LATEST
รู้จักบุคลิกภาพของตัวเองให้มากขึ้นผ่านแบบทดสอบ Find Your Muse เว็บไซต์หาภูตประจำตัวสุดน่ารัก
หากอยากรู้จักบุคลิกภาพของตัวเองให้มากขึ้น นอกจากการทำ MBTI ที่หลายคนคุ้นเคยแล้ว ก็ยังมีอีกวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้เราค้นพบตัวตนที่อาจไม่เคยรู้จักมาก่อน ผ่านการทำแบบทดสอบตอบคำถามร่วมกับ ‘Find Your Muse’ เว็บไซต์สุดน่ารักของ Senior Project คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ที่จะพาเราไปสำรวจตัวเองเพื่อเรียนรู้บุคลิกภาพแบบละเอียดอ่อนสูง (Highly Sensitive) และค้นหาภูตประจำตัว ‘คำถามต่อไปนี้ไม่ใช่แบบทดสอบทางจิตวิทยา เป็นเพียงข้อคำถามที่ใช้ในการสังเกตตนเองเท่านั้น’ เมื่อกดเข้าเว็บไซต์ไป เราจะเจอกับข้อความนี้ที่เน้นย้ำถึงความตั้งใจของ ‘Find Your Muse’ และถ้าพร้อมทำแบบทดสอบแล้ว เราก็แค่ใส่อายุ เพศ เชื้อชาติ และทำตามขั้นตอนต่อไป ภายในเว็บไซต์ เราจะได้พบกับคำถามช่วงแรกที่จะมาวัดความรู้สึก และชวนให้คะแนนว่าเรารู้สึกอย่างไรกับประโยคคำถามเหล่านั้น เช่น ‘ในวันที่ยุ่ง คุณรู้สึกอยากจะปลีกตัวไปนอนบนเตียงหรือไปยังสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัว เพื่อบรรเทาจิตใจจากความวุ่นวาย’, ‘คุณชอบที่จะคิดอย่างละเอียดลออ รวมถึงมองเรื่องราวต่างๆ ในหลายๆ มุม’, ‘คุณจะรู้สึกรำคาญใจเวลามีคนพยายามให้คุณทำหลายๆ เรื่องในเวลาเดียวกัน’ หรือ ‘คุณจะรู้สึกกระวนกระวายใจเวลาที่มีความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นในชีวิต’ เมื่อให้คะแนนความรู้สึกต่อคำถามทั้งหมดแล้ว เว็บไซต์จะพาไปตามหาภูตประจำตัวที่เหมาะกับตัวตนของเราผ่านคำถามต่างๆ ที่คราวนี้เราจะตอบได้หลายคำตอบมากขึ้นตามต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ‘ในวันที่ยุ่งมากคุณมักจะรู้สึกอย่างไร’, ‘ข้อดีของคุณที่คนอื่นมักพูดถึง’, ‘สิ่งที่มักจะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นเสมอ’ หรือ […]
‘แต่ละคนมีช่วงเวลาผลิบานของตัวเอง’ อย่าไปกลัวโลกที่เราช้าลงเมื่อไหร่ คนอื่นพร้อมวิ่งแซงเมื่อนั้น
‘รู้สึกผิดมากเลย ที่ต้องมาเครียดเรื่องความรัก แทนที่จะไปเครียดเรื่องงาน’ สาวผู้บริหารคนหนึ่งเคยบ่นกับเรา เพราะเธอเพิ่งอกหักจากความรักที่คาดหวังไว้มาก ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ผู้คนวัยทำงานเริ่มหันมามองการดูแลทะนุถนอมหัวใจว่าเป็นเรื่องที่เสียเวลา มันคืออะไรกันแน่ที่ทำให้ ‘บทสนทนาเรื่องความรู้สึก’ ได้รับการยอมรับน้อยกว่าบทสนทนาเรื่องการลงทุน ผลกำไร หรือการแข่งขันทางเศรษฐกิจ เราขอตอบเลยว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเรานั้นล้วนอาศัยอยู่ในโลกแห่งทุนนิยม ทุกคนพอจะเข้าใจดีว่า หน้าตาของระบบทุนนิยมคือระบบเศรษฐกิจที่เน้นการแข่งขัน เร่งผลผลิต และคืนกำไรขึ้นไปสู่นายทุน อ่านมาถึงตรงนี้คงเริ่มคิ้วขมวดกันว่า เรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับสุขภาพจิตเราด้วย เพราะในความเป็นจริงแล้ว สุขภาพจิตที่ดีแทบสร้างได้ยากมากๆ หากมาจากเราเพียงฝ่ายเดียว เราทุกคนล้วนได้รับผลกระทบทางจิตใจไม่ว่าในทางดีหรือไม่ดี จากสังคมที่เราอยู่หรือผู้คนที่รายล้อมเราเสมอ สิ่งที่ระบบทุนนิยมมีอิทธิพลต่อการกระทบใจเราก็คือ 1) ชีวิตเสพติดการแข่งขัน2) ชีวิตที่ไม่อยากคิดจะหยุดพัก3) ชีวิตที่ไม่อยากจะสนใจเรื่องหัวใจและความรู้สึก สภาพแวดล้อมที่ดำเนินด้วยความเร็วและการแข่งขัน การทำงานในแต่ละวันที่ต้องเร่งรีบ ยิ่งทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้ยิ่งดี ไปจนถึงความเครียดจากงาน บางครั้งกลายเป็นถ้วยรางวัลแห่งความมุ่งมั่นของบางคน หากวันไหนที่เราร่วงโรยจากการจดจ่อกับงาน เมื่อนั้นจะรู้สึกว่านี่คือบาดแผลของนักรบผู้ยิ่งใหญ่ ในขณะเดียวกัน ความเครียดเรื่องงานในจังหวะชีวิตที่เร่งรีบนี้เป็นบ่อเกิดของ Anxiety หรือก้อนความวิตกกังวลให้ใครหลายๆ คน อีกหนึ่งโรคใหม่ที่หนุ่มสาวออฟฟิศคุ้นเคยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือ ‘โรคกลัวไลน์’ เพราะรู้สึกมีคนต้องการตามตัวเราไม่จบไม่สิ้น ต้องตื่นตัว พร้อมรับมือปัญหาจากงานตลอดเวลา หลายคนไม่ใช่แค่รู้สึกถึงความจำเป็นในการเอาชนะบริษัทคู่แข่ง แต่เพื่อนร่วมงานเองก็รู้สึกอยากเอาชนะด้วยเหมือนกัน เพียงเพราะอยากหลีกหนีให้ไกลๆ กับ ‘ความรู้สึกดีไม่พอ’ เราขอยกตัวอย่างความเร็ว ความแรง ความต้องแอ็กทีฟตลอดเวลาผ่านวงการเหล่านี้ […]
มิวเซียมสยามเปิดตัว ‘Siam Origins’ ร้านอาหารไทยพื้นบ้านสี่ภาคที่มาพร้อมเทรนด์รักสุขภาพทุกเมนู
กระแสอาหารเพื่อสุขภาพยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาคนไทยต้องเจอกับสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อสุขภาพกันมานาน ทั้งโรคระบาดและฝุ่นพิษที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การดูแลตัวเองด้วยการกินยาหรือสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นยาก็อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง แต่วิถีการกินแบบนี้อาจยากไปนิด ลองมาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยแบบสุขภาพดีกับอาหารไทย ที่ ‘Siam Origins’ ร้านอาหารไทยพื้นบ้านสี่ภาคที่มิวเซียมสยาม โดยมี ‘เชฟไก่-ธนัญญา ไข่แก้ว’ มาสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยที่จะช่วยให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ไม่ว่าจะมื้อเช้า มื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น พรักพร้อมทั้งเมนูจานหลัก อาหารคาว และอาหารหวาน ตอกย้ำกระแส ‘Thai Taste Therapy’ ที่ถือว่าอาหารไทยเป็นยาที่อร่อยที่สุดในโลก โดยวัตถุดิบที่เลือกใช้ล้วนมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น เช่น น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลโตนด หรือน้ำตาลอ้อย เกลือทะเลจากธรรมชาติ ซีอิ๊วหรือเครื่องปรุงแบบไม่มีกลูเตนผสม กะปิที่หมักจากเคยอย่างดี แกงกะทิใช้กะทิที่เคี่ยวจนได้น้ำมันขี้โล้ และของหมักดองก็เป็นแบบโฮมเมดทั้งสิ้น รวมไปถึงสมุนไพรและเครื่องเทศหลายชนิดที่นำมาใช้ก็มีสรรพคุณช่วยดูแลสุขภาพด้วยเหมือนกัน ใครที่อยากไปลองลิ้มชิมรส Siam Origins เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น. ที่ มิวเซียมสยาม (MRT สนามไชย ทางออก1) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : SiamOriginsbkk
Targ Blonie Market ตลาดสดสไตล์มินิมอลในโปแลนด์ โปร่งสบาย ถูกสุขอนามัย เชื่อมคนในชุมชนเข้าหากัน
เมื่อพูดถึง ‘ตลาดสด’ ภาพในหัวของใครหลายคนคงจะเป็นสถานที่ร้อนๆ อากาศอบอ้าว บรรยากาศมืดครึ้ม มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่ต่อจากนี้ เราขอให้คุณลบภาพเหล่านั้นทิ้งไปให้หมด เพราะวันนี้เราจะพาไปดูตลาดสดในประเทศโปแลนด์ที่จะเปลี่ยนความคิดของคุณไปอย่างสิ้นเชิง ‘Targ Blonie Market’ เป็นตลาดสดที่ตั้งอยู่ในชุมชน Blonie เมืองเล็กๆ ใกล้เมือง Warsaw ประเทศโปแลนด์ ที่เกิดขึ้นจากการพยายามปรับปรุงตลาดสดดั้งเดิมให้มีความน่าสนใจและเข้าถึงผู้คนในชุมชนได้ง่ายขึ้น ผ่านการออกแบบภาพลักษณ์ใหม่ให้มีความปลอดโล่งโปร่งสบายและสนับสนุนวัตถุดิบในท้องถิ่น Targ Blonie Market ถูกพัฒนาขึ้นโดย ‘Aleksandra Wasilkowska Architectural Studio’ สตูดิโอออกแบบที่รับผิดชอบ ภายใต้แนวคิด ‘Shadow Architecture’ ซึ่งเป็นวิธีการจัดวางตำแหน่งโครงสร้างและหลังคาที่เหมาะสมเพื่อให้ได้แสงที่ช่วยส่งเสริมบริเวณโดยรอบ และจัดการกับมาตรฐานด้านสุขอนามัยและโครงสร้างพื้นฐานของตลาด จนเกิดเป็น ‘ตลาดลูกผสม’ ระหว่าง ‘สวนสาธารณะ’ และ ‘ตลาดสด’ ด้วยภาพลักษณ์สะอาดตาจากหลังคาสีขาวที่สร้างขึ้นเพื่อบังแสงแดดและฝน รวมไปถึงแผงขายของแบบขั้นบันได ทำให้การวางสินค้าเป็นไปอย่างสวยงามมากยิ่งขึ้น แนวคิดนี้มีจุดมุ่งหมายหลักคือ การทำให้ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพในราคาไม่แพงได้ โดยเน้นไปที่การจำหน่ายวัตถุดิบจากเกษตรกรในท้องถิ่น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กมีอำนาจในการต่อรอง และสร้างสายใยความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนให้แน่นแฟ้นมากขึ้น อีกหนึ่งความพิเศษของ Targ Blonie Market ที่ทำให้ตลาดสดแห่งนี้เป็นมากกว่าตลาดทั่วๆ ไปคือ เมื่อตลาดปิดให้บริการ […]
เปิดย่านพระนครตะลอนออนดราม่า ในงาน Cultural District 2023 เกาะรัตนโกสินทร์ 19 – 28 พ.ค. 66
กลับมาอีกครั้งกับงาน ‘Cultural District’ โดยมิวเซียมสยาม กับคอนเซปต์ ‘พระนคร ออน ดราม่า’ ที่จะพาทุกคนไปเปิดเกาะรัตนโกสินทร์ เสพดราม่ากับอดีต 5 อัครสถานบันเทิงแห่งย่านพระนคร และไม่ใช่แค่เดินดูสถานที่แห่งความทรงจำเท่านั้น แต่ยังเป็นการเข้าไปรับชมการแสดงที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับได้ย้อนเวลาไป ณ ตอนนั้นจริงๆ ภายในงานมีการจัดการแสดงทั้งหมด 5 สถานที่ ดังนี้ 1) ‘สังคีตศาลา National Museum Bangkok : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร’ ที่จะพาทุกคนไปรับชมละครใน ละครนอก รำฉุยฉาย ทริปตามรอยประวัติศาสตร์มหรสพวังหน้าและมหรสพต้นกรุง 2) ‘สวนสาธารณะป้อมมหากาฬ’ กับการแสดงลิเก ล้อมวงพูดคุย และงานแสดงภาพถ่ายจากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย 3) ‘ลานคนเมือง ท่าพระจันทร์’ กับนิทรรศการย้อนความหลังของดนตรียุค 90 และมินิคอนเสิร์ต Inspiration from 90s โดย น้อง ท่าพระจันทร์ 4) ‘โรงภาพยนตร์ควีนส์’ โรงภาพยนตร์เก่าแห่งวังบูรพา ที่ทุกคนจะได้เข้าชมห้องฉายภาพยนตร์ ร่วมทริปตามรอยโก๋หลังวัง และนิทรรศการ […]
‘Dubai Reefs’ โครงการฟื้นฟูมหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อการวิจัย ฟื้นฟู และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
มหาสมุทรอาจดูเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่กว้างใหญ่ จนเราไม่สามารถดูแลและปกป้องได้อย่างเต็มที่ แต่หากยังปล่อยให้การดำเนินชีวิตและการท่องเที่ยวทำร้ายแหล่งน้ำขนาดใหญ่อยู่เรื่อยๆ ก็ถือเป็นการเร่งความเสียหายให้กับธรรมชาติ และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคตก็ได้ ทาง ‘URB’ ผู้พัฒนา Net Zero Sustainable Cities ได้ออกแบบ ‘Dubai Reefs’ โครงการฟื้นฟูมหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเมือง Emirati ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสร้างเป็นชุมชนลอยน้ำที่ยั่งยืนสำหรับการวิจัยทางทะเล การฟื้นฟู และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่วางเป้าหมายว่าจะสร้างงานได้มากกว่า 30,000 ตำแหน่งในระบบเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงที่อยู่อาศัย การท่องเที่ยว การค้าปลีก การศึกษาและการวิจัย หลักสำคัญของโครงการ Dubai Reefs คือสถาบันทางทะเลที่ตั้งขึ้นเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง มีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ทางทะเลและความสามารถในการอนุรักษ์ของดูไบ ในขณะเดียวกันก็มีการสร้างแนวปะการังเทียมที่มีความยาวครอบคลุมพื้นที่ 200 ตารางกิโลเมตร และยังมีแผนสร้างบ้านของปะการังมากกว่า 1 พันล้านต้นและต้นโกงกางมากกว่า 100 ล้านต้นด้วย นอกจากงานวิจัยและการอนุรักษ์แล้ว โครงการ Dubai Reefs ยังจะเปิดเป็นพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางทะเลเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้มาเยือน โดยจะมีที่พักลอยน้ำเชิงนิเวศที่ใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมดจากพลังงานแสงอาทิตย์และไฟฟ้าพลังงานน้ำ เป้าหมายหลักของ Dubai Reefs คือการเปลี่ยนเมืองให้เป็นจุดหมายปลายทางเชิงนิเวศ ที่มหาสมุทรและภูมิทัศน์ต่างๆ สามารถเติบโตอย่างสมดุลไปพร้อมๆ […]
‘จักรพรรดิพงษ์’ ถนนทางผ่านย่านโรงพิมพ์หนังสือ ที่กำลังถูกปลุกให้ตื่นจากหลับใหล
ในวันที่ย่านเก่าอย่างนางเลิ้งและหลานหลวง เป็นปลายทางของผู้คนที่หลั่งไหลมาฮอปปิงคาเฟ่ที่ผุดขึ้นมากมายในพื้นที่ คืนความคึกคักกลับเข้ามาในพื้นที่โอลด์ทาวน์แถบนี้อีกครั้ง ไม่ต่างกับยุครุ่งเรืองของตลาดนางเลิ้งเมื่อครั้งอดีตที่เป็นจุดหมายของเหล่าหนุ่มสาวชาวพระนครมายาวนาน ใกล้ๆ กันยังมีอีกชุมชนหนึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง ริมสองฝั่งของ ‘ถนนจักรพรรดิพงษ์’ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมร้อยทั้งสองย่านที่ว่านี้เข้าด้วยกัน แม้วันนี้จะอยู่ในสถานะของทางผ่านจนหลายคนอาจมองข้ามไป หรือถูกเหมารวมไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของย่านข้างเคียง ทว่าจริงๆ แล้วตรงนี้ก็มีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นไม่น้อย เพราะแต่ก่อน บนถนนสายนี้เคยเต็มไปด้วยโรงพิมพ์และร้านหนังสือการ์ตูนในวันที่สิ่งพิมพ์เฟื่องฟู มีร้านทำผมบาร์เบอร์และซาลอนยุคเก่าตั้งเรียงรายกว่าสิบร้าน ไปจนถึงภาพชินตาอย่างร้านกล้วยแขกหลากหลายสีเอี๊ยมที่เป็นสัญลักษณ์ประจำย่านนี้ ชวนย้อนความหลังฟังเรื่องเล่าจากหลายปากเสียงของชาวชุมชนจักรพรรดิพงษ์ ถึงบรรยากาศในอดีตของย่าน พัฒนาการของร้านค้าและชุมชน ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่กำลังปลุกให้ย่านทางผ่านที่หลับใหลค่อยๆ ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ถนนที่นำพระนามอันไพเราะของพระอนุชาของรัชกาลที่ 5 มาตั้งเป็นชื่อนั้น คือผลพวงส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว โดยตัดแยกมาจากถนนบำรุงเมือง ถนนสายแรกๆ ในสยาม เชื่อมกับถนนราชดำเนิน เส้นเลือดใหญ่ที่เชื่อมระหว่างโซนเมืองเก่าตรงพระบรมมหาราชวังกับเมืองใหม่ (ในสมัยนั้น) แถบดุสิต แต่แรกเลยแถบนี้ยังเป็นพื้นที่สวนตามประสาบรรยากาศชานเมือง กว่าจะมีอาคารพาณิชย์ตลอดสองฝั่งถนนจักรพรรดิพงษ์แบบที่เห็นกัน ก็ต้องรอจนถึงประมาณช่วงทศวรรษ 2490 หลังจากนั้นจึงเริ่มเป็นย่านการค้าที่มีร้านรวงต่างๆ เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อประกอบกิจการกันอย่างหลากหลาย นอกจากร้านทำผมแล้ว ก็มีร้านตัดเสื้อสูท ร้านทำฟันแบบโบราณ ทำแป้งประหน้า ร้านเอกซเรย์ ร้านขายเคมีภัณฑ์ ฯลฯ ซึ่งสลับสับเปลี่ยนเจ้าของอยู่ตลอด บ้างก็ย้ายไปที่อื่นแล้วในตอนนี้ บางห้องก็ยังมีลูกหลานอยู่กระทั่งปัจจุบัน ‘สุขศาลานางเลิ้ง’ อดีตสถานอนามัยของชาวกรุง “ชุมชนป้าไม่ใหญ่ แต่มีสตอรีเยอะ” ป้าจิ๋ว […]
The Arc อาคารไม้ไผ่ของโรงเรียนในบาหลี แนวคิดการออกแบบด้วยวัสดุทางเลือกที่ยั่งยืน
IBUKU คือทีมนักออกแบบและผู้สร้างสถาปัตยกรรมที่ปรารถนาจะใช้ประโยชน์จาก ‘ไม้ไผ่’ และใช้ช่างฝีมือรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อพัฒนาแนวคิดโบราณและแนวคิดใหม่ให้สมดุลกัน เพราะพวกเขาเชื่อว่าศักยภาพของต้นไผ่นั้นถูกประเมินค่าต่ำเกินไป และน่าจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนได้มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่อยู่ในภูมิภาคเขตร้อน เช่น เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก แปซิฟิกใต้ อเมริกากลางและใต้ เป็นต้น เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้ต่างคุ้นเคยกับพรรณไม้ชนิดนี้มาเป็นร้อยๆ ปี เราขอยกตัวอย่างผลงานสถาปัตยกรรมแห่งหนึ่งในประเทศบาหลีที่นำวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่มาใช้สร้างสรรค์ที่อยู่อาศัย สถาปัตยกรรมนี้ชื่อว่า ‘The Arc’ ได้รับการออกแบบโดยความร่วมมือจาก Jörg Stamm ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ไผ่ชาวเยอรมัน และ Atelier One บริษัทวิศวกรรมโครงสร้างในสหราชอาณาจักร โครงการนี้เรียบง่าย โดยใช้ไม้ไผ่มาสร้างเป็นหลังคาที่มีลักษณะคล้ายเปลือก ทำหน้าที่บังแดดลมฝน ครอบสนามกีฬาอเนกประสงค์ของโรงเรียน Green School ซึ่งเป็นสถาบันชื่อดังในอินโดนีเซียที่ส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องความยั่งยืนร่วมกับผู้คนในชุมชน เมื่อมอง The Arc จากภายนอกจะพบรูปร่างเปลือกที่มีความโค้งเว้าลื่นไหลไปกับรูปทรงของธรรมชาติโดยรอบ เป็นภาพหลังคาที่มีความซับซ้อนไม่ธรรมดา สถาปนิกกล่าวว่า โครงการต้องใช้เวลาหลายเดือนในการวิจัยเพื่อกำหนดวิธีการสร้าง ตั้งแต่การเริ่มต้นสร้างแบบจำลอง ทดสอบอายุการใช้งานของไม้ไผ่ หรือวิธีการป้องกันแมลงต่างๆ ฯลฯ จนเกิดเป็นซุ้มไม้ไผ่ที่มีความสูง 14 เมตร ความยาว 19 เมตร แปลนของอาคารมีความกว้าง 23.5 เมตร […]
‘พอกันทีศักดินา ฉันจะโหวต’ การเลือกตั้งครั้งแรกของโลกเมื่อ 2,500 ปีก่อน | Now You Know
ชาวไทยหลายคนคงกำลังตั้งตารอให้ถึงวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เพราะเป็นวันเลือกตั้งใหญ่ที่เราจะได้เลือกผู้แทนเข้าไปกำหนดอนาคตของประเทศไทย ย้อนไปเมื่อหลายพันปีที่แล้ว ที่กรุงเอเธนส์ ชีวิตของคนทั้งเมืองเคยถูกปกครองโดยคนไม่กี่คน จนเกิดแนวคิดที่จะปฏิรูปด้วยการลดอำนาจการปกครองของชนชั้นสูงลง แล้วเริ่มขยายอำนาจให้คนทั่วไปมากขึ้น Now You Know ครั้งนี้จะพาทุกคนไปรู้จัก ‘การเลือกตั้งครั้งแรกของโลก’ ที่กลายเป็นสารตั้งต้นของแนวคิดประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนทั่วไปมีสิทธิ์ตัดสินใจและกำหนดทิศทางที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของตัวเอง
วัยรุ่นเกาหลีใต้ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวมากขึ้น จนภาครัฐต้องหาวิธีดึงพวกเขากลับสู่สังคม
ปัจจุบัน ‘การใช้ชีวิตสันโดษ’ หรือ ‘การแยกตัวอย่างโดดเดี่ยว’ กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมเกาหลีใต้ ถึงแม้ว่าเบื้องหน้าที่เราเห็นผ่านซีรีส์หลายเรื่องจะสะท้อนให้เห็นว่า แดนกิมจินั้นเต็มไปด้วยความเจริญในมิติต่างๆ ผู้คนดูมีชีวิตชีวา รวมถึงมีกิจกรรมมากมายที่เอื้อให้เหล่าวัยรุ่นชาวเกาหลีได้ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในกรุงโซลยังมีคนรุ่นใหม่อีกจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้าน ตัดขาดจากโลกภายนอก และออกจากบ้านเป็นครั้งคราวเท่านั้น ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้เองก็เล็งเห็นว่า การแยกตัวออกจากสังคมนั้นส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพกายและใจของเหล่าวัยรุ่น มากไปกว่านั้น ปรากฏการณ์นี้ยังมีผลกระทบทางอ้อมต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากตัวเลขของประชากรวัยทำงานจะลดลง หนึ่งสาเหตุสำคัญเกิดจากเยาวชนไม่สามารถเข้ากับสังคมได้ เพราะใช้ชีวิตอยู่กับความโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน คอลัมน์ City in Focus จึงอยากจะชวนไปดูปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการเก็บตัวของคนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้ ไปจนถึงการแก้ปัญหาของภาครัฐที่ตั้งใจพาเหล่าวัยรุ่นผู้เก็บตัวอย่างโดดเดี่ยวให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างที่ควรจะเป็น สาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นเกาหลีกลายเป็นคนเก็บตัว จากการสำรวจของรัฐบาลเกาหลีใต้พบว่า มีชาวเกาหลีอายุ 19 – 39 ปีที่ใช้ชีวิตแบบ ‘โดดเดี่ยวและสันโดษ’ โดยมีคำนิยามของคนกลุ่มนี้ว่า เป็นคนที่อาศัยอยู่แต่ในพื้นที่จำกัด อยู่ในสภาพที่ขาดการเชื่อมต่อจากสังคมภายนอก ไม่ค่อยออกไปไหนเป็นเวลานานกว่าหกเดือน และมีปัญหาในการใช้ชีวิตอย่างเห็นได้ชัด ตามรายงานของกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศและครอบครัวเผยว่า ประมาณ 3.1 เปอร์เซ็นต์ หรือ 350,000 คนของกลุ่มนี้มาจากครอบครัวยากจน เป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาปิดกั้นตัวเองตั้งแต่ยังเด็กจากการโดนบุลลี่ในสังคมโรงเรียน หรือเผชิญกับความรุนแรงในครอบครัวจนทำให้ออกจากบ้านได้ยาก ส่งผลให้เกิดปัญหาการสื่อสารและการพูดคุยกับคนนอกตามมา ทว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากปัญหาในครอบครัวอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความวิตกกังวลทางสังคม ความเครียด การตกงาน ปัญหาการหางานยาก ปัญหาด้านจิตใจ […]
Accessible Elections ออกแบบหน่วยเลือกตั้ง ให้เอื้อต่อคนทุกกลุ่มและรับรองสิทธิของประชาชน
เป็นช่วงโค้งสุดท้ายที่ต้องบอกว่าถ้าเลี้ยวผิดชีวิตเปลี่ยนแน่นอน สำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นจะออกมาในทิศทางไหน ใครจะเป็นนายกฯ และเราจะมีทีมรัฐบาลที่เข้ามาช่วยปรับเปลี่ยนแก้ไขความเป็นอยู่ของสังคมประเทศไทยให้ดีขึ้นได้จริงหรือไม่ การออกไปเลือกพรรคที่ชอบและลงคะแนนให้กับคนทำงานที่ใช่ เสียงของทุกคนจะตอบคำถามนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม จากการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา เราทุกคนคงได้เห็นข้อผิดพลาดจากการจัดการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กันมาไม่น้อย ส่งผลให้หลายคนเริ่มกังวลต่อความโปร่งใสในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก ก่อนวันเลือกตั้งใหญ่จะมาถึง คอลัมน์ Urban Sketch ขอนำปัญหาต่างๆ จากการเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงความเป็นไปได้อื่นๆ มาออกแบบการเลือกตั้งให้เกิดบรรยากาศที่เป็นมิตร เข้าถึงง่าย เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนทุกเพศทุกวัย ทั้งคนหนุ่มสาว ผู้เฒ่าวัยชรา ไปจนถึงคนพิการ ให้ออกไปใช้สิทธิ์ได้อย่างสะดวกสบาย สมศักดิ์ศรี ไม่ต้องกังวลว่าเสียงของตนจะหล่นหายหรือไม่ หน่วยเลือกตั้งที่ใครๆ ก็ไปถึง การเลือกตั้งครั้งนี้แบ่งออกเป็น 400 เขตทั่วประเทศ โดยกรุงเทพฯ มีหน่วยเลือกตั้งมากที่สุดที่ 33 เขต แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียงสะท้อนมาว่า การเดินทางไปถึงสถานที่รองรับการเลือกตั้งในหลายเขตเป็นเรื่องยากลำบาก เนื่องจากรายชื่อหรือรหัสของหน่วยเลือกตั้งไม่มีพิกัดแน่ชัด หรือผู้สูงวัยที่บางบ้านไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ต้องอาศัยติดรถกันมา บางคนต้องนั่งหลังรถกระบะปะทะกับแดดร้อนๆ กว่าจะถึงก็ใช้เวลานาน ขณะเดียวกัน เมื่อหลายครอบครัวและคนจำนวนมากใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางมายังจุดเลือกตั้ง ก็อาจส่งผลให้การจราจรติดขัดตามไปด้วย เพื่อแก้ปัญหานี้ เราจะเปิดบริการขนส่งสาธารณะฟรีหรือจัดจ้างรถที่ใช้ประจำหมู่บ้าน อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางในวันเลือกตั้ง […]
Life in Neon ชีวิตใต้แสงไฟ
ในเมืองที่ไม่เคยเงียบเหงา ความมืดที่ไม่เคยดำสนิท แสงสว่างในตอนกลางคืนจำเป็นต่อมนุษย์เสมอ ‘ป้ายไฟนีออน’ เหล่านี้กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่ ทั้งสร้างสีสัน บอกตำแหน่งหรือสถานที่ หรือแม้กระทั่งบอกยุคสมัย ขณะเดียวกันยังสามารถบอกถึงวัฒนธรรมที่ผลัดเปลี่ยนตามกาลเวลา ป้ายไฟนีออนที่อยู่ในงานชุดนี้เกิดขึ้นจากชีวิตประจำวัน สิ่งที่ผ่านเข้ามาให้เห็นแทบทุกวันของผม ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ให้ได้รู้ว่ามันเคยมีอยู่ ‘สกาลา’ หนึ่งในความทรงจำในวัยเด็กของผม โรงหนังที่เคยถูกเรียกว่าเป็นโรงหนังที่สถาปัตยกรรมงดงามที่สุดของไทย ป้ายของสกาลาจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในงานชุดนี้ แม้ปัจจุบันจะไม่มีให้เห็นแล้ว แต่ผมคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป งานชุดนี้จะยิ่งมีคุณค่ามากขึ้นไม่มากก็น้อย เพราะยุคสมัยและความทรงจำส่วนหนึ่งได้ถูกรวบรวมไว้ในงานชุดนี้แล้ว ติดตามผลงานของ สรวิศ ธุระพันธ์ ต่อได้ที่ Instagram : megamxxd และหากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected] หรือ [email protected]