LATEST
‘สิทธิกร ปรีชาวุฒิเดช’ จิตแพทย์ผู้ใช้ ‘เลโก้จิ๋ว’ ผลักดันศิลปวัฒนธรรมไทย
ถ้าให้ย้อนถึงความทรงจำที่ประทับใจในวัยเด็ก เชื่อว่าหลายคนคงหวนนึกถึงกิจกรรมที่เคยเล่นสนุกจนลืมเวลา รวมไปถึงงานอดิเรกที่เคยหลงใหลและมีสมาธิกับมันมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพการ์ตูน การเล่นดนตรี การเล่นกีฬา ไปจนถึงการเล่นเกมสารพัดรูปแบบ สำหรับบางคน สิ่งเหล่านี้ยังกลายเป็นแพสชันที่ติดตัวพวกเขาไปจนโต หรือไปไกลถึงขั้นทำเป็นอาชีพก็มี ‘อิกคิว-สิทธิกร ปรีชาวุฒิเดช’ ชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีคนนี้ คือหนึ่งในนั้น เรารู้จักอิกคิวผ่านโพสต์ประชาสัมพันธ์เวิร์กช็อป ‘ตามาญโญในตัวต่อจิ๋ว’ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในงาน ‘เสาร์สนามไชย Saturday Happening’ ที่มิวเซียมสยาม เวิร์กช็อปนี้สะดุดตาเราเป็นพิเศษ เพราะเป็นการสอนต่อ ‘เลโก้จิ๋ว (Miniblock)’ จากผลงานการออกแบบสถาปัตยกรรมของมาริโอ ตามาญโญ สถาปนิกชาวอิตาเลียนผู้ออกแบบตึกมิวเซียมสยาม เช่น สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง สถานีรถไฟสวนจิตรลดา พระที่นั่งอนันตสมาคม และสถานีรถไฟกรุงเทพ พูดง่ายๆ ว่าเป็นการย่อไซซ์อาคารไทยให้กลายเป็นโมเดลจิ๋วสีสันน่ารักที่สาวกตัวต่อกับของกุ๊กกิ๊กต้องตาเป็นประกายวิบวับแน่นอน เมื่อลองหาข้อมูลเพิ่มเติม เราก็พบว่าอิกคิวคือจิตแพทย์ที่มาเป็นวิทยากรเฉพาะกิจให้เวิร์กช็อปนี้ เนื่องจากความหลงใหลในศาสตร์และศิลป์ของการต่อเลโก้มาตั้งแต่เด็ก จนได้พัฒนางานอดิเรกให้มีความออริจินัลและจริงจังมากขึ้นผ่านการออกแบบเลโก้จิ๋วจากสถาปัตยกรรมไทยและต่างประเทศ โดยเขาได้รวบรวมผลงานทั้งหมดไว้ในเพจ Qbrick Design เรานัดหมายกับอิกคิวเพื่อพูดคุยทำความรู้จักเจ้ามินิบล็อกเหล่านี้ให้มากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบอันซับซ้อน ไปจนถึงการต่อประกอบให้สำเร็จ คุณค่าของตัวต่อจิ๋วในมุมมองของเขาเป็นแบบไหน อะไรที่ทำให้เขามีแพสชันและมิชชันต่อตัวประกอบจิ๋วขนาดนี้ เราขอชวนทุกคนไปฟังคำตอบพร้อมกัน ปัดฝุ่นเลโก้วัยเด็ก อิกคิวเริ่มต้นด้วยการเล่าย้อนไปถึงช่วงเวลาหลังจากเรียนจบคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาได้กลับไปทำงานเป็นจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส บ้านเกิดของตัวเอง ในเวลาว่างจากงานประจำช่วงนั้น […]
ฮังการีห่วง ‘Pink Education’ การศึกษาที่มีความเป็นผู้หญิงเกินไป อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ตอนนี้ในประเทศฮังการีกำลังให้ความสนใจกับรายงานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ ‘Pink Education’ และความเสี่ยงของระบบการศึกษาที่มีความ ‘เป็นผู้หญิงมากเกินไป’ จนอาจจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจในประเทศและปัญหาสัดส่วนของประชาชน เพราะผู้หญิงที่มีการศึกษาจะไม่สามารถหาคู่สมรสที่อยู่ในระดับการศึกษาเดียวกันได้ ซึ่งจะเป็นผลให้อัตราการเกิดของคนในประเทศลดลง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของฮังการีได้เผยแพร่รายงานชิ้นนี้ออกมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 แต่เพิ่งได้รับความสนใจหลังถูกพูดถึงในบทความของหนังสือพิมพ์ Népszava เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่นักการเมืองและผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิทธิมนุษยชน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ฮังการีมีผู้หญิงลงทะเบียนเข้ารับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยมากกว่าผู้ชาย โดยตัวเลขของผู้หญิงเข้าศึกษาช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้อยู่ที่ 54.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราการลาออกจากการศึกษาของผู้ชายก็สูงขึ้นด้วย ส่วนจำนวนผู้หญิงในวิชาชีพครูนั้นก็มีมากถึง 82 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว รายงานอธิบายว่า ‘คุณลักษณะของผู้หญิง’ อย่างเรื่องของวุฒิภาวะทางอารมณ์และสังคมที่ได้รับการส่งเสริมในระบบการศึกษาของฮังการีนั้นจะทำให้ความเท่าเทียมทางเพศอ่อนแอลงมาก และยังมองว่าเศรษฐกิจของฮังการีอาจตกอยู่ในความเสี่ยงหาก ‘คุณลักษณะของผู้ชาย’ อย่างทักษะทางเทคนิค การแบกรับความเสี่ยง และการเป็นผู้ประกอบการนั้นถูกประเมินค่าต่ำลง นอกจากนี้ รายงานยังมองว่าเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเด็กรุ่นใหม่ในการแก้ปัญหาที่ถูกมองว่าเป็นงานของผู้ชาย อย่างเช่นคอมพิวเตอร์ค้าง ก๊อกน้ำรั่ว หรือแม้แต่ปัญหาไม่มีคนประกอบเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อมาใหม่ แม้ว่าความจริงแล้วบรรดาผู้หญิงเองก็สามารถแก้ปัญหาหรือทำงานเหล่านี้ได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ชายเสมอไป ด้านนักการเมืองฝ่ายค้านอย่าง Endre Toth ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์รายงานชิ้นนี้บนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า การพูดถึงคุณสมบัติชายและหญิงเป็นความไร้สาระทางวิทยาศาสตร์ และถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องเปลี่ยนแนวคิดที่คร่ำครึนี้เสียที ฮังการีต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความไม่เท่าเทียมทางเพศในประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว หลังจาก Dunja Mijatović กรรมาธิการด้านสิทธิของ Council of Europe ได้กล่าวขณะเยือนฮังการีในปี […]
ทำไมคนไทยเชื่อหมอดูมากกว่าจิตแพทย์? เพราะงมงายหรือเข้าถึงง่ายกว่า
เวลาคุยกับหมอดู คุณถามว่าอะไรกันบ้าง?ช่วงนี้เครียดกับเพื่อนร่วมงานมาก งานนี้จะรอดไหม?ที่ทำงานบีบเงินเดือนสุดๆ ปีนี้จะรวยไหม?ทุ่มเทให้เขาขนาดนี้ เขาจะรักเราบ้างไหม? คำถามเหล่านี้ต่างเป็นปัญหาสุดกลุ้มใจของใครหลายคน หากให้เลือกปรึกษาระหว่างจิตแพทย์กับหมอดู เชื่อว่าส่วนใหญ่ขอพุ่งเข้าหาแม่หมอก่อนเป็นอันดับแรก เพราะปัจจุบันศาสตร์ทำนายอนาคตฮิตในบ้านเรา และทุกวันนี้มีธุรกิจสายดวงผุดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด โดยเฉพาะบริการดูดวงออนไลน์ที่ได้รับความนิยมล้นหลาม ทุกคนเข้าถึงโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย เช่น YouTube, Facebook, Twitter หรือ TikTok จนทำให้บางคนที่ชอบดูดวงมองว่า หมอดูก็สามารถทำให้พวกเขามีกำลังใจและรู้สึกมีความหวังในวันที่เขาหลงทาง รวมทั้งให้คำปรึกษาคล้ายกับจิตแพทย์คนหนึ่งเลยทีเดียว ดูดวง ที่พึ่งยามยากที่เข้าถึงง่าย ความนิยมการดูดวงไม่ใช่เรื่องคิดไปเอง จากข้อมูลวิจัยพฤติกรรมการดูดวงคนเมืองในกรุงเทพฯ ของอัครกิตติ์ สินธุวงศ์ศรี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเผยว่า คนดูดวงส่วนมาก 2 ใน 3 เป็นวัยทำงานช่วงอายุ 20 – 40 ปี และเป็นโสด สาเหตุที่เลือกดูดวงเนื่องจาก 1 ใน 3 พบว่ารู้สึกเครียดและต้องการที่พึ่งพาทางจิตใจ จึงต้องการรับรู้เรื่องอนาคต เพื่อสร้างความมั่นใจการตัดสินใจในปัจจุบัน เรื่องที่คนเมืองมักจะปรึกษาแม่หมอมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ 1) การก้าวหน้าในหน้าที่การงาน 2) การเงินและการค้า และ 3) เรื่องโชคลาภ […]
The Wall at Songkhla 2022 กิจกรรมเติมแสงไฟให้สงขลาส่องสว่าง ปลุกย่านเมืองเก่าให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
แสงไฟไม่ได้ทำหน้าที่ให้ความสว่างอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจนำไปใช้ต่อยอดในการพัฒนาเมือง ไปจนถึงกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้กลับมาคึกคักได้ด้วย แนวคิดนี้จึงเป็นที่มาของกิจกรรม ‘The Wall at Songkhla 2022’ ที่ทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA และทีมนักออกแบบแสงจากกลุ่ม Lighting Designers Thailand (LDT) ร่วมมือกับเทศบาลนครสงขลาและภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม ชวนทุกคนมาค้นหาเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ของย่านเมืองเก่าสงขลาในยามค่ำคืน ผ่านการออกแบบแสงไฟเพื่อเปลี่ยนกลางคืนในเมืองเก่าสงขลาให้ส่องสว่างและกลับมามีชีวิตอีกครั้ง การจัดแสดงไฟบริเวณ 3 จุดที่เชื่อมโยงกันครั้งนี้ ช่วยให้ทั้งคนในและคนนอกพื้นที่ได้เข้าถึง Hidden Gems และอาจต่อยอดไปเป็นการติดตั้งแสงไฟอย่างถาวรในการช่วยให้ร้านรวงต่างๆ ในท้องถิ่นได้ขยายเวลาค้าขายและต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นในอนาคต คอนเซปต์การจัดไฟของแต่ละจุดเป็นอย่างไร แสงสว่างเหล่านี้ช่วยให้พื้นที่มีชีวิตชีวามากขึ้นขนาดไหน เราขอชวนทุกคนออกสำรวจเส้นทางเมืองเก่าสงขลาไปพร้อมๆ กัน ภาพงานไฟครั้งนี้แตกต่างจากที่เราจินตนาการกันไว้เล็กน้อย เพราะงานไฟส่วนใหญ่ที่เราเคยได้เห็นมักจะเป็น Installation Art เชิงศิลปะที่เน้นความน่าตื่นตาตื่นใจให้คนได้ถ่ายรูปกัน แต่งานนี้ผู้จัดตั้งใจออกแบบแสงสว่างที่สวยงามและเน้นเรื่องการพัฒนาเมืองเป็นหลักมากกว่า เริ่มกันที่จุดแรกกับ ‘The Wall 1: The Prime Light’ ที่ชุมชนมัสยิดบ้านบน มัสยิดที่เป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางศาสนาของคนในชุมชนเป็นเวลานานกว่า 170 ปี แม้จะเป็นพื้นที่ที่คึกคักมีคนเข้าออกตลอดเวลา แต่เมื่อไม่มีแสงเข้าถึงกลับทำให้บริเวณนั้นมืดมิดจนหลายครั้งคนนอกพื้นที่ไม่รู้หรือดูไม่ออกเลยว่ามีมัสยิดอยู่ตรงนี้ด้วย ทาง LDT จึงเข้ามาออกแบบแสงเพื่อสะท้อนให้เห็นความงามของมัสยิดในยามค่ำคืน […]
‘I Don’t Care ไม่ว่าอย่างไร’ ละครเวทีที่บอกเล่าชีวิตคนข้ามเพศ กันยายนนี้ ที่ Jim Thompson Art Center
ในสังคมที่เปิดกว้างขึ้น แต่อัตลักษณ์ตัวตนของคนข้ามเพศยังมีความเลือนรางในสายตาของคนทั่วไปอยู่ไม่น้อย เราอยากพาทุกคนไปรู้จักกับอัตลักษณ์ของคนข้ามเพศ 8 คน ในบริบทและสภาพสังคมที่แตกต่างกันอย่างในประเทศไทยและเยอรมนี ผ่าน ‘I Don’t Care ไม่ว่าอย่างไร’ (World Premiere) โปรเจกต์ละครเวทีสัญชาติไทย-เยอรมัน จาก B-Floor Theatre และ Residenztheater ที่ได้รับแรงบันดาลใจและพัฒนาจากบทสัมภาษณ์จากชีวิตจริงของคนข้ามเพศทั้ง 8 ที่ถูกบันทึกมาตลอดสามปี นี่คือ 8 มุมมองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวการหาหนทางในการนิยามอัตลักษณ์ของตน และการตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตเองที่ล้วนต้องข้ามผ่านความกดดันและความเปราะบางในหลายมิติ นำไปสู่การตั้งคำถามถึงสิ่งที่ตัวเองเป็นในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่มีสิทธิเสรีภาพเหนือร่างกายและจิตใจของตน ไม่ว่าจะเป็นคนข้ามเพศหรือไม่ก็ตาม ละครเวที ‘I Don’t Care ไม่ว่าอย่างไร’ รอบ World Premiere จะเปิดการแสดงที่ The Jim Thompson Art Center ซอยเกษมสันต์ 2 ระหว่างวันที่ 15 – 18 และ 22 – 25 กันยายน 2565 ก่อนจะเดินทางไปแสดงต่อที่มิวนิกในเดือนตุลาคม […]
NEW TRIBE OF URBAN LIVING สู่ชีวิตในเมืองที่ดีกว่าของเผ่าพันธ์ุใหม่กับ ‘CULTURE‘
“เปลี่ยนวิถีชีวิตในเมือง สู่การขับเคลื่อนพลังสร้างสรรค์ร่วมกัน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในวันนี้สู่วันที่ดีกว่าในอนาคตข้างหน้า” คือสิ่งที่ ‘Culture’ คอนโดฯ ใหม่จากอนันดา (Ananda) บอกเล่าเพื่อนำเสนอทางเลือกของการใช้ชีวิตใจกลางเมือง แนวคิดใหม่ของการอยู่อาศัยในสังคมร่วมสมัยที่ดึงดูดผู้คนที่เปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์มาอยู่ร่วมกัน เพื่อผสานไอเดียของยุคสมัยเพื่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดีกว่า สะดวก สบาย ในมาตรฐานระดับโลกได้ทุกวัน Culture มองเห็นว่าเรื่องหลักของที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ผู้คนนั่นคือ ‘สะดวก’ และ ‘สบาย’ ด้วยรูปแบบของชีวิตผู้คนที่ต้องวุ่นอยู่กับการงานจนอาจไม่มีเวลาดูแลทำความสะอาดห้อง หรือบางวันการซักผ้า รีดผ้า ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก จึงมีเซอร์วิสที่ช่วยดูแลความยุ่งยากต่างๆ เหล่านี้อย่างครบครัน เหนือไปกว่าความสะดวกสบายในระยะสั้น Culture ยังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายในระยะยาว ทั้งการจัดการส่วนกลางและการดูแลเรื่องอื่นๆ ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของลูกบ้านทุกคนดีขึ้นด้วยมาตรฐานแบรนด์ดังระดับโลก สังคมแบบใหม่ ที่ทำงานสะดวก เล่นได้ ใช้ชีวิต Culture มอบความลงตัวของการใช้ชีวิตทุกด้าน ทั้ง Live, Work, Play, Learn ด้วยการจัดการพื้นที่ภายในโครงการเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กลุ่มคน อย่างเช่นการมีพื้นที่ส่วนกลางเปิดกว้าง สามารถจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ได้อเนกประสงค์ ตั้งแต่ปลูกพืชสวนครัวเพื่อให้ทุกคนได้มาเรียนรู้แลกเปลี่ยนในส่วนของกิจกรรม หรือ Yard Community ของโครงการที่ชวนให้ทุกคนนำสิ่งของที่สามารถ Recycle มาแลกเปลี่ยนกันได้ รวมถึงพื้นที่ตลาดเพื่อเติมเต็มการอยู่อาศัยที่ครบทุกมิติของไลฟ์สไตล์ ให้การอยู่อาศัยในเมืองครั้งนี้ต่างไปจากเดิม อยู่ร่วมกันด้วยความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ […]
ไม่ต้องรอย่อยสลายถึงร้อยปี! Newbie รองเท้าเด็กย่อยสลายได้ เพียงต้ม 40 นาทีในน้ำเดือด
ไม่ต้องรอย่อยสลายถึงร้อยปี! Newbie รองเท้าเด็กย่อยสลายได้เพียงต้ม 40 นาทีในน้ำเดือด เพราะว่าผู้คนต้องเติบโตขึ้นเรื่อยๆ รองเท้าที่เมื่อก่อนเคยใส่ได้กลายเป็นรองเท้าคู่เก่าที่ถูกทิ้งเป็นขยะ ในอเมริกามีรองเท้าถูกฝังกลบกว่า 300 ล้านคู่ต่อปี และรองเท้าหนึ่งคู่จะใช้เวลาย่อยสลายโดยเฉลี่ย 40 – 1,000 ปี Jesse Milliken หนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง Woolybubs แบรนด์รองเท้าเด็กเล็กจากอเมริกา มองเห็นปัญหาปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้นมาจากเสื้อผ้าของลูกๆ จึงผุดไอเดียออกแบบรองเท้าสำหรับเด็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นมา รองเท้ารุ่นนี้มีชื่อว่า ‘Newbie’ นอกจากจะผลิตขึ้นเพื่อปกป้องเท้าแสนบอบบางของเจ้าตัวน้อยด้วยพื้นผิวนุ่มสวมใส่สบาย มีไซซ์สำหรับทารกแรกเกิดไปจนถึงเด็กหัดเดินวัยหนึ่งขวบ และยังมีสีสันพาสเทลสุดน่ารักให้เลือกถึง 4 แบบ อีกหนึ่งความพิเศษของรองเท้าจิ๋วรุ่นนี้ก็คือสามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะวัสดุผลิตจากพลาสติกพอลิเมอร์ที่ชื่อ Polyvinyl Alcohol (PVOH) ซึ่งเป็นพลาสติกละลายน้ำได้แบบเดียวกับที่ใช้ในผงซักฟอกชนิดเจลบอล โดย PVOH คือพลาสติกที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในวงการสุขภาพ ยา ความงาม และครัวเรือนมาตั้งแต่ปี 1950 เมื่อลูกรักของคุณต้องเปลี่ยนไปใส่รองเท้าคู่ใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม การกำจัดรองเท้าคู่เก่าก็ทำได้ง่ายแสนง่าย เพียงแค่นำเจ้า Newbie ไปหย่อนลงในหม้อต้มน้ำเดือดและทิ้งไว้ราว 30 – 40 นาที จากนั้นรองเท้าที่ไม่ใช้แล้วจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เหมือนกับเวลาที่เราละลายน้ำตาลในน้ำ […]
วัตถุดิบนิยม เปลี่ยนเนื้อมะพร้าวเหลือใช้ให้เป็นโยเกิร์ตรักษาภูมิแพ้และซึมเศร้า
นิยามคำว่าอาหารที่ดีของคุณเป็นแบบไหน เป็นอาหารที่อร่อย ให้คุณค่าทางสารอาหารครบถ้วน หรือทำมาจากวัตถุดิบหายาก สำหรับ ‘วีด้า-ภาวิดา กฤตศรัณย์’ อาหารที่ดีของเธอคืออาหารที่ดีต่อตัวเธอ และต้องดีต่อโลก นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอก่อตั้ง วัตถุดิบนิยม แบรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพที่อยากสื่อสารให้ทุกคนได้เข้าใจเรื่องขยะอาหาร และเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างคนเมืองกับเกษตรกร ให้มาแชร์ความรู้และวัตถุดิบกันแบบที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ส่วนผู้บริโภคได้ความรู้และของกินกลับไป สินค้าตัวแรกของวัตถุดิบนิยมอย่าง ‘ไบโคเกิร์ต’ ก็มีคอนเซปต์ที่น่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะเป็นโยเกิร์ต Plant-based ที่ทำจากเนื้อมะพร้าวเหลือทิ้งจากฟาร์มที่ราชบุรี ผสมรวมกับจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ซึ่งช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ ซึมเศร้า และยังเป็นโยเกิร์ตที่ลูกค้าต้องลุ้นทุกครั้ง เพราะรสชาติจะเปลี่ยนไปทุกกระปุก! เช้าวันอากาศดี เรานัดพบกับภาวิดาเพื่อคุยกันถึงเรื่องราวเบื้องหลังธุรกิจของวัตถุดิบนิยม และความตั้งใจในการผลักดันแบรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพจากกรุงเทพฯ ที่มีน้ำพักน้ำแรงของเกษตรกรในราชบุรีเป็นส่วนประกอบ กรุงเทพฯ ย้อนกลับไปยังจุดแรกเริ่ม วัตถุดิบนิยม ประกอบสร้างขึ้นจากความชอบในวิถีออร์แกนิกและเงื่อนไขด้านสุขภาพของภาวิดา อาจเพราะเติบโตในครอบครัวยากจนถึงขนาดต้องซื้อบะหมี่ชามเดียวมาแบ่งแม่และพี่น้องกิน ภาวิดาจึงรู้จักและสำนึกในคุณค่าของอาหารเสมอมา แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอเห็นความสำคัญของคำว่าออร์แกนิก เกิดขึ้นตอนไปเรียนปริญญาโทที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ราวปี 2537 ในยุคที่คำว่าออร์แกนิกยังไม่แพร่หลาย ผู้คนที่นั่นสอนให้ภาวิดาเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งผ่านสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน คนที่เติบโตมากับการใช้ถุงพลาสติก ถูกสอนให้ล้างวัตถุดิบทุกอย่างก่อนนำมาปรุงอาหาร ภาวิดาประหลาดใจกับภาพการใช้ถุงตาข่ายของชาวออสซี่ในซูเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงการหยิบผักผลไม้จากบนเชลฟ์ให้เด็กๆ กินได้โดยไม่ล้าง เพราะพวกเขามั่นใจว่ามันปลอดสารเคมี ภาวิดาซึมซับภาพเหล่านั้นเป็นประจำ รู้ตัวอีกทีคำว่าออร์แกนิกก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอย่างแยกไม่ออก หลังจากเรียนจบและกลับไทย เธอเข้าทำงานในฝ่ายการตลาดให้สื่อเว็บไซต์แห่งหนึ่งจนได้ขึ้นเป็นระดับผู้บริหาร […]
ไทยเปิดใช้ Amber Alerts ฟีเจอร์แจ้งเตือนเหตุเด็กถูกลักพาตัวบน Facebook และ Instagrama
ในช่วง 4 ปีมานี้ นับตั้งแต่ปี 2562 – 2565 ประเทศไทยได้มีการรายงานรับแจ้งเด็กหายกว่า 130 ราย โดยเจอเด็กที่หายจำนวน 72 ราย (56%) และอยู่ในระหว่างติดตามอีก 58 ราย (44%) ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า สาเหตุที่เด็กหายมีทั้งสมัครใจหนีออกจากบ้านเอง หนีปัญหาเศรษฐกิจ มีอาการป่วย หรือถูกลักพาตัวหรือล่อลวงไปค้ามนุษย์ โดยสาเหตุนี้คิดเป็นประมาณ 5% ของเด็กสูญหายทั้งหมด แม้ว่าตัวเลขอาจดูไม่เยอะ แต่เมื่อเกิดเหตุแบบนี้แล้วย่อมกระทบจิตใจทั้งคนในครอบครัวและคนในสังคมเป็นอย่างมาก เช่น เคสน้องการ์ตูน ในปี 2556 หรือน้องชมพู่ ในปี 2563 หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจึงร่วมมือกันเปิดใช้งาน AMBER Alerts ฟีเจอร์แจ้งเตือนเหตุเด็กถูกลักพาตัว บนแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยฟีเจอร์นี้จะใช้ในกรณีเด็กถูกลักพาตัว มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บสาหัสอันจะนำไปสู่การช่วยเหลือเด็กให้กลับมาอย่างปลอดภัย โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ 27 ของโลกที่มีการเปิดตัวระบบ AMBER Alerts […]
กระจกสี ป้าแก้ว เจ้าของร้านประกายแก้ว l The Professional
รู้ไหมว่า งานกระจกสีสวยงามที่เราเห็นที่ 1 – 3 ของโบสถ์คริสในไทย ล้วนมาจากฝีมือผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จากความหลงใหลในกระจกสีวัดนิเวศธรรมประวัติ ทำให้ ป้าแก้ว-พวงแก้ว นันทนาพรชัย เจ้าของร้านประกายแก้ว อยากทำชิ้นงานแบบนี้ดูบ้าง แม้ 10 นิ้วมือจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ป้าแก้วกลับบอกว่า “เมื่อชิ้นงานเหล่านี้ถูกติดตั้ง ทุกคนเห็นแล้วมีความสุข ตัวป้าเองก็มีความสุข” แม้จะไม่ใช่ร้านเก่าแก่ที่สุด แต่ผลงาน กระจกสีของร้านประกายแก้วเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจ จนเราได้เห็นมันบนวัดกาลหว่าร์ วัดเซนต์หลุยส์ ในวันนี้ Urban Creature อยากพาคุณไปทำความรู้จักกระจกสีให้มากขึ้นกับ ป้าแก้ว ร้านประกายแก้ว ที่ถือคติว่า “แม้หากเราไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ศิลปะเหล่านี้ยังต้องอยู่ ศิลปะจงเจริญ”
Stray Cat in the Sick City รับบทเป็นแมวส้มในเกม Stray ผจญภัยและเอาตัวรอดในกรุงเทพฯ ที่ใกล้ล่มสลาย
ชีวิตในเมืองที่แสนเหนื่อยยากและโลกที่วุ่นวาย ทำให้เราเคยมีความคิดที่แวบขึ้นมาว่า อยากลองเกิดเป็นหมาแมวดูบ้างสักวัน แล้วจะเป็นอย่างไรถ้าวันหนึ่งเราได้อิเซไกมาเป็นเจ้าแมวส้มจาก Stray เกมที่ให้เราสวมบทบาทเป็นแมวหลง ที่มีคู่หูอย่างเจ้าโดรนจิ๋ว B-12 คอยช่วยเหลือและนำทาง พร้อมกับผจญภัยไปด้วยกันในโลกแห่งอนาคตที่ล่มสลายด้วยฝีมือของมนุษย์ เหลือเพียงหุ่นยนต์ที่วิวัฒนาการขึ้นมาให้มีความนึกคิดและจิตใจ ในเมืองที่ถูกทิ้งร้างไร้ผู้คน Stray เป็นเกมจากค่าย BlueTwelve Studio ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เปิดให้เล่นทั้งในแพลตฟอร์ม Steam, PlayStation 4 และ PlayStation 5 พร้อมกับคะแนนวิจารณ์ที่ดีที่สุดในปีนี้จากผู้เล่นใน Steam หลังจากเปิดตัวไปได้เพียงไม่กี่วัน สำหรับคนที่เคยเล่นเกมนี้มาแล้ว หรือคนที่ยังไม่เคยเล่นก็ตาม สิ่งที่จะทำให้ทุกคนตกหลุมรักเกมนี้ได้ง่ายๆ ก็คือความน่ารักของเจ้าแมวส้ม นอกจากนั้นก็คงจะเป็นความน่าสนใจของการเมืองผ่าน Perspective ของแมว และเรื่องราวของหุ่นยนต์ที่เราจะได้พบเจอตลอดการเดินทาง พร้อมกับดีเทลเล็กๆ เฉพาะคนรักแมวเท่านั้นที่จะรู้ ถ้าแมวส้มจากเกม Stray ตัวนี้ได้มาร่อนเร่ในมหานครอย่างกรุงเทพฯ ที่สุดแสนจะวุ่นวายและใกล้ล่มสลาย น้องจะได้พบเจอกับอะไรบ้าง และทางออกของปัญหาเหล่านั้นควรจะเป็นอะไร เรามาร่วมลุ้นและผจญภัยไปด้วยกัน Walk Through the Cityเมื่อเจ้าแมวออกเดินทาง การจะเป็นเมืองที่เดินได้ จะต้องมีความปลอดภัยสำหรับผู้คนที่สัญจรไปมา ทั้งบนทางเท้าและท้องถนน และควรมีความปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย การมีทางเท้าที่ดี สะพานลอยหรือทางม้าลายที่ปลอดภัย ไฟข้างทางที่ส่องสว่าง […]
Masterplan Esbjerg Strand โปรเจกต์สร้างอาคารการเรียนรู้แห่งใหม่ของเดนมาร์ก ที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตและสร้างระบบนิเวศยั่งยืน
หนึ่งในบริษัทสถาปนิกไฟแรงชื่อดังระดับโลกอย่าง ‘Bjarke Ingels Group’ หรือ ‘BIG’ ได้เปิดเผยโปรเจกต์การออกแบบ ‘วิทยาเขตการศึกษาแห่งใหม่’ หรือ ‘New Education Campus’ บนเกาะเอสบีเยร์ (Esbjerg) เมืองท่าทางทะเลของประเทศเดนมาร์ก โดยมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมของเมืองและพื้นที่แคมปัสเพื่อรองรับแพลตฟอร์มการเรียนรู้ใหม่ๆ รวมถึงเปลี่ยนระบบการศึกษาแบบเดิมของประเทศด้วย โครงการนี้ตั้งใจดำเนินการบริเวณพื้นที่ท่าเรือที่เดิมมีขนาด 15,000 ตารางเมตร โดยสถาปัตยกรรมแห่งใหม่นี้จะใช้พื้นที่เพียง 13,700 ตารางเมตร เนื่องจาก BIG ตั้งใจออกแบบอาคารโดยเหลือพื้นที่บริเวณโดยรอบไว้สำหรับสร้างสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่จะช่วยปกป้องผู้คนในแคมปัสจากลมแรงและเสียงรบกวน ทั้งยังเหมาะกับการนั่งชมทิวทัศน์ของท่าเรือและทะเลด้วย แคมปัสแห่งใหม่บนเกาะเอสบีเยร์แห่งนี้จะมีความสูงทั้งหมด 7 ชั้นเพื่อป้องกันน้ำท่วมตัวอาคาร ส่วนรูปทรงของตึกจะมีรูปทรงคล้ายคลื่นที่มีความสูงไม่เสมอกัน ซึ่งแนวคิดการออกแบบนี้จะช่วยลดเสียงรบกวน ปรับสภาพลมทั้งบนพื้นดินและบนหลังคาให้เหมาะสม รับแสงแดดให้ได้มากที่สุด และเอื้อให้ทุกคนสามารถมองเห็นวิวของท้องทะเลได้ ที่สำคัญ บริเวณหลังคายังสร้างเป็นสวนดาดฟ้าความยาวหนึ่งกิโลเมตรที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด ส่วนพื้นที่ตรงกลางอาคารจะเปลี่ยนให้เป็นสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบร่มรื่นภายในแคมปัส ค่อนข้างแตกต่างจากบรรยากาศของอุตสาหกรรมท่าเรือภายนอกมากเลยทีเดียว ไอเดียออกแบบอาคารที่น่าตื่นเต้นของ BIG ชิ้นนี้คือส่วนหนึ่งของแผนการขับเคลื่อนเมืองอย่าง Esbjerg of the Future Vision 2025 ที่มีเป้าหมายเพิ่มประชากรในพื้นที่และผลักดันให้เอสบีเยร์กลายเป็นเมืองที่โดดเด่นด้านการศึกษา โดยมีการอ้างว่าแผนดังกล่าวจะทำให้เมืองนี้มีตำแหน่งแรงงานฝีมือ (Skilled Labor) ที่รองรับทุกคน กลายเป็นผู้ผูกขาดทางพลังงานยั่งยืน […]