เยี่ยมสเปซน่าสนใจในตึกแถว ‘วงเวียน 22 กรกฎาคม’ โอลด์ทาวน์ที่น่าไปใช้ชีวิตและเป็นมิตรกับคนเมือง

เทศกาลแห่งการสังสรรค์ แสงสี และการรวมตัวกันของผู้คนในช่วงปลายปีใกล้เข้ามาทุกที แม้เป็นเพียงไม่กี่วันก่อนที่กรุงเทพฯ จะกลับสู่การเป็นเมืองที่มีคนเหงามากกว่าเสาไฟฟ้า ผู้คนตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองตามวิถีคนเมือง ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบจนขาดการปฏิสัมพันธ์กันก็ตาม คงดีไม่น้อยหากเมืองฟ้าอมรแห่งนี้เป็นมิตรกับผู้คนมากขึ้น มีพื้นที่ส่วนกลางให้มนุษย์กรุงเทพฯ ได้พบปะพูดคุยกันแบบเห็นหน้า พักผ่อนจากการงานที่แสนหนักหน่วง ได้วางโทรศัพท์หรืออุปกรณ์สื่อสารในห้วงยามที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการใช้ชีวิตจนคล้ายเป็นอวัยวะที่ 33 เพื่อใช้เวลาไปกับการพูดคุยกันสารพัดเรื่อง แลกเปลี่ยนสิ่งที่สนใจกับเพื่อนทั้งเก่าและใหม่ หรือรวมตัวทำกิจกรรมร่วมกัน แต่เดิม ‘วงเวียน 22 กรกฎาคม’ ก็เป็นเหมือนโอลด์ทาวน์ทั่วไป ยังคงความเป็นชุมชนคล้ายกับหลายย่านเก่าในเมืองหลวง โดยมีธุรกิจอย่างอู่ซ่อมรถและร้านทำป้ายโฆษณาตั้งเรียงรายเป็นภาพจำของผู้คน ทว่าในวันนี้หากลองเดินเท้าสำรวจย่านเก่าอายุกว่าร้อยปีแห่งนี้จะพบว่า นอกจากซอยนานาที่โด่งดังมาก่อนหน้าแล้ว ในมุมอื่นๆ ของย่านก็มีกิจการใหม่ในตึกเก่าที่แทรกตัวเข้ามาเป็นสมาชิกหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้คนเมืองมีกิจกรรมหลากหลายแวะเข้ามาทำมากขึ้นตั้งแต่กลางวันยันกลางคืน คอลัมน์ Neighboroot รอบนี้ไม่ได้พาไปดูอู่รถหรือเข้าร้านป้าย แต่อยากชวนสำรวจ Creative & Community Space รอบวงเวียน 22 กรกฎาคม ย่านที่วันนี้มีหลายสเปซน่าสนใจที่กวักมือเรียกผู้คนเข้ามาสัมผัสย่านในมุมมองใหม่ๆ ด้วยความตั้งใจของผู้ประกอบการที่อยากให้บ้านของเขาไม่เงียบเหงา และอยากเป็นเฉดสีอื่นๆ ที่แต้มแต่งเพิ่มเข้ามาในเมืองนี้ ในแง่ประวัติศาสตร์ เมื่อศตวรรษที่แล้วมีการตัดถนนสายใหม่ 3 สาย ผ่านชุมชนของชาวจีนในตำบลหัวลำโพงที่เกิดไฟไหม้ ตรงกลางของเส้นเลือดใหม่ที่วิ่งไขว้กันไปมาทำเป็นวงเวียน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามทั้งถนนและวงเวียนว่า ‘22 กรกฎาคม’ เพื่อระลึกถึงวันเดือนที่ประเทศสยามเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 กับฝ่ายสัมพันธมิตร […]

‘ชุมชนริมน้ำจันทบูร’ จากแหล่งกระจายเครื่องเทศสู่แหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอาหาร

นอกจากพลอยและผลไม้ที่เป็นของขึ้นชื่อจังหวัด ‘จันทบุรี’ แล้ว ‘อาหาร’ ก็เป็นอีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งตัววัตถุดิบและการปรุง จนทำให้หลายคนติดใจในรสชาติ อยากแวะกลับมาอีกครั้ง มีหลายแหล่งไม่น้อยที่เชื่อว่าจุดเริ่มต้นอาหารของชาวจันทบุรีมาจาก ‘ชุมชนริมน้ำจันทบูร’ ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์พื้นที่และประวัติศาสตร์อาหาร โดยในอดีตเคยเป็นแหล่งซื้อขายและกระจายเครื่องเทศที่สำคัญ รวมทั้งเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมที่รุ่มรวย ทำให้สร้างสรรค์เมนูอาหารที่หลากหลายได้ ซึ่งในปัจจุบันชุมชนก็ได้รับการพัฒนาและฟื้นฟูให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองจันทบุรี คอลัมน์ Neighboroot ครั้งนี้ขอพาไปเดินท่องชุมชนริมน้ำจันทบูร โดยมี ‘หมู-ปัทมา ปรางค์พันธ์’ ผู้จัดการบ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี เป็นคนนำทางไปชมวิถีชีวิตในชุมชนริมน้ำจันทบูร พร้อมเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจในพื้นที่นี้ให้ฟัง ‘ชุมชนริมน้ำจันทบูร’ ชุมชนเก่าแก่ แหล่งกระจายเครื่องเทศของจันทบุรี จันทบุรีอาจเป็นจังหวัดที่ไม่ได้มีแหล่งท่องเที่ยวมากเท่าไรนัก แต่เพราะว่าเป็นจังหวัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง จึงมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจซ่อนตัวอยู่ รอให้เราเข้าไปค้นหา โดยเรื่องราวเหล่านั้นเริ่มต้นพร้อมกับชุมชนเก่าแก่ที่มีมานานกว่า 300 ปีอย่าง ‘ชุมชนริมน้ำจันทบูร’ ที่ในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองมาก ไม่ใช่แค่อยู่มานาน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆ อย่างในจันทบุรี “ถนนที่เรากำลังเดินอยู่นี้เป็นถนนเส้นแรกของจังหวัด เมื่อก่อนชื่อถนนเลียบนที จนมาถึงรัชกาลที่ 5 ก็เปลี่ยนชื่อเป็นสุขาภิบาล” พี่หมูพาเราเดินชมชุมชนริมน้ำตลอดระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร พร้อมเล่าถึงประวัติศาสตร์ของพื้นที่ กับการเป็นศูนย์กลางการค้า เป็นทำเลที่เหมาะสม สะดวกสบายต่อการเดินทาง เนื่องจากอยู่ติดริมแม่น้ำซึ่งเป็นเส้นทางการคมนาคมของคนสมัยก่อน ทำให้มีทั้งคนไทย คนจีน […]

ชมภาพถ่าย ตามเรื่องเล่า ย่านเก่าพิษณุโลก กับนิทรรศการ ‘เล่าย่าน ตลาดใต้-ประตูมอญ’ วันนี้ – 18 ส.ค. ที่ย่านตลาดใต้

‘ตลาดใต้-ประตูมอญ’ คือย่านค้าขายเก่าแก่ที่อยู่คู่จังหวัดพิษณุโลกมานมนาน นอกจากจะเปี่ยมด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม อาหารรสโอชา สถาปัตยกรรมทรงคุณค่า และผู้คนที่โอบอ้อมอารี ย่านนี้ยังอัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตอันมีเสน่ห์ ที่รอคอยให้ทุกคนได้มาสัมผัส ถ้าใครอยากรู้จักย่านตลาดใต้-ประตูมอญมากขึ้น คงไม่มีโอกาสไหนดีกว่าการได้ไปนิทรรศการภาพถ่าย ‘เล่าย่าน ตลาดใต้-ประตูมอญ’ ในตอนนี้อีกแล้ว นิทรรศการภาพถ่าย เล่าย่าน ตลาดใต้-ประตูมอญ จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับเทศบาลนครพิษณุโลก ชุมชนพุทธบูชา ชุมชนพญาเสือ และนักสร้างสรรค์ในและนอกพื้นที่ งานนี้เกิดจากเวิร์กช็อปสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่ได้คนในชุมชนและศิลปินภายนอกมาเรียนรู้ร่วมกัน เกิดเป็นนิทรรศการที่เสนอเอกลักษณ์ของย่านในรูปแบบ ‘คนในอยากบอก คนนอกอยากเล่า’ แสดงภาพถ่ายที่สะท้อนมุมมองจากคนในชุมชนเองและคนนอกชุมชน ทำให้คนที่มาแวะชมได้ชื่นชมเรื่องราวของย่านอย่างรอบด้าน ค้นพบความงามและเสน่ห์ของย่านตลาดใต้-ประตูมอญไปด้วยกันที่นิทรรศการภาพถ่าย ‘เล่าย่าน ตลาดใต้-ประตูมอญ’ นิทรรศการจัดแสดงตั้งแต่วันนี้ – 18 สิงหาคม 2567 ที่ถนนสุรสีห์ ย่านตลาดใต้ ในสี่พื้นที่ด้วยกันคือ อาคารบ้านก๋ง (โอฬาร ลานสร้างสรรค์), หน้าโรงงิ้ว ศาลเจ้าปุนเถ้ากง, Treat Tea House และชั้น 2 Finally Coffee Co. […]

FYI

อัปสกิลวิสาหกิจชุมชนไทย ปลดล็อกความรู้ มุ่งสู่ความยั่งยืน โครงการ ‘ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สุขยั่งยืน’ สร้างคุณค่าร่วมแบบ Ecosystem

‘ผลิตภัณฑ์และบริการจากวิสาหกิจชุมชน’ คือแรร์ไอเทมประจำท้องถิ่นที่รอการส่งเสริมและพัฒนา เพราะนอกจากจะทำให้ชุมชนเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง ช่วยยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เข้มแข็ง ยังทำให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนดีตามไปด้วย แต่ถ้าถามว่า แล้วการยกระดับที่ว่าเป็นแบบไหน เราขอแนะนำให้รู้จักกับ 2 ผู้ประกอบการจาก 2 วิสาหกิจชุมชนที่ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรม ‘ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สุขยั่งยืน’ และนำความรู้ไปพัฒนาธุรกิจต่อจนประสบความสำเร็จ คนแรกคือ ‘หนิง-ธนพร วงค์เขื่อน’ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมรุ่นที่ 1 ในเขตภาคเหนือที่จังหวัดเชียงราย จากวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรท่าสุด (ท่าสุดเฮิร์บ) จ.เชียงราย ธนพรทำให้เราเห็นภาพความสำเร็จของโครงการนี้ชัดขึ้น ด้วยแนวทางการสร้างความร่วมสมัยให้ผลิตภัณฑ์ บริการแปรรูปสมุนไพร และบริการด้านสุขภาพ ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ง่ายขึ้น เพื่อส่งให้ภูมิปัญญาไทยดั้งเดิมไปถึงผู้คนในวงกว้าง โดยวิธีการที่ว่าคือ การมุ่งเน้นที่การเพิ่มทักษะด้านการขาย และการสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ใหม่ๆ มีการเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของแบรนด์ผ่านสื่อโซเชียล สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ตามสโลแกน ‘ผ่อนที่กาย คลายที่ใจ By Tasud Herb’ อีกทั้งยังมีการจับมือกับเครือข่ายสายสัมพันธ์มาช่วยเสริมธุรกิจในหลายด้าน ตั้งแต่การเพิ่มพูนความรู้ ปรับปรุงรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้โมเดิร์นน่าใช้ เพิ่มช่องทางตลาดและจุดจำหน่าย ไปถึงยกระดับมาตรฐานแหล่งวัตถุดิบและสินค้า ทั้งหมดนี้ทำให้แบรนด์ Tasud Herb (ท่าสุดเฮิร์บ) ของวิสาหกิจชุมชนเติบโตฮิตติดตลาดอย่างรวดเร็ว และได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก จนมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว […]

‘ตรอกสลักหิน’ ย่านชาวจีนหลังหัวลำโพงที่ขับเคลื่อนชุมชนด้วยวัฒนธรรมและศิลปะ

ระยะนี้ชื่อของ ‘ชุมชนตรอกสลักหิน’ ในโซเชียลมีเดียน่าจะผ่านตาของใครหลายคน เมื่อสปอตไลต์ฉายไปยังชุมชนกลางเมืองที่บางคนอาจยังไม่รู้จัก จนเป็นเหมือนแม่เหล็กดูดคนจากต่างถิ่นให้ปักหมุดมายังตรอกเล็กๆ หลังสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) แห่งนี้ ถัดจากด่านเก็บเงินทางพิเศษศรีรัช ขนาบข้างด้วยทางรถไฟ เดินไปตามถนนรองเมือง ไม่ทันไรก็มาถึงใต้ชายคาบ้านไม้สองชั้นที่แปรเปลี่ยนหน้าที่เป็นมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก สถานที่พักใจของเด็กๆ ในวันหยุดด้านหลังวัดดวงแข วันนี้เป็นวันธรรมดา มูลนิธิไร้เงาเด็กน้อยเพราะไปเรียนหนังสือ เสียงจอแจเงียบหายไปเหมือนเสียงหวีดรถไฟที่ซาลงไปไม่กี่ปีมานี้ แต่จุดประสงค์ของเราไม่ใช่เยาวชนชาวตรอกสลักหิน ทว่าเป็นเบื้องหลังของกลุ่มเด็ก เพื่อฟังเรื่องราวจากปากชาวชุมชนที่ผลักดันให้เกิดทริปนี้ขึ้นมา แหล่งอโคจรยุคอันธพาลครองเมือง “ผมเห็นตั้งแต่ชุมชนไม่มีอะไร จนมูลนิธิฯ เข้ามาพัฒนา เอาศิลปะมาลง” ‘ปีโป้-เศรษฐศักดิ์ จตุปัญญาโชติกุล’ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ เริ่มต้นเล่าถึงตรอกสลักหินที่เขารู้จัก “เมื่อก่อนใครจะเข้าชุมชนก็โดนตี ในช่วงอันธพาลครองเมือง ยาเสพติด การพนัน ค้าประเวณี” ในช่วงปี 2499 ยุคอันธพาลครองเมือง บริเวณตรอกสลักหินและพื้นที่รอบๆ มีกลุ่มเจ้าถิ่นดูแลอยู่ตลอด เป็นพื้นที่อโคจรที่เต็มไปด้วยสิ่งผิดกฎหมาย ชื่อของตรอกเป็นที่รู้จักของคนวัยเก๋าในฐานะบ้านเกิดของ แดง ไบเลย์ หนึ่งในอันธพาลตัวเอ้ของพระนคร ย้อนไปในอดีต ด้วยระยะทางที่ใกล้กับขนส่งมวลชนสำคัญในขณะนั้น ทำให้ผู้คนจากหลากที่มาต่างเข้ามาจับจองพื้นที่ในตรอกสลักหินเพื่อพักผ่อน เช้าก็ออกไปประกอบอาชีพรองรับผู้เดินทาง เช่น แม่ค้าส้มตำที่หาบจากในตรอกไปนั่งรอลูกค้าด้านหน้าสถานีหัวลำโพง จนเป็นเหมือนสัญลักษณ์ในวันวานที่หลายคนคุ้นตา “บางคนก็อาศัยอยู่ในนี้ บางคนก็อาศัยในชุมชนวัดดวงแข มีห้องเช่าทั้งรายวัน รายเดือน […]

‘เด็กสลักหินพา PLAY’ เดินสำรวจชุมชน ตามรอยร้านอร่อยในหัวลำโพง กับเหล่าไกด์ตัวจิ๋วประจำตรอกสลักหิน

ปกติแล้วเวลาไปร่วมกิจกรรมทริปเดินสำรวจเมือง ไกด์หรือผู้นำกิจกรรมมักเป็นผู้ใหญ่ในชุมชนหรือนักวิชาการ ที่จะบอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของพื้นที่ให้เราที่เป็นผู้ร่วมกิจกรรมฟังอย่างเพลิดเพลิน แต่กับทริป ‘เด็กสลักหินพา PLAY’ ภายใต้โครงการกรุงเทพรวมมิตรฯ ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมการเรียนรู้พหุวัฒนธรรมผ่านการท่องเที่ยว จัดโดยนักออกแบบที่ทำงานชุมชน มิวทวล กราวน์ ร่วมกับริทัศน์บางกอก ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป เพราะไกด์ในทริปนี้เป็นแก๊งเด็กในชุมชนที่จะมาพาเราออกเดิน และบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจในชุมชนตรอกสลักหิน ย่านหัวลำโพงที่ตัวเองอยู่อาศัยผ่านสายตาเล็กๆ เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ต้นไม้ งานศิลปะ สัตว์ตัวน้อย มุมที่ชอบ ไปจนถึงร้านอร่อยที่เด็กๆ ทำโพลรีวิวกันเอง ทั้งหมดนี้เราคงไม่มีทางทราบได้ถ้าไม่ได้ไกด์เด็กๆ ในชุมชนมาชี้ชวนเล่าให้ฟัง ยังไม่นับรวมไกด์บุ๊กที่น้องๆ ลงมือวาดกันเอง แถมยังมีมิชชันที่ล้วนข้องเกี่ยวกับตัวพื้นที่ให้ทำสนุกๆ ระหว่างเดินทางไปด้วย เช่น ถ่ายรูปกับทาวน์เฮาส์สไตล์ฮ่องกงที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ เล่นเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นของชุมชน อัดเสียงนกกรงหัวจุกที่คนในชุมชนเลี้ยง เล่นและเซลฟีกับน้องหมาโมจิที่เป็นที่รักของเด็กๆ เป็นต้น นับเป็นกิจกรรมดีๆ ที่ทำให้เด็กๆ ในชุมชนได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆ ฝึกฝนทักษะที่อาจนำไปสู่การต่อยอดความถนัดในอนาคต รวมถึงสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ ใครที่อยากลองไปร่วมทริปดีๆ แบบนี้อีก ติดตามกิจกรรมครั้งต่อๆ ไปได้ที่เพจ mutualground.lab 

‘Urban Common Source’ แพลตฟอร์มรวมข้อมูลของกรุงเทพฯ ที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาเมืองเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว

การหาข้อมูลต่างๆ ในปัจจุบัน เราทุกคนต่างเชื่อว่าสามารถค้นหาทุกอย่างได้บนอินเทอร์เน็ต แต่บางครั้งการหาข้อมูลทั่วๆ ไปของเมืองที่เราอาศัยอยู่ กลับต้องใช้เวลาในการยื่นคำร้องสู่หน่วยงานอีกหลายขั้นตอนกว่าจะได้รับข้อมูลนั้นมา และไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปที่ต้องการข้อมูลเหล่านี้ไปทำงานหรือทำวิจัย แต่เชื่อหรือไม่ว่า แม้แต่หน่วยงานรัฐเองบางครั้งก็ประสบปัญหาการสืบค้นข้อมูลเมือง ทำให้การพัฒนาพื้นที่บางจุดในเมืองเป็นไปอย่างล่าช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น คอลัมน์ Trouble Solver พาไปทำความรู้จักกับ urbancommonsource.com แพลตฟอร์มฐานข้อมูลเมือง ที่เกิดจากการทำงานของ Urban Studies Lab ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และการร่วมมือกับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ เพื่อสร้างพื้นที่ส่วนกลางในการเก็บบันทึกและแลกเปลี่ยนข้อมูล ให้การทำงานของหน่วยงานรัฐ รวมถึงภาคส่วนอื่นๆ ที่ต้องการใช้ข้อมูลเมืองมีความสะดวกสบายและง่ายขึ้น Urban Studies Lab กับการเป็นตัวกลางเชื่อมรัฐและชุมชน ‘ศูนย์วิจัยชุมชนเมือง’ หรือ ‘Urban Studies Lab (USL)’ คือศูนย์วิจัยอิสระด้านการศึกษาเมือง ที่เน้นการพัฒนาเมืองในทุกมิติ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านสังคม คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน รวมถึงกลุ่มเปราะบาง ผ่านการวิจัยเชิงปฏิบัติและการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบมีข้อมูลเป็นหลักฐาน การทำงานของ Urban Studies Lab จะเป็นการพัฒนาชุมชนโดยใช้การมีส่วนร่วมระหว่างภาคส่วนต่างๆ ภายในเมือง เช่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษาหรืองานวิจัย และภาคประชาสังคม […]

The Fig Lobby โรงแรมสีสดใสย่านคลองเตยที่อยากเป็น ‘สนามผู้ใหญ่เล่น’ ที่สนุกและผ่อนคลายแบบไร้กรอบ

ตามประสาคนเสพติดการ Workation เป็นชีวิตจิตใจ ฉันเลิฟการสกรอล์หน้าจอเพื่อเสาะหาที่พักใหม่ๆ ที่ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานให้กระชุ่มกระชวยเป็นที่สุด วันหนึ่ง ภาพของ ‘The Fig Lobby’ โรงแรมใหม่ย่านคลองเตยก็โผล่ขึ้นมาบนฟีด สีสันของตึกอาคารที่สนุกสดใสดึงความสนใจของฉันได้ตั้งแต่แวบแรก รู้ตัวอีกที ฉันก็มายืนหน้าล็อบบี้ของ The Fig Lobby ถือ Welcome Ice Cream ของโรงแรมอยู่ในมือ และพร้อมที่จะเดินสำรวจที่พัก+ที่ทำงาน (ชั่วคราว) แห่งใหม่อย่างระริกระรี้ สิ่งที่ได้จากการสำรวจอาจเล่าย่อๆ ได้ดังนี้ : ที่นี่มีห้องพัก 68 ห้องรองรับแขก มีร้านอาหารและคาเฟ่ที่นั่งทำงานเพลินสุดๆ นอกจากนี้ยังมีสปาธีมอินเดียฟีลดี ห้องปั้นเซรามิกสุดอบอุ่น สตูดิโอทำงานศิลปะ บาร์และร้านอาหารสไตล์เม็กซิกันอยู่บนชั้นดาดฟ้า และมีห้องปั่นจักรยานประกอบของ Native คอยให้บริการสายสุขภาพ ที่ต้องมีเยอะขนาดนี้เพราะ ‘พลอย-ชาลิสา เตียนโพธิทอง’ ผู้ก่อตั้ง The Fig Lobby ผู้อาสาพาฉันทัวร์ในวันนี้บอกว่าที่นี่ไม่ใช่แค่โรงแรม แต่เธอหวังอยากให้เป็นพื้นที่ที่ผู้ใหญ่วัยมันได้มาใช้ชีวิตกันเต็มที่ ภายใต้ไวบ์สขี้เล่นๆ ที่พร้อมอ้าแขนกว้างต้อนรับทุกคนอย่างเต็มกอด Magic Lobby สำหรับพลอย การมีโรงแรมเป็นของตัวเองคือความฝัน “พลอยชอบโรงแรมตั้งแต่เด็ก […]

ร่วมออกแบบนโยบายเพื่อยกระดับ ‘การท่องเที่ยวชุมชนของสระบุรี’ ให้เป็นเศรษฐกิจที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

‘สระบุรี’ คือจังหวัดเมืองรองในภาคกลางที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก มีพื้นที่ราบสลับกับพื้นที่ภูเขา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมผสมผสานกับพื้นที่การเกษตร ทว่านอกจากเป็นเมืองทางผ่านที่สำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศแล้ว สระบุรียังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์กระจายตัวอยู่มากมาย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะชุมชนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในลุ่มแม่น้ำป่าสักของสระบุรี เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพย้ายถิ่นมาไม่น้อยกว่า 150 ปี ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวบรวมความหลากหลายของชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ไทยวน ลาวเวียง พวน มอญ และจีน ทำให้สระบุรีมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ที่กำลังรอให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสด้วยตัวเอง ทั้งนี้ สระบุรีและอีก 3 จังหวัดในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก ได้แก่ เพชรบูรณ์ ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา กลับต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการท่องเที่ยวชุมชนในมิติต่างๆ เช่น ชุมชนไม่ได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยว เพราะส่วนใหญ่จะตกอยู่ในมือภาคธุรกิจขนาดใหญ่ รวมไปถึงการสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์จากทุนทางวัฒนธรรม การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การเปลี่ยนกรอบความคิดของคนในชุมชน การสร้างผู้ประกอบการเชิงสร้างสรรค์ และการพัฒนามาตรฐานของสินค้าและบริการต่างๆ เป็นต้น เพื่อยกระดับและพัฒนา ‘การท่องเที่ยวชุมชน’ ของสระบุรีให้กลายเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทาง Thailand Policy Lab และ UNDP Accelerator Lab Thailand จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้จัดกิจกรรม ‘Policy Innovation […]

Life in KKC วิถีขอนแก่น

‘ขอนแก่น’ เป็นอีกเมืองที่น่าสนใจจากประสบการณ์ที่เราได้มีโอกาสไปทำงานที่นั่น และได้ใช้เวลาอยู่ในเมืองนั้นสักพักหนึ่ง ทำให้เราได้บันทึกภาพชุดนี้ขึ้นมา ภาพชุดนี้เป็นเรื่องราวประจำวันที่เราได้เจอหรือว่าผ่านตามา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งของและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่ทั้งธรรมดาและแปลกตา ซึ่งคนในเมืองอย่างพวกเราคงไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น รูปชุดนี้แบ่งเป็นสองส่วน ได้แก่ ภาพที่บันทึกในชีวิตประจำวัน และภาพจากตลาดวัว เราเลือกสองเรื่องนี้มานำเสนอเพราะแต่ละรูปคือขอนแก่นที่เราได้รู้จักและไปพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นป้ายหน้ายิ้มที่มันดูแปลกตา มุ้งที่คลุมท้องฟ้า ตึกสีแปลกๆ ป้ายร้านก๋วยเตี๋ยวร้านโปรดของเรา แล้วก็ไม่รู้สังกะสีหรือกิ้งก่ากันแน่ที่มันปรับตัวเข้าหากัน รวมถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ด้วย ส่วนเหตุผลที่เราเลือกตลาดวัวมานำเสนอ เพราะเราชื่นชอบเรื่องราวของตัวตลาดมาก ไม่ว่าจะเป็นการต้องตื่นเช้ามืดเพื่อไปตลาด หรือวัวแปลกๆ ที่เราได้ไปเจอ รวมไปถึงผู้คนที่มาเร่ขายวัว ทั้งหมดเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับเรา จึงอยากนำมาเล่าผ่านภาพให้ทุกคนได้เห็นกัน ติดตามผลงานของ ปีติ์ สายแสงทอง ต่อได้ที่ Instagram : georgecallmedadddy และหากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected] หรือ [email protected]

Targ Blonie Market ตลาดสดสไตล์มินิมอลในโปแลนด์ โปร่งสบาย ถูกสุขอนามัย เชื่อมคนในชุมชนเข้าหากัน

เมื่อพูดถึง ‘ตลาดสด’ ภาพในหัวของใครหลายคนคงจะเป็นสถานที่ร้อนๆ อากาศอบอ้าว บรรยากาศมืดครึ้ม มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่ต่อจากนี้ เราขอให้คุณลบภาพเหล่านั้นทิ้งไปให้หมด เพราะวันนี้เราจะพาไปดูตลาดสดในประเทศโปแลนด์ที่จะเปลี่ยนความคิดของคุณไปอย่างสิ้นเชิง ‘Targ Blonie Market’ เป็นตลาดสดที่ตั้งอยู่ในชุมชน Blonie เมืองเล็กๆ ใกล้เมือง Warsaw ประเทศโปแลนด์ ที่เกิดขึ้นจากการพยายามปรับปรุงตลาดสดดั้งเดิมให้มีความน่าสนใจและเข้าถึงผู้คนในชุมชนได้ง่ายขึ้น ผ่านการออกแบบภาพลักษณ์ใหม่ให้มีความปลอดโล่งโปร่งสบายและสนับสนุนวัตถุดิบในท้องถิ่น Targ Blonie Market ถูกพัฒนาขึ้นโดย ‘Aleksandra Wasilkowska Architectural Studio’ สตูดิโอออกแบบที่รับผิดชอบ ภายใต้แนวคิด ‘Shadow Architecture’ ซึ่งเป็นวิธีการจัดวางตำแหน่งโครงสร้างและหลังคาที่เหมาะสมเพื่อให้ได้แสงที่ช่วยส่งเสริมบริเวณโดยรอบ และจัดการกับมาตรฐานด้านสุขอนามัยและโครงสร้างพื้นฐานของตลาด จนเกิดเป็น ‘ตลาดลูกผสม’ ระหว่าง ‘สวนสาธารณะ’ และ ‘ตลาดสด’ ด้วยภาพลักษณ์สะอาดตาจากหลังคาสีขาวที่สร้างขึ้นเพื่อบังแสงแดดและฝน รวมไปถึงแผงขายของแบบขั้นบันได ทำให้การวางสินค้าเป็นไปอย่างสวยงามมากยิ่งขึ้น แนวคิดนี้มีจุดมุ่งหมายหลักคือ การทำให้ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพในราคาไม่แพงได้ โดยเน้นไปที่การจำหน่ายวัตถุดิบจากเกษตรกรในท้องถิ่น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กมีอำนาจในการต่อรอง และสร้างสายใยความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนให้แน่นแฟ้นมากขึ้น อีกหนึ่งความพิเศษของ Targ Blonie Market ที่ทำให้ตลาดสดแห่งนี้เป็นมากกว่าตลาดทั่วๆ ไปคือ เมื่อตลาดปิดให้บริการ […]

ตามล่าขุมทรัพย์ปริศนาแห่งธนบุรีไปกับ ‘เกมท่องธน’ (Game of Thon) ที่ผสมการเล่นบนจอและโลกจริงไว้ด้วยกัน

‘ธนบุรี’ คืออดีตเมืองหลวงที่มีเรื่องราวมากมายซ่อนไว้ ซึ่งไม่ได้อยู่เพียงแค่ในวัดวังและโบราณสถานอันยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังซุกซ่อนอยู่ตามซอกซอย เส้นทาง และผู้คน รอคอยให้ใครสักคนมาค้นพบในสักวัน เร็วๆ นี้ ทุกคนจะได้สัมผัสการผจญภัยครั้งสำคัญกับ ‘เกมท่องธน’ (Game of Thon) เกมรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานการเล่นบนหน้าจอสมาร์ตโฟนกับการเล่นในสถานที่จริงเข้าไว้ด้วยกัน โดยตัวเกมจะพาทุกคนไปตามหาเรื่องราวในอดีตของฝั่งธนฯ และเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวในย่านนี้ให้แตกต่างไปจากเดิม ผู้นำเสนอเกมท่องธนคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากพัฒนาย่านฝั่งธนบุรี ‘ยังธน’ ร่วมกับ ‘CROSSs’ และ ‘กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์’ ซึ่งภายในเกมมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ดังนี้ 1) สวมบทบาทเป็นนักผจญภัย ตามหาขุมทรัพย์ในอดีตของธนบุรีที่หายไป2) ผสมผสานการเล่นทั้งโลกหน้าจอและโลกจริงเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน3) เปลี่ยนย่านบางกอกใหญ่ให้เป็นดินแดนการผจญภัยแสนสนุก4) ลับสมองประลองปัญหากับมินิเกมจากสถานที่ต่างๆ ทั่วบางกอกใหญ่5) เพิ่มความสนุกและตื่นเต้นไปกับเรื่องราวของย่าน ด้วยการสะสมสัตว์เลี้ยงและการ์ดต่างๆ6) สนับสนุนและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ด้วยระบบคูปองแลกซื้อสินค้าจากร้านชุมชน “Game of Thon คือเกมที่จะทำให้ผู้เล่นได้รู้จักฝั่งธนฯ มากขึ้น เราอยากให้เกมนี้เป็นเหมือนตัวกลางที่ทำให้คนในพื้นที่และคนนอกพื้นที่ได้เจอมาเจอกัน และแลกเปลี่ยนความรู้ด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ คุณค่าของย่าน รวมไปถึงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนด้วย” ‘เมฆ สายะเสวี’ สมาชิกกลุ่มยังธน เล่าให้ฟังถึงความตั้งใจของการพัฒนาเกมนี้ มากไปกว่านั้น กลุ่มยังธนยังคาดหวังว่า เกมท่องธนจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ทำให้ผู้คนรู้จักย่านต่างๆ ในธนบุรีมากขึ้น โดยผู้เล่นเกมสามารถใช้เกมนี้ในการชักชวนเพื่อนๆ […]

1 2 3

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.