FYI

พาทัวร์บ้านใหม่ foodpanda ประเทศไทย ออฟฟิศที่ส่งต่อพลังดี ๆ ให้พนักงาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันรูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปมาก จากเดิมที่เราเคยนั่งทำงานในออฟฟิศ มีโต๊ะประจำ ตอกบัตรเข้า แล้วนั่งคิดนั่งเค้นงานที่โต๊ะนั้นจนเลิกงาน บรรยากาศการทำงานแบบนั้นกลับไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เดี๋ยวนี้หลายออฟฟิศอนุญาตให้ทำงานจากที่ไหนก็ได้ บ้างก็ให้เข้าออฟฟิศไม่กี่วันต่อสัปดาห์ อาจเพราะผู้บริหารหลายๆ ออฟฟิศต่างรู้ดีว่าศักยภาพของคนทำงาน-โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาเข้าหรือออกงานตรงเป๊ะ หรือการอยู่ติดกับโต๊ะเดียวทั้งวัน แต่ท่ามกลางกระแสการทำงานที่ไม่เน้นเข้าออฟฟิศ มีออฟฟิศหนึ่งที่อาจเปลี่ยนใจพนักงานให้อยากเข้าทุกวันได้ ออฟฟิศนั้นตั้งบนชั้น 11 และ 12 ของตึก O-NES TOWER ติดกับบีทีเอสสถานีนานา เป็นออฟฟิศใหม่ของ foodpanda Thailand  เราได้ยินเสียงร่ำลือหนาหูว่าออฟฟิศใหม่ foodpanda น่ามานั่งทำงานมาก ไม่ใช่แค่เพราะสวยเหมือนคาเฟ่บรรยากาศชิล แต่เขายังเป็นออฟฟิศที่มีอุปกรณ์และระบบการทำงานตามคอนเซปต์ Agile Workplace ที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้ดีขึ้นจริง ดีขนาดไหน ก็ถึงขนาดที่ว่าเป็นองค์กรแรกในไทยที่ได้รับรางวัล Great Place to Work® มาการันตี  ในเช้าตรู่ของวันทำงาน เราก็มีโอกาสได้มาสำรวจว่าที่เขาพูดกันนั้นจริงแค่ไหน เชื่อไหมว่าสิ่งที่เราได้สัมผัสนั้นไปไกลกว่าภาพที่จินตนาการไว้มากโข แค่ก้าวแรกที่ก้าวเข้าออฟฟิศมา เราก็รู้เลยว่านี่คือออฟฟิศของ foodpanda เพราะเหตุผลสองข้อใหญ่ หนึ่ง-มีน้องเปาเปา แบรนด์แอมบาสเดอร์ปรากฏอยู่ทุกมุม สอง-มีหลายเฉดของสีชมพูซ่อนอยู่ทุกที่เช่นกัน! สิ่งที่เซอร์ไพร์สเราได้ตั้งแต่แรกเห็นคือล็อบบี้บริเวณแผนกต้อนรับที่ดูเหมือนโต๊ะนั่งชิลล์ในคาเฟ่มมากกว่าเป็นออฟฟิศ และเมื่อเข้าไปสำรวจข้างในก็ยิ่งเซอร์ไพร์สเข้าไปใหญ่ เพราะภาพที่เราเห็นนั้นช่างแตกต่างจากออฟฟิศที่เราคุ้นตา อย่างแรกที่ชัดเจนมากคือ ใช้ระบบ […]

Unlock the City EP.04 : คุยกับอู๋ spin 9 การมาของรถยนต์ไฟฟ้าช่วยเมืองได้จริงหรือ

ในช่วงเวลาที่รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Car มาแรงทั่วโลก จนมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ รถยนต์จะยึดครองถนนถึง 100 – 200 ล้านคัน ตัดภาพมาที่บ้านเรา ไทยเองก็ขานรับเทรนด์นี้เช่นกัน เนื่องจากค่าน้ำมันที่สูงกระฉูด บวกกับนโยบายอุดหนุนจากรัฐที่ต้องการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่คนใช้รถใช้ถนนนึกถึง จากความไฮป์รถยนต์ไฟฟ้า ‘พนิต ภู่จินดา’ โฮสต์รายการ Unlock the City เลยชวน ‘อู๋ spin9’ คอนเทนต์ครีเอเตอร์สาย IT และผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า มาปลดล็อกความเข้าใจเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในแง่ของผู้ใช้งานและระดับเมือง พฤติกรรมของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปหรือไม่ การมาของรถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยทำให้เมืองสะอาดขึ้นจริงไหม ขนส่งสาธารณะในไทยจะเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าได้หรือเปล่า แล้วในอนาคต ปัญหาการจราจรจะยิ่งสาหัสขึ้นไหมหากรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกลง คำตอบทั้งหมดอยู่ในอีพีนี้ ติดตามฟัง Urban Podcast ได้ทาง YouTube : https://youtu.be/67knndFfBag Spotify : https://spoti.fi/3OJeCQY Apple Podcasts : https://apple.co/3nnE2bd Podbean : https://bit.ly/3QWntkb

ร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ปฏิวัติสยาม ผ่านโปรเจกต์กราฟิกโนเวล 2475 พรีออเดอร์ วันนี้ – 31 ส.ค. 65

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา คือวันครบรอบเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประวัติศาสตร์การเมืองไทย เนื่องจากเป็นวันครบรอบปีที่ 90 ของการปฏิวัติสยาม ที่เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปสู่การปกครองแบบประชาธิปไตย โดยมีหัวหอกเป็นคณะราษฎร หลายๆ คนอาจรู้ความสำคัญของเหตุการณ์นี้ รวมถึงบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ 2475 อย่างลึกซึ้งขึ้นในเวลา 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการผลิบานของกระแสขบวนการประชาธิปไตยที่เข้มข้นในสังคมไทย ผ่านการชุมนุม แคมเปญการเมือง และแกนนำคนรุ่นใหม่ ทว่าหากย้อนมองไปที่สื่อสมัยใหม่ กลับยังไม่มีใครนำการปฏิวัติครั้งนี้มาเล่าในรูปแบบร่วมสมัยเท่าไหร่นัก 2475 Graphic Novel คือโปรเจกต์ล่าสุดของ ‘สะอาด’ นักเขียนและนักวาดเจ้าของหนังสือ ‘การศึกษาของกระป๋องมีฝัน’ และ ‘พชรกฤษณ์ โตอิ้ม’ ร่วมกับ ‘สมาคมคนรุ่นใหม่กับนวัตกรรมทางสังคม (SYSI)’ ที่ซุ่มเก็บข้อมูลกันมานานกว่าสองปี เพื่อทำความเข้าใจบริบททางประวัติศาสตร์และสร้างสรรค์บทที่จะชวนผู้อ่านย้อนเวลากลับไปสยามช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง พวกเขาอธิบายถึงโปรเจกต์นี้ว่า เกิดขึ้นจากความหวังที่จะถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เป็นแรงผลักดันของผู้คนจากอดีตถึงปัจจุบัน ผ่านเรื่องแต่งอิงประวัติศาสตร์ช่วงเหตุการณ์ปฏิวัติสยาม 24 มิถุนายน 2475 จากกลุ่มคนที่ประกาศเรียกตนเองว่า ‘คณะราษฎร’ เนื้อหาว่าด้วยเรื่องราวของ นิภา นักหนังสือพิมพ์สาว ได้รับแจ้งหนังสือข่าวลับจากทางการว่า นักกฎหมายรุ่นใหม่จากปารีส ผู้สอนวิชากฎหมายบ้านเมืองสุดโต่ง อาจเสี่ยงเป็นภัยต่อบ้านเมือง ด้วยการเกี่ยวพันกับขบวนการคอมมิวนิสต์เพื่อโค่นล้มราชบัลลังก์สยาม […]

Sculpturebangkok ธุรกิจตู้ถ่ายรูปและแบรนด์โดยคนรุ่นใหม่ ที่สร้างรายได้หลักล้าน

ในบรรดาธุรกิจเกิดใหม่ในยุคนี้ Sculpturebangkok น่าจะเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มาแรง และได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ เห็นได้จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การขยายตัวของตู้ถ่ายภาพที่เรียกว่า ไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องเห็นตู้ถ่ายภาพภายใต้แบรนด์นี้ ยังไม่นับการได้คอลแลบกับแบรนด์และสเปซอื่นๆ อีกมากมาย เช่น Colors Culture, Space cat lab, Lido Connect, DayDay เป็นต้น แม้เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 2 ปี แต่ด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์กับองค์ความรู้ด้านการออกแบบของ ‘ปิ่น-ลักษิกา จิระดารากุล’ ที่เริ่มต้นทำ Sculpturebangkok มาก่อน บวกกับหัวทางการค้ากับความรู้ความเข้าใจด้านการทำธุรกิจของ ‘พี-สาริษฐ์ ตรัยเลิศวิเชียร’ ที่มาร่วมทำแบรนด์ในช่วง 1 ปีให้หลัง ทำให้ Sculpturebangkok เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีการขยายไปทำโปรดักต์ภายใต้แบรนด์ Random Sculpture Club และบริการตู้ถ่ายภาพ SNAP ที่ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้าได้ จนทำให้พวกเขามีรายได้หลักล้านต่อเดือน กลายเป็นเจ้าของธุรกิจสุดปังตั้งแต่อายุยังน้อย จากการเป็น Perfect Match นี้ ทำให้ Sculpturebangkok กลายเป็นผู้นำจุดกระแสตู้ถ่ายภาพในไทยให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และยังเป็นที่สนใจอยู่เสมอๆ จากไอเดียที่สดใหม่ […]

Broker การเดินทางเพื่อตามหาครอบครัวที่แท้จริงบนโลกสีเทากระดำกระด่าง

บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์ “คนนิจิวะ อันนยองฮาเซโย” คือคำทักทายสองภาษาจาก ‘โคเรเอดะ ฮิโรคาสุ’ ผู้กำกับชาวญี่ปุ่นเจ้าของผลงานภาพยนตร์เกาหลีเรื่องล่าสุด Broker (2022) ที่เรากำลังจะได้รับชมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า  ด้วยความบังเอิญผสมกับความพยายามอีกเล็กน้อย ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราหาบัตรชมภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เกาหลีในรอบเดินสายทักทายผู้ชมของทีมนักแสดงและผู้กำกับมาได้สำเร็จ แต่นอกเหนือจากเสียงชื่นชมและการยืนปรบมือยาว 12 นาทีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์เมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้า สิ่งที่เรารับรู้เกี่ยวกับ Broker มีไม่มากนัก หนึ่ง–นี่คือภาพยนตร์แนวดราม่ากึ่งโร้ดมูฟวี่ที่บอกเล่าการเดินทางของคุณแม่ยังสาวที่ตัดสินใจทอดทิ้งลูกของตัวเองไว้ที่กล่องรับทารก กับชายแปลกหน้าสองคนที่หวังจะนำเด็กไปขาย โดยมีสองตำรวจหญิงเฝ้าสะกดรอยตามอยู่ สอง–แม้นี่จะเป็นภาพยนตร์เกาหลีเรื่องแรกของโคเรเอดะ แต่เขาก็สามารถดึงนักแสดงมากฝีมือมาร่วมงานได้อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นซงคังโฮ จากภาพยนตร์ Parasite, คังดงวอน จากภาพยนตร์ Peninsula, แบดูนา จากซีรีส์ Kingdom, อีจีอึน (IU) จากซีรีส์ Hotel Del Luna และอีจูยอง จากซีรีส์ Itaewon Class  “ช่วงเย็นวันอาทิตย์แบบนี้เป็นเวลาที่มีค่าของทุกคน ขอบคุณที่ตัดสินใจมาชมภาพยนตร์ของพวกเรา หวังว่าทุกคนจะกลับไปพูดคุยถึงหนังของเรากันต่อได้บนโต๊ะอาหารมื้อค่ำวันนี้นะคะ” อีจีอึน ผู้รับบท โซยอง กล่าวกับผู้ชมในโรง ในตอนนั้น เราไม่แน่ใจนักว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างบทสนทนาต่อไปได้ยืดยาวแค่ไหน แต่เมื่อได้เวลาที่ไฟในโรงหนังมืดลง Broker ก็ค่อยๆ พาเราออกเดินทางไปบนถนนทอดยาว […]

ศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกา ลงมติ 6:3 ตัดสิทธิ์ผู้หญิงในการทำแท้ง หลังบังคับใช้มานานเกือบ 50 ปี

ศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกา ลงมติ 6:3 ตัดสิทธิ์ผู้หญิงในการทำแท้ง หลังบังคับใช้มานานเกือบ 50 ปี ในขณะที่ทั่วโลกกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับการผลักดันกฎหมายการทำแท้งเสรี ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทยเอง แต่กับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาที่มีเสรีการทำแท้งมาเกือบ 50 ปี กลับย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นเสียอย่างนั้น ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาสูงสุดของสหรัฐอเมริกาก็ได้มีการลงมติคว่ำคำพิพากษาคดีที่รู้จักกันในชื่อ Roe v. Wade ในปี 1973 ว่าด้วยการอนุญาตให้หญิงในสหรัฐอเมริกาสามารถทำแท้งได้ ที่ผ่านการบังคับใช้มาอย่างยาวนานเกือบ 50 ปี จากการชนะมติ 6 ต่อ 3 จากฝั่งอนุรักษนิยมที่ยึดถือหลักกฎหมายมิสซิสซิปปี ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งการตัดสิทธิการทำแท้งในผู้หญิงครั้งนี้ ส่งผลให้จากเดิมที่สามารถยุติการตั้งครรภ์ในระยะ 12 สัปดาห์แรกได้อย่างเสรี กลายเป็นว่าแต่ละรัฐมีสิทธิ์สั่งห้ามการทำแท้งได้ตามดุลยพินิจโดยไม่ขัดต่อหลักกฎหมาย ข้อมูลจาก Guttmacher องค์กรที่สนับสนุนสิทธิในการทำแท้งกล่าวว่า หลังจากมีมติตัดสิทธิการทำแท้งเสรีเดิม ขณะนี้มีกว่า 20 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกาที่กำลังดำเนินการจำกัดการเข้าถึงการทำแท้งของประชาชนในรัฐของตัวเอง โดยบางพื้นที่ตั้งใจที่จะห้ามการทำแท้งตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นตั้งครรภ์ และบางรัฐกำลังแนะนำให้มีการห้ามทำแท้งหลังจาก 6 สัปดาห์ขึ้นไป ทำให้หลังจากนี้จะมีผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์กว่า 40 ล้านคน ที่ไม่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ หากไม่มีเหตุจำเป็นตามที่แต่ละรัฐเห็นสมควร […]

Food Matter ธีสิสแพลตฟอร์มสั่งอาหารส่วนเกิน ที่อยากช่วยลด Food Waste ในแต่ละวัน

คุณรู้ไหมว่าอาหารที่ร้านผลิตเกินมาในแต่ละวันถูกจัดการอย่างไร?  สำหรับคนที่ชอบเดินซูเปอร์มาร์เก็ตช่วงค่ำๆ จะเห็นหลายร้านนำอาหารที่ยังคุณภาพดีเหล่านี้มาติด ‘ป้ายเหลือง’ และลดราคาในช่วงสุดท้ายของวัน แต่ก็ยังมีอีกหลายร้านเช่นกันที่แม้จะมีอาหารเหลือจำนวนมาก แต่พวกเขาเลือกที่จะทิ้งโดยเสียเปล่าเพราะเป็นมาตรการด้านความสะอาดและเพื่อรักษามาตรฐานของร้าน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การทิ้งอาหารที่ยังคุณภาพดีเหล่านี้ทำให้เกิด ‘ขยะอาหาร (Food Waste)’ ปริมาณมากในแต่ละวัน แค่ลองคิดเล่นๆ ว่าแต่ละร้านต้องทิ้งอาหารวันละ 1 กก. ทั้งเดือนก็ไม่ต่ำกว่า 30 กก. และถ้าทุกร้านมีขยะที่ต้องทิ้งทุกวัน กรุงเทพฯ จะมีขยะอาหารเยอะมากแค่ไหน? จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถนำอาหารส่วนเกินเหล่านี้มาทำเป็น ‘อาหารป้ายเหลือง’ และขายผ่านช่องทางเดลิเวอรีได้ ทำให้ผู้คนในเมืองนี้ได้เข้าถึงอาหารคุณภาพดีในราคาที่ถูกลง และยังมีส่วนช่วยในการลดขยะอาหารที่เกิดขึ้นในทุกๆ วันได้อีกด้วย คอลัมน์ Debut สัปดาห์นี้เราจะพาไปรู้จักกับ ‘Food Matter’ แพลตฟอร์มสั่งอาหารส่วนเกินจากร้านอาหารที่ทำให้คนเมืองเข้าถึงอาหารคุณภาพดีในราคาที่ถูกลง เหมือนได้เข้าไปเดินเลือกซื้ออาหารป้ายเหลืองในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยตัวเอง  ธีสิสนี้ออกแบบโดย กรีน-เมธพร ทุกูลพาณิชย์ บัณฑิตจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ CommDe (Communication design) กรีนเป็นผู้เห็นถึงปัญหาของอาหารส่วนเกินที่เหลือทิ้งจากร้านอาหารในแต่ละวัน เธออยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดขยะ และอยากทำให้ผู้บริโภคในเมืองนี้มีทางเลือกในการกินมากขึ้นด้วย จึงทำแอปฯ ฉบับทดลองใช้ 11 วันขึ้นมาเพื่อดูว่าจะช่วยลดขยะอาหารในเมืองนี้ได้มากแค่ไหน ทดลองใช้เว็บไซต์ได้ที่นี่ www.foodmatterth.com  […]

‘จักรวาฬ’ ผลกระทบที่วาฬบรูด้า ได้รับจากน้ำมือมนุษย์

ผลงานชุด ‘จักรวาฬ’ เป็นผลงานภาพถ่ายสารคดีที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่วาฬได้รับจากมลพิษที่มนุษย์สร้างขึ้น รวมถึงต้องการถ่ายทอดภาพของทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชนชายฝั่งสิ่งแวดล้อมในทะเลอ่าวไทย ที่ได้รับความเสียหายไม่แพ้กัน 

มัลดีฟส์ กำลังสร้างเมืองลอยน้ำ แก้ปัญหาระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง และป้องกันเมืองจมน้ำในอนาคต

“รีบไปเที่ยวมัลดีฟส์นะ ก่อนที่มันจะจม” ประโยคนี้แทบจะเป็นประโยคคลาสสิกสำหรับใครก็ตามที่บ่นอยากไปเที่ยวเกาะมัลดีฟส์สักครั้งในชีวิตที่ต้องเคยได้ยิน เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เมื่อปี 2563 ได้มีรายงานว่าหมู่เกาะมัลดีฟส์กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะจมน้ำในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ส่งผลให้ 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เกาะทั้งหมดสูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร  แต่สิ่งเหล่านี้กำลังจะถูกแก้ไขโดยนวัตกรรมเมืองลอยน้ำ (Floating City) ที่ตอบสนองต่อภัยคุกคามจากน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นในมัลดีฟส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการร่วมมือของบริษัทสถาปัตยกรรม Waterstudio นักพัฒนาท้องถิ่น Dutch Docklands และรัฐบาลท้องถิ่นของมัลดีฟส์ เมืองลอยน้ำจะถูกสร้างห่างจากเมือง Male เพียง 10 นาที และเป็นการประกอบของส่วนโมดูลาร์หกเหลี่ยมที่ทนทานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เชื่อมต่อกันไปเรื่อยๆ จนมีรูปร่างคล้ายปะการังสมอง (Brain Coral) สร้างความสะดวกสบายและความปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัย และกระทบต่อแนวปะการังข้างใต้อย่างน้อยที่สุด ตามรายงานของ CNN เมืองจะเปิดยูนิตแรกให้รับชมในเดือนมิถุนายนนี้ โดยราคาเริ่มต้นสำหรับที่พักแบบสตูดิโอจะอยู่ที่ 150,000 ดอลลาร์ (5.3 ล้านบาท) และสูงถึง 250,000 ดอลลาร์ (8.8 ล้านบาท) สำหรับบ้านขนาดครอบครัว  นักพัฒนาคาดว่า ผู้อยู่อาศัยจะเริ่มย้ายเข้ามาในบริเวณเมืองลอยน้ำแห่งใหม่ได้ในต้นปี 2567 และจะแล้วเสร็จภายในปี 2570 ซึ่งหลังจากนี้ […]

ชวนเข้าโรงแรม ชมงานศิลปะ ในงาน Cultural District 2022 ย่านเกาะรัตนโกสินทร์ 9 – 15 ก.ค. 65

ปีที่แล้ว เทศกาล ‘Cultural District’ โดยผู้จัด ‘มิวเซียมสยาม’ ชวนทุกคนไป ‘ติดเกาะกับตึกเก่า’ โดยพาไปสำรวจบรรยากาศของเกาะรัตนโกสินทร์ ชมภาพความงามทรงคุณค่าของสถาปัตยกรรมเก่าแก่อายุนับร้อยปี รวมถึงสัมผัสประวัติศาสตร์กันอย่างจุใจ  กลับมาปีนี้เตรียมเปิดเกาะรัตนโกสินทร์อีกรอบ ครั้งนี้มิวเซียมสยามพาเข้าโรงแรมในย่านประวัติศาสตร์ แต่ไม่ใช่เพียงการเดินชมภาพความงามของสถาปัตยกรรมเหมือนคราวก่อน เพราะ ‘Cultural District’ จะรังสรรค์ให้ทุกพื้นที่ในโรงแรมย่านเกาะรัตนโกสินทร์ รวมถึงตัวห้องพักแต่ละห้องแปรเปลี่ยนเป็นสตูดิโอและแกลเลอรีสำหรับจัดแสดงงานศิลปะภายใต้ธีม ‘Arts in the Hotel’  ภายในงานจัดแสดงผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ภาพวาด ภาพถ่าย กระทั่งเสียงเพลง โดยศิลปินร่วมสมัยหลากหลายสาขา เช่น ป๊อด-ธนชัย อุชชิน, วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์, วรรณฤทธิ์ พงศ์ประยูร, นักรบ มูลมานัส ฯลฯ และเหล่าหน่วยงานทางการศึกษาจากศิลปากร, เพาะช่าง, สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย เป็นต้น  ส่วนเหตุผลที่มิวเซียมสยามยกผลงานศิลปะมาไว้ที่โรงแรมย่านเมืองเก่านั้น เป็นเพราะว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รู้สึกเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว เดินเข้าออกชมความงามของสถานที่และงานศิลปะไปพร้อมๆ กัน ยกตัวอย่างสถานที่จัดงาน ดังนี้ – ‘Mojo Old Town’ อดีตร้านโชห่วยที่ถูกปรับโฉมให้เป็นคาเฟ่และที่พักบนถนนตะนาวตรงข้ามกับศาลเจ้าพ่อเสือ– ‘1905 Heritage Corner’ […]

ดุกมั้ง : ร้านอาหารโฮมเมดที่รับลูกค้าวันละ 2 โต๊ะ และขายเฉพาะ ‘ปลาดุก’ เท่านั้น

คุณเคยไปทานอาหารร้านไหนที่มีวัตถุดิบหลักอย่างเดียวแต่ครีเอตได้หลากหลายเมนูไหม? ถ้ายังไม่เคยเจอร้านไหนใจกล้าขายแบบนี้ เราอยากแนะนำให้รู้จักกับ ‘ดุกมั้ง (Duke Munk)’ ร้านอาหารโฮมเมดในบ้านที่มีวัตถุดิบหลักอย่างเดียวคือ ‘ปลาดุก’ แถมยังมีเมนูไม่เยอะ และรับลูกค้ากลุ่มเล็กๆ แค่วันละ 2 โต๊ะ เท่านั้น  ดุกมั้ง คือร้านอาหารในบ้านของ ดอกฝิ่น-ธเนศ ทรัพย์ศาสตร์ และ เนย-ณัชชา วารีรัตนโรจน์ ในซอยชัยพฤกษ์ (ซอยสุขุมวิท 65) ที่เริ่มจากความชอบทำอาหาร เปิดขายเมนูปลาดุกเฉพาะเดลิเวอรีและเปิดบ้านให้เพื่อนมากินข้าวสังสรรค์ จนปัจจุบันเปิดบ้านเป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่ช่วยกันทำแค่ 2 คน เหมือนมากินข้าวบ้านเพื่อน และต้องจองกันเป็นเดือนถึงจะได้กิน  ที่เปิดรับลูกค้าน้อยขนาดนี้ไม่ได้ต้องการจะเป็นร้านลับ หรือทำให้กินยากแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะทั้งคู่ไม่ใช่เชฟ เป็นแค่คนที่ชอบทำอาหารและอยากเปิดบ้านให้คนได้เข้ามากินอาหารฝีมือของตัวเองเท่านั้น จึงต้องใช้เวลาในการเตรียมวัตถุดิบและทำอาหารให้ได้คุณภาพเท่าที่ตัวเองจัดการไหว  นอกจากเมนูปลาดุกทุกจานในร้านนี้จะมีลูกเล่นน่าสนใจแล้ว เรื่องราวของปลาดุกก็สนุกไม่แพ้กัน เพราะกว่าจะทำอาหารจานปลาดุกได้หลากหลายแบบนี้ ดอกฝิ่นใช้เวลาศึกษาและทดลองอยู่นานพอสมควรกว่าจะค้นพบวิธีปรุงปลาดุกทุกจานให้ลงตัว ชื่อร้านดุกมั้ง (Duke Munk) ได้ไอเดียมาจากตอนที่ไปบวช ในวัดมีปลาดุกและเขาก็ชอบกินปลาดุกอยู่แล้ว จึงใช้คำว่า มั้ง (Monk) ที่แปลว่า พระ และอีกนัยหนึ่งคืออยากให้คนที่มากินตั้งคำถาม เกิดความสงสัยว่านี่ใช่ปลาดุกจริงๆ ไหม ปลาดุกมั้ง? […]

ชวนเยือนสุสานอย่างสุนทรีย์! กับงานดนตรีในป่าช้าสวยกลางเมือง ที่สวนสุขภาพแต้จิ๋ว 26 มิ.ย. 65

บรรยากาศในเมืองหลวงคึกคักขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเพราะกรุงเทพฯ กลับมาจัดกิจกรรมดนตรีในสวนให้ผู้คนได้ออกมานั่งปิกนิก ฟังเพลงท่ามกลางต้นไม้สีเขียว ติดต่อกัน 3 สัปดาห์แล้ว ส่วนสัปดาห์นี้ ผู้จัดหลายรายก็ยังคงเตรียมงานดนตรีสนุกๆ พร้อมให้ทุกคนไปเสพดนตรีและพักผ่อนกันแบบจัดเต็ม สำหรับสุดสัปดาห์นี้ งานดนตรีกลางแจ้งที่เราคิดว่าน่าสนใจและอยากชวนทุกคนไปกันคืองานดนตรีในสวนที่ ‘สวนสุขภาพ สมาคมแต้จิ๋ว’ เขตสาทร จัดโดยมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ความน่าสนใจคือสวนสุขภาพแห่งนี้เคยเป็นพื้นที่ของสุสานจีนมาก่อน หรือที่หลายคนอาจรู้จักในชื่อ ‘ป่าช้าวัดดอน’ หรือ ‘สุสานแต้จิ๋ว’ ที่นี่เป็นสุสานเก่าแก่ใจกลางเมืองตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เคยมีพื้นที่ขนาดใหญ่มากกว่า 150 ไร่ และเป็นที่ฝังศพมากกว่าหมื่นศพ ในอดีต สุสานแต้จิ๋วไม่ได้เปิดให้ใครเข้าไปง่ายๆ แต่จะเปิดเฉพาะช่วงเทศกาลเชงเม้ง ซึ่งเป็นวันที่ชาวจีนไปไหว้บรรพบุรุษ ทำให้พื้นที่ดูเปลี่ยว รกร้าง ส่วนบริเวณนอกรั้วก็เคยเป็นสถานที่เสื่อมโทรม มีน้ำท่วมขัง ไม่ได้รับการดูแล อีกทั้งยังมีตำนานเรื่องผีกับความเฮี้ยน ทำให้สุสานแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสยองขวัญ จนไม่ค่อยมีใครกล้ามาเยือนโดยเฉพาะยามค่ำคืน แต่ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ตำนานหลอนและความน่ากลัวของที่นี่ค่อยๆ ลดลง เนื่องจากมีการล้างป่าช้าทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณหลายครั้ง ประกอบกับการขยายตัวของเมืองใหม่ที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันพื้นที่บางส่วนของป่าช้าได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่คนทั่วไปเข้าไปพักผ่อน ออกกำลังกาย รวมถึงเป็นสถานที่จัดกิจกรรมกลางแจ้งด้วย สำหรับวงดนตรีที่จะจัดแสดงในงานวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2565 มีดังนี้ […]

1 142 143 144 145 146 356

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.