dB เช่น เสียงกระซิบ เสียงลมหายใจ หรือเสียงในป่า– ระดับเบา […]
อิ่มใจกับ Comfort Food ซาบซึ้งกับมิตรภาพเพื่อนซี้เกอิชาฝึกหัด ในซีรีส์ ‘แม่ครัวแห่งบ้านไมโกะ’ ที่ Netflix
เดือนแรกของปีแบบนี้ เราขอแนะนำซีรีส์ใหม่แนวอบอุ่นใน Netflix ที่น่าจะโดนใจสายกินอยู่ไม่น้อย นั่นคือ ‘แม่ครัวแห่งบ้านไมโกะ’ (The Makanai : Cooking for the Maiko House) ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานจากญี่ปุ่นที่ได้ ‘ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ’ ผู้กำกับหนังเรื่อง Shoplifters มาช่วยตำแหน่ง Showrunner กำกับและเขียนบทร่วม ทั้งยังมี ‘เกงกิ คาวามูระ’ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหนัง Your Name มารับตำแหน่งโปรดิวเซอร์ โดยพวกเขาได้นำมังงะยอดนิยมของนักเขียน ‘โกยามะ ไอโกะ’ มาสร้างสรรค์ใหม่เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวมิตรภาพของสองเพื่อนรักวัย 16 ปี ได้แก่ ‘โนซึกิ คิโยะ’ (รับบทโดย นานะ โมริ) และ ‘เฮราอิ สุมิเระ’ (รับบทโดย นัตสึกิ เดกุจิ) เรื่องย่อมีอยู่ว่า ในฤดูร้อนคิโยะกับสุมิเระได้เดินทางจากบ้านเกิดที่อาโอโมริไปยังเกียวโต ระหว่างท่องเที่ยวพวกเธอได้ถ่ายรูปคู่กับเกอิชาสาวสวยประจำเมือง และเกิดเป็นแรงบันดาลใจ จนสัญญากันว่าเมื่อเรียนจบมัธยมต้นจะกลับมายังเกียวโตอีกครั้งเพื่อตั้งใจเข้าฝึกเป็นไมโกะหรือเกอิชาฝึกหัดให้จงได้ เมื่อมีโอกาสได้เข้าสู่บ้านฝึกไมโกะ พรสวรรค์และแพสชันที่สุมิเระมีก็นำทางให้เธอมุ่งมั่นฝึกซ้อมจนเติบโตไปสู่จุดที่ต้องการ ต่างกับคิโยะที่ค้นพบว่าตัวเองนั้นไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นแขนงนี้เอาเสียเลย […]
เป้าหมายปีใหม่นี้คือ ‘พักผ่อน ทำงาน พักผ่อน ทำงาน’ เพื่อปลอบประโลมหัวใจอย่างแท้จริง
หลายคนที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะใครที่ย้ายจากบ้านในต่างจังหวัดมาปักหลักใช้ชีวิตและฝากความหวังความเจริญไว้กับเมืองใหญ่นี้ สิ่งหนึ่งที่ต้องทุ่มสุดตัวเสมอมาคือ ‘หน้าที่การงาน’ เพราะนั่นหมายถึงความก้าวหน้าในอาชีพของตัวเอง การมีเงินมากพอที่จะอยู่อย่างสบายและไม่ทำให้ครอบครัวต้องลำบาก และการมีตัวตนอย่างภาคภูมิใจในสังคมที่คนจะล้นเมืองแห่งนี้ ‘ทำงาน ทำงาน ทำงาน’ คงเป็นสโลแกนที่ใครๆ ได้ยินบ่อยมากเมื่อปีที่ผ่านมา ปีนี้เราเลยอยากชวนให้ลองมาปรับสมดุลชีวิตเป็น ‘พักผ่อน ทำงาน พักผ่อน ทำงาน พักผ่อน ทำงาน’ จะได้ไหม เพราะเราเชื่อว่ายิ่งวันเวลาผ่านไป สังคมที่มีแต่การแข่งขันขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้เราหลงลืมไปเลยว่าการพักผ่อนนั้นไม่ใช่แค่สิ่งสำคัญ แต่เป็น ‘ที่สุดของความจำเป็น‘ เราเลยอยากชวนทุกคนมาลองสร้างความตั้งใจใหม่จากที่ผ่านมา หลายคนอาจทุ่มให้งานจนหมดตัวแล้ว ปีนี้ลองมาเผื่อพื้นที่อบอุ่นๆ ให้การพักผ่อนเพื่อหัวใจที่ชุ่มชื่นขึ้นบ้างดีกว่า โทรศัพท์ยังชาร์จทุกวันเลย ทำไมไม่ยอมชาร์จแบตฯ ร่างกาย ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนเราหรือเปล่า วันไหนที่รู้สึกตัวเองนิสัยไม่ดี หงุดหงิดอะไรไปทั่ว จะมานึกขึ้นได้ทีหลังว่าวันนั้นนอนน้อย พอๆ กับคนรักสุขภาพทั้งหลายที่เห็นด้วยเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าวันนั้นต้องเลือกระหว่างการ ‘นอนให้พอ’ หรือ ‘ไปออกกำลังกาย’ ขอเลือกการนอนมาก่อนเสมอ เพราะร่างกายเราจะแข็งแรงหรือสุขภาพจิตจะดีขึ้นไม่ได้เลย ถ้ารากฐานของเรานั้นสั่นคลอน เมื่อไหร่ที่เหลือบมองโทรศัพท์มือถือแล้วเห็นแบตฯ เหลืออยู่รอมร่อ เราจะรีบหาที่ชาร์จอย่างไม่มีรีรอ ในขณะเดียวกัน หากความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมานานในวันนั้นหรือตลอดสัปดาห์นั้น ทำให้พลังการใช้ชีวิตของเราเหือดแห้งเต็มที สิ่งที่จะดูสมเหตุสมผลที่สุดคือการชาร์จพลังของเราให้ไปต่อได้นั่นเอง ไม่ใช่ทู่ซี้ทำสิ่งที่ทำอยู่ต่อไปอย่างไม่ยอมฟังเสียงร่างกาย การพักผ่อนเพื่อดูแลตัวเองให้ดี คือการว่ายทวนกระแสสังคมทุนนิยมที่บ้าคลั่ง […]
เปลี่ยนบราเก่าให้เป็นพลังงานสะอาดกับโครงการ ‘โละแล้วไปไหน’ จาก Sabina ช่วยลดขยะและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
รู้หรือไม่ว่า อายุการใช้งานของชุดชั้นในจริงๆ แล้วอยู่ที่ประมาณ 6 – 8 เดือนเท่านั้น เพราะตัววัสดุจะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงตามการใช้งาน แต่หากต้องเปลี่ยนชุดชั้นในบ่อยครั้งขนาดนี้ ของเก่าที่ใช้ไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร หากไม่อยากสร้างขยะด้วยการทิ้งชุดชั้นในเก่าเหล่านี้ไปเฉยๆ ลองเลือกส่งต่อไปยังโครงการ ‘โละแล้วไปไหน (New Life BRA CYCLE)’ จาก Sabina เนื่องจากโครงการนี้จะช่วยเปลี่ยนชุดชั้นในเก่าที่เสื่อมสภาพ ใช้งานไม่ได้แล้ว ให้กลายเป็นพลังงานสะอาด เพราะเอาเข้าจริงชุดชั้นในที่ถูกทิ้งก็นับว่าเป็นขยะจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี ทั้งยังมีวิธีการกำจัดที่ค่อนข้างยากและหลายคนไม่รู้วิธีการกำจัดที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบจากการสร้างขยะให้ได้มากที่สุด ทาง Sabina จึงจัดตั้งโครงการนี้ขึ้นมา โดยเน้นการส่งต่อชุดชั้นในเก่าที่ไม่สามารถบริจาคหรือนำไปทำอย่างอื่นได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสภาพไหน แบรนด์อะไร ของผู้หญิงหรือผู้ชายก็นำมาส่งต่อให้ Sabina ช่วยโละได้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ทางแบรนด์เองยังบริจาคชุดชั้นในใหม่หนึ่งตัวให้มูลนิธิหรือองค์กรต่างๆ ต่อการโละหนึ่งครั้งด้วย ทั้งนี้ ทางแบรนด์จะนำชุดชั้นในที่โละทิ้งไปเข้ากระบวนการเผาทำลายผ่านระบบปิด ซึ่งไม่ทำให้เกิดมลภาวะเป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม และยังนำพลังงานความร้อนกลับมาใช้ใหม่ เพื่อทดแทนถ่านหินที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตปูนซีเมนต์ได้อีกด้วย โดยบรา 100 ตัวนั้นสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 5,000 กรัมเลยทีเดียว ใครที่สนใจอยากส่งต่อบราเก่าเพื่อลดปริมาณขยะในโลก เช็กจุดโละชุดชั้นในได้ที่ bit.ly/3vWom3c Source : Sabina | […]