มีพื้นที่ไม่เยอะ แต่อยากทำฟาร์มเล็กๆ ในเมือง จะทำอย่างไรให้คุ้มค่าและได้ผลผลิตดี เพราะในเมืองที่มีพื้นที่จำกัดอย่างกรุงเทพฯ ไม่ใช่ทุกบ้านที่จะมีฟาร์มหรือทำแปลงผักเหมือนในเกม Harvest Moon ได้ง่ายๆ
หากคุณมีพื้นที่บ้านจำกัด และอยากมีฟาร์มขนาดกะทัดรัดในรั้วบ้าน เราอยากพามารู้จักกับ FlexiFarm ต้นแบบ ‘ฟาร์มสำเร็จ’ ผู้คิดค้นโมเดลธุรกิจปลูกผักในตู้คอนเทนเนอร์ ที่ทำให้การปลูกผักสดเป็นเรื่องง่าย และตอบโจทย์คนเมืองที่มีพื้นที่น้อยได้เป็นอย่างดี
FlexiFarm (เฟล็กซี่ฟาร์ม) นวัตกรรมการปลูกผักในตู้คอนเทนเนอร์ คือทางเลือกใหม่ของการทำฟาร์มในไทย เป็นฟาร์มที่เคลื่อนที่ได้ โยกย้ายสะดวก ใช้พื้นที่น้อยแต่ได้ผลผลิตคุ้มค่า เหมาะกับคนที่อยากทำธุรกิจฟาร์มเล็กๆ ในรั้วบ้าน หรืออยากจะปลูกผักไว้กินเอง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพที่อยากมีสวนผักปลอดสารพิษของตัวเอง
คุณยุทธพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ก่อตั้ง FlexiFarm เล่าว่า “สถานการณ์ความเป็นอยู่ของเราในปัจจุบันมีความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงคราม สภาพเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ โรคระบาด และมลภาวะที่ส่งผลกระทบต่อปัจจัย 4 โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ ด้วยเหตุนี้ FlexiFarm จึงถือกำเนิดขึ้น ด้วยความมุ่งหวังที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในยุคปัจจุบันให้ดีขึ้น ส่งเสริมความมั่นคงทางด้านอาหาร รับมือกับผลกระทบและทลายข้อจำกัดต่างๆ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารที่ดี มีคุณภาพ สะดวกสบาย และปลอดภัยได้ อีกทั้งยังเป็นโมเดลธุรกิจการปลูกผักที่ดีในอนาคต”
คำว่า ‘Flexi’ ย่อมาจาก ‘Flexibility’ ที่สื่อถึงความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยน โยกย้าย เพื่อเข้าถึงทุกพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน โดยเฉพาะในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด ภายในตู้คอนเทนเนอร์ขนาดกะทัดรัดอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยซึ่งจะช่วยให้เจ้าของตู้สามารถบริหารจัดการระบบฟาร์มได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังได้ผลผลิตที่ดี ควบคุมได้ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพอีกด้วย
คอนเทนเนอร์ฟาร์มของ FlexiFarm ติดตั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยและเชื่อมโยงระบบทั้งหมดเข้ากับสมาร์ตโฟน ทำให้เจ้าของตู้คอนเทนเนอร์กลายเป็นเกษตรกรยุคดิจิทัลที่สามารถควบคุมกระบวนการทุกอย่างได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ สั่งเปิด-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าแบบอัตโนมัติผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟ LED พัดลม แอร์, ตั้งเวลาเปิด-ปิดล่วงหน้า, ตรวจสอบและปรับเปลี่ยนอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์แบบเรียลไทม์ ตลอดจนสั่งควบคุมการให้น้ำและปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาวะของพืช
นอกจากนี้ ตัวตู้ยังถูกออกแบบให้สามารถปลูกผักได้เต็มศักยภาพของพื้นที่ มีการจัดวางจำนวนชั้นปลูกที่เหมาะสมเพื่อผลผลิตที่มากที่สุดต่อ 1 ตู้ โดยตู้มีขนาดกว้าง 2.5 เมตร ยาว 12 เมตร สูง 2.8 เมตร สามารถติดตั้งได้แม้ในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด และหากต้องการผลผลิตที่มากขึ้นก็สามารถซ้อนตู้กันได้โดยไม่ต้องใช้พื้นที่เพิ่ม ซึ่งนอกจากจะเป็นสวนผักเล็กๆ ในบ้านได้แล้ว หากนำไปตั้งในชุมชนหรือหมู่บ้าน FlexiFarm ยังสามารถเป็นแหล่งอาหารของทุกคนในชุมชนได้ด้วยนะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ FlexiFarm ได้ที่
https://flexifarmtech.com/
https://www.facebook.com/flexifarmtech/