‘โกเบ’ เมืองแห่งการออกแบบ - Urban Creature

‘เมืองโกเบ’ ประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นแค่แหล่งผลิตเนื้อวัวเกรดพรีเมียมชื่อดังระดับโลกอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่นมาช้านาน และเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งของแดนปลาดิบ

เท่านั้นไม่พอ โกเบยังนำการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์มาใช้ฟื้นฟูและพัฒนาเมืองอย่างรอบด้าน ทำให้ยูเนสโกประกาศให้เมืองท่าแห่งนี้เป็น ‘เมืองแห่งการออกแบบ’ (City of Design) ในปี 2018 โดยโกเบตั้งใจใช้การออกแบบสร้างเมืองที่ส่งเสริมคนทุกกลุ่มให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

แต่การออกแบบที่เรากำลังพูดถึงไม่ได้มีแค่สีสันและโครงสร้างของเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนให้ผู้คนใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างเมืองที่น่าอยู่ด้วย แนวทางการพัฒนาเมืองตามแบบฉบับของโกเบเป็นแบบไหน คอลัมน์ City in Focus ชวนไปหาคำตอบพร้อมกัน

การพัฒนาทิวทัศน์ของเมือง

เมืองแห่งการออกแบบที่เติบโตได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์

มิติแรกของการออกแบบในเมืองโกเบที่อยากพูดถึงคือ ‘ภาพทิวทัศน์ของเมือง’ หรือ ‘Cityscape’ ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่แปลกตา และอยู่ใกล้ทั้งท้องทะเลและภูเขา โดยโกเบได้พัฒนา Cityscape ผ่าน 4 แนวทางหลักๆ ได้แก่

1) การปรับปรุงย่านซันโนะมิยะ : ซันโนะมิยะ (Sannomiya) เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนประตูสู่เมืองโกเบ ที่สำคัญย่านนี้ยังมีกิจกรรมมากมาย เป็นที่ตั้งของเส้นทางรถไฟหลายสาย ทั้งยังอยู่ติดกับท้องทะเลและมีบรรยากาศของภูเขาเป็นฉากหลัง

โกเบได้พัฒนาย่านซันโนะมิยะใหม่ เพื่อทำให้พื้นที่แห่งนี้น่าตื่นเต้นและสะดวกสบายสำหรับผู้อยู่อาศัยมากขึ้นผ่านโครงการต่างๆ เช่น โปรเจกต์ภาพถ่าย ‘1000 SMiLE Project’ ที่รวบรวมรอยยิ้มและภาพฝันที่ชาวโกเบอยากเห็นในอนาคต

รวมถึงการเปลี่ยนสี่แยกซันโนะมิยะ (Sannomiya Intersection) ให้เป็นจัตุรัสซันโนะมิยะ (Sannomiya Cross Square) ซึ่งเป็นพื้นที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตและการเดินทางของผู้คนเป็นอันดับแรก สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของเมืองโกเบอย่าง ‘เมืองที่มุ่งเน้นผู้คน’ และ ‘เมืองที่สะดวกสบาย’

มากไปกว่านั้น โกเบยังออกแบบพื้นที่ถนนใหม่เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงสร้างสวนสาธารณะขนาดเล็กอย่าง ‘KOBE Parklets’ และพลาซากลางแจ้งกึ่งใต้ดินอย่าง Sannomiya Platz ให้ผู้คนใช้งานได้อย่างหลากหลายอีกด้วย

เมืองแห่งการออกแบบที่เติบโตได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์

2) การสร้างระบบขนส่งใหม่ : เมืองโกเบทดสอบการใช้รถบัสแบบพ่วง (Articulated Bus) และยานพาหนะประเภทอื่นๆ เพื่อช่วยให้ผู้คนเดินทางจากใจกลางเมืองไปยังพื้นที่ริมน้ำได้ง่ายขึ้น โดยในช่วงการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกปี 2019 ผู้คนจำนวนมากใช้รถบัสแบบพ่วงเหล่านี้เดินทางไปยัง Fan Zone บริเวณท่าเรือ

3) การออกแบบป้ายในเมืองใหม่ : เมืองโกเบได้ออกแบบอักษรและป้ายแสดงข้อมูลของเมือง เพื่อให้คนทุกกลุ่มเข้าใจง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการ ชาวต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวที่มาเยือนโกเบเป็นครั้งแรก ฯลฯ

4) การออกแบบบริเวณชายฝั่งซุมะครั้งใหญ่ : โกเบออกแบบชายฝั่งซุมะ (Suma Coast) ใหม่ เพื่อให้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับเด็กๆ ผ่านการขยายพื้นที่ว่ายน้ำและริมชายหาด ติดตั้งทางเดินเล่น มากไปกว่านั้น องค์กรต่างๆ ในท้องถิ่นยังเปิดรับบริจาคเงินให้กับโครงการ SUMA Universal Beach Project ซึ่งจัดหาเสื่อชายหาด วีลแชร์ชายหาด ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้พิการและผู้ใช้วีลแชร์ ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้ผู้คนหลากหลายกลุ่มเข้ามาใช้บริการชายหาดได้มากขึ้น

การส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมเก่า-ใหม่

เมืองแห่งการออกแบบที่เติบโตได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์

อีกหนึ่งจุดเด่นของเมืองโกเบคือ ‘ศิลปะและวัฒนธรรม’ ทั้งแบบดั้งเดิมและร่วมสมัยที่กระจายตัวอยู่รอบเมือง ยกตัวอย่าง การเพิ่มจิตรกรรมฝาผนังภายในเมืองเพื่อทำให้ผู้คนเข้าถึงและใกล้ชิดกับงานสร้างสรรค์ได้มากขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนเมืองให้เป็นสถานที่ที่นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่จากทั่วทุกมุมโลกสามารถรวมตัวและเข้ามาพบปะกัน

ยิ่งกว่านั้นยังมีโครงการ ‘Urban Innovation KOBE’ ที่เน้นส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสตาร์ทอัพ บริษัทเงินร่วมลงทุน และเจ้าหน้าที่เทศบาล ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับผู้อยู่อาศัยในเมือง

เมืองแห่งการออกแบบที่เติบโตได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์

ส่วนในปี 2017 เมืองโกเบได้จัดเทศกาลศิลปะ ‘Port City Kobe Art Festival’ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีของการเปิดท่าเรือโกเบ โดยภายในงานนำเสนองานศิลปะที่สะท้อนเสน่ห์เฉพาะตัวของท่าเรือโกเบ มีผู้เข้าชมงานมากถึง 110,000 คน

อีกอีเวนต์ที่น่าสนใจคือ ‘KOBE Biennale’ ที่จัดขึ้นทุกๆ สองปี เพื่อเฉลิมฉลองศิลปะ และวัฒนธรรมผ่านการแข่งขันศิลปะประเภทใหม่ๆ เช่น ศิลปะในตู้คอนเทนเนอร์ ศิลปะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ศิลปะ SHITUARI เป็นต้น โดยเน้นไปที่การใช้ความหลากหลายและภาพลักษณ์ที่เป็นวัฒนธรรมใหม่ของโกเบ โดย KOBE Biennale ไม่เพียงแค่ส่งเสริมศิลปะเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความสมบูรณ์และสภาพแวดล้อมของเมืองท่าแห่งนี้ด้วย

การเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้คนในสังคม

เมืองแห่งการออกแบบที่เติบโตได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์

นอกจากการออกแบบผ่านโครงสร้างพื้นฐานและการจัดงานประเภทต่างๆ เมืองโกเบยังให้ความสำคัญกับการปลูกฝังความคิดสร้างสรรค์ให้เด็กๆ จึงกลายเป็นที่มาของการจัดเวิร์กช็อป ‘Chibikkobe’ ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ทำงานกับเหล่านักสร้างสรรค์ในการออกแบบเมืองโกเบที่พวกเขาอยากเห็นในอนาคต โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ Design and Creative Center Kobe (KIITO) ซึ่งเป็นศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์และการแลกเปลี่ยนโครงการต่างๆ ของเมือง

KIITO คืออาคารที่มีทั้งร้านกาแฟ ห้องจัดงานขนาดใหญ่ และห้องประชุมที่ให้บริการเช่าจัดงานต่างๆ รวมถึง Creative Labs พื้นที่สำนักงานให้เช่าสำหรับกลุ่มคนทำงานสร้างสรรค์ และยังเป็นสถานที่จัดอีเวนต์ต่างๆ เช่น การบรรยาย นิทรรศการ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและศิลปะ

เมืองแห่งการออกแบบที่เติบโตได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์

ด้วยเหตุนี้ KIITO จึงกลายเป็นศูนย์กลางการส่งเสริมและนำเสนอความพยายามในการสร้างสรรค์เมืองโกเบในรูปใหม่ ที่นี่ไม่ได้สนับสนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างศิลปินและนักออกแบบเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างให้คนทุกกลุ่มทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนให้โกเบกลายเป็นเมืองแห่งการออกแบบสมัยใหม่ ที่ส่งเสริมการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีของพลเมืองทุกคน

ที่สำคัญ โกเบยังใช้การออกแบบ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึง KIITO ในการจัดการกับความท้าทายต่างๆ ที่สังคมญี่ปุ่นกำลังเผชิญ โดยเฉพาะการเป็นสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากการดูแลและสนับสนุนประชากรสูงวัยกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของทุกเมืองในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงโกเบด้วย

โดยในวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 Mr.Hirokazu Nagata กรรมการบริหารจาก Design and Creative Center Kobe จะเข้าร่วมเวทีทอร์กในหัวข้อ ‘Aging with Attitude : A Lesson Learned from Kobe’ ที่งาน ‘มนุษย์ต่างวัย Talk 2023 Out of the Box Aging’ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเปลี่ยนมายด์เซตของคนในสังคม พร้อมกับเปิดพื้นที่และเปลี่ยนความหมายใหม่ให้ชีวิตหลังวัยเกษียณด้วยการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์

ใครที่อยากเรียนรู้การส่งเสริมผู้สูงอายุตามแบบฉบับของโกเบ เข้าร่วมงานมนุษย์ต่างวัย Talk 2023 Out of the Box Aging ได้ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ที่ True Digital Park (ฝั่ง West) เข้าร่วมงานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดกิจกรรม

ลงทะเบียนเข้าร่วมงานที่ www.eventpop.me/s/manoottangwaitalk2023 และติดตามรายละเอียดกิจกรรมทั้งหมดได้ที่ มนุษย์ต่างวัย

Sources : 
Cities of Design Network | https://bit.ly/47hceee
City of Design KOBE | https://bit.ly/40EXyTy
Creative Cities Network | https://bit.ly/3G1TW4q
REPORT 2017-2020 KOBE UNESCO CITY OF DESIGN | https://bit.ly/3MJOOFZ
ResearchGate | https://bit.ly/3MOqhQ3

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.