เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน - Urban Creature

เพราะเกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงใหม่ เราจึงมีประสบการณ์ตรงกับฤดูฝุ่นควันที่แวะเวียนมาทุกปี

จำไม่ได้แล้วว่าครั้งแรกที่คัดจมูกเพราะฝุ่นควันคือเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เรารู้แน่ๆ คือทุกครั้งที่ฤดูฝุ่นเวียนมาถึง มันจะรุนแรงขึ้นทุกปี เช่นเดียวกับอุณหภูมิในเมืองที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ วัดได้จากหน้าหนาวที่ไม่ได้หนาวเท่าเดิม

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงเป็นปัญหาที่น่ากลัว และไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับเรา เช่นเดียวกับ ‘บุษกร สุริยสาร’ ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษาโครงการ Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival สิ่งแวดล้อม หนัง ภาพยนตร์  บุษกร สุริยสาร

ใครหลายคนอาจรู้จัก CCCL ในชื่อ ‘เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน’ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2563 และจัดต่อเนื่องมาทุกปี เทศกาลนี้ไม่ได้เป็นเทศกาลฉายหนังสั้นว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศของโลกเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเวทีที่เปิดให้นักทำหนังอิสระรุ่นใหม่จากภูมิภาคเอเชียได้เสนอโปรเจกต์ขอทุนทำหนังของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็เปิดรับหนังสั้นจากคนทำหนังทั่วโลก

เมื่อพูดถึงหนังสั้นหรือคอนเทนต์ใดๆ เกี่ยวกับโลกร้อน เรามักจะนึกถึงการให้ข้อมูลแบบตรงไปตรงมาหรือสารคดีน่าเบื่อ แต่ CCCL ไม่เชื่อเช่นนั้น พวกเขาเชื่อว่าหนังสั้นที่สื่อสารประเด็นจริงจังก็มีความหลากหลาย ดูสนุก และครีเอทีฟได้เหมือนกัน

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival สิ่งแวดล้อม หนัง ภาพยนตร์ นคร ไชยศรี

เรานัดพบกับบุษกรและ ‘นคร ไชยศรี’ ผู้ออกแบบกิจกรรมและเทศกาล เพื่อพูดคุยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังการสร้างเฟสติวัล Edu-tainment ในบ่ายวันหนึ่งที่เราได้ยินข่าวว่าฤดูฝุ่นของเชียงใหม่กลับมารุนแรงอีกครั้ง ก่อนจะจบบทสนทนาด้วยความหวังเต็มเปี่ยมหัวใจว่าในปีต่อไปเราจะได้ยินข่าวดีบ้าง

ทุกอย่างเริ่มจากการตระหนักรู้ว่าโลกร้อนไม่ใช่เรื่องไกลตัว เราได้เรียนรู้เช่นนั้น

โลกป่วยเราต้องเปลี่ยน

เพราะเคยทำงานให้ UN และติดตามข่าวการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลกมาตลอด บุษกรจึงค่อยๆ อินกับเรื่องโลกร้อนมากขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้อินได้มากที่สุดคือสัญญาณที่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง

“เราเป็นคนเชียงราย ซึ่งเมื่อก่อนในฤดูหนาวเชียงรายจะหนาวมาก แต่ตอนนี้เรากลับไปแล้วมันร้อน ก็สงสัยว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้” หญิงสาวสงสัย “ข่าวที่ออกมาในช่วงปีหลัง มีไฟไหม้ป่าหลายล้านไร่ มีสัตว์ตายเป็นพันล้านตัว สิ่งเหล่านี้เป็นสถานการณ์ที่คนในเมืองไม่ได้สัมผัส และคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ซึ่งจริงๆ แล้วมันไกลตัวคุณแต่มันไม่ได้ไกลตัวคนอื่น เกษตรกรที่ปลูกพืชประสบกับปัญญาฝนทิ้งช่วง ปลูกพืชมาแล้วไม่ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม

“เราเห็นว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ได้มีโอกาสทำงานกับรัฐในการออกนโยบายต่างๆ และเห็นว่าในภาคส่วนสังคม มีหลายคนยังไม่รู้ปัญหาเหล่านี้ บางคนอาจจะรู้แค่ฤดูฝุ่นมาอีกแล้ว ตั้งคำถามว่าทำไมมันร้อนจังวะ แต่ไม่มีใครตื่นตัวกับมัน”

นอกจากการตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจัง เธอยังเชื่อว่า เราสามารถขับเคลื่อนนโยบายเรื่องโลกร้อนและสร้างการตระหนักรู้ของคนในสังคมไปได้พร้อมกัน แต่อย่างหลังต้องใช้รูปแบบการสื่อสารอีกแบบที่เข้าถึงคนได้ง่าย ไม่สื่อสารข้อมูลทางวิชาการแบบโต้งๆ

รู้ตัวอีกที เธอก็เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมผลักดันเทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยนเสียแล้ว

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival สิ่งแวดล้อม หนัง ภาพยนตร์ บุษกร สุริยสาร ยคร ไชยศรี

เริ่มจากความเข้าใจ

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน หรือ CCCL ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2563 โดยคริสโตเฟอร์ จี. มัวร์ นักเขียนชาวแคนาดาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ผู้เป็นสามีของบุษกร 

เป็นไอเดียของคริสโตเฟอร์คนนี้นี่เอง ที่เสนอให้นำภาพยนตร์และศิลปะมาดึงดูดให้ผู้คนสนใจเรื่องโลกร้อน เขารวมตัวกับเพื่อนจากหลายแวดวงที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้เหมือนกัน ทั้งนักข่าว นักวิชาการ ศิลปิน และคนที่ทำงานเรื่องสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะ ซึ่งล้วนแล้วแต่อยากขับเคลื่อนประเด็นนี้ให้คนในสังคมเข้าใจมากขึ้น

พ้นไปจากความตั้งใจอยากสื่อสารเรื่องโลกร้อนกับคนในสังคม จุดประสงค์ของ CCCL คือการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนนักทำหนังอิสระในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เล่าเรื่องโลกร้อนในสไตล์ของตัวเอง โดยสนับสนุนทุนในการทำหนังให้พวกเขา ซึ่งทีม CCCL บอกว่า สำหรับคนที่ไม่เข้าใจเรื่องโลกร้อนอย่างถ่องแท้ นี่เป็นการฝึกปรือฝีมือการทำหนังและเรียนรู้เรื่องสภาพอากาศไปพร้อมกัน

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival สิ่งแวดล้อม หนัง ภาพยนตร์

“นอกจากนั้น เรายังให้ความสำคัญกับกลุ่มคนที่ไม่ค่อยมีทุน เช่น กลุ่มนักศึกษานักทำหนังรุ่นใหม่ กลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ และกลุ่มที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ส่งเสียง ในการให้ทุนเราดูเรื่องความเท่าเทียมด้วย ไม่ใช่แค่มีนักทำหนังที่เป็นผู้ชายอย่างเดียว เราให้ทุนกับผู้หญิง กลุ่ม LGBTQ+ เราดูตรงนี้เป็นส่วนประกอบ”

หลังจากมอบทุนอย่างน้อย 10 โปรเจกต์ต่อปี พวกเขายังสนับสนุนคนทำหนังในเรื่องการเรียนรู้ เช่น มีการจัดเสวนากับผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่าเรื่อง หรือหากทีมไหนอยากได้พี่เลี้ยงที่เป็นนักทำหนังมืออาชีพ ทีมงานก็จะจัดหาให้

อย่างไรก็ดี เทศกาลหนังนั้นมีโควตาจำกัด ทำให้หนังที่ได้รับทุนอาจไม่ได้ถูกเลือกให้มาฉายในเทศกาลทุกเรื่อง นั่นเพราะพวกเขาเปิดรับหนังสั้นจากนักทำหนังทั่วโลกด้วยอีกทาง

หนังโลกร้อนก็สนุกได้

383 คือจำนวนหนังสั้นว่าด้วยภาวะโลกร้อนที่ถูกส่งเข้ามาประกวดในเทศกาล CCCL ปีล่าสุด

บุษกรเล่าว่า หนังสั้นที่ส่งเข้ามามีทุกสไตล์ ซึ่งจะเข้าประกวดใน 2 กลุ่มรางวัลคือ กลุ่มหนังสารคดี (Documentary) และกลุ่มหนังที่ไม่ใช่สารคดี (Non-documentary) ทั้งหนังที่เป็นเรื่องแต่ง หนังทดลอง หนังสต็อปโมชัน ฯลฯ

จาก 383 เรื่องจากนักทำหนังทั่วโลก พวกเขาคัดเหลือเพียง 38 เรื่องที่จะฉายในเทศกาลที่จัดฉายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สำหรับเกณฑ์ในการคัดเลือกหนัง นครออกปากว่า พวกเขาอยากเน้นความหลากหลาย ทั้งในแง่เนื้อหา วิธีการเล่าเรื่อง และความหลากหลายของทีมงานเบื้องหลัง มากกว่านั้นคือสะท้อนปัญหาจริงๆ

“ภาพจำของหนังสิ่งแวดล้อมคือมันน่าเบื่อ ต้องเป็นสารคดีอย่างเดียว เราก็พยายามชาเลนจ์ว่าเราไม่ได้อยากหาหนังแนวนี้อย่างเดียว เราอยากเห็นการเล่าที่น่าสนใจมากขึ้น พยายามเล่นกับประเด็น Climate Change ในวิธีคิดของเหล่าคนทำหนังเพื่อให้คนเข้าถึงได้มากขึ้น”

นครยกตัวอย่าง Avocado on Pancakes หนังรางวัล Grand Jury Prize สาขา Non-documentary ประจำปีนี้ให้เราฟัง หนังว่าด้วยชู้รักคู่หนึ่งที่กำลังนั่งทานอาหารอิซากายะ และมีปากเสียงกันเพราะเมนูอะโวคาโด ที่ฝ่ายหนึ่งไม่รู้ว่ากว่าจะปลูกอะโวคาโดได้สักลูกต้องใช้น้ำไปมากเท่าไหร่ ลามไปถึงการถกกันเรื่องฟาสต์แฟชั่นและคาร์บอนฟุตพรินต์

เรื่องการนำเสนอให้เข้าถึงคนได้ง่ายขึ้นก็ส่วนหนึ่ง แต่ขณะเดียวกัน ทีม CCCL จัดทำโครงการ School & University Tour ไปฉายหนังในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย มากกว่านั้นยังมีการจัดฉายออนไลน์อีกด้วย

“เรารู้ว่าทุกวันนี้มีกิจกรรมเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนเยอะมาก เรารอให้เขามาหาเราอย่างเดียวมันไม่พอหรอก เราเลยอยากไปหาเขาด้วย มากกว่าการจัดฉายหนัง เราชวนผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและคนในท้องที่มานั่งคุยกันหลังหนังจบ เพื่อหวังว่ามันจะสร้างการตระหนักรู้ให้กับคนในพื้นที่ได้” บุษกรย้ำ

“สิ่งที่เราคาดหวังจากเทศกาลนี้มีอยู่สองอย่าง หรือจะเรียกว่าเป้าหมายก็ได้ เป้าหมายแรกคือ การเป็นเทศกาลที่คนทำหนังเกี่ยวกับ Climate Change ในภูมิภาคเอเชียจะส่งหนังมาที่เรา เป้าหมายที่สองคือ การสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเยาวชน เราอยากให้เขามาดู ตั้งคำถาม และคุยกันต่อ หลายคนเข้ามาหาเราเพื่อดูหนังของประเทศอื่น พอดูจบเขาบอกว่านี่เป็นประเด็นที่มีอยู่ในประเทศเขาเหมือนกัน สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อคนในทุกที่ เราอยากเห็นอะไรแบบนั้น

“สิ่งที่สำคัญกว่าคือ การสร้างพื้นที่ที่คนทำหนังและคนเข้าร่วมกิจกรรมรู้สึกว่าตัวเขามีพื้นที่ที่เข้ามาแล้วได้เห็นอะไรหลายอย่าง เป็นพื้นที่ที่มีคุณค่ากับสังคม เป็นพื้นที่ให้เยาวชนได้เรียนรู้และมีโอกาสเป็นตัวของตัวเอง เป็นพื้นที่ในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนที่มีความสนใจร่วมกัน ขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ของการแลกเปลี่ยนศิลปะ”

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival สิ่งแวดล้อม หนัง ภาพยนตร์

อนาคตของเทศกาล คือไม่มีเทศกาล

แม้จะทำงานมาแล้ว 3 ปี ทีมงาน CCCL ยังมองว่าเทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยนยังไม่ได้สร้างอิมแพกต์ยิ่งใหญ่ให้กับสังคม แต่อย่างน้อยที่สุด มันก็ช่วยสร้างความตระหนักรู้และแรงกระเพื่อมเล็กๆ ในหมู่เยาวชนคนทำหนังรุ่นใหม่

“ในทุกปี มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ พยายามผลักดันนักศึกษาให้ส่งหนังเข้าร่วมเทศกาล อิมแพกต์ในอีกระดับหนึ่งคือ หนังหลายเรื่องถูกส่งไปฉายเทศกาลอื่นๆ และได้รางวัลกลับมา ส่วนอิมแพกต์ต่อชุมชน มีหลายชุมชนขอหนังเราไปฉาย เราไม่รู้หรอกว่าจะสร้างอิมแพกต์ได้แค่ไหน แต่อย่างน้อยมันก็ถูกมองเห็น”

ย้อนกลับมามองในมุมของคนเมือง บุษกรเชื่อว่าการมีอยู่ของเทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยนตอบโจทย์เพนพอยต์ที่เธอมองเห็นในจุดเริ่มต้น

นั่นคือการตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องไกลตัว

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival สิ่งแวดล้อม หนัง ภาพยนตร์

“ถ้ามีเทศกาลนี้ เขาจะได้เห็นชีวิตของคนที่ถูกผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศจริงๆ ทั้งคนต่างประเทศและคนไทย คนที่ต้องต่อสู้กับไฟป่าเขาต้องเจออะไร คนที่เจอ PM 2.5 หนักๆ ในภาคเหนือเขามีชีวิตแบบไหน มันไม่ใช่แค่ปัญหาฝุ่นแต่ร้ายแรงกว่านั้นมาก

“ประเด็นเหล่านี้เป็นประเด็นที่คุณอาจไม่เคยสนใจเลย แต่รู้ตัวอีกทีมันก็มาถึงตัวแล้ว แล้วคุณอาจตระหนักว่าจริงๆ แล้วมันมีคนอื่นที่เขาตื่นตัว พยายามเล่าเรื่องเหล่านี้ให้คุณฟังมาตลอด แต่คุณเข้าหามันหรือเปล่า”

เมื่อเราถามว่ามองอนาคตของเทศกาลไว้แบบไหน นครยิ้มแล้วบอก “อนาคตที่มองไว้ของเทศกาลนี้คือไม่มีเทศกาลนี้อีกต่อไป เมื่อไหร่ที่ทุกคนเข้าใจประเด็น เราคิดว่าหน้าที่ของเราจบลงแล้ว ไปทำอย่างอื่นดีกว่า”

“ตอนนั้นอาจจะไม่อยู่ในเมืองแล้ว หนีขึ้นไปอยู่บนดอยสักแห่ง” บุษกรเสริมอย่างติดตลก แล้วหันมาตอบอย่างจริงจัง

“แต่ระหว่างนั้น เราอยากให้เทศกาลนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย พื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์ และเป็นพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนของคนจากหลากหลายพื้นที่ได้มาเล่าเรื่อง เราจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนพวกเขา โดยเฉพาะคนที่เขาอาจไม่ได้มีโอกาสได้เล่าเรื่องสักเท่าไหร่” เธอปิดประโยคด้วยรอยยิ้ม

3 หนังแนะนำจากเทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน

MIWATARI

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival สิ่งแวดล้อม หนัง ภาพยนตร์ MIWATARI

หนังรางวัลชนะเลิศฝั่งสารคดี ว่าด้วย ‘มิวาตาริ’ (แปลว่า ทางข้ามของพระเจ้า) ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ที่ทะเลสาบสุวะในจังหวัดนากาโนะ ซึ่งน้ำแข็งในทะเลสาบจะก่อตัวขึ้นเป็นแท่งเหมือนทางเดินยาว

หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับนักบวชในวัดแห่งหนึ่งที่จดบันทึกเกี่ยวกับมิวาตาริมาหลายร้อยปี แต่ช่วงหลังๆ เมื่อโลกเริ่มร้อน ปรากฏการณ์นี้ก็เริ่มหายไป

Avocado on Pancakes

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival สิ่งแวดล้อม หนัง ภาพยนตร์ Avocado on Pancakes

หนังสั้นว่าด้วย ‘แจ๊ค’ กับ ‘โรส’ ชู้รักคู่หนึ่งที่กำลังนั่งทานอาหารอิซากายะ และมีปากเสียงกันเพราะเมนูอะโวคาโด ที่ฝ่ายหนึ่งไม่รู้ว่ากว่าจะปลูกอะโวคาโดได้สักลูกต้องใช้น้ำไปมากเท่าไหร่ ลามไปถึงการถกกันเรื่องฟาสต์แฟชั่นและคาร์บอนฟุตพรินต์

คนหลังเขา

เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival สิ่งแวดล้อม หนัง ภาพยนตร์ คนหลังเขา

สารคดีแนว Observational Documentary ที่ไม่มีบทพูด แต่แสดงให้เห็นว่าชีวิตของคนบนเขาที่ต้องต่อสู้กับไฟป่าเป็นอย่างไร และหาคำตอบเบื้องหลังการเผาไร่เผานาที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของพวกเขามาเป็นร้อยเป็นพันปี

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.