
LATEST
ชวนดู ‘Wall to Wall ฝันร้าย 84 ตร.ม.’ ภาพยนตร์ว่าด้วยความดิ้นรนของคนอยากมีบ้าน ถ่ายทอดผ่านพนักงานออฟฟิศในกรุงโซล กับบ้านราคาสูงที่กลายเป็นปัญหานานาชาติ
เมื่อการมีบ้านกลายเป็นปัญหาร่วมระดับนานาชาติที่หลากหลายประเทศต้องเผชิญ ทั้งไทยที่ราคาบ้านพุ่งสูงขึ้นสวนทางกับรายได้ของคนทั่วไป หรือแม้กระทั่งเกาหลีใต้ที่ความฝันการเป็น ‘เจ้าของบ้าน’ นั้นยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน Urban Creature อยากชวนทุกคนดู Wall to Wall ฝันร้าย 84 ตร.ม. ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ-จิตวิทยาจากเกาหลีใต้ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ โน อูซอง (รับบทโดย คัง ฮานึล) พนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ใช้เงินเก็บทั้งหมดมาผ่อนอะพาร์ตเมนต์ราคา 1,100 ล้านวอน หรือราว 25 ล้านบาท ในกรุงโซล ซึ่งเป็นความฝันสูงสุดในชีวิตของเขา แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปเพียง 3 ปี ชีวิตที่เคยวาดฝันไว้กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ด้วยรายได้ของพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งที่ไม่เพียงพอต่อการผ่อนบ้านหลังนี้ ทำให้เขาต้องไปรับอาชีพเสริมเป็นไรเดอร์ส่งของ กลับบ้านมาก็ไม่ได้พักผ่อนอีก เพราะต้องเผชิญกับเสียงรบกวนปริศนาที่ดังลอดมาจากผนังอะพาร์ตเมนต์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาอดหลับอดนอนและเกิดความเครียดสะสม มากไปกว่านั้น เพื่อนบ้านคนอื่นๆ เริ่มสงสัยและโทษว่าเขาเป็นต้นเหตุของเสียงนั้น แต่พอเขาอยากจะขายบ้านหลังนี้ ราคาก็กลับตกเหลือประมาณ 800 ล้านวอน หรือ 18 ล้านบาท มีแต่ความฝันลมๆ แล้งๆ รอให้มีการพัฒนาพื้นที่ในเขตอะพาร์ตเมนต์และสร้างรถไฟความเร็วสูงที่อาจทำให้อสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ราคาสูงขึ้นมาได้ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขายังคงต้องอดทนกล้ำกลืนอยู่ในพื้นที่ 84 […]
‘Pulu’s Indigo Dream’ โปรเจกต์นิทานที่ชวนทุกคนมารักษ์ธรรมชาติ ผ่านหม้อห้อม สายน้ำ เต่าปูลู และหมู่บ้านนาตอง
“น้ำมาจากไหน” เมื่อ ‘โอ๊ค-จักรพันธ์ สุวรรณพาณิชย์’ ลองโยนคำถามไปให้เด็กรุ่นใหม่ใกล้ตัว คำตอบที่ได้คือ “น้ำมาจากก๊อก” ธรรมชาติอยู่รอบตัวเรา ต้นไม้ สายน้ำ สรรพสัตว์น้อยใหญ่ ต่างใช้ชีวิตเกื้อหนุนกัน ร่วมรังสรรค์ระบบนิเวศโลกให้สมบูรณ์ หากทรัพยากรธรรมชาติส่วนใดเสื่อมโทรมลง ผลกระทบก็จะลุกลามต่อเนื่องราวกับโดมิโนที่ล้มตามกัน พอน้ำเสีย พืชพรรณก็แห้งเหี่ยว สรรพสัตว์ก็ขาดอาหารหล่อเลี้ยงชีวิต คนรุ่นใหม่คือกำลังสำคัญของการสร้างสรรค์โลกอนาคตให้ยั่งยืน แต่ถ้าพวกเขาไม่รู้จักที่มาที่ไป หรือไม่เห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ แล้วเราจะเตรียมตัวให้พร้อมสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์และยั่งยืนได้อย่างไร โอ๊คตั้งคำถาม หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในฐานะกราฟิกดีไซเนอร์และอาร์ตไดเรกเตอร์กับเอเจนซีโฆษณาระดับโลกที่ต่างประเทศ โอ๊คตัดสินใจเก็บกระเป๋ากลับเมืองไทย แล้วใช้พลังด้านกราฟิกดีไซน์และความสร้างสรรค์ของตนมาขับเคลื่อนชุมชน อย่างเช่น ARI Magazine นิตยสารที่จุดประกายบทสนทนาเรื่องความสร้างสรรค์ให้ย่านอารีย์ หรือโปรเจกต์ Phrae Revival ที่ผลักดันงานศิลปหัตถกรรมท้องถิ่น พร้อมเปิดพื้นที่ให้ศิลปินนักออกแบบในเมืองแพร่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แม้จะผ่านการทำงานกับชุมชนมาหลายพื้นที่ คลุกคลีกับโปรเจกต์นับไม่ถ้วน แต่โอ๊คก็ไม่หมดแรงบันดาลใจ เพราะล่าสุดเขาก็เริ่มโปรเจกต์ใหม่อีกครั้ง นั่นคือ Pulu’s Indigo Dream โปรเจกต์กราฟิกโนเวลที่ชวนเด็กๆ มารู้จักและรักทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น ผ่านเรื่องเล่าที่แสนอบอุ่นและภาพประกอบอันสบายตา โดยโปรเจกต์นี้ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการ Connections Through Culture 2024 จาก British Council ซึ่งสนับสนุนการทำงานร่วมกันของศิลปินไทยและสหราชอาณาจักร […]
‘บางโพ’ ย่านที่ผสมผสานกันระหว่างเสน่ห์เก๋าๆ ของคนรุ่นเก่า และความสร้างสรรค์ชิกๆ ของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว
สถานีต่อไป บางโพNext Station Bang Phoโปรดระวังตกหลุมรักย่านนี้อย่างจังขณะอ่าน ไม้แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์ที่ต่างกันฉันใด ย่านแต่ละย่านย่อมมีชีวิตและเสน่ห์เฉพาะตัวฉันนั้น ดังเช่น ‘บางโพ’ ย่านเก่าแก่ในกรุงเทพฯ ที่ชื่อเสียงเรียงนามไม่เคยขาดหายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งการเป็นย่านโก้คนเก๋ตามเนื้อเพลงสาวบางโพ บทเพลงแห่งยุคที่ไม่ว่าใครๆ ต่างเคยคุ้นหู หรือจะเป็นความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรงานไม้ ณ ซอยประชานฤมิตร ศูนย์รวมงานศิลป์ประเภทไม้และช่างไม้ในตำนานไว้อย่างคับคั่ง แต่เมื่อตัดภาพมายังบางโพในปัจจุบัน ที่นี่มีภาพใหม่เป็นย่านแห่งการผสมผสานกันระหว่างเสน่ห์เก๋าๆ ของคนรุ่นเก่าและความสร้างสรรค์ชิกๆ ของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว เพราะขณะที่ร้านรวงใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ร้านเก่าแก่โบราณก็ยังอยู่ได้และยังคงเสน่ห์เหมือนเคย ทั้งนี้เพราะทั้งสองฝ่ายต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เปิดรับซึ่งกันและกัน ร่วมกันเป็นรากฐานที่ดีของย่าน จนทำให้บางโพเติบโตกลายเป็นย่านสร้างสรรค์อย่างมั่นคงดั่งต้นไม้ที่ยืนหยัดแข็งแรง คอลัมน์ Neighboroot ครั้งนี้ขอพาทุกคนไปลัดเลาะบางโพ สืบเสาะร้านเก่าร้านใหม่ ชวนมองย่านผ่านเลนส์ของคนหลากหลายอาชีพ สนทนาพาทีกับผู้คนหลากหลายรุ่น ทั้งคนบางโพแท้ตั้งแต่เกิด ตลอดจนคนที่ย้ายจากถิ่นกำเนิดมาปักหลักปักฐานและมาดมั่นว่าจะอยู่ที่นี่ ไม่ย้ายไปไหนอีก เราตกหลุมรักบางโพแล้วแล้วคุณล่ะ หากจะเรียกบางโพว่า ‘จุดสานเมือง’ คงไม่เกินความจริงนัก เนื่องจากปัจจุบันบางโพเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ได้อย่างสะดวก หลังจากการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ทำให้พื้นที่โดยรอบได้รับการพัฒนา และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตั้งแต่การเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ‘สถานีบางโพ’ จนถึงการยกระดับเป็นทำเลทองที่หมายปองของนักลงทุนจำนวนมาก ด้วยความที่เดินทางง่าย และเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ของย่านชัดเจน หากใครแวะเวียนไปบางโพตอนนี้นอกจากภาพมุมระนาบของตึกแถวที่ขนาบสองข้างถนนประชาราษฎร์ จะเห็นที่พักคอนโดมิเนียมเรียงรายเป็นฉากหลัง สะท้อนถึงการเป็นย่านที่อยู่อาศัยยุคใหม่ที่น่าจับตามอง […]
เตรียมพบ Marina Bay Sands ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม กับโรงแรมหรู อารีนา และพื้นที่ประชุมนานาชาติ ดันสิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกในปี 2029
เชื่อว่าใครที่เคยไปสิงคโปร์คงมีโอกาสแวะไปถ่ายภาพกับแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง ‘Marina Bay Sands’ มาแล้วแน่นอน โดยตึกนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2010 และมีผู้เข้าชมกว่า 470 ล้านคน ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าโรงแรมธรรมดา แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางทั้งในเชิงการท่องเที่ยวและธุรกิจ ตอนนี้ Marina Bay Sands กำลังขยายโครงการเพิ่มเติมเพื่อให้แลนด์มาร์กนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยโรงแรมใหม่สูง 55 ชั้น ที่มีห้องสวีตกว่า 570 ห้อง กับการออกแบบที่เน้นการไหลเวียนของลม และฟาซาดที่ออกแบบมาเพื่อลดการรับพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งยังมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวแนวตั้งอีกด้วย จุดเด่นที่สุดของโครงการคือ ‘Skyloop’ บนชั้นดาดฟ้าขนาด 76,000 ตารางฟุต ที่มีเสาวงรีซ้อนทับกันเป็นเกลียว มอบทั้งความสวยงามทางสถาปัตยกรรมและประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานอาหาร พักผ่อน และชมวิวที่แตกต่างจากเดิม โดย Skyloop จะตั้งอยู่สูงกว่า Sands SkyPark ที่อยู่ติดกัน เพื่อสร้างเลเยอร์ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสมุมมองของเมืองสิงคโปร์ในระดับและองศาที่แตกต่างกัน นอกจากตัวโรงแรม ที่นี่ยังมีอารีนาความจุ 15,000 ที่นั่งเพื่อเตรียมให้สิงคโปร์ได้เป็นเจ้าภาพการแสดง กีฬา และกิจกรรมระดับนานาชาติขนาดใหญ่ รวมถึงพื้นที่ MICE (การประชุม สัมมนา การจัดแสดง และกิจกรรมต่างๆ) เพิ่มมากขึ้นอีก […]
‘WABU’ แพลตฟอร์มที่อยากชวนคนลงเดินเท้าสำรวจเส้นทาง ออกไปพบเจอกับเรื่องราวน่าสนใจในสถานที่ต่างๆ
ว่ากันว่า ‘การเดิน’ จะพาเราไปพบกับเรื่องราวน่าสนใจในพื้นที่แปลกใหม่ที่อาจนึกไม่ถึงมาก่อน เพราะสองเท้าคือเครื่องมือที่พาเราลัดเลาะเข้าไปยังพื้นที่เล็กๆ ที่รถยนต์เข้าไปไม่ถึง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเส้นทางการเดินในพื้นที่ที่เราไม่เคยไปนั้นจะต้องเดินท่องเที่ยวแบบไหนถึงจะได้ไปเจอความน่าสนใจที่ว่า เราเลยอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ ‘WABU’ ที่ย่อมาจาก ‘WAlking BUddy’ แพลตฟอร์มที่อาสาทำหน้าที่เป็นเพื่อนผู้สำรวจเส้นทางก่อนจะพาทุกคนออกไปเดินสำรวจชุมชนหรือย่านต่างๆ ที่อาจยังไม่เป็นที่รู้จักในแง่ของการท่องเที่ยวมากเท่าไหร่นัก เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิต ประสบการณ์ใหม่ๆ และเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย จุดเริ่มต้นของการเป็นเพื่อนเดิน WABU นั้นเกิดขึ้นจากความชอบเดินของ ‘พี่อ๋อย-พิมพิมล คงเกรียงไกร’ และ ‘พี่เต้-ศตพร นวลละออง’ สองผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม ที่พี่อ๋อยเล่าให้เราฟังว่า เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวที่เมือง Arles ประเทศฝรั่งเศส ที่ภายในเมืองมีการแบ่งรูตเดินตามความสนใจในการเที่ยว โดยที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินตามเส้นทางที่กำหนดไว้บนพื้นว่าอยากจะไปเที่ยวในเส้นทางไหน ทำให้การเดินเที่ยวในครั้งที่ GPS ยังไม่เป็นที่นิยมไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แถมยังสร้างความประทับใจให้กับพี่อ๋อย และเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีรูตท่องเที่ยวลักษณะนี้ในบ้านเราบ้าง จนได้มีโอกาสจัดงานแสงสีสิงห์ที่จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อปี 2566 โดยเป็นงานที่นำเอาศิลปะและดีไซน์เข้ามานำเสนอร่วมกับการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดและเชิญชวนให้ผู้คนเข้ามาสัมผัสกับจังหวัดเมืองรองด้วยงานศิลปะที่จัดวางไว้ตามจุดต่างๆ ของเมือง แต่ด้วยความที่พี่อ๋อยกลัวว่านักท่องเที่ยวที่ไม่รู้จักทางจะสับสนเส้นทางการเดินและหาชิ้นงานไม่เจอ จึงได้สร้างเว็บไซต์ WABU เพื่อให้ผู้คนที่เข้าร่วมงานเปิดดูและเดินตามรูตที่วางเอาไว้สำหรับการตามหาชิ้นงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น แม้ว่าเว็บไซต์จะเป็นเพียงโปรเจกต์ทดลอง แต่พี่อ๋อยกลับพบว่ามีการเข้าใช้งานเพื่อเดินตามเส้นทางที่งานแนะนำเอาไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้ในปี 2568 นี้ WABU […]
หนึ่งวันใน ‘บ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์’ บ้านพิพิธภัณฑ์ที่เปิดแค่วันอาทิตย์ ด้วยแพสชันการสะสมศิลปะของ ‘เสริมคุณ คุณาวงศ์’
จะมีสักกี่พิพิธภัณฑ์ที่เราไปเยี่ยมชมแล้วไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ แต่ยังเป็นบ้าน เป็นที่พักอาศัย เป็นหัวใจที่เจ้าของงานสะสมกว่าพันชิ้นใช้ชีวิตอยู่ภายในพื้นที่เดียวกัน สถานที่แห่งนี้คือ ‘บ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์’ หรือ ‘Kunawong House Museum’ พิพิธภัณฑ์ในรูปแบบบ้านพิพิธภัณฑ์ (House Museum) ที่เปิดให้เราเข้าชมของสะสมที่เต็มไปด้วยแพสชันของ ‘คุณเสริมคุณ คุณาวงศ์’ นักสะสมผู้คร่ำหวอดในวงการศิลปะไทยมาอย่างยาวนาน อีกความพิเศษของที่นี่คือ เปิดให้บริการเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น คอลัมน์ One Day With… ในซีรีส์คอนเทนต์ ‘MUSEUM-IN-SIGHT เพ่งพิศพิพิธภัณฑ์’ จึงอยากชวนทุกคนทำตัวว่างๆ ในวันสุดท้ายของสัปดาห์ แล้วมาใช้เวลาหนึ่งวันในบ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์ พร้อมพูดคุยกับคุณเสริมคุณและเหล่าพนักงานถึงแพสชันในการเปิดบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนเข้ามาสัมผัสบรรยากาศสเปซในฝันของใครหลายคนที่อยากมีบ้านเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ รวมถึงเยี่ยมชมผลงานสะสมที่หาชมไม่ได้ง่ายๆ บ้านพิพิธภัณฑ์ที่เปิดขึ้นตอนผู้อาศัยอยู่ยังมีชีวิต แค่เดินจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีโชคชัย 4 เข้ามาในซอยลาดพร้าว 54 จนสุดซอยประมาณ 400 เมตร แม้ยังไม่ทันก้าวเข้าไปในบ้าน เราจะพบประติมากรรม 2 ชิ้นตั้งเด่นเป็นสง่าแบบที่ไม่ต้องดูป้ายก็รู้ว่ามาถึงจุดหมายของเราในวันนี้กับบ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์ พิพิธภัณฑ์ในรูปแบบบ้านพิพิธภัณฑ์กันแล้ว ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในบ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์ สิ่งหนึ่งที่ทำเอาเราหลุดเข้าไปในโลกของงานศิลปะได้ทันทีคือ การออกแบบพื้นที่ที่บอกเล่าด้วยตัวของมันเองว่า ‘นี่แหละ งานศิลปะ’ หนึ่งสวนบวกกับสามอาคาร ได้แก่ […]
10101 : 101 Pieces of 1 City (Bangkok Edition) ธีสิสว่าด้วย ‘การออกแบบเพื่อแก้ปัญหาแบบบ้านๆ’ ผ่านชิ้นส่วนที่พบเห็นได้ในเมือง 101 ชิ้น
ใครเคยเดินสำรวจเมืองแล้วสะดุดตากับข้าวของเหล่านี้บ้างไหม เก้าอี้ที่ถูกดัดแปลงเพื่อฟังก์ชันบางอย่างมากกว่าการนั่ง หรือท่อ PVC ที่เป็นตั้งแต่แผงกั้นจราจรยันขาตั้งโต๊ะ ของจำพวกนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยกระบวนการออกแบบที่เราหรือแม้แต่นักออกแบบมืออาชีพเองอาจนึกไม่ถึง จะเป็นอย่างไร ถ้า ‘การออกแบบเพื่อแก้ปัญหาแบบบ้านๆ’ ถูกย่อส่วนให้กลายเป็นชิ้นส่วนคล้ายเลโก้หรืออาร์ตทอย 101 ชิ้นในรูปแบบชุดเกมที่ชวนให้เราเรียนรู้เรื่องเมือง และสำรวจความคิดสร้างสรรค์ผ่านกระบวนการออกแบบไปพร้อมๆ กัน คอลัมน์ Debut ขอชวนไปรู้จัก 10101 : 101 Pieces of 1 City (Bangkok Edition) โปรเจกต์ที่เริ่มต้นสังเกตการณ์ ‘การออกแบบเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของกรุงเทพฯ’ จนกลายมาเป็นชุดเครื่องมือ 101 ชิ้น โดย ‘น้อยหน่า-รมย์รวินท์ พิพัฒน์นัดดา’ นิสิตปริญญาโทจากภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ (CommMA) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะพาไปเรียนรู้ ‘การออกแบบแบบบ้านๆ’ ผ่านชิ้นส่วนเล็กๆ ในเมือง การทำงานร่วมกันระหว่าง ‘การออกแบบพื้นถิ่น’ และ ‘ความคิดสร้างสรรค์’ โปรเจกต์นี้เริ่มจากการตั้งคำถามว่า ‘การออกแบบพื้นถิ่นสามารถจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ผ่านเครื่องมือออกแบบได้อย่างไร’ ทำให้ 10101 : 101 Pieces […]
BMTA BUS แอปพลิเคชันรถเมล์ ขสมก. ดูข้อมูลเส้นทางรถเมล์เรียลไทม์ผ่าน GPS แอปฯ เดียวครบทุกเรื่องเกี่ยวกับ ขสมก.
ใครเป็นสายนั่งรถเมล์ โหลดแอปพลิเคชันนี้เก็บไว้ได้เลยกับ ‘BMTA BUS’ แอปฯ รถเมล์โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป้าหมายของแอปฯ นี้คือ ขสมก.ต้องการให้บริการการเดินทางแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมขึ้น ด้วยการเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง โดยประชาชนสามารถตรวจสอบรถเมล์แบบเรียลไทม์ และค้นหาเส้นทางได้ง่ายๆ ผ่านระบบ GPS นอกจากจะค้นหาเส้นทางและดูตำแหน่งรถเมล์ได้แล้ว ภายในแอปฯ ยังมีการอัปเดตเกี่ยวกับการให้บริการและการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง รวมไปถึงผู้โดยสารสามารถให้คะแนนความพึงพอใจบริการของพนักงาน ความสะอาดของรถ ความปลอดภัยในการขับขี่ และระยะเวลารอรถ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการรถโดยสารของ ขสมก.ในอีกทางหนึ่ง ใครที่ขึ้นรถเมล์ของ ขสมก.บ่อยๆ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน BMTA BUS ได้ง่ายๆ เพียงค้นหาคำว่า BMTA BUS ในระบบ iOS และ Android Source : Facebook : ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์-Dailynews | t.ly/i1ZkA
ชาว Salmon Books และย่านรัชดาฯ รวมสถานที่ชุบชูใจใกล้ชาว Content Creature ที่อยากแนะนำให้ทุกคนว่ายทวนน้ำไปเยี่ยมเยียน
รอบนี้คอลัมน์ Add to My List ขอขยับข้ามโซนมาย่านรัชดาฯ กันบ้าง ด้วยการไปเยี่ยมเยียนถิ่นทำงานของชาวสิ่งพิมพ์แห่งสำนักพิมพ์แซลมอน หลายๆ คนน่าจะเคยเห็นหนังสือของสำนักพิมพ์นี้ผ่านตามาบ้าง เผลอๆ อาจจะเคยอ่านจนเป็นแฟนประจำด้วยซ้ำไป เพราะที่นี่ตีพิมพ์หนังสือสนุกๆ มาให้เราอ่านเป็นเวลาเกินสิบปีแล้ว! โดยออฟฟิศของพวกเขานั้นตั้งอยู่ในอาคารบันลือกรุ๊ป ซอยรัชดาภิเษก 3 ที่ทางเดินเข้าซอยค่อนข้างวัดใจคนเดินสุดๆ แต่ถึงอย่างนั้น แถวนี้ก็มีร้านดีสถานที่เด็ดที่ชาวแซลมอนยกให้เป็นพื้นที่ชุบชูใจที่มักแวะไปในระหว่างทำงาน หลังเลิกงาน หรือกระทั่งก่อนเริ่มงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารโลคอลๆ ที่แค่อ่านการบรรยายสรรพคุณก็น้ำลายไหล อยากไปตามรอยกินแล้ว ใครที่อยากรู้ว่าเหล่าคนทำหนังสือในซอย 3 เขามีสถานที่โปรดเป็นที่ไหนกันบ้าง ลองไปตามอ่านกัน ณ บัดนาววว ชื่อ : ปฏิกาล ภาคกายตำแหน่ง : บรรณาธิการบริหารสถานที่โปรด : bookmarkตำแหน่งที่ตั้ง : maps.app.goo.gl/rKpzirnZWDEcbAEV8 จะบอกว่าโปรดก็น่าละอาย เพราะสถานที่นี้ตั้งอยู่ใต้ตึกออฟฟิศ หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเป็นหนึ่งในกิจการของบริษัทในเครือ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการขายของมากจนเกินไป เลยจะขอเล่าเท้าความสักเล็กน้อยว่า เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เคยถูกคิดให้เป็นร้านหนังสือมาก่อน แต่สถานะน่าจะแตกต่างจากปัจจุบัน คือเป็นเหมือนกึ่งๆ โชว์รูม บรรยากาศดูขรึมขลัง คนทั่วไปเลยไม่น่าจะกล้าเดินเข้ามา คนที่มีโอกาสได้ดูก็น่าจะเป็นแค่แขกที่แวะเวียนมาคุยงานเท่านั้น แต่พูดก็พูดไปคือ ผมทำงานที่ตึกนี้มาประมาณ […]
สะพานคนเดินและจักรยาน เส้นทางสัญจรจากกลางเมืองไปชานเมือง ลดปัญหาการจราจร รักษามรดกจากอดีต และเป็นพื้นที่สาธารณะของเมือง
เมือง Albi ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำ Tarn เป็นเมืองเก่าแก่ที่โด่งดังเรื่องมหาวิหารอิฐแดงสีสันสวยงาม รวมถึงย่านเมืองเก่าของยุคกลางก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ตั้งแต่ปี 2553 อีกด้วย ประวัติศาสตร์การเชื่อมต่อของเมืองนี้น่าสนใจมาก ในศตวรรษที่ 13 มี Pont Vieux เป็นสะพานเพียงแห่งเดียวที่ข้ามแม่น้ำได้ จนกระทั่งปี 2407 ที่มีการตัดทางรถไฟด้วยสะพานรถไฟอิฐแดงที่สูงถึง 30 เมตรเหนือผิวน้ำ ต่อมาในปี 2410 จึงมีการสร้าง Pont Neuf หรือสะพานสำหรับรถยนต์เพิ่มเติม แต่เมื่อการจราจรบน Pont Neuf แออัดมากขึ้น ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างย่านชานเมืองกับใจกลางเมืองไม่สะดวกเท่าไรนัก ปี 2556 เมืองจึงตัดสินใจจัดประกวดแบบสำหรับสะพานคนเดินและจักรยานแห่งใหม่ที่จะแขวนจากสะพานรถไฟเก่า ท้ายที่สุด Ney & Partners บริษัทสถาปนิกและวิศวกรจากบรัสเซลส์ ได้รับชัยชนะจากแนวคิดที่จะแขวนสะพานใหม่ไว้ด้านล่างของสะพานรถไฟ ด้วยเหตุผลหลากหลายข้อ อย่างแรกคือ ช่วยลดผลกระทบต่อทัศนียภาพของเมืองเก่า ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทางเข้าออกที่กว้างของฝั่งชานเมือง รวมถึงช่วยให้มองเห็นทิวทัศน์เมืองเก่าผ่านซุ้มโค้งของสะพาน และประการสุดท้ายคือ ช่วยฟื้นฟู Place du Calvaire พื้นที่สาธารณะที่เคยรกร้างว่างเปล่า ทีมออกแบบสร้างทางเชื่อมใหม่เป็นสะพานคนเดินยาว […]
‘The Monrakmaeklong Grocer’ ร้านชำที่พาวัตถุดิบจากทรัพยากรแม่กลองมาไว้ที่กรุงเทพฯ ได้ของคุณภาพดีแล้ว ยังได้สนับสนุนผู้ผลิตในท้องถิ่นไปในตัว
‘แม่กลอง’ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งวัตถุดิบทำอาหารที่ครบเครื่อง บางอย่างก็หาซื้อไม่ได้จากที่ไหน แต่จะให้ไปแม่กลองทุกครั้งที่ของหมดหรือสั่งออนไลน์ก็ดูจะนานไปหน่อย Urban Creature เลยนำข่าวดีสำหรับคนรักวัตถุดิบแม่กลองมาฝากกับ ‘เดอะมนต์รักแม่กลอง’ ที่ขยับขยายมาเปิดหน้าร้านชื่อ ‘The Monrakmaeklong Grocer’ ในหมู่บ้านสัมมากร ย่านรามคำแหงแล้ว ร้านโชห่วยที่จำหน่ายสินค้าจากท้องถิ่นและธรรมชาติ หลายคนน่าจะเคยได้ยินและไปเยี่ยมเยียนเดอะมนต์รักแม่กลอง สาขาแม่กลอง ที่ชื่อ ‘หนูโจอาร์ตแอนด์ฟาร์ม’ มาแล้ว โดยเดอะมนต์รักแม่กลองคือร้านโชห่วยชุมชนที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นนั้นผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบภูมิปัญญาดั้งเดิม พร้อมทั้งใช้วัตถุดิบที่เป็นทรัพยากรจากธรรมชาติของท้องถิ่นแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ไม่ว่าจะเป็นน้ำผึ้งดอกลิ้นจี่จากสวนลิ้นจี่บางสะแก, คาราเมลทอฟฟีผลิตที่แพรกหนามแดง, น้ำตาลมะพร้าวและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลมะพร้าวจากสวนมะพร้าวเตาตาล เขตพื้นที่น้ำกร่อย, น้ำมันมะพร้าวจากสวนมะพร้าวบ้านคลองวัว, หอยดองผลิตที่บางจะเกร็ง, เกลือจากบางแก้ว หรือหัวน้ำปลาจากบ้านบางบ่อล่าง เป็นต้น ส่งต่อภูมิปัญญาชาวบ้านและเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ให้คนนอกรับรู้ จุดเริ่มต้นของการเป็นร้านโชห่วยเดอะมนต์รักแม่กลองนั้นเกิดขึ้นจากการที่ ‘หนู-ภัทรพร อภิชิต’ และ ‘โจ-วีรวุฒิ กังวานนวกุล’ ได้สัมผัสความเป็นอยู่ และหลงรักในพื้นที่นี้ ก่อนจะได้รับน้ำปลาหมักเองจากคนในพื้นที่ที่เมื่อลองชิมแล้วตาเป็นประกาย ติดใจในรสชาติ ทั้งคู่จึงอยากส่งต่อคุณค่าของแม่กลองในรูปแบบผลิตภัณฑ์ไปให้คนอื่นๆ รู้จักด้วย นอกจากน้ำปลาแล้ว แม่กลองยังเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่แค่ข้ามตำบล ทรัพยากรที่มีก็แตกต่างกันไป ทำให้มีความหลากหลายของรสชาติเป็นอย่างมาก เดอะมนต์รักแม่กลองอยากเล่าเรื่องราวของแม่กลองผ่านประสาทสัมผัสด้านการกิน จึงทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาชาวบ้านมาส่งต่อให้กับคนที่ต้องการวัตถุดิบจากแหล่งธรรมชาติของแม่กลอง ไม่ต้องไปถึงแม่กลองก็ลิ้มรสชาติของท้องถิ่นแท้ๆ ได้ที่กรุงเทพฯ […]
ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กกับพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 2 (ทุ่งครุ) พื้นที่อยากชวนทุกคนในครอบครัวออกมาใช้เวลาร่วมกัน
เวลาพูดถึงพื้นที่ของเด็กทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนใหญ่เรานึกถึงอะไรบ้าง สวนสนุก ร้านของเล่น สนามหญ้ากว้าง ๆ ให้เด็กได้ทำกิจกรรม หรือพื้นที่ทางธุรกิจหรือราชการอย่างสถานีโทรทัศน์ กองทัพ และทำเนียบรัฐบาลที่เปิดต้อนรับเด็กน้อยใน ‘วันเด็ก’ แต่วันอื่นล่ะ วันทั่ว ๆ ไปที่เด็กน้อยต้องใช้ชีวิตตามปกติ และเรียนรู้ที่จะเติบโตในทุก ๆ วัน คือที่ไหนกัน โรงเรียน บ้าน หรือสถานที่ที่เปิดต้อนรับและพร้อมมอบประสบการณ์คู่การเรียนรู้อย่าง ‘พิพิธภัณฑ์เด็ก’ เชื่อว่าหลายคนพอได้ยินคำว่าพิพิธภัณฑ์เด็ก จะต้องนึกถึงพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 1 บริเวณจตุจักรเป็นแน่ เพราะบ้างก็เคยไปทัศนศึกษากับโรงเรียน บ้างก็คงเคยเห็นผ่านตา เพราะล่าสุดรถ BMA Feeder ของ กทม. เพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ให้สะดวกกับพ่อแม่ที่พาลูก ๆ ไปเที่ยวมากขึ้น แต่แท้จริงแล้ว พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครไม่ได้มีแค่ฝั่งจตุจักรเพียงที่เดียว แต่ยังมีพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 2 (ทุ่งครุ) หรือศูนย์การเรียนรู้สำหรับครอบครัวอยู่ด้วย วันนี้คอลัมน์ One day With… ในซีรีส์คอนเทนต์ ‘MUSEUM-IN-SIGHT เพ่งพิศพิพิธภัณฑ์’ จึงอยากชวนทุกคนมาตามติดเบื้องหลังพื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็กและครอบครัวสักหนึ่งวัน Once […]