‘พื้นที่สาธารณะ’ กลายเป็นวาระสำคัญที่หลายเมืองทั่วโลกหยิบยกขึ้นมาใช้เป็นแนวทางพัฒนาเมือง เห็นได้จากการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของหลายๆ สถานที่ที่มีอยู่แล้วให้โอบรับคนทุกกลุ่ม และดึงดูดให้คนอยากออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น
หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่เรามองว่าน่าสนใจและอยากให้มีในกรุงเทพฯ คือ Outdoor Library หรือห้องสมุดกลางแจ้ง ที่ประเทศเกาหลีใต้หยิบมาปรับใช้กับพื้นที่สาธารณะในเมือง เช่น โซลพลาซา หรือริมคลองชองกเยชอน โดยเปิดพื้นที่ในช่วงหน้าร้อนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ให้คนมานั่งชิล อ่านหนังสือ โดยจะมีการจัดกิจกรรม การแสดง และแสดงดนตรีร่วมด้วย
ด้วยเหตุนี้ คอลัมน์ Urban Sketch จึงลองมองหาสถานที่และพื้นที่ในเมืองที่มีศักยภาพในการจัดกิจกรรมแบบนี้มานำเสนอ เพราะแค่จัดเตรียมเสื่อ บีนแบ็ก เก้าอี้ กองหนังสือ เฟอร์นิเจอร์ที่ถอดประกอบกับเคลื่อนย้ายได้ และอาจจะเซตมุมแลกหนังสือให้ผู้คนมาแชร์หรือส่งต่อเล่มโปรดเพิ่มเติมก็เพียงพอแล้ว
เพราะคงดีไม่น้อยเลยถ้าเมืองจะมีพื้นที่สาธารณะให้คนมาพบปะ ทำกิจกรรม รวมถึงเข้าถึงการอ่านและหนังสือได้มากขึ้น
สกายวอล์ก
เปลี่ยนพื้นที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าให้เป็นมุมของนักอ่าน

ปกติหน้าที่ของสกายวอล์กคือ การเป็นเส้นทางเชื่อมต่อ อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสถานีใหญ่ๆ ที่มีคนพลุกพล่าน เชื่อมกับเหล่าห้างสรรพสินค้า เช่น สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เป็นต้น
ด้วยความที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง มีโครงสร้างที่คลุมแดดคลุมฝน เราจึงมองว่าบริเวณนี้มีศักยภาพในการปรับให้เป็นห้องสมุดกลางแจ้ง ยิ่งโดยเฉพาะตรงพื้นที่ทางเชื่อมที่มีประติมากรรมใบบัวของสถานีสนามกีฬาฯ และพื้นที่ทางเชื่อมตรงบริเวณห้างฯ เอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์ของสถานีพร้อมพงษ์ น่าจะจัดกิจกรรมได้แบบไม่กระทบการสัญจรมากนัก ซึ่งถ้าหากร่วมมือกับห้างฯ ได้ก็น่าจะขยับขยายพื้นที่จัดกิจกรรมได้อีก
ทางเดินริมคลอง
นั่งพักผ่อนหย่อนใจ อ่านหนังสือไป ซึมซับวิวริมน้ำไป

อีกพื้นที่ที่น่าสนใจในแง่ความโรแมนติก ไวบ์ดี คงหนีไม่พ้นทางเดินริมคลองคล้ายๆ ริมคลองชองกเยชอนที่เกาหลีใต้ทำ
เพราะในกรุงเทพฯ เองก็มีพื้นที่ลักษณะนี้อยู่ประมาณ 2 – 3 แห่งที่ดูมีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นริมคลองโอ่งอ่าง ที่ช่วงหลังมีการจัดทำ Wall Art ให้ไปเดินส่องตึกรามบ้านช่อง และทางเดินริมคลองผดุงกรุงเกษม ที่ร่มรื่น กว้างขวาง คิดว่าถ้าเป็นช่วงแดดร่มลมตกบรรยากาศน่าจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว
พื้นที่ใต้ทางด่วน
สร้างชีวิตชีวาให้พื้นที่ที่ไม่ถูกใช้งานด้วยเหล่าหนังสือ

นอกจากพื้นที่สาธารณะที่มีอยู่แล้ว ในกรุงเทพฯ มีพื้นที่รกร้างว่างเปล่าที่ไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มศักยภาพอยู่ นั่นคือ พื้นที่ใต้ทางด่วนที่บางแห่งอยู่ในโซนใจกลางเมือง เดินทางง่าย เป็นทำเลทองด้วยซ้ำไป
ที่ผ่านมาเราเห็นว่ามีโครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใต้ทางด่วนให้เป็นที่จอดรถยนต์ สวนสาธารณะ หรือลานออกกำลังกายบ้างแล้ว ซึ่งจากพื้นที่ตรงนี้เอง และรวมถึงพื้นที่ว่างเปล่าที่ยังไม่มีโครงการอะไรแต่น่าต่อยอด ก็เหมาะกับการนำมาจัดกิจกรรมห้องสมุดกลางแจ้งได้ ยกตัวอย่าง สวนใต้ทางด่วนตรงอุรุพงษ์ เป็นต้น
สะพานเขียว
ปรับทางเดินลอยฟ้าเชื่อมสวนให้เป็นที่พบปะของคนรักสิ่งพิมพ์

ส่วนพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่เราอยากเจาะจงเป็นพิเศษ เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะที่บรรยากาศดี ทำหน้าที่เป็นเส้นทางเชื่อมสวนสาธารณะระหว่างสวนลุมฯ และสวนเบญฯ แถมด้านล่างก็เป็นชุมชนที่มีร้านรวงขายของ
คงจะดีไม่น้อยถ้าใช้พื้นที่ตรงนี้จัดกิจกรรมห้องสมุดกลางแจ้ง โดยจัดสรรปันส่วนพื้นที่ให้ชัดเจน จะได้ไม่เป็นการรบกวนการสัญจรของคนเดิน คนวิ่ง วีลแชร์ และจักรยาน เพราะนอกจากความร่มรื่นแล้ว กิจกรรมนี้น่าจะเชิญชวนให้ผู้คนออกมาใช้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเมืองควบคู่กันไปด้วย
รถเข็นแผงลอย
สร้างห้องสมุดขนาดย่อมให้คนในชุมชนเข้าถึงได้ง่ายๆ

ส่วนสุดท้ายเรามองเป็นกิจกรรมที่จัดได้ในพื้นที่ทั่วๆ ไป โดยเฉพาะในชุมชนที่มีคนจำนวนมากอาศัยอยู่แต่ไม่มีห้องสมุดหรือการเข้าถึงหนังสือที่ง่าย เลยออกมาเป็นห้องสมุดในรูปแบบรถเข็นแผงลอยที่จะเข้าไปประจำการเป็นมุมหนังสือจิ๋วให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ในชุมชนมานั่งอ่านที่โต๊ะม้านั่งในวันหยุด เป็นต้น
ที่ผ่านมาเคยมีโปรเจกต์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้ว นั่นคือ Biblio-dis-theque ที่ ‘เกฟ-วิรากานต์ ระคำมา’ หนึ่งในทีมงานของ ‘Urban Studies Lab (USL)’ เคยทำไว้ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการอ่านให้เด็กๆ ในชุมชนมากขึ้นผ่านห้องสมุดในรูปแบบรถเข็นเคลื่อนที่ ใครที่สนใจลองอ่านแนวคิดของโปรเจกต์ที่นี่ urbancreature.co/biblio-dis-theque