‘การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ’ หรือ ‘Climate Change’ คือปรากฏการณ์ที่นานาชาติแสดงความกังวล เพราะเป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบเกือบทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงวงการเครื่องดื่มอย่าง ‘เบียร์’ ด้วย
เพราะล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนว่า ภาวะโลกรวนจะทำให้เบียร์ในยุโรปมีราคาแพงขึ้น แถมรสชาติยังจะแย่ลงอีกด้วย สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเกิดจากปริมาณและคุณภาพของ ‘ฮอปส์’ (Hops) ส่วนผสมสำหรับแต่งรสในเบียร์ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผลผลิตน้อยลง ผลที่ตามมาก็คือเบียร์อาจมีราคาสูงขึ้น และผู้ผลิตอาจจะต้องปรับวิธีการผลิตเบียร์ของตนเอง
มากไปกว่านั้น นักวิจัยยังคาดการณ์ว่า ผลผลิตฮอปส์ที่ปลูกในภูมิภาคยุโรปจะลดลง 4 – 18 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 หากเกษตรกรไม่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งมากกว่าเดิม ในขณะที่ปริมาณกรดอัลฟาในฮอปส์ซึ่งทำให้เบียร์มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวจะลดลง 20 – 31 เปอร์เซ็นต์
Miroslav Trnka นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัย Global Change Research Institute of the Czech Academy of Sciences และผู้ร่วมเขียนงานวิจัยครั้งนี้ที่ตีพิมพ์ผ่านวารสาร Nature Communications ได้เตือนว่า บรรดานักดื่มเบียร์จะได้เห็นผลกระทบที่เกิดจาก Climate Change อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะด้านราคาหรือคุณภาพของเบียร์
เบียร์คือเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับสามของโลกรองจากน้ำและชา สำหรับวิธีการผลิตเบียร์คือการหมักเมล็ดมอลต์ เช่น ข้าวบาร์เลย์กับยีสต์ โดยปกติจะปรุงแต่งรสชาติด้วยฮอปส์ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น ที่ส่วนใหญ่ปลูกในเขตละติจูดกลางซึ่งไวต่อการเปลี่ยนแปลงของแสง ความร้อน และน้ำ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮอปส์เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นเนื่องจากกระแสการผลิตคราฟต์เบียร์ที่มีรสชาติเข้มข้นมากขึ้น แต่การศึกษาพบว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ กำลังทำให้พืชชนิดนี้ตกอยู่ในความเสี่ยง
Source :
The Guardian | bit.ly/45GUojf