คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ (IPCC) ออกรายงานเตือนว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกจะร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส ภายในปี 2040 ตัวเลขที่ฟังดูอาจจะเหมือนน้อย แต่จะทำให้ประชากรหลายร้อยล้านคนทั่วโลกเผชิญความเสี่ยงจากปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง ไฟป่า รวมไปถึงวิกฤติการณ์ขาดแคลนอาหาร ดังนั้นทุกหน่วยงานทั่วโลกจึงต้องเร่งดำเนินการช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
เราจึงอยากพาไปรู้จักกับ ‘Climeworks’ บริษัทที่มีเป้าหมายเป็นการรักษาสมดุลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยสองผู้ก่อตั้งผู้หลงรักการเล่นสกีที่ตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนขณะกำลังไถลตัวอยู่บนพื้นหิมะ จนตัดสินใจร่วมกันสร้างทางออกให้ปัญหานี้ พัฒนาเทคโนโลยีจนกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศได้โดยตรงแบบที่ยังไม่มีใครทำได้ และทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถร่วมภารกิจกู้โลกนี้ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 1 ยูโรต่อเดือนผ่านระบบสมาชิก ไปจนถึงการเตรียมสร้างโรงงานดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใหญ่ที่สุดในโลก ลดคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ถึง 4,000 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับความสามารถในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 400,000 ต้น
โลกซวยด้วยมือเรา
หลักการวิทยาศาสตร์เบื้องต้นคือ คนและสัตว์หายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายและปล่อยออกมาเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนพืชใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในการสังเคราะห์แสงและเปลี่ยนออกมาเป็นออกซิเจน กระบวนการนี้คือวัฏจักรที่ทำให้สิ่งมีชีวิตบนโลกอยู่ร่วมกันได้ราวหยินหยางที่สมดุลกัน นอกจากนั้นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมอุณหภูมิของโลก เพื่อกักเก็บความร้อนจากดวงอาทิตย์ ไม่ให้อุณหภูมิของโลกเย็นเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่ได้
แต่ปัจจุบันความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลก เพิ่มสูงขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับโลกในยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม และสูงที่สุดในรอบ 8 แสนปี จากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า การเผาไหม้จากระบบขนส่งมวลชน จนถึงการเพาะปลูกขนาดใหญ่ ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย
ทำให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ถูกกักเก็บไว้มากเกินไป โลกจึงร้อนขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ธารน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น น้ำท่วมฉับพลัน ความแห้งแล้งกระจายในหลายพื้นที่ เกิดไฟป่า สภาพอากาศกำลังเปลี่ยนไป มนุษย์จึงพยายามหาทางออกด้วยหนทางต่างๆ ร่วมกันในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ การรณรงค์ หรือการหยิบจับเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ วันนี้เราจึงพามารู้จักผลงานของ ‘Climeworks’ ที่จะช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าที่โลกเคยมีมา
Climeworks, make the impossible possible
Climeworks เริ่มต้นขึ้นเมื่อราว 2 ทศวรรษก่อน โดยสองผู้ก่อตั้ง Jan Wurzbacher และ Christoph Gebald ได้พบกันในรั้วมหาวิทยาลัย ETH Zurich ทั้งสองเป็นนักศึกษาคณะวิศวะที่ตกหลุมรักการเล่นสกีน้ำแข็งเป็นชีวิตจิตใจ จึงสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงเป็นนักเล่น เพราะการเปลี่ยนแปลงในทางแย่ลงของธรรมชาติตามแต่ละที่ที่ออกไปทำกิจกรรมที่รัก และข่าวธารน้ำแข็งละลายที่มีให้เห็นตลอด ทำให้สองนักเรียนวิศวะและนักสกีตัดสินใจว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
Jan และ Christoph ใช้เวลาหลายปีฝังตัวอยู่ในห้องแล็บ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ ค้นคว้าวิจัยเรื่อง การดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ จนเป็นเทคโนโลยีที่สามารถดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรงจากอากาศและจดทะเบียนบริษัท ‘Climeworks’ ในปี 2009 ภายใต้โจทย์ที่มีความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของมวลมนุษยชาติที่ต้องการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้โลกกลับมาสมดุลขึ้นอีกครั้ง
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมไม่เลือกที่จะปลูกต้นไม้เพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ นั่นเป็นเพราะภายใต้พันธกิจของโลกในอนาคตที่ต้องการให้การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ การปลูกต้นไม้อาจจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
โลกใบนี้ยังมีข้อจำกัดเรื่องทรัพยากรทั้งดินและน้ำที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ผนวกกับวิธีการจัดการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้คือการเก็บไว้ในลำต้นเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต เป็นเพียงการเปลี่ยนสถานที่อยู่ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ที่เมื่อเกิดไฟป่าหรือการตัดไม้ทำลายป่า ก๊าซต่างๆ ก็จะถูกปล่อยคืนสู่ชั้นบรรยากาศดังเดิม
Climeworks จึงเสนอวิธีการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใหม่ให้โลก นั่นก็คือ ‘Direct Air Capture’ เทคโนโลยีดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศโดยตรง ซึ่งสามารถตอบโจทย์เรื่องการวางกลยุทธ์ความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม และตอบโจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลกไปในเวลาเดียวกัน
ดูด สกัด แล้วฝังลืม
หลักการทำงานของระบบ Direct Air Capture หรือ DAC คือการดูดอากาศเข้าสู่ตัวเครื่องด้วยพัดลมดูดอากาศ เครื่องจะปิดไม่ให้อากาศหลุดออกไปสู่ภายนอก และสกัดเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากอากาศ ด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส จนกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์บริสุทธิ์ และยุติวงจรของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศด้วยกรรมวิธี Carbfix คือการนำเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการสกัดผสมเข้ากับน้ำ แล้วใช้แรงดัน อัดอากาศและน้ำลงสู่พื้นดินเพื่อฝังลืมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กักเก็บไว้ใต้ชั้นเปลือกโลกอย่างถาวร
การเกิดขึ้นของ Climeworks จึงตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของภาคอุตสาหกรรม เพราะข้อกำหนดด้านภาษีมลพิษ (Emission Tax) ที่ร่างออกมาทั่วโลกเพื่อลดการปล่อยมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้ภาคอุตสาหกรรม ต้องวางกลยุทธ์ใหม่ ในช่วงเวลานี้เองที่ Climeworks ได้กลายเป็นทางออกสำหรับหลายบริษัทชั้นนำ ที่ต้องการจัดการเรื่องปัญหาการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ อาทิ Audi, Shopify หรือ Stripe เพราะตรวจสอบปริมาณการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างแม่นยำ ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย ปรับขนาดให้เข้ากับบริบทพื้นที่ได้โดยง่าย และที่สำคัญ แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
สมาชิกกู้โลก
ภารกิจกู้โลกของ Climeworks อาจจะฟังดูยิ่งใหญ่สำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเรา แต่สองสหาย Climeworks ก็ทำให้มันเล็กพอจะเอื้อมคว้าไว้ด้วยระบบสมาชิก ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ใครก็ได้สมัครมามีส่วนร่วมได้ หากใครรู้สึกผิดแล้วอยากชดเชยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ตัวเองปล่อย ก็สามารถที่จะสนับสนุน Climeworks ในราคาที่ท่านจ่ายไหวรายเดือน หรือจะมอบให้เป็นของขวัญสำหรับคนพิเศษ เพื่อให้เขาได้รักษ์โลกไปพร้อมกันก็ทำได้เช่นกัน
โดยระบบสมาชิกคิดราคาง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ตามจำนวนคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศที่ถูกกำจัด โดยเลือกปรับจำนวนที่ต้องการได้ตั้งแต่ 1 EUR ต่อเดือน กำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ปีละ 12 กิโลกรัม ไปจนถึงราคา 2,000 EUR ต่อเดือน ที่กำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ถึงปีละ 25,000 กิโลกรัม หรือเทียบเท่ากับจำนวนต้นไม้ 2,500 ต้น ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศต่อปี ซึ่งปัจจุบันมีผู้คนกว่า 7,918 คนจากทั่วโลก เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพื่อสนับสนุนภารกิจกู้โลกครั้งนี้
งานของพวกเขายังไม่จบ ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ Climeworks วางแผนทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการร่วมมือทำโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า Orca กับ Carbfix ผู้บุกเบิกการจัดการปัญหาคาร์บอนไดออกไซด์ และ ON Power ผู้ให้บริการพลังงานความร้อนใต้พิภพของไอซ์แลนด์ เปิดโรงงานดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใหญ่ที่สุดในโลกบนอุทยานความร้อนใต้พิภพ Hellisheidi ประเทศไอซ์แลนด์ ติดตั้งเครื่องดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขนาดเท่าคอนเทนเนอร์ 8 ตู้ ที่ดักจับและกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 4,000 ตันต่อปี เทียบเท่ากับปริมาณการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้เกือบ 4 แสนต้น
การแก้ปัญหาโลกร้อนคือมาราธอน ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร เป้าหมายของ Climeworks คือการดักคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากอากาศในปริมาณหลายพันล้านตันต่อปี ซึ่งถือเป็นการเดินทางระยะยาวที่อาจต้องทำให้ได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้น นอกจากการทุ่มแรงด้านเทคโนโลยี Climeworks จึงเลือกที่จะเดินหน้าเข้าหาผู้คนด้วย และตั้งเป้าชักชวนประชากรโลก 1,000 ล้านคน เข้าร่วมโครงการกับพวกเขาเพื่อให้ปริมาณการปล่อยคาร์บอนมีผลเป็นบวกในที่สุด
เพื่อสร้างสมดุลให้โลกอีกครั้ง Climeworks จึงเป็นหนึ่งในทางเลือก เพื่อการรับมือปัญหาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ แต่ถ้าทุกคนยังคงผลิตและใช้พลังงานกันด้วยความเคยชิน ไม่ตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน เราอาจจะได้เห็นโลกทวงคืนภาษีจากมนุษย์ด้วยภัยพิบัติชนิดต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับหนัง Dystopia จนไม่เหลือโลกที่เคยสดใสให้กับคนรุ่นหลังได้อยู่อาศัยกัน
Source : Climeworks | https://climeworks.com
ภาพ : Climeworks