SMART ไปกับ Lotus’s บริษัทที่ใส่ใจพนักงาน

เคยสังเกตกันไหมว่าหลังจากที่ ‘Tesco Lotus’ ได้มีการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ จนกลายมาเป็น ‘Lotus’s’ ในปัจจุบัน ซึ่งเครื่องหมาย ’s ที่ใช้ห้อยท้ายนั้น ไม่ใช่เครื่องหมาย Apostrophe (’) อย่างที่เราเคยชิน แต่เป็นสัญลักษณ์ Drop Pin (📍) ที่สื่อถึงการเป็น destination นั่นเอง

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ Lotus’s รูปแบบใหม่ต้องการเป็นจุดหมายปลายทางของลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ที่ไม่ใช่แค่การช้อปปิ้งแบบเดิมๆ แต่เป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตในแบบสมาร์ทของทุกคนในชุมชน ตามคอนเซ็ปต์ Everyday SMART Community Center

โดยตัว S ที่ห้อยท้ายนั้นย่อมาจากคำว่า ‘SMART’ ที่โลตัสต้องการส่งมอบประสบการณ์แบบสมาร์ทผ่าน Omni-Channel เชื่อมต่อการช้อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์แบบไร้รอยต่อ และคำว่า SMART นี้เอง ที่ทาง Lotus’s พยายามสร้างความเข้าใจร่วมกันตั้งแต่พนักงานบริการภายในห้างฯ ไปจนถึงสำนักงานใหญ่ เป็นวัฒนธรรมองค์กรและหัวใจหลักของการทำงานทุกวัน

แต่ละตัวอักษรมีความหมายอธิบายออกเป็น 5 คำ ดังนี้

S imple : ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
M otivated : มุ่งมั่น คิดและทำล่วงหน้าเพื่อทุกคน
A gile : คล่องแคล่ว ปรับเปลี่ยนได้ว่องไว
R esponsible : คิดดี ทำดี มีสำนึก รับผิดชอบ และดูแลทุกภาคส่วน
T ransformative : พร้อมปรับตัว และคิดค้นสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

โดย Lotus’s อยากให้พนักงานทุกคน ‘รู้สึกดีดีทุกวัน ที่โลตัส’ และมองตัวเองเป็นหนึ่งในเจ้าของธุรกิจที่มีส่วนทำให้บริษัทสามารถยืนหยัดและเติบโตได้ในทุกวันนี้

แต่การที่จะทำให้พนักงานทุกคนสามารถไปถึงหัวใจหลักได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น ทาง Lotus’s จึงพยายามที่จะเสริมสร้างความภาคภูมิใจให้กับพนักงานของตัวเองด้วยหลักการดีดี 4 ข้อ ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานและทำให้ทุกคนมีความ SMART ได้

แอบกระซิบว่าในตอนนี้สำนักงานใหญ่ Lotus’s กำลังอยู่ในช่วงขยายทีมและต้องการพนักงานจำนวนมาก เพื่อขับเคลื่อนเทคโนโลยีและการค้าปลีกแบบ Omni-Channel ใครอ่านครบทั้ง 4 ข้อแล้วชอบใจ ก็อย่าลืมไปกดสมัครกันล่ะ

Delightful Welfare & Benefits
สวัสดิการดีดี

ปัจจุบันแค่เงินเดือนที่สูงอาจไม่พอที่จะดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เข้าทำงานในองค์กรใดองค์กรหนึ่งแล้ว แต่ต้องมีสวัสดิการที่ดีด้วย ถึงจะจูงใจให้คนยุคใหม่มาร่วมงานได้

แต่ไม่ว่ากำลังมองหาเรื่องเงินเดือนหรือสวัสดิการ ที่ Lotus’s ก็มีให้พร้อม ทั้งเงินเดือนที่ต้องบอกว่า Competitive Salary สามารถแข่งขันกับตลาดได้ และยังมีโบนัส และประกันสุขภาพหลากหลายแผนให้เลือกตามความชอบของแต่ละคนให้เหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานที่ต่างกันในแต่ละกลุ่ม และครอบคลุมทั้งพนักงานในสำนักงานใหญ่ และพนักงานใน 2,600 สาขาทั่วประเทศด้วยเช่นกัน

แถมพนักงานไม่ว่าจะทำตำแหน่งอะไรภายใน Lotus’s ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ด้วย อย่างคูปองส่วนลดพนักงาน และสะสมโลตัสคอยน์แบบคูณ 3 เพื่อใช้เป็นส่วนลดแทนเงินสด สำหรับสมาชิก MyLotus’s ทั้งการซื้อสินค้าในสาขารวมถึงช่องทางออนไลน์และแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART App ด้วย

ถือเป็นตัวเลือกที่ฉลาดสำหรับนักช้อปยุคใหม่ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้า และมีเงินเหลือเก็บสำหรับใช้ทำอย่างอื่น เพื่อเติมเต็มชีวิตหลังทำงานของเราได้มากขึ้น

Delightful Opportunities
โอกาสดีดี

ยิ่งเรื่องโอกาสที่จะเข้ามาระหว่างการทำงานก็ไม่ต้องห่วง เพราะแค่คำว่า Lotus’s ก็สามารถการันตีถึงความมั่นคงของบริษัทได้อย่างแน่นอน

เนื่องจากพนักงานภายในจะได้รับการเทรนนิ่ง Upskill และ Reskill อย่างต่อเนื่อง ทั้งหลักสูตรในห้องเรียนที่ช่วยพัฒนาความสามารถในสายงาน และหลักสูตรอื่นๆ ที่สามารถต่อยอดสร้างมูลค่าได้ในอนาคต ผ่าน ‘iLearn’ แพลตฟอร์มออนไลน์ที่พนักงานสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา

เพื่อโอกาสในการเติบโต และมี Career Path ที่ดี หรือหากทำงานไปสักพักแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานที่ทำอยู่ หรืออยากลองเปลี่ยนความท้าทายใหม่ๆ ก็สามารถสมัครย้ายข้ามสายงานภายในองค์กรได้

ยิ่งถ้าคุณเป็นนิสิตนักศึกษาจบใหม่ และมีประสบการณ์ 0-3 ปี ที่โลตัสก็มีโอกาสให้สามารถเติบโตในหน้าที่การงานได้แบบก้าวกระโดด ผ่าน ‘หลักสูตรเถ้าแก่น้อย’ หรือ Management Trainee Program ที่เฟ้นหาผู้มีความสามารถมาเรียนรู้เพื่อเติบโตสู่ตำแหน่งผู้บริหารในอนาคตของโลตัส โดยมีการออกแบบวางโปรแกรมพัฒนาศักยภาพตั้งแต่เริ่มต้น เสริมสร้างความคิดแบบผู้นำ มีวิสัยทัศน์ และเรียนรู้ลงมือทำจริงทุกกระบวนการต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การขนส่งและกระจายสินค้า การจัดเก็บและบริหารสต็อก การขาย การตลาด การบัญชี การบริหารคน ดิจิตัล เทคโนโลยี ครอบคลุมทุกมิติในการทำธุรกิจ

Delightful Work Environment
บรรยากาศดีดี

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทุกคนมักพิจารณาเวลาหางานใหม่ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการเดินทาง เพราะแค่คิดว่าต้องติดอยู่บนท้องถนนเป็นชั่วโมงๆ ก็รู้สึกเสียเวลาชีวิตไปเปล่าๆ โดยไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเป็นอย่างนี้ ทนช่วงแรกๆ ก็คงไหว แต่นานๆ ไป ก็คงไปไม่รอดเหมือนกัน

สำหรับสำนักงานใหญ่ของ Lotus’s ตั้งอยู่ในย่านนวมินทร์ ทำให้พนักงานที่นี่ไม่ต้องปวดหัวหรือกังวลกับเรื่องการเดินทาง เนื่องจากอยู่ในฝั่งที่สวนทางกับช่วงรถติด เดินทางไม่นาน แถมรถไม่ติด หรือใครอยาก มาเช่าที่พักอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงาน ก็มีให้เลือกหลากหลาย ราคาสบายกระเป๋า ประหยัดค่าเดินทางไปอีกแบบ เพราะแถวนั้นมีของกินของใช้ให้เลือกมากมาย หรือจะซื้อของในห้างฯ Lotus’s ที่อยู่ติดสำนักงานใหญ่แบบสามารถเดินถึงกันได้เลย ก็มีสินค้าครบครัน ราคาคุ้มค่า และยังได้ส่วนลดและสิทธิพิเศษสำหรับพนักงานเพิ่มเติมด้วย

แต่คำว่า ‘บรรยากาศดีดี’ จะหมายรวมแค่บรรยากาศภายนอกก็คงจะไม่ได้ เพราะทาง Lotus’s ยังพยายามสร้างบรรยากาศการทำงานภายในให้ผ่อนคลาย ไม่เครียดกับงานจนเกินไป และมีจุดเติมพลังงานกันหลายจุดแบบตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ประตูทางเข้าจนถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง

เพราะถัดจากประตูทางเข้าและเคาน์เตอร์สำหรับผู้มาติดต่อแลกบัตรเพียงนิดเดียว ก็มี Lotus’s go fresh ที่ทุกคนสามารถมาหาอะไรเติมท้องได้ทั้งวัน หรือจะไปที่ Coffee & Tea Points ก็มีตู้ทำเครื่องดื่มอัตโนมัติไว้บริการอยู่ตลอด แถม Canteen ที่นี่ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน เหมือนยกฟู้ดคอร์ตขนาดย่อมในห้างฯ Lotus’s มาตั้งไว้ในออฟฟิศกันซะเลย แถมยังมี Innovation Center ที่คิดค้นพัฒนาเมนูอาหารและเบเกอรี่ต่างๆ ให้พนักงานสามารถแวะชิมและให้ความเห็นถึงรสชาติ เพื่อนำไปปรับปรุงก่อนออกเป็นผลิตภัณฑ์จริงสำหรับไปวางขายให้ลูกค้าได้ด้วย

และยังมีโซนผ่อนคลาย ให้พนักงานได้มาเอนหลังบนเก้าอี้นวดแบบฟินๆ ถือโอกาสพักสมองไปในตัว เรียกได้ว่ามาทำงานที่เดียว ได้ทั้งงาน ได้ทั้งความสะดวกสบาย แบบ Delightful กันสุดๆ ไปเลย

Delightful Community
สังคมดีดี

แต่ถ้ามีสวัสดิการดีดี โอกาสดีดี และบรรยากาศดีดี แต่ขาด ‘สังคมดีดี’ สถานที่ทำงานแห่งนั้นก็คงจะไม่น่าอยู่เท่าไหร่หรอก

Lotus’s ที่เข้าใจถึงปัญหานี้ดี จึงพยายามดึงเอาความคิดเห็นและความต้องการของพนักงานมาปรับปรุงพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อทำให้เห็นว่าบริษัทพร้อมที่จะเปิดรับคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมโดยแท้จริง

โดยที่นี่มีวิธีการทำงานแบบ Flexible ที่มีเวลาการทำงานยืดหยุ่น สามารถทำงานได้ทั้งในออฟฟิศหรือจากที่อื่น ๆ เช่น หากจำเป็นต้องไปดูงานในสาขา ก็ไม่มีความจำเป็นต้องนั่งโต๊ะประจำ สามารถเลือกทำงานที่ไหนก็ได้ที่จะทำให้การ collaborate กับเพื่อนร่วมงานง่ายขึ้น

ดังนั้น โซนการทำงานภายในออฟฟิศเลยจะมีตั้งแต่โซน Flexible Office Space และ Co-working Space ที่เปิดให้พนักงานและผู้บริหารสามารถเลือกเปลี่ยนที่นั่งตามความสะดวก แม้แต่ผู้บริหารระดับสูงก็ไม่มีห้องทำงานส่วนตัว เพราะ Lotus’s มีวัฒนธรรม Diversity & Inclusion ที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันของเพื่อนพนักงานทุกคน ไม่ว่าจะระดับใดก็ตาม

นอกจากนี้ Lotus’s ก็ยังเข้าใจถึงความหลากหลายและสนับสนุนความเท่าเทียม ทั้งเรื่องเพศ อายุ เชื้อชาติ ฯลฯ ด้วยการสร้าง ‘ห้องน้ำแบบไม่แบ่งแยก (Inclusive Restrooms)’ ที่สามารถเข้าได้ไม่จำกัดเพศรวมถึงผู้พิการก็สามารถใช้ได้อย่างสะดวกสบายด้วย

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ Lotus’s เชื่อว่าหากเราให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพนักงาน ผ่านสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูแล ค่าตอบแทน สิทธิประโยชน์ ความยืดหยุ่นในการทำงาน และบรรยากาศที่ดี พวกเขาจะสามารถส่งต่อความรู้สึกดีดีเหล่านี้ให้กับลูกค้าได้

เพื่อให้ลูกค้า ‘รู้สึกดีดีทุกวัน ที่โลตัส’ ทุกครั้งที่มาใช้บริการ ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งไปจนถึงการใช้ชีวิตของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ เพราะ Lotus’s มุ่งมั่นในการนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่การเติมเต็มคุณภาพชีวิต สุขภาพ ความรัก ความสุข และคุณภาพความเป็นอยู่ของชีวิตที่ดีขึ้น

หากใครอ่านมาจนถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าอยาก ‘รู้สึกดีดี กับงานดีดี ที่โลตัส’ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Lotus’s ได้ที่ https://www.linkedin.com/company/lotusretails/jobs/