Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop เชียงใหม่ - Urban Creature

ทุ่งนาสีเขียวกว้างไกลสุดสายตา กลิ่นดินหลังฝนตกโชยมากับสายลมแผ่ว ใต้เงาไม้ของต้นลำไยที่ปลูกอยู่รายล้อม บ้านไม้ชั้นเดียวตั้งตระหง่านอยู่ปลายคันนา มองภายนอกดูคล้ายที่อยู่อาศัยทั่วไป แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นโต๊ะ เก้าอี้ไม้ บาร์ขนม และห้องที่มีหนังสือนับร้อยซ่อนอยู่ภายใน

ที่นี่คือ Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop คาเฟ่ขนมอบและร้านหนังสืออิสระที่ตั้งอยู่ในชุมชนสันผักหวาน ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่แค่ 15 นาที ที่นอกจากจะมีกลิ่นขนมอบกับหนังสือดีๆ คอยต้อนรับลูกค้าทุกวัน วิวทุ่งนาที่ทอดยาวรอบด้านก็เหมาะแก่การมาใช้เวลาทอดสายตาเพลินๆ ในวันหยุดไม่เบา

นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ ‘อัง-ชฏิลรัตน์ ดอนปัน’ อดีตกราฟิกดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ และ ‘แขก-ปิยศักดิ์ ประไพพร’ หนุ่มลำพูนอดีตพนักงานร้านหนังสืออิสระ ตัดสินใจปล่อยมือจากงานที่ทำมาหลายปีแล้วมาก่อร่างสร้างฝันที่ปลายคันนาแห่งนี้แทน

Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop คาเฟ่และร้านหนังสืออิสระ เชียงใหม่

คาเฟ่ของแม่ญิงเจียงใหม่ x ร้านหนังสือของบ่าวหละปูน

เรื่องราวก่อนจะมาเปิดร้านด้วยกันนั้นสุดแสนจะเรียบง่าย : แขกกับอังเป็นแฟนกัน คบกันมาหลายปี เมื่อตั้งใจว่าจะสร้างชีวิตร่วมกันแล้วทั้งคู่จึงมองหาพื้นที่ปลูกบ้านเพื่อลงหลักปักฐาน แขกที่ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นพนักงานประจำร้านเล่า ร้านหนังสืออิสระย่านนิมมานฯ ก็ได้รับการแนะนำให้รู้จักพื้นที่ตรงนี้โดยคนรู้จัก เขาจำได้ว่าบรรยากาศในวันที่มาดูไม่ต่างจากวันนี้มากนัก พื้นที่โล่งกว้าง รายล้อมไปด้วยสีเขียวของทุ่งนาและต้นลำไยของชาวบ้านสันผักหวาน-เรียบง่ายแค่นั้น

แต่ความเรียบง่ายแค่นั้นก็ทำให้ทั้งสองพอเห็นภาพชีวิตคู่ พวกเขายังมองว่าที่ตรงนี้ทำเลดี ไม่ไกลจากอำเภอเมืองเกินไป “ในแง่การอยู่อาศัยเราต้องการสถานที่ที่เงียบสงบหน่อย ซึ่งหาที่แบบนี้จากในเมืองได้ยาก” แขกเล่าเหตุผล ก่อนอังจะเสริมต่อ

“ก่อนหน้านี้เราเช่าทาวน์เฮาส์ในเมือง แล้วเจอปัญหาเรื่องเสียงที่ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยโอเค พอมาอยู่ตรงนี้มันค่อนข้างเงียบ เราเลยรู้สึกว่าได้พักผ่อนจริงๆ”

Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop คาเฟ่และร้านหนังสืออิสระ เชียงใหม่

เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วเจอข้อดีมากกว่า แขกกับอังจึงตัดสินใจทุบกระปุกหมูมาซื้อที่ทันที ในช่วงก่อร่างสร้างบ้านนั้นพวกเขายังไม่มีความคิดว่าจะทำคาเฟ่ที่บ้านตัวเองแบบวันนี้ “เราแค่มองในระยะยาวเท่านั้นว่าที่บ้านน่าจะทำอะไรได้” แขกว่า ซึ่ง ‘อะไร’ ที่พูดถึงคือร้านหนังสือและเบเกอรีช็อปที่ใฝ่ฝันอยากจะทำสักวัน

การมาถึงของโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลกทำให้พวกเขาเห็นว่าไม่มีอะไรแน่นอน แขกตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ร้านเล่าเพื่อมาทำร้านหนังสืออิสระของตัวเอง ประกอบกับอังที่ชอบทำเบเกอรีเป็นทุนเดิม เคยอบขนมขายในร้านกาแฟและงานอีเวนต์มาบ้าง ก็คิดว่าถึงเวลาที่จะเปิดร้านของตัวเองสักที

“มันเหมือนเป็นจังหวะชีวิตแหละ” อังบอก แล้วคาเฟ่กึ่งร้านหนังสือที่ประกอบสร้างจากความฝันและตัวตนของทั้งคู่ก็เริ่มต้นจากจุดนั้น

Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop คาเฟ่และร้านหนังสืออิสระ เชียงใหม่

Home x Family Space 

เราอดเซอร์ไพรส์ไม่ได้เมื่อทั้งคู่ออกปากว่า บ้านที่เราเห็นอยู่นี้มาจากฝีมือการออกแบบของทั้งคู่ พวกเขายังซื้อวัสดุก่อสร้างเองแล้วจ้างให้ช่างในชุมชนมาทำ ด้วยเพราะอยากประหยัดงบที่มีจำกัด และอยากดูแลเองทุกขั้นตอน

“เราสองคนไม่ชอบบ้านสองชั้น แต่ชอบบ้านแนวยาว เวลาทำแปลนเลยง่ายเพราะมันเป็นแค่รูปทรงสี่เหลี่ยม เราอยากมีบ้านที่โล่ง โปร่ง มีลมโกรก ไม่อยากซอยห้องเยอะ ไม่ใช้ไฟมาก ไม่ติดแอร์” อังหัวเราะระหว่างเล่าบรีฟให้ฟัง

หลังจากนั้นหนึ่งปี พวกเขาก็เนรมิตภาพในหัวให้กลายเป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เน้นความโปร่งโล่ง กลางบ้านมีโถงที่ติดประตูบานเฟี้ยมฝั่งละ 6 บาน ทำให้เปิดรับลมได้อย่างกว้างขวาง

ถึงอย่างนั้น การเปลี่ยนบ้านให้เป็นคาเฟ่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คิดแล้วทำได้ทันที อังและแขกรู้ว่าพวกเขาต้องสละบางอย่างเพื่อให้บ้านกับร้านอยู่ในสถานที่เดียวกันได้

อย่างโถงกลางบ้านที่เป็นสเปซโล่งกว้างสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย พวกเขาก็จัดหาครัวขนาดเล็กมาติดตั้ง รวมถึงโต๊ะตัวยาว โซฟาไม้ และเก้าอี้นั่งสบายมาบริการลูกค้า หรืออย่างห้องฝั่งขวามือของบ้านที่มีหน้าต่างบานใหญ่ฉายภาพวิวทุ่งนาทอดไกล ตอนแรกพวกเขาแพลนไว้ว่าจะใช้เป็นห้องทำงานของแขก แต่สุดท้ายก็ยอมสละให้เป็นห้องหนังสือที่มีตู้ขนมอยู่ข้างใน เพื่อให้ลูกค้าเลือกจิ้มได้ง่ายๆ ขณะเลือกดูหนังสือบนชั้นไปพลาง ยังไม่นับรวมว่ามีมุมโชว์เทปคาสเซ็ตและแผ่นเสียงที่พวกเขาสะสมไว้ ซึ่งบางแผ่นก็เปิดจำหน่ายเช่นกัน

Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop คาเฟ่และร้านหนังสืออิสระ เชียงใหม่
Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop คาเฟ่และร้านหนังสืออิสระ เชียงใหม่

“เราอยากให้มันเป็นร้านหนังสือกับร้านขนมที่บรรยากาศสบายๆ เหมือนเราเปิดบ้านให้คนอื่นมานั่งเล่น” แขกเล่าความตั้งใจ และเมื่อเราถามต่อว่าพวกเขามองว่าคาเฟ่นี้เป็นแนวไหน คำว่า Family Space ที่คนทุกวัยมาพักผ่อนได้คือคำที่พวกเขาเห็นตรงกัน

“แล้วเปิดร้านในบ้านแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะเสียความเป็นส่วนตัวไปเหรอ” เราโยนคำถามอีก 

“ช่วงก่อนเปิดร้านเรากังวลเหมือนกันว่าจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวไปไหม แต่ตอนนั้นเราก็ตกลงกันว่าพื้นที่ส่วนตัวจริงๆ ของเราจะล็อกไว้ไม่ให้คนเข้า และจริงๆ ก็ไม่ได้ถือว่าสูญเสียพื้นที่ส่วนตัวไปเลยเสียทีเดียว เราปิดร้านตอนห้าโมง ตอนนั้นบ้านก็จะกลับมาเป็น Private Space ของเราเหมือนเดิม” แขกว่า 

“ข้อดีของการทำบ้านเป็นร้านคือเราไม่ต้องเสียค่าเช่า ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง ถ้าเทียบกับการเปิดร้านในเมืองแล้ว สมมติว่าเราขายได้ครึ่งหนึ่งของรายได้ในเมือง แต่หักลบค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นแล้วก็ได้เท่ากันอยู่ดี”

ข้อดีอีกอย่างที่ทั้งคู่มองเห็นคือการเป็นร้านแบบ Two in One ที่เมื่อลูกค้าตั้งใจมาร้านใดร้านหนึ่งก็มีโอกาสที่จะเป็นลูกค้าของอีกร้านได้เช่นกัน “แต่ส่วนมากจะเป็นลูกค้าร้านเบเกอรีมากกว่า” เขาพูดติดตลก ก่อนอังจะสำทับว่า “แน่นอน” แล้วเราทั้งหมดก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน

Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop คาเฟ่และร้านหนังสืออิสระ เชียงใหม่

ลิ้นรับรส x หัวใจเต้นรำ

เห็นชื่อร้าน เราเดาว่า Waltz Bakes น่าจะอินสไปร์มาจากจังหวะเต้นรำแบบวอลซ์ที่ผู้เต้นขยับตัวอย่างอ่อนช้อย มีความสุข 

อังยืนยันกับเราว่าเดาไม่ผิด และขยายความว่า เธอรู้สึกแบบนั้นแหละตอนที่ได้ทำและกินขนมอบ

“เวลาที่เขาเปิดเพลงวอลซ์กัน มันคือช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ในแง่นี้เรามองว่าเค้กคือขนมที่อยู่ในช่วงเวลาของความสุขและเฉลิมฉลองเหมือนกัน เราชอบคำนี้เลยเอามาพรีเซนต์เป็นชื่อร้าน” อังเฉลย 

“ก่อนหน้านี้เราทำงานกราฟิกดีไซเนอร์อยู่ที่นิตยสารฟรีก๊อบปี้ที่หนึ่ง แล้วรู้สึกอิ่มตัวเพราะงานเป็นรูทีน ไม่ค่อยได้คิดอะไร ตอนนั้นเลยพยายามหากิจกรรมที่ทำให้จิตใจเรามันฮีลตัวเองได้ เพื่อนเลยแนะนำให้เราไปทำขนม ตอนนั้นก็สนใจเพราะเราชอบอ่านหนังสือ Cookbook หนังสือทำขนมอยู่แล้ว ก็คิดอยู่ช่วงใหญ่จนได้มาทำจริงจังช่วงโควิดนี่แหละ”

Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop คาเฟ่และร้านหนังสืออิสระ เชียงใหม่

เหมือนกับนักอบขนมหลายคน อังเริ่มต้นจากเมนูชีสพาย เธอพัฒนาฝีมือมากว่าสองปีจนกลายเป็นเมนู Homebake อันหลากหลายอย่างที่เราเห็นวันนี้

เมนูแรกของ Waltz Bakes ที่หญิงสาวพราวด์ทูพรีเซนต์คือ Carrot Cake เมนูซิมเปิลที่เราเห็นแทบทุกร้านกาแฟ พิเศษหน่อยตรงที่อังพยายามดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาให้ได้มากที่สุด อย่างตัวครีมชีสในเค้กที่มีส่วนผสมเพียงเนยและชีสตามสูตร แต่หญิงสาวใช้มะนาวในการดึงรสชาติและตัดเลี่ยนไปในตัว

Cranberries Cream Cheese Bun คือเมนูต่อมาที่อังยกมาเสิร์ฟให้เรา ขนมปังสอดไส้ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งโฮมเมดจากอำเภอสารภี ฝีมือพ่อของอังเอง เมื่อมาแท็กทีมกับครีมชีสฝรั่งเศสก็ไม่ได้ให้รสหวานหรือเปรี้ยวเกินไป ยิ่งกินกับขนมปังเนื้อแครนเบอร์รีน้ำหนักเบาก็ยิ่งกลมกล่อม ลงตัว

จานสุดท้ายคือ Lemon Tart สามเลเยอร์ ชีสเค้กรสเข้มข้น โปะบนล่างด้วยรสชาติเปรี้ยวเค็มจากเลมอนเคิร์ดและบิสกิตกรุบกรอบ กินแล้วสดชื่น หัวใจระริกระรี้เต้นรำไม่ต่างจากชื่อร้าน

วิวท้องทุ่ง x หนังสืออ่านฟรี

“ส่วนชื่อ Harvest Moon Bookshop ตั้งง่ายๆ ครับ มาจากเพลงที่ชอบ” แขกตอบเมื่อเราถามถึงร้านหนังสือบ้าง “ประจวบเหมาะกับสถานที่มันติดทุ่งนา เราเลยรู้สึกว่ามันก็คลิกดี” 

แต่ไหนแต่ไร อังและแขกเป็นหนอนหนังสือตัวยง หญิงสาวชอบอ่านวรรณกรรมแปลญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับการทำอาหาร ส่วนชายหนุ่มชอบอ่านวรรณกรรมเหมือนกัน แต่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าแนวไหน

“การอ่านวรรณกรรมสำหรับเรามันเหมือนการได้ไปคุยกับคนคนหนึ่ง เวลาเรารู้สึกไม่ดี คิดอะไรไม่ออก การอ่านหนังสือมันทำให้เราได้เห็นแง่มุมที่กว้างขึ้น หนังสือเรื่องที่เราอ่านอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ตรงกับความรู้สึกเราเสมอไป แต่บางครั้งมันทำให้เราได้เปิดใจ หรืออย่างน้อยก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น” แขกเล่าด้วยตาเป็นประกาย

ประสบการณ์กว่า 18 ปีที่ร้านเล่าสอนให้แขกรู้ว่าสิ่งสำคัญในการทำร้านหนังสืออิสระไม่ใช่การคัดแต่เล่มดังๆ เข้าร้านเท่านั้น แต่คือการคัดเลือกหนังสือที่น่าสนใจและมีประโยชน์กับคนอ่านอย่างตั้งใจและหลากหลาย หนังสือในร้านจึงมี Fiction กับ Non-fiction คละกัน มีทั้งหนังสือนิยายอ่านสนุก ไปจนถึงประวัติศาสตร์การเมืองสุดเข้มข้น

ที่สำคัญ หนังสือของ Harvest Moon Bookshop ก็ไม่ได้สักแต่ว่าจะขาย พวกเขายังมีมุมแบ่งปันกันอ่านให้ลูกค้าสามารถเลือกอ่านได้แบบฟรีๆ เพราะจุดประสงค์หนึ่งของร้านคือการส่งเสริมให้ลูกค้าได้อ่านหนังสือมากขึ้นนั่นเอง 

“เมื่อก่อนเราจะเป็นคนหวงหนังสือมาก แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้จะหวงไปทำไม เราคิดว่าหนังสือมันสำคัญที่ตัวบทของมันมากกว่า เล่มมันจะเยินแค่ไหนก็ช่างมัน” แขกหัวเราะ

Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop คาเฟ่และร้านหนังสืออิสระ เชียงใหม่

บ้าน x ร้านที่เป็นทั้งชีวิตและจิตใจ

เชียงใหม่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองปราบเซียน มีคาเฟ่และร้านกาแฟเปิดใหม่แทบทุกวัน เราจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าแขกและอังมองความท้าทายของการอยู่ในธุรกิจนี้อย่างไร

“การอยู่ในธุรกิจนี้เป็นเรื่องท้าทายนะ แต่เราว่าสิ่งสำคัญคือตัวตนของร้านที่ต้องชัดเจนก่อน ถ้าทำร้านที่คาแรกเตอร์เหมือนร้านอื่นๆ ก็อาจมีสิทธิ์ล้มหายไปได้เหมือนกัน” อังให้ความเห็น

“ความยากของเราวันนี้คือระบบของเรายังไม่นิ่ง เรายังเหนื่อยกับการเปิดร้านอยู่ ก็อาจต้องค่อยๆ ปรับกันไป ความยากอีกอย่างคือจะทำยังไงให้ลูกค้าที่มากลายเป็นลูกค้าประจำ แต่การจะทำแบบนั้นได้ เราคิดว่าเราต้องรักษามาตรฐานทั้งขนมและการคัดเลือกหนังสือให้ดี”

พวกเขายังเล่าอีกว่าสิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop ช่วยทำให้ชุมชนสันผักหวานเป็นที่รู้จัก และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้คนในชุมชนอื่นๆ เปิดร้านในชุมชนของตัวเองได้มากขึ้น

“เคยมีลูกค้ามาบอกเหมือนกันว่าบ้านเขาก็ติดนาแบบนี้ การมาร้านเราทำให้เขาอยากเปิดร้านหมูกระทะบ้าง” ชายหนุ่มยิ้ม “เราคิดว่าพื้นที่ในทุกๆ ชุมชนมีศักยภาพพอที่จะทำอะไรก็ได้ ถ้าเขามีการเตรียมตัวสักนิด แต่สิ่งที่ต้องคิดไปพร้อมกันคือการเปิดร้านของเราจะสร้างผลกระทบอะไรต่อชุมชน ถ้าเป็นแง่ไม่ดีเราจะป้องกันยังไง อย่าง Waltz Bake เองตั้งอยู่ในซอยตัน บางครั้งลูกค้าเลี้ยวผิดไปบ้านคนอื่นบ้าง เราก็ไปปรึกษากับผู้ใหญ่บ้านและได้คำแนะนำว่าควรจะทำป้ายติด”

เหนืออื่นใด คู่รักสาวเชียงใหม่กับหนุ่มลำพูนบอกเราว่า การมีอยู่ของ Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop นอกจากจะช่วยหาเลี้ยงชีพ มันยังมีความหมายกับพวกเขาในแง่ความมั่นคงทางจิตใจ

“บ้านกับร้านมันคือฝันที่เราอยากทำ ตอนเสร็จเป็นรูปเป็นร่าง มันทำให้รู้สึกว่า เออ เราก็ทำได้นี่” หญิงสาวยิ้มภาคภูมิใจ


Waltz Bakes x Harvest Moon Bookshop
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน ยกเว้นวันพุธ เวลา 9.00 – 17.00 น.
พิกัด : ซอยสันผักหวานน้อย 3 ขับตรงมาเรื่อยๆ จนเจอสวนลำไยขวามือ เลี้ยวขวาไปจนสุดทางถนนดิน
แผนที่ : goo.gl/maps/W6cfgKXuRvYH44pN8
ช่องทางติดต่อ : facebook.com/waltzbakeryth

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.