ชวนเด็กเมืองจันท์กลับบ้าน วานให้เธอเป็นไกด์พาเราไปทำความรู้จัก ‘จันทบุรี’ ให้มากขึ้น บอกเลยว่าที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ผลไม้ส่งตรงจากไร่ ทุเรียนลูกใหญ่ถูกใจสายกิน หรือวิถีชีวิตสุดฟินที่ชุมชนริมน้ำจันทบูร เพราะแค่ได้ขับรถชมเมือง แล้วแวะเดินซอกแซกตามที่ต่างๆ แค่นี้ก็ได้สัมผัสเสน่ห์เมืองจันท์จนทำเราอยากกลับมาซ้ำแล้วซ้ำอีก
การเดินทางครั้งนี้ เราให้ ‘ณัชชา’ เด็กเมืองจันท์แท้ๆ ที่มาไล่ล่าความฝันในเมืองหลวง ด้วยการร่ำเรียนในชั้นปีสุดท้ายที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เป็นไกด์นำทาง ซึ่งณัชชาบอกกับเราว่า นานทีปีหนกว่าเธอจะมีโอกาสกลับบ้าน นั่นทำให้การมาเยือนเมืองจันท์ของเรา เป็นการสนอง Need ให้เธอได้หายคิดถึงบ้านเกิดไปในตัว
“ไปอำเภอท่าใหม่เลยพี่ ที่นั่นก๋วยเตี๋ยวอร่อยทุกร้าน”
ปกติเที่ยวเมืองจันท์ คงหนีไม่พ้นการเดินทอดน่องที่ชุมชนริมน้ำ แต่ครั้งนี้เราเริ่มต้นด้วยการมุ่งหน้าออกจากตัวเมืองมายัง ‘อำเภอท่าใหม่’ ที่ณัชชาเคลมว่า บ้านเรือนที่นี่เหมือนถูกหยุดกาลเวลาไว้ แถมยังไม่พลุกพล่านเหมือนในตัวเมือง ซึ่งสมัยมัธยมฯ ในทุกวันหยุด พ่อแม่ก็จะชอบพาเธอมาหาของอร่อยๆ ที่นี่
หากบางขุนนนท์ เป็นย่านแห่งก๋วยเตี๋ยวของกรุงเทพฯ อำเภอท่าใหม่ ก็คงป็นย่านแห่งเมนูเส้นของจันทบุรี
ที่นี่มีร้านก๋วยเตี๋ยวเรียงรายกันจนลายตา คงเป็นเพราะมีคนเก่าแก่อาศัยอยู่เยอะโดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน ณัชชาพาเรามาฝากท้องมื้อเช้าของวันที่ ‘ร้านก๋วยเตี๋ยวท่าใหม่’ ซึ่งความอร่อยคงไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย เพราะมีรีวิวอยู่เต็มอินเทอร์เน็ต
ก๋วยเตี๋ยวท่าใหม่ไม่ต้องอาศัยการโปรโมทใดๆ แต่ลูกค้าส่งต่อความอร่อยกันแบบปากต่อปาก โดยเราได้แวะทักทาย ‘พี่สุ’ ทายาทผู้จับตะกร้อลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวมาเป็นรุ่นที่ 3 ก่อนก้าวเท้าออกจากร้าน แกบอกถ้าจะมาที่นี่ ถามคนแถวนี้ได้เลยว่า “ร้านเจ๊แดงอยู่ไหน เขารู้จักกันหมด” ซึ่งเจ๊แดงคือทายาทรุ่น 2 เป็นคุณยายของพี่สุนั่นเอง
บรรยากาศของท่าใหม่ไม่ผิดแปลกไปจากที่ณัชชาบอก ตึกแถวดูมีอายุเรียงรายกันให้เราเพลินตาไปกับความคลาสสิก ความนิ่งและไม่ต้องวิ่งตามกาลเวลาของชุมชนทำให้เราลองเสิร์ชดูว่าที่นี่มีอะไรให้น่าค้นหาอีกบ้าง แล้วก็พบว่าแถวนี้ถูกใช้เป็นโลเคชันถ่ายทำหนังเรื่อง Where We Belong ที่มีนักแสดงนำคือวง BNK48 และร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊แดงที่เราเพิ่มอิ่มท้องมา ก็เป็นอีกหนึ่งโลเคชันหลักของหนังด้วย ก็ว่าทำไมคุ้นจัง…
ระหว่างการเดินทางกลับสู่ตัวเมือง เราขับผ่านตึกทรงคุ้นตาที่มีป้ายบอกชื่อ ‘ศรีบูรพา’ เด่นชัดมาแต่ไกล ด้วยฟอนต์ที่ดูไม่ทันสมัยสักเท่าไหร่ ก็ทำให้รู้ทันทีว่านี่คือโรงหนังเก่าแน่นอน ชวนอดคิดไม่ได้ว่า จันทบุรีก็คงไม่ต่างกับจังหวัดอื่นๆ ที่โรงหนังสแตนด์อโลนนั้นกลายเป็นเพียงความทรงจำสำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น
การเข้าไปร่ำเรียนที่กรุงเทพฯ เลยเป็นเรื่องยากที่ณัชชาจะกลับบ้านมาบ่อยๆ ยิ่งเรียนปีสูงขึ้น ก็ยิ่งมีเวลากลับบ้านน้อยลง แต่ทุกครั้งที่กลับมา ก็มักจะเห็นคาเฟ่ผุดขึ้นใหม่อยู่เป็นประจำ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘KAYS Espresso Bar’ คาเฟ่ที่จริงจังทั้งกาแฟ ของหวาน และการตกแต่งสุดเวอร์วัง จนทำให้คนแน่นทุกเทศกาล
เมื่อได้เติมกาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายแล้วก็ถึงเวลามุ่งหน้าสู่ตัวเมืองจันท์ ซึ่งเท่าที่เราสังเกต บ้านเรือนในตัวเมืองจะเป็นตึกแถวซะส่วนใหญ่ และไม่ค่อยมีตึกสูง แต่สิ่งที่ดูจะเป็นเรื่องยากที่สุดในการใช้ชีวิตที่นี่ คงเป็นเรื่องของการเดินทางที่ไม่มีรถสาธารณะ ทำให้คนจันทบุรีต้องมีรถส่วนตัว อย่างน้อยก็มอเตอร์ไซค์หรือจักรยาน
ณัชชาพาเรามาต่อที่ ‘สวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช’ หรือที่คนจันท์เรียกกันว่า ‘ทุ่งนาเชย’ เป็นพื้นที่สีเขียวกลางเมืองจันท์ ที่ช่วงเย็นๆ จะคึกคักไปด้วยคนรักสุขภาพ ซึ่งเธอฟื้นความหลังให้เราฟังว่า เด็กที่นี่จะชอบมาขอให้สอบติดมหาวิทยาลัยกับอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินฯ แล้วจะมาวิ่งแก้บนหากคำขอนั้นสำเร็จ
“ถ้าไม่นับห้าง นี่เป็นอีกที่สาธารณะที่คนจะนัดเจอกัน”
ณัชชาบอกกับเราก่อนจะเล่าต่อว่า นอกจากเป็นที่ยืดเส้นยืดสาย และออกกำลังกายยามเย็น ทุ่งนาเชยยังถูกใช้เป็นสถานที่อัดคลิปเวลาอาจารย์สั่งให้ทำงาน และที่น่าตลกก็คือทุกกลุ่มมาถ่ายที่เดียวกันหมด!
ในโซนเมือง สถานที่สำคัญจะอยู่ติดๆ กันหมดเป็นกลุ่มก้อน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด โรงพยาบาล สวนสาธารณะ ศาลากลาง ตลาด ชุมชนริมน้ำจันทบูร ฯลฯ
เวลามีงานใหญ่อย่างกีฬาสี ด้วยพื้นที่สนามของโรงเรียนประจำจังหวัดมีไม่มากพอ ‘สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี’ จึงถูกใช้เป็นสถานที่จัดกีฬาสี นึกแล้วเด็กๆ คงต้องทนร้อนน่าดู
สำหรับเด็กเมืองจันท์ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ หรือศาลากลางเก่า คือที่รอรถโรงเรียน นั่งกินขนม และเล่นกับเพื่อนหลังเลิกเรียน
มาเยือนจันทบุรีทั้งที จะพลาดเดินย่านชุมชนริมน้ำจันทบูรไปไม่ได้ ณัชชาพาเรามาที่ ‘Sweet at Moon’ ร้านเค้กโฮมเมดที่เธอนัดเจอกับแก๊งเพื่อนเก่าเป็นประจำหากมีโอกาสกลับบ้าน ซึ่งเค้กที่นี่บอกได้เลยว่าคุณภาพดี ราคายังเป็นมิตร แถมยังอยู่ติดริมน้ำแบบนั่งชิลได้สบาย
เราสั่ง ‘น้ำผึ้งมะปี๊ดมูส’ มาลิ้มรส ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะรสมะปี๊ดซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลไม้ของดีเมืองจันท์ พอมาอยู่ในมูสแสนละมุนก็ช่างเข้ากันได้อย่างลงตัว
ถ้าไม่นับโรงเรียน ‘บางเวลา’ คาเฟ่เล็กๆ ในชุมชนริมน้ำจันทบูรคงเป็นอีกสถานที่ที่ณัชชามีโมเมนต์ดีๆ ไม่แพ้กัน ที่นี่เป็นสถานที่พักใจเวลาเครียดจากการติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย และเป็นที่แห่งความทรงจำสมัย ม.ปลาย ของเธอ
“ถ้าเป็นร้านนั่งทำงานกลุ่มสมัย ม.ปลาย ร้านนี้ก็จะเป็นที่รวมตัวกัน แล้วพี่เจ้าของเขาเป็นนักเขียนการ์ตูนขายหัวเราะ ซึ่งเขาก็ชิลมาก เขาเลยเข้าใจเด็กๆ เป็นร้านที่เข้ามาแล้วได้แรงบันดาลใจในการทำงานมากเลย”
ณัชชาเสริมว่า แต่ก่อนจันทบุรีไม่ค่อยมีพื้นที่ให้เด็กปลดปล่อยความสามารถทางศิลปะ เลยคิดว่าเมืองจันท์ไม่ค่อยมีคนสนใจทางด้านนี้ แต่พอมีบางเวลาคาเฟ่ ก็เลยรู้ว่าจริงๆ แล้วจันทบุรีมีคนสนใจในงานศิลปะเยอะมาก
“ในจันทบุรี ที่นี่โรแมนติกที่สุดแล้ว”
สำหรับที่สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือ ‘ร่มทองหลาง’ ร้านอาหารที่เราไม่คิดเลยว่าจะมีฟีลแบบนี้ในตัวเมืองจันท์ เสิร์ฟตั้งแต่อาหารไทย ตะวันตก ไปจนถึงเครื่องดื่มมากมายอย่างไวน์ ค็อกเทล และเบียร์เย็นๆ ซึ่งบอกตรงๆ เลยว่า นี่เป็นร้านที่ถูกใจจนเราอยากกลับมาซ้ำ เพราะตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในตัวร้าน ก็เหมือนหลุดไปอยู่ยุโรปยังไงยังงั้น
“ร้านนี้เขาจำเพลงที่ลูกค้าชอบได้ด้วยนะ ถ้าพ่อเรามา เขาจะเปิดเพลงที่พ่อเราชอบ” ณัชชาเล่าถึงความใส่ใจในลูกค้ากว่า 20 ปีของร่มทองหลาง แถมเสริมอีกว่า ที่นี่เป็นเหมือนจุดนัดพบของแก๊งเพื่อนพ่อ และเป็นร้านที่ดีมากๆ หากอยากจะเดตกับใครสักคน
ร้านร่มทองทองตั้งอยู่บนถนนท่าแฉลบ เด็กที่นี่จะเรียกแถวนี้ว่าถนนหน้าแวร์ ซึ่งมาจากชื่อผับเก่าแวร์ซาย แถวนี้มีผับที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นมากมาย แต่ร่มทองหลางดูจะเป็นร้านที่หากเปรียบเป็นคน คงเป็นผู้ชายเนี้ยบๆ วัยกลางคนที่หล่อเหลาเอาการจนสาวๆ ติดตรึม
แสงไฟ แสงเทียน และเพลงฝรั่ง ชวนให้เราสั่งค็อกเทลน้ำพันช์รสเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วเหมือนเติมรสชาติให้ชีวิต เสิร์ฟพร้อมสเต็กเนื้อนุ่มๆ ที่กินแล้วชุ่มอยู่ในปาก ถือเป็นการบอกลาค่ำคืนนี้ไปแบบฟินๆ
การมาจันทบุรีครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ ที่เราต้องแวะกินผลไม้ สัมผัสธรรมชาติ หรือถ่ายรูปตามแลนด์มาร์กชื่อดัง เพราะเอาเข้าจริง การนัดเจ้าบ้านให้พาเที่ยวแบบไม่ต้องมีพิธีรีตอง มันก็ให้ความรู้สึกที่พิเศษไปอีกแบบ แถมยังทำให้เราได้รู้จักและหลงรัก ‘จันทบุรี’ มากขึ้นไปกว่าเดิมอีก
ไว้เจอกันใหม่ จันทบุรี!