LATEST
‘STROM’ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย ที่นอกจากช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังปรับแต่งการใช้งานได้ทั้งคัน
ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าที่กลายเป็นทางเลือกใหม่ของคนใช้รถใช้ถนน เพราะตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเองก็กำลังเป็นที่สนใจไม่แพ้กัน แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่มีให้เลือกไม่มากนัก และอาจดูไม่สวยงามเหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ทำให้หลายคนยังตัดสินใจซื้อไม่ได้ เพราะเข้าใจ Pain Point นี้ ‘STROM’ แบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของไทยจึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งทั้งหน้าตาและการใช้งานของตัวรถได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ขั้นตอนการประกอบเครื่องเลยทีเดียว STROM คือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบ BEV 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เพียงแค่เสียบเข้ากับปลั๊กไฟบ้านแบบ 220V โดยไม่ต้องรอให้แบตเตอรี่หมดก่อนก็ได้ นอกจากใช้พลังงานสะอาดและชาร์จไฟได้อย่างสะดวกสบาย STROM ยังเป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพียงแบรนด์เดียวที่มีบริการให้ลูกค้าปรับแต่งรถของตัวเองได้ตามใจชอบ เพื่อเสริมฟังก์ชันและปรับการใช้งานให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานตั้งแต่ที่โรงงานโดยไม่ต้องไปเสียเงินตกแต่งเพิ่มเติมจากร้านภายนอก และไม่ต้องกลัวว่าจะเสียสิทธิ์การรับประกันจากแบรนด์ สำหรับการปรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะมี 2 โปรแกรมให้เลือก คือ STROM VA Custom Project (Visual Appearance) ตกแต่งอุปกรณ์เพื่อความสวยงามด้วยการเพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งานอย่างครบทุกรูปแบบ และ STROM OP Custom Project (Optimum Performance) ที่สามารถปรับสมรรถนะของรถให้ถูกใจและเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานที่หลากหลายของผู้ใช้งาน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง stromthailand.com
‘นิรันดร์’ พวงหรีดรักษ์โลกจากผ้าห่อศพ สวดศพเสร็จ บริจาคต่อ ไม่ก่อให้เกิดขยะ
ใครจะไปคิดว่าพวงหรีดที่เราส่งไปแสดงความเสียใจในงานศพ จะสามารถแปลงร่างออกมาเป็นผ้าห่อศพผืนใหญ่สำหรับใช้งานต่อหลังจบงานได้ และ ‘นิรันดร์’ คือเจ้าของไอเดียสุดล้ำนี้ ก่อนหน้านี้มีร้านพวงหรีดหลายเจ้าที่พยายามปรับรูปแบบของสินค้าจากเดิมที่เป็นเพียงดอกไม้สดให้หลากหลายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้ พัดลมตั้งพื้น เครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ ส่วนนิรันดร์เป็นแบรนด์พวงหรีดน้องใหม่ที่เพิ่งกระโดดเข้ามาในวงการได้ไม่นาน แต่ด้วยคอนเซปต์สุดกรีนอย่างการนำผ้าห่อศพมาจัดเป็นพวงหรีดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นิรันดร์จึงกลายเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว พวงหรีดผ้าห่อศพจากนิรันดร์มีให้เลือกทั้งหมด 2 ขนาด คือ พวงหรีดแบบใช้ผ้า 5 ผืน ราคา 1,900 บาท และพวงหรีดแบบใช้ผ้า 10 ผืน ราคา 2,900 บาท ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อตามการใช้งาน ความเหมาะสม และงบประมาณส่วนตัวได้ โดยทางนิรันดร์ยังมีบริการพรินต์ป้ายติดพวงหรีด และส่งสินค้าให้ฟรีถึงงานศพในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากสั่งก่อนเวลา 15.00 น. ของทุกวัน ทางร้านสามารถจัดส่งให้ภายในวันเดียวกันได้ ส่วนใครที่กังวลว่าคนรับจะไม่รู้ว่าพวงหรีดที่เราส่งไปทำมาจากผ้าห่อศพที่สามารถใช้งานหรือบริจาคต่อได้ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะพวงหรีดทุกอันจะมีป้ายแขวนที่บอกรายละเอียดของผ้าห่อศพ รวมถึงแนะนำสถานที่บริจาคติดไปด้วย สำหรับใครที่ไม่มีเวลาไปบริจาคผ้าห่อศพด้วยตัวเอง ก็สามารถแจ้งทางเพจเฟซบุ๊กของทางนิรันดร์เพิ่มเติมได้เลย เพราะนอกจากที่นิรันดร์จะขายพวงหรีดจากผ้าห่อศพแล้ว ทางแบรนด์ยังเปิดเพจเฟซบุ๊กในชื่อ ‘ห่มบุญ’ สำหรับเป็นสายพานบุญในการนำส่งผ้าห่อศพไปยังหน่วยงานที่ต้องการด้วย ใครสนใจอยากสั่งซื้อพวงหรีดผ้าห่อศพจากทางนิรันดร์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Niran นิรันดร์ พวงหรีดรักษ์โลก
ซัพพอร์ตท้องถิ่น เสพงานคราฟต์เมืองนคร กับเทศกาล CREATIVE NAKHON วันที่ 6 – 9 ก.ค. 66 ที่บวรนคร จ.นครศรีฯ
นครศรีธรรมราช คือหนึ่งในจังหวัดที่มีซีนงานสร้างสรรค์โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม หรืองานคราฟต์ ยกตัวอย่าง หัตถกรรมจักสานจากกระจูด ร้อยลูกปัดมโนราห์ ผ้ามัดย้อม ผ้าบาติก Urban Creature ชวนคนรักงานคราฟต์ไปเทศกาลงานศิลป์เมืองนครศรีธรรมราช ‘CREATIVE NAKHON 5’ (เทศกาลครีเอทีฟนคร ครั้งที่ 5) ภายใต้แนวคิด ‘คลั่งคราฟท์’ โดยกลุ่มครีเอทีฟนคร ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช บวรนคร ภายใต้การสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA, และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB และภาคีเครือข่าย ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อผลักดันเทศกาลครีเอทีฟนครสู่การเป็น Flagship Event ตามแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการจัดงานเทศกาล (Festival Economy) ปั้นนครศรีธรรมราชสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองและชุมชนอย่างยั่งยืน ภายในงานมี 5 นิทรรศการงานคราฟต์พื้นเมือง ดังนี้ – Local Creative นิทรรศการงานสร้างสรรค์ที่มีโจทย์ให้นักสร้างสรรค์ในท้องถิ่นนำแรงบันดาลใจจากทักษะงานฝีมือในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ผลงาน – The Craft Master […]
Urban Eyes 41/50 เขตหลักสี่
ภาพจำเขตหลักสี่ของใครหลายคนน่าจะเป็นเขตที่มีศูนย์ราชการเต็มไปหมด ตอนแรกแอบท้อหน่อยว่าจะไปถ่ายภาพตรงไหนดี แต่พอหาข้อมูลก็ยิ่งท้อหนักเข้าไปใหญ่ เพราะไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับเขตนี้เท่าไหร่ โชคดีหน่อยที่ใน Google Maps มีฟังก์ชันบอกจำนวนความหนาแน่นประชากร ทำให้เราพอคาดเดาได้ว่าตรงไหนเป็นแหล่งชุมชน เพราะส่วนใหญ่คนมักจะออกมาทำกิจกรรมกัน และทำให้เราได้ภาพถ่ายดีๆ ไปด้วย ซึ่งหลังจากลงพื้นที่แล้ว เราก็รู้สึกเซอร์ไพรส์เหมือนกันว่าหลักสี่มีอะไรมากกว่าการเป็นแหล่งศูนย์ราชการ วัดหลักสี่ ━ วัดใหญ่ที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ เจดีย์ที่อยู่ข้างหลังยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่เราเข้าไปกราบไหว้ที่ตัววิหารด้านหน้าได้ บรรยากาศรอบนอกมีต้นไม้เป็นแนวยาว ใกล้ๆ กันนั้นเป็นห้างฯ ใหญ่ IT Square ชุมชนหลักสี่พัฒนา99 ━ ชุมชนข้างหลังห้างฯ IT Square ตัวพื้นที่ติดกับคลองเปรม ประชากรบริเวณนี้มีบ้านที่ร่วมอยู่ในโครงการบ้านมั่นคง ถ้าชาวบ้านต้องการสร้างบ้านใหม่ก็ยื่นข้อเสนอขอให้รัฐสร้างได้ โดยต้องจ่ายรายเดือนไปเรื่อยๆ จนกว่าค่าสร้างบ้านจะครบ แต่ถึงแม้จะจ่ายครบแล้วก็ไม่ได้โฉนดที่ดินนะ เพราะตรงนี้เป็นพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ประชาชนมาอยู่เฉยๆ บางบ้านไม่ต้องการจ่ายรายเดือนก็ปฏิเสธโครงการบ้านมั่นคงได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นบ้านไม้แบบเก่าและบ้านที่เป็นตึกสไตล์ร่วมสมัยสลับกันไปมาตลอดเส้นทางชุมชน ตลาดท่าทราย ━ แหล่งนัดพบของชุมชน มีทั้งตลาดเช้าและช่วงเย็นเป็นตลาดนัดกางร่ม สนามฟุตบอลพื้นหญ้าขนาดใหญ่ สนามฟุตซอล สนามแบดมินตันใต้หลังคา รวมถึงสนามเด็กเล่นให้เด็กในชุมชนมารวมตัวเล่นกันอย่างสนุกสนาน ตลาดเมืองทอง 1 ━ ตลาดที่มีหลังคาปิดมิดชิด แสงช่วงเย็นมักส่องลงมาทางข้างหน้าตัวตลาด เกิดเป็นซีนที่สวยงาม สวนสาธารณะบึงสีกัน ━ […]
Day/DM Cafe คาเฟ่ย่านเยาวราช โดยคู่รักนักเพศวิทยาที่อยากให้คนกล้าคุยเรื่องเพศตอนกลางวัน
ตอนที่เดินไปยังสถานที่นัดหมาย ทุกตึกบนถนนเส้นนั้นหน้าตาดูเหมือนกันไปหมด แต่สิ่งที่ทำให้เรามั่นใจว่าประตูบานนี้เป็นของร้าน Day/DM Cafe แน่นอนคือ ธงสีรุ้งและสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความหลากหลายทางเพศที่ประดับประดาอยู่ รวมถึงโลเคชันที่อยู่ตรงข้ามศาลเจ้าหลีตีเมี้ยวตามคำบอกเล่าของเจ้าของร้าน พอเดินเข้าไปในร้าน ความรู้สึกที่ค่อยๆ เข้ามาเกาะในใจเราคือ บรรยากาศอบอุ่นที่เหมือนกับเรามาเที่ยวบ้านเพื่อน อาจจะเป็นเพราะการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ กลิ่นหอมจากเมล็ดกาแฟ รวมถึงเจ้าของร้านทั้งสองที่ชวนคุยอย่างสนิทสนม ‘เอช-ประติมา รักษาชนม์’ และ ‘แต๋ม-วิสุทธิ์รัตน์ รุ่งนพคุณศรี’ คือคู่รักนักเพศวิทยาเจ้าของที่นี่ ผู้ร่วมกันสร้างคาเฟ่เล็กๆ แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน พื้นที่ปลอดภัยที่ว่าคือ พื้นที่ที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาปรึกษาพูดคุยถึงหัวข้อยากๆ ที่ไม่รู้จะไปคุยกับใครอย่างเรื่องเพศและเรื่องเซ็กซ์ ต่อให้เป็นเรื่องรสนิยมทางเพศ ประจำเดือนไม่มา เคยมีอะไรกับแฟนแล้วไม่อยากมี อยากลองเล่น Sex Toy ฯลฯ ทั้งสองคนก็พร้อมให้คำปรึกษาจากองค์ความรู้ด้านนี้ที่ร่ำเรียนมา คาเฟ่ที่เกิดจากความสนใจเรื่องเพศ ย้อนกลับไปหลายปีก่อนตอนที่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่ เอชและแต๋มเรียนจบในคณะที่ตัวเองวาดหวังไว้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเส้นทางของทั้งคู่ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เอชที่เรียนคณะครุศาสตร์ เอกศิลปะ ต้องประสบกับปัญหาเงินๆ ทองๆ จนต้องทำงานส่งตัวเองเรียน บวกกับเคยถูกบุลลี่เพียงเพราะรูปร่างหน้าตาไม่ตรงตามมาตรฐานที่สังคมตั้งไว้ แถมพอจบออกมาทำงานในสำนักพิมพ์ก็ถูกกดเงินเดือน ส่วนแต๋มที่เรียนจบวิศวกรรมอุตสาหการ ก็ต้องไปเผชิญสังคมการทำงานที่ปิดกั้นโอกาสผู้หญิง ทั้งที่เธอมีความสามารถ อยากลองทำอะไรหลายๆ อย่าง แต่แค่เพราะ ‘เพศ’ ที่เป็นเหมือนเพดานแก้วบางๆ ทำให้หญิงสาวไม่สามารถก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้ ชีวิตของทั้งสองคนพบเจออะไรหลายๆ […]
‘SCOPE Promsri’ คอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท ที่ยก Cenotes จากเม็กซิโกมาไว้ใจกลางเมือง
ปัญหาของการอยู่อาศัยในเมืองใหญ่คือการถูกล้อมรอบด้วยตึกและอาคาร จนอาจทำให้ห่างไกลจากธรรมชาติ แต่ ‘SCOPE Promsri’ ได้คำนึงถึงความสำคัญในการอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จึงได้ยกแหล่งธรรมชาติที่สวยงามมาไว้ภายในโครงการ เพื่อเป็นพื้นที่แห่งความสงบ ใช้หลบหนีความวุ่นวายในเมือง SCOPE Promsri คือคอนโดมิเนียมในซอยสุขุมวิทที่ตั้งใจให้ผู้พักอาศัยสัมผัสถึงธรรมชาติได้มากขึ้นแม้อยู่ใจกลางเมือง พื้นที่ต่างๆ ภายในโครงการจะมีร่มเงาจากต้นไม้พืชเขตร้อน และความสะดุดตาตรงบริเวณพื้นที่ส่วนกลางด้วย ‘Cenote Court’ ซึ่งเปรียบเหมือนกับโอเอซิสจากเขตร้อนที่เป็นพื้นที่สำหรับสูดอากาศและพักผ่อนหย่อนใจด้วยเสียงของน้ำ ทั้งหมดนี้ได้แรงบันดาลใจจาก ‘Cenotes’ สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติคาบสมุทรยูคาทาน ในประเทศเม็กซิโก ดีไซน์ที่สวยงามไม่ได้อยู่แค่การตกแต่งเท่านั้น แต่วัสดุ อุปกรณ์ และเฟอร์นิเจอร์ภายในโครงการยังคำนึงถึงการออกแบบ คุณภาพ และฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบถ้วน ผ่านการคัดสรรจากแบรนด์ชั้นนำตามมาตรฐานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ ตู้เย็น อ่างล้างจาน โซฟา และโต๊ะรุ่นพิเศษที่แบรนด์ Ligne Roset ออกแบบและผลิตให้ SCOPE Promsri ที่เดียวเท่านั้น
ไต้หวันขยายสิทธิให้คู่รัก LGBTQ+ รับเลี้ยงบุตรบุญธรรมร่วมกันได้
เมื่อพูดถึงการเปิดกว้างเรื่อง ‘ความเท่าเทียมทางเพศ’ ของประเทศในภูมิภาคเอเชีย ‘ไต้หวัน’ น่าจะเป็นประเทศที่โอบรับความหลากหลายทางเพศมากกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ เพราะเป็นประเทศแรกที่ให้คู่รัก LGBTQ+ แต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่สิทธิที่ชาว LGBTQ+ ในไต้หวันได้หลังจากแต่งงานยังไม่เท่าเทียมกับคู่แต่งงานชายหญิง เพราะกฎหมายยังห้ามไม่ให้คู่แต่งงานเพศเดียวกันรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมร่วมกัน เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ไต้หวันพูดเรื่องความเสมอภาคได้อย่างไม่เต็มปาก แต่ล่าสุดไต้หวันได้ผลักดันการแก้กฎหมายที่ยังละเมิดความเท่าเทียมทางเพศ โดยอนุญาตให้คู่รัก LGBTQ+ รับสิทธิเช่นเดียวกับคู่รักต่างเพศในทุกๆ ด้าน ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ไต้หวันกลายเป็นประเทศที่มีความเสมอภาคมากที่สุดในเอเชีย ‘ไต้หวัน’ ประเทศแรกในเอเชียที่ให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานกันได้อย่างถูกกฎหมาย แต่เดิมการแต่งงานของเพศเดียวกันยังเป็นข้อห้ามทางด้านกฎหมายในไต้หวัน จนกระทั่งปี 2560 ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาและตัดสินว่ากฎหมายข้อนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิและความเสมอภาคของพลเมืองตามหลักรัฐธรรมนูญ รัฐสภาไต้หวันจึงต้องดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้เป็นไปตามคำตัดสินของศาล ทำให้ในปี 2562 รัฐสภาไต้หวันได้ผ่านร่างกฎหมายให้คู่ชีวิตเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ แม้จะมีเสียงคัดค้านจากฝ่ายอนุรักษนิยม แต่ไต้หวันก็สามารถเป็นประเทศแรกในเอเชียที่อนุญาตให้คู่รัก LGBTQ+ แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่งงานกับชาวต่างชาติได้ถ้าประเทศคู่รักรองรับสมรสเท่าเทียม การสมรสเท่าเทียมทำให้คู่รัก LGBTQ+ ได้รับสิทธิเกือบเท่าเทียมคู่รักชายหญิง แต่พวกเขายังถูกจำกัดสิทธิเรื่อง ‘การแต่งงานกับชาวต่างชาติ’ และ ‘การรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม’ ที่ยังคงจำกัดสิทธิบางอย่างอยู่ เพราะตามกฎหมายเดิม ชาว LGBTQ+ ในไต้หวันจะแต่งงานกับชาวต่างชาติได้ก็ต่อเมื่อ คู่รักมาจากประเทศที่มีกฎหมายรองรับสมรสเท่าเทียมเท่านั้น เช่น ถ้าคู่รักเป็นชาวไทยก็จะไม่สามารถแต่งงานกันได้ เพราะประเทศไทยยังไม่บังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม แต่เมื่อเดือนมกราคม 2566 การสมรสเท่าเทียมของไต้หวันก็มีความเท่าเทียมมากขึ้น หลังจากกฎหมายเพิ่มสิทธิรองรับการแต่งงานคู่รัก […]
ร่วมออกแบบนโยบายเพื่อยกระดับ ‘การท่องเที่ยวชุมชนของสระบุรี’ ให้เป็นเศรษฐกิจที่สร้างสรรค์และยั่งยืน
‘สระบุรี’ คือจังหวัดเมืองรองในภาคกลางที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก มีพื้นที่ราบสลับกับพื้นที่ภูเขา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมผสมผสานกับพื้นที่การเกษตร ทว่านอกจากเป็นเมืองทางผ่านที่สำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศแล้ว สระบุรียังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์กระจายตัวอยู่มากมาย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะชุมชนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในลุ่มแม่น้ำป่าสักของสระบุรี เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพย้ายถิ่นมาไม่น้อยกว่า 150 ปี ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวบรวมความหลากหลายของชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ไทยวน ลาวเวียง พวน มอญ และจีน ทำให้สระบุรีมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ที่กำลังรอให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสด้วยตัวเอง ทั้งนี้ สระบุรีและอีก 3 จังหวัดในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก ได้แก่ เพชรบูรณ์ ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา กลับต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการท่องเที่ยวชุมชนในมิติต่างๆ เช่น ชุมชนไม่ได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยว เพราะส่วนใหญ่จะตกอยู่ในมือภาคธุรกิจขนาดใหญ่ รวมไปถึงการสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์จากทุนทางวัฒนธรรม การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การเปลี่ยนกรอบความคิดของคนในชุมชน การสร้างผู้ประกอบการเชิงสร้างสรรค์ และการพัฒนามาตรฐานของสินค้าและบริการต่างๆ เป็นต้น เพื่อยกระดับและพัฒนา ‘การท่องเที่ยวชุมชน’ ของสระบุรีให้กลายเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทาง Thailand Policy Lab และ UNDP Accelerator Lab Thailand จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้จัดกิจกรรม ‘Policy Innovation […]
‘Farmille Plant-based Yogurt’ โยเกิร์ตไทยจากถั่วชิกพีและถั่วลันเตา ให้โปรตีนสูง น้ำตาลต่ำ เป็นวีแกน 100%
ในปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยเริ่มให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาหารประเภทแพลนต์เบส (Plant-based) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใครหลายคนให้ความสนใจตามไปด้วย เพราะเป็นอาหารที่ทำจากพืช 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์ ‘Farmille’ ฟู้ดสตาร์ทอัพรายใหม่ของไทยที่สนใจเรื่องแพลนต์เบสเป็นทุนเดิมได้เปิดตัว ‘Farmille Plant-based Yogurt’ โยเกิร์ตระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ตลาดอย่างแตกต่าง ด้วยการชูจุดเด่นการเป็นแพลนต์เบสโยเกิร์ตที่ทำจากถั่วชิกพีและถั่วลันเตารายแรกของไทย ซึ่งเรียกว่าเป็นวีแกนแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ Farmille Plant-based Yogurt ผลิตจากกรรมวิธีการบ่มหมักโยเกิร์ตด้วยนวัตกรรมและสูตรลับเฉพาะของแบรนด์ ทำให้โยเกิร์ตมีทั้งความอร่อย หอมมัน ทานง่าย ในขณะที่เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มและมีความคงตัว ทั้งยังถือเป็นแพลนต์เบสโยเกิร์ตแบรนด์แรกที่การันตีว่าเป็นโยเกิร์ตโปรตีนสูง โดยมีโปรตีนต่อ 1 หน่วยบริโภคมากถึง 10 กรัม นอกจากนี้ Farmille Plant-based Yogurt ยังถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้รักสุขภาพได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม่มีคอเลสเตอรอล มีดรรชนีน้ำตาลต่ำ มีโปรไบโอติกช่วยในการขับถ่าย และอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ใครสนใจอยากลองชิม Farmille Plant-based Yogurt หาซื้อได้ตามร้านสุขภาพ Health Shop และ Supermarket ชั้นนำทั่วไป รวมถึงช่องทางออนไลน์ของทาง Farmille ในราคาถ้วยละ 55 […]
ดับร้อนกับ ‘Ice Da Yo-yo’ เครื่องทำไอศกรีมแบบพกพาที่ทำได้โดยการเล่นโยโย่ 3 นาที
เมื่ออากาศร้อนขึ้น ผู้ปกครองอาจจะต้องเจอปัญหาที่เด็กๆ เรียกร้องขอให้ซื้อไอศกรีมเพื่อดับร้อนอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าหากไม่อยากเสียเงินบ่อยๆ เราขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อให้เด็กๆ ได้ทำไอศกรีมด้วยตัวเอง แถมยังได้ออกกำลังกายแขนด้วย ‘Takara Tomy’ ผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับ ‘Hello Kitty’ ในการผลิต ‘Ice Da Yo-yo’ เครื่องทำไอศกรีมแบบพกพาที่นอกจากจะใช้งานได้ทุกที่แล้ว ยังทำหน้าที่เป็นของเล่นให้เด็กๆ ได้สนุกกับการเล่นโยโย่อีกด้วย ภายใน Ice Da Yo-yo จะถูกแบ่งออกเป็นสองช่อง ช่องหนึ่งสำหรับใส่ส่วนผสมในการทำไอศกรีม อีกช่องสำหรับใส่น้ำ น้ำแข็ง และเกลือ เพื่อทำให้ส่วนผสมนั้นแข็งตัวเป็นไอศกรีมหลังจากเล่นโยโย่เพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น การทำงานของ Ice Da Yo-yo นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทำไอศกรีมในถุงที่เป็นกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ได้ทำความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ และต้นแบบของรูปร่างอุปกรณ์นี้ก็ได้มาจากโยโย่สไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ทำขึ้นจากลูกโป่งน้ำผูกกับยางยืดนั่นเอง เจ้าเครื่องทำไอศกรีมโยโย่มีให้เลือกถึง 4 คาแรกเตอร์จาก Sanrio ได้แก่ ‘Cinnamoroll’, ‘Hello Kitty’, ‘My Melody’ และ ‘Kuromi’ มีราคาอยู่ที่ตัวละ 2,640 เยน หรือประมาณ 650 […]
สำรวจนิยามครอบครัวหลากหลายผ่าน 5 รสชาติไอศกรีมที่ Diversity Cafe
ช่วงสัปดาห์ส่งท้ายเดือน Pride Month เราขอชวนทุกคนไปค้นหานิยามครอบครัวในแบบฉบับของตัวเองที่ ‘Diversity Cafe’ นิทรรศการว่าด้วยเรื่อง ‘ครอบครัวหลากหลาย’ ภายใต้รูปแบบคาเฟ่ไอศกรีม เพื่อส่งเสริมสิทธิของทุกคนและทุกเพศอัตลักษณ์กับการสร้างครอบครัวในรูปแบบของตัวเอง นอกจากผู้เข้าร่วมงานจะได้ชิมไอศกรีม 5 รสชาติใหม่ๆ ที่สะท้อนรูปแบบครอบครัวในฝันของแต่ละคนแล้ว ภายในงานยังเล่าเรื่องของ 6 ครอบครัวที่มีนิยามแตกต่างกันเพื่อสะท้อนความหลากหลายในสังคมไทย รวมไปถึงปัญหาเชิงนโยบายและค่านิยมของสังคมที่มองคำว่าครอบครัวในนิยามของพ่อ-แม่-ลูกเท่านั้น นิทรรศการ Diversity Cafe จัดโดย Thailand Policy Lab ห้องปฏิบัติการนโยบาย ก่อตั้งโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNFPA Thailand) สยามพิวรรธน์ วอร์นเนอร์ มิวสิค ประเทศไทย และแสนสิริ จุดแรกที่นิทรรศการธีมคาเฟ่ไอศกรีมเตรียมไว้ต้อนรับเราคือ พื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ ‘ครอบครัวยุคใหม่ในนิยามของฉัน’ ที่พาไปสำรวจนิยามของครอบครัวยุคปัจจุบันที่ไม่ได้จำกัดแค่พ่อ-แม่-ลูกเหมือนแต่ก่อน แต่มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น บางครอบครัวผูกพันกันทางสายเลือด ขณะที่บางครอบครัวอาจเป็นคู่รักเพศหลากหลายที่กฎหมายยังไม่รองรับ ครอบครัวที่อยู่กับเพื่อน ครอบครัวที่อยู่กับสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่ตัวเราคนเดียวก็เป็นครอบครัวให้ตัวเองได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลและสถิติเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย เช่น จำนวนคนอยู่คนเดียวที่เพิ่มสูงขึ้น คนไทยอายุยืนขึ้น คนไทยแต่งงานช้าลง คนไทยมีลูกน้อยลง ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่า ครอบครัวของสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก […]
‘นินจา 4MIX’ การเป็นตัวเองในวงการบันเทิง ที่อยากให้มองคนที่ความสามารถ
“ทุกคนพิสูจน์ตัวเองได้ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องเพศ เพราะไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ทุกคนก็เป็นคนเหมือนกัน ไม่อยากให้น้อยใจว่าฉันเกิดมาเป็นแบบนี้มันติดลบ” ในวันที่ T-POP กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ในฐานะ T-POP Stan คนหนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวง ‘4MIX’ ถือเป็นไอดอลวงแรกๆ ของยุคนี้ที่เป็นคนจุดประกายความหวังของเราขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังดังไกลติดตลาดจนมีแฟนคลับจำนวนมากจากฝั่งลาตินอเมริกา ความน่าสนใจของ 4MIX ไม่ใช่แค่วงไอดอลมากความสามารถที่มีเพลงติดหูคนไทยตั้งแต่เพลงแรกที่เดบิวต์สเตจและครองใจใครต่อใครด้วยความเป็นตัวเอง แต่หนึ่งในสมาชิกอย่าง ‘นินจา-จารุกิตต์ คําหงษา’ ก็ยังเป็นคนในคอมมูนิตี้ LGBTQ+ ที่พยายามผลักดันเรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียมมาโดยตลอด ก่อนส่งท้าย Pride Month เราได้นัดหมายพูดคุยกับ ‘นินจา 4MIX’ ถึงตัวตนของศิลปินคนนี้ ผ่านเรื่องเล่าชีวิตวัยเด็ก เส้นทางศิลปินในปัจจุบัน รวมไปถึงการค้นหาความหวังในอนาคตผ่านบทสัมภาษณ์คอลัมน์ Think Thought Thought ก่อนจะมาเป็นนินจาในวันนี้ ชีวิตวัยเด็กของคุณเป็นอย่างไร นินเป็นเด็กบ้านนอกมาก แบบที่ไม่ใช่แค่อยู่ต่างจังหวัดแต่มันคือต่างอำเภอและอยู่นอกตัวอำเภอออกไปอีก แต่ดีหน่อยที่มีคุณแม่เป็นคุณครู เลยค่อนข้างมีโอกาสมากกว่าหลายๆ คนในหมู่บ้าน เพราะเวลามีงานต่างๆ ในโรงเรียน แม่ที่เป็นครูจะเอาลูกตัวเองไปเต้นไปรำ จากสิ่งนี้ทำให้เราซึมซับมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นเด็กที่ขับเคลื่อนด้วยกิจกรรมล้วนๆ อย่างตอนที่เราสอบติดโรงเรียนประจำอำเภอ 2 โรงเรียนพร้อมกัน โรงเรียนหนึ่งเป็นเลิศด้านวิชาการกับอีกโรงเรียนที่เน้นกิจกรรม […]