พบทางเท้าพัง เจอถนนเป็นหลุม ฯลฯ แจ้งผ่านไลน์ @traffyfondue พร้อมส่งปัญหาไปถึงผู้รับผิดชอบโดยตรง

ทางเท้าพัง ถนนเป็นหลุม ไฟข้ามถนนไม่ทำงาน ป้ายบังทางเดิน ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือสารพัดปัญหาเมืองที่คนไทยน่าจะประสบมาแล้วไม่มากก็น้อย และในขณะเดียวกัน Urban Creature เชื่อว่าคงมีหลายคนที่อยากแจ้งปัญหาให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาปรับปรุงแก้ไข แต่อุปสรรคใหญ่คือเรามักไม่รู้ว่าต้องแจ้งใคร และจะรู้ได้ยังไงว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว เพราะอยากให้ประชาชนกับหน่วยงานต่างๆ ร่วมมือทำงานพัฒนาเมืองไปด้วยกันอย่างสะดวก ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) จึงคิดค้น Traffy* Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์/ท่านพี่ฟ้องดู) แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมืองด้วยการใช้ระบบแจ้งและบริหารจัดการด้วย AI Chatbot หลักการใช้งานของ Traffy* Fondue คือการให้หน่วยงานต่างๆ เช่น อบต. เทศบาล อาคารสำนักงาน หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีระบบรับแจ้งปัญหาอยู่แล้ว นำแพลตฟอร์มนี้มาใช้เพิ่มช่องทางใหม่ในการรับแจ้งและจัดการปัญหาที่พบผ่าน LINE Chatbot แบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ และยกระดับการมีส่วนร่วมของพลเมือง (Citizen Engagement) และผู้เกี่ยวข้องได้ทุกพื้นที่และทุกเวลา นอกจากอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้หน่วยงาน ฟากประชาชนเองก็สามารถมีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแลเมืองได้ง่ายๆ แค่แจ้งปัญหาเมืองที่พบผ่าน LINE ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เราพบทั่วไปอย่างทางเท้าพัง ป้ายหาเสียงนักการเมืองบังทางเดิน ไฟถนนไม่ส่องสว่าง ไปจนถึงการแจ้งซ่อมในอาคารสำนักงาน สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ สาธารณภัย เป็นต้น จากนั้นระบบ AI […]

สุนัขชุมชน ตลาดแม่กลอง โมเดลที่บอกว่าหมาจรจัดไม่ใช่ภาระ และอยู่ร่วมกับสังคมได้

ยามเย็นของตลาดแม่กลอง ตลาดติดทางรถไฟหุบร่มไปเรียบร้อย คุณแม่แวะมาหิ้วมื้อเย็นไปฝากครอบครัว เด็กนักเรียนถือไม้ลูกชิ้นทอดแกล้มกับน้ำอัดลม ชายหนุ่มวัยเก๋าฝังตัวอยู่ในบาร์เบอร์ที่น่าจะใช้บริการกันมาแต่นานนม หมาปลอกคอเขียวใส่เสื้อกั๊กสีส้มกระโดดขึ้นมอ’ไซค์วินอย่างคุ้นเคย เจ้าตัวอวบอ้วนสีดำไม่สนิทคาบตะกร้าเดินตามคนรู้ใจ ประชากรสี่ขาครับกระจายตัวไปทั่วตลาดอย่างกลมกลืน บ้างเล่นกับพ่อค้าแม่ขาย บ้างนอนทอดอารมณ์ไม่สนใจความเป็นไปของผู้ใด พอจะกล่าวได้ว่าบรรยากาศตลาดแห่งนี้ดูแสนคึกคักแม้เป็นวันธรรมดา หากลองทอดน่องเลยมาทางโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นอกจากจะพบ ‘กล้าหาญ’ ดาราตลาดที่เราบอกว่ากระโจนขึ้นลงรถพี่วินฯ อย่างคล่องแคล่วไร้ความเขินอายแล้ว ‘โอวัลติน’ สามขาพันธุ์ซ่าก็ออกมาทักทายคนรู้จักตามประสา ปลอกคอสีเหลืองเตือนเราว่าอย่าพึ่งรีบทักทายเพื่อนใหม่คนนี้ คอยดูท่าทีความเป็นมิตรอีกสักนิดหนึ่งดีกว่า  “โอวัลตินนี่แล้วแต่คนเลยครับ ต้องดูท่าเขาหน่อยว่าจะให้จับหรือเปล่า” พี่หนึ่ง-ณัฐพงษ์ งามสง่า เจ้าของร้านดอกไม้หน้า รพ.สมเด็จฯ และผู้ก่อตั้งโครงการสุนัขชุมชน ตลาดแม่กลอง เอ่ยปากแล้วบอกว่าส่วนเจ้ากล้าหาญนี่ใครอยากเล่นด้วยก็เอาเลย เพราะเป็นมิตรกับทุกคนอยู่แล้ว ยิ่งกับพี่วินฯ นี่จะยิ่งซี้เป็นพิเศษ อยากขึ้นมอเตอร์ไซค์คันไหนก็ได้หมดแถมไม่เสียตังค์ด้วย  ใครบอกว่าหมาจรต้องจับเอาไปตอนสถานเดียวพี่หนึ่งบอกว่าไม่จริง เพราะถ้าออกแบบและวางระเบียบให้ดีหมาอยู่กับคนได้แน่ ว่าแต่เจ้าของเสื้อสีฟ้าคนนี้มีวิธีอะไร ฉายาผู้ใหญ่บ้าน (ของชาวสี่ขา) ทำยังไงถึงได้มา ปลอกคอที่ใช้สีจราจรบอกความเป็นมิตรใช้ได้ผลแค่ไหน ชวนอ่านไปพร้อมกันเลยครับ การันตีว่าถูกใจทั้งคนรักและไม่รักหมาแน่นอน เริ่มจากคนรักหมา ในโลกของคนรักหมาผู้ใหญ่บ้านชาวสี่ขาตลาดแม่กลองอย่างพี่หนึ่ง ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีคนนับหน้าถือตาไม่น้อย เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาหมาจร จับหมาไม่มีเจ้าของไปฉีดวัคซีน ทำหมันจนเสร็จสรรพ พี่แกยังเป็นเจ้าของเพจ @มัชเฌ Never Die อัศวินหมาดำ ที่สมัยก่อนเป็นไดอารีของเจ้ามัชเฌ ลาบราดอร์สีดำต้นตำรับเซเลบแห่งตลาดแม่กลองที่ดังถึงขนาดไปออกทีวีที่ญี่ปุ่น […]

Home and Places เหมันต์เมื่อธันวา

ในขณะที่สังคมเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การได้กลับไปสำรวจที่เดิมที่เราคุ้นเคย การได้ทบทวนถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาจึงทำให้เกิดงานภาพถ่ายชุดนี้ขึ้นมา

UNDP ชวนหาสาเหตุความรุนแรง เมื่อความสุดโต่งและปัจจัยเชิงโครงสร้างคือบ่อเกิดของการใช้ความรุนแรง

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเห็นภาพความเคลื่อนไหวทั้งในประเทศไทยและรอบโลก การกลับมาของฝ่ายขวาจัดและแนวคิดนิยมเผด็จการ และที่อีกด้าน ผู้คนออกไปเรียกร้องความเท่าเทียมและความยุติธรรม บางครั้งพวกเขาได้รับการรับฟังและบรรลุเป้าหมายได้ด้วยสันติวิธี แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่เกิดความรุนแรงเพราะรัฐเมินเฉยจนทำให้สถานการณ์ยิ่งปะทุ หรือรัฐลงมือปราบอย่างรุนแรง หลายกลุ่มเลือกลงมือก่อการร้ายเพราะความคับแค้นใจที่เผชิญมาเป็นเวลานานและเชื่อว่าความรุนแรงจะเป็นคำตอบ เสียงของอาวุธปืนและระเบิดอาจทำให้ได้รับความสนใจจากสังคม แต่นั่นคือทางออกจริงหรือ ในสังคมประชาธิปไตยที่มีรากฐานมาจากการเคารพความหลากหลาย ไม่ผิดหากจะมีแนวคิดสุดโต่ง (Extremism) ที่หมายถึงยึดถือในอุดมการณ์/ความเชื่อ/ความศรัทธาในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สิ่งนั้นอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทางที่ดีขึ้นได้ เช่น การต่อสู้เรียกร้องสิทธิของชาติพันธุ์หรือสิทธิสตรี แต่ถ้าหากแนวคิดสุดโต่งนั้นกลายเป็นแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง (Violent Extremism) เมื่อใด กลุ่มบุคคลนั้นจะมองว่าการใช้ความรุนแรงไม่ผิดและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และเมื่อนั้น การสูญเสียก็จะเกิดขึ้น ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะเกิดความสูญเสียขึ้น สาเหตุที่แท้จริงของมันคืออะไร คนเราไม่ได้มีแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรงขึ้นมาได้ง่ายๆ ที่ด้านหนึ่ง มันถูกฟูมฟักขึ้นมาจากความขัดแย้งทางศาสนา ชาติพันธุ์ หรือเพศ และความเดือดร้อนต่างๆ ที่มาจากการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมเพราะไม่มีส่วนร่วมทางการเมืองและไม่ถูกมองเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ชนกลุ่มน้อยที่ถูกกีดกันทางกฎหมายในเรื่องสัญชาติและโอกาสทางเศรษฐกิจ หรือบุคคลที่มีศาสนาและวัฒนธรรมแตกต่างจากส่วนกลางทำให้รู้สึกเป็นอื่น ส่วนที่อีกด้าน ความรุนแรงอาจมาจากกลุ่มที่ไม่ได้ตระหนักถึงความแตกต่างหลากหลายและไม่ใช่ชนกลุ่มน้อย (Minority) ในสังคมก็ได้ เช่น กลุ่มหัวรุนแรงขวาจัด (Right-Wing Extremists) ในหลายประเทศ และผู้ที่สมาทานแนวคิดที่ว่าคนขาวเหนือกว่าคนกลุ่มอื่น (White Supremacy) ที่สหรัฐอเมริกา พวกเขาเชื่อว่าคนกลุ่มอื่นจะทำให้สถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของพวกเขาสั่นคลอน จึงลงมือใช้ความรุนแรงเพราะต้องการปกป้องสถานภาพและผลประโยชน์ของตัวเองเอาไว้ หากอยากตัดไฟความรุนแรงแต่ต้นลม เราจะทำอย่างไรได้บ้าง โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ […]

แม่น้ำต้องลงไปว่ายได้! ปารีสวางแผนทำความสะอาดครั้งใหญ่ รับโอลิมปิก 2024

ปารีสกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ หลังจากประกาศว่าจะทำให้แม่น้ำแซนสะอาดจนสามารถลงไปว่ายได้ในปี 2024 ซึ่งหากทำได้สำเร็จ เมืองหลวงแดนน้ำหอมอาจเป็นต้นแบบสำคัญที่ทำให้เมืองอื่นๆ ทั่วยุโรป ลงมือทำความสะอาดแม่น้ำของตนเองที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย ที่ผ่านมาปารีสได้ประกาศแผนการที่จะจัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2024 ที่แม่น้ำแซน สายน้ำเก่าแก่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง แต่พวกเขาไม่ต้องการให้แม่น้ำเป็นเพียงฉากหลังที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังหวังว่าจะสามารถจัดกิจกรรมบางอย่างในแม่น้ำเหมือนกับที่เคยทำในโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 1900 ที่ผ่านมาการว่ายน้ำในแม่น้ำแซนผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 1923 สาเหตุมาจากคุณภาพน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน ปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขคือระบบท่อระบายน้ำในปารีส ที่ไม่สามารถรองรับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ ซึ่งน้ำเสียสามารถผสมกับน้ำฝนและไหลลงสู่แม่น้ำแซนได้จากท่อระบายน้ำกว่า 40 แห่ง ส่งผลให้มีระดับแบคทีเรียที่สูงมากจนเกิดอาการป่วยได้ ตั้งแต่ท้องร่วง คลื่นไส้ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ เพื่อต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ ปารีสจะให้เงิน 1,600 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อถังเก็บน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่สามารถจุน้ำได้ 12 ล้านแกลลอน ปริมาตรเดียวกับที่เติมสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกได้ 18 สระ โดยถังจะถูกสร้างขึ้นภายใต้สวนสาธารณะเชื่อมต่อด้วยอุโมงค์ใต้ดินที่จะรวบรวมน้ำจากท่อระบาย และสูบกลับเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียได้เมื่อปริมาณฝนลดลง นครหลวงฝรั่งเศสยังกำลังทดสอบระบบที่เรียกว่า Alert หรือเซนเซอร์ลอยน้ำอัตโนมัติ เพื่อทำการวัดระดับแบคทีเรียในน้ำแบบเรียลไทม์ เพื่อการวางแผนที่ดียิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามปารีสไม่ได้เป็นผู้โชคร้ายรายเดียวที่ระบบบำบัดน้ำเสียไม่สามารถรองรับฝนตกหนักได้ หลายเมืองใหญ่ของยุโรปที่มีระบบบำบัดน้ำเสียอายุมากกว่าศตวรรษก็กำลังประสบปัญหาเดียวกัน และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำบอกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลให้ฝนตกหนักขึ้นบ่อยครั้ง จนสถานการณ์อาจเลวร้ายกว่าเดิม Source : Freethink l https://shorturl.asia/6AOQX

The Fence Craft Beer Bar บ้านริมคลองของคนชอบคราฟต์เบียร์ พาย SUP และรักกาแฟ

การจะหาที่พักผ่อนในกรุงเทพฯ ที่ไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งถ้าอยากได้ความร่มรื่น อยู่ท่ามกลางบรรยากาศสงบๆ และอยู่ใกล้เมืองแล้วยิ่งตัวเลือกน้อยลงเข้าไปอีก  จาก Pain Point ของคนเมืองที่ลำบากกับการหากิจกรรมวันหยุดและหาสถานที่พักผ่อน ทำให้เราได้รู้จักกับบ้านริมน้ำหลังหนึ่งชื่อ The Fence Craft Beer Bar คอมมูนิตี้ย่านตลิ่งชันที่รวมหลายกิจกรรมเอาไว้ในที่เดียว ทั้งพายซัปบอร์ด ดูวิถีชีวิตริมคลองกับ SUP Talingchan ดื่มกาแฟ Specialty ที่ Huto.Co (ฮูโต๋) และปิดท้ายวันด้วยคราฟต์เบียร์ดีๆ และอาหารอร่อยๆ จาก The Fence Craft Beer Bar ในบรรยากาศริมคลองที่เหมาะกับการนั่งรับลมเย็นใต้ร่มไม้ตลอดทั้งวัน คอมมูนิตี้นี้คือการรวมตัวของเพื่อนที่ชอบอะไรต่างกัน แต่อยู่รวมกันแล้วลงตัวได้ดี แถมยังให้ชุมชนรอบข้างมีสีสันมากขึ้น เริ่มต้นมาจาก The Fence Craft Beer Bar ที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่ชอบดื่มคราฟต์เบียร์เป็นชีวิตจิตใจ โดยมีหุ้นส่วน 4 คนคือ อ้น-ศิรสิทธิ์ กลิ่นสุวรรณ, อู๋-จารุกิตติ์ ธเนศอนุกุล, อ๊อบ-อรรถพล ธเนศอนุกุล และฤทธิ์-ณรงค์ฤทธิ์ เอนกสุวรรณมณี […]

โฆษณาซานต้าเกย์ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในทัศนคติต่อ LGBTQ+ ของนอร์เวย์

โฆษณาคริสต์มาสได้กลายเป็นประเพณีประจำปีในหลายประเทศ ที่มักจะหยิบยกเรื่องราวของแบรนด์มานำเสนอผ่านมนต์ขลังของซานต้า เรนเดียร์ กล่องของขวัญ หรือถุงเท้า แต่คริสต์มาสที่ผ่านมานี้มีโฆษณาของประเทศนอร์เวย์เรื่องหนึ่งที่ซานต้าจูบกับผู้ชายที่รอเขาอยู่ที่บ้านในวันคริสต์มาสอีฟ ซึ่งเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก When Harry Met Santa เป็นโฆษณาความยาวสี่นาทีจาก Posten บริษัทไปรษณีย์จากนอร์เวย์ เรื่องราวมีอยู่ว่าชายคนหนึ่งกำลังเขียนจดหมายเพื่อส่งไปยังขั้วโลกเหนือโดยมีข้อความระบุไว้เพียงสั้นๆ ว่า All I Want for Christmas is you หรือทั้งหมดที่ฉันต้องการในวันคริสต์มาสก็คือคุณ ในที่นี้หมายความว่าตัวซานต้าเองนี่แหละ ที่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเขา “เราต้องการฉลองครบรอบ 50 ปี ของการยกเลิกกฎหมายห้ามมีความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกัน” Monica Solberg ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Posten กล่าวถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังของโฆษณาที่มีผู้ชมผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าสองล้านครั้ง ซึ่งเธอบอกว่าประหลาดใจเป็นพิเศษกับผลตอบรับที่ดีและมากขนาดนี้ ทว่านอกจากคำชมแล้ว ไอเดียครีเอทีฟชิ้นนี้กำลังถูกวิจารณ์จากชาวนอร์เวย์และประเทศในแถบนอร์ดิก ความเห็นบางส่วนบอกว่านี่คือการล่วงละเมิดทางเพศกับซานตาคลอส หรือจงใจแสดงให้เห็นว่านอกใจภรรยาอย่าง Mrs. Claus ซึ่งในหลายพื้นที่ของโลกแนวความคิดเรื่องความรักในวันคริสต์มาสแบบเกย์ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ผลสำรวจบอกว่าชาวสหราชอาณาจักรไม่ยอมรับการที่ซานตาคลอสถูกนำเสนอหรือตีความให้แสดงความรักต่อเพศเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในประเทศนอร์เวย์ ที่แต่เดิมการรักร่วมเพศถือเป็นสิ่งต้องห้ามและเป็นความผิดทางอาญาจนกระทั่งปี 1972 การมองว่าโฆษณาเรื่อง When Harry Met Santa เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจมากกว่าจะวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ซึ่งสะท้อนถึงทัศนคติที่ก้าวหน้าในด้านสิทธิ […]

นักวิจัยพัฒนาแผงอิเล็กทรอนิกส์ยืดหยุ่นคล้ายผิวหนัง หมุดหมายสำคัญเทคโนโลยีสวมใส่

นักวิจัยพัฒนาแผงอิเล็กทรอนิสก์ยืดหยุ่นคล้ายผิวหนัง เป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับเทคโนโลยีสวมใส่ในอนาคต

คริสต์มาสนี้มีแต่รอยยิ้ม เบอร์ลินขายบัตรโดยสารกินได้ผสมกัญชง ช่วยให้คนผ่อนคลายและยิ้มได้ช่วงเทศกาล

คริสต์มาสคือเทศกาลแสนอบอุ่นที่คนทั่วโลกรอคอย ขณะเดียวกันก็เป็นเทศกาลแสนวุ่นวายในหลายประเทศยุโรป ผู้คนมักวิ่งวุ่นซื้อของขวัญจนนาทีสุดท้าย ทำให้หลายคนรู้สึกเหนื่อยล้าและหัวเสียไปตามๆ กัน  เพราะเหตุนี้ Berliner Verkehrsbetriebe (BVG) บริษัทขนส่งมวลชนในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี จึงปิ๊งไอเดียผลิตบัตรโดยสารกินได้ผสมกัญชง เพราะอยากให้ผู้คนฉลองคริสต์มาสแบบไม่เครียด และช่วยให้บรรยากาศโกลาหลผ่อนคลายลง บัตรรุ่นนี้สามารถกินได้ทั้งใบ เพราะมีส่วนผสมมาจากกระดาษกินได้ และโรยด้วยน้ำมันกัญชง (Hemp Oil) ไม่เกินสามหยด โดยน้ำมันกัญชงมีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และยังช่วยรักษาอาการวิงเวียนและปวดศีรษะได้ด้วย ทาง BVG อธิบาย “วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถเดินทางรอบเบอร์ลินได้ทั้งวันโดยไร้ความกังวล และคุณยังสามารถกลืนความเครียดช่วงคริสต์มาสไปพร้อมๆ กับตั๋วของคุณได้” ทั้งนี้ ทางบริษัทชี้แจงว่า น้ำมันผลิตจากเมล็ดกัญชงที่ปลอดภัยและเป็นมังสวิรัติ 100% สามารถกินได้เช่นเดียวกับน้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันเมล็ดฟักทอง และน้ำมันมะกอก อีกทั้งยังไม่มีสารเสพติด เช่น แคนนาบิไดออล (CBD) และ เตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ที่พบได้ใน ‘ต้นกัญชา’ บัตรประเภทนี้จึงไม่อันตรายและถูกกฎหมายแน่นอน (กัญชงและกัญชาคือพืชตระกูลเดียวกัน แต่คนละสายพันธุ์) BVG จำหน่ายบัตรโดยสารกินได้ผสมกัญชงระหว่างวันที่ 13 – 17 ธันวาคม 2021 […]

Merry Christmas Trees ต้นคริสต์มาสที่ไม่ขอเหมือนใคร

สีสันของต้นคริสต์มาสหลากหลายรูปแบบที่ให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป อย่างต้นคริสต์มาสจากล้อรถ ไฟที่ฉายลงพื้นฟุตพาท ถุงก๊อบแก๊บที่เอามาทำกัน เต็มไปด้วยความครีเอตและความม่วนแบบไทยๆ 

1 151 152 153 154 155 329

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.