
WHAT’S UP
Wellness Office Theme ออฟฟิศมาพร้อมพื้นที่เล่นสนุก ไอเดียเพิ่มชีวิตชีวาและประสิทธิภาพของคนทำงาน
เช้ามาก็ปวดไหล่ สายหน่อยปวดคอ ตกบ่ายนั่งปวดหลัง กว่าจะเลิกงานก็มืดค่ำ ถึงห้องไม่เป็นอันทำอะไรรีบล้มตัวลงนอน ตื่นเช้ามาอาการเดิมๆ ก็วนลูปจนเป็นปัญหาที่ชาวออฟฟิศซินโดรมหลายคนต้องพบเจอ pbm (Progressive Building Management) สตูดิโอออกแบบสถาปัตยกรรมในกรุงเทพฯ ร่วมกับ Soco (โซโค) บริษัทบริการออกแบบตกแต่งออฟฟิศให้เช่า ผุดไอเดียโปรเจกต์ ‘ธีมสำนักงานสุขภาพ’ ขึ้นมา ผ่านการดีไซน์สำนักงานให้มีพื้นที่ให้คนทำงานได้เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อใช้ความสนุกช่วยเติมเต็มชีวิตชีวาในทุกๆ วัน การออกแบบนี้ได้ผสมผสานการเล่นเข้ากับประสบการณ์การทำงาน เช่น การเปลี่ยนโต๊ะทำงานให้เป็นโต๊ะปิงปองให้พนักงานแบ่งทีมและตีโต้กันไป ในขณะที่ใช้ไวต์บอร์ดจดสกอร์และจดไอเดียแทนการนั่งโต้เถียงกันในห้องประชุม หรือบางวันที่อยากผ่อนคลายยืดกล้ามเนื้อ พนักงานก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นโยคะในช่วงพักกลางวันได้ที่บริเวณอัฒจันทร์ของสำนักงานแห่งนี้ เท่านั้นไม่พอ จากที่เคยเดินไปถ่ายเอกสารเป็นปกติ พนักงานก็สามารถเปลี่ยนอิริยาบถไปกับการห้อยโหนบาร์เหล็กที่ด้านบนเพดานของสำนักงาน รวมถึงยังดีไซน์ให้มีเตียงที่ซ่อนไว้ในมุมหนึ่ง หากใครอยากพักสายตาก็ดึงออกมาใช้งานได้ ออฟฟิศแห่งนี้เลือกใช้สีสันสดใสที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา และโดดเด่นด้วยการออกแบบที่ชวนให้พนักงานขยับร่างกายไปตามมุมต่างๆ ของพื้นที่ทำงาน ทั้งหมดเกิดจากความเชื่อที่ว่า การเคลื่อนไหวมีส่วนช่วยในการพัฒนาทั้งทางร่างกายและสติปัญญา เพราะสมองมนุษย์จะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินที่ทำให้รู้สึกมีความสุข ส่งผลให้พวกเขามีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้นนั่นเอง Source :Archello | tinyurl.com/m65w3aww
ปักหมุดสนามกีฬาสวนเบญจกิติช่วงทดลอง เปิดให้บริการฟรี จองไปเล่นได้ทุกวัน เช้ามืดยันสามทุ่ม
‘สวนเบญจกิติ’ น่าจะกลายเป็นหนึ่งในหมุดหมายยอดฮิตของคนเมืองไปแล้ว หลังจากที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว นอกจากเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน เดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน ฯลฯ สวนแห่งนี้ก็มีส่วนอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการคนกรุงเทพฯ อยู่เรื่อยๆ เช่น อีเวนต์ เวิร์กช็อปต่างๆ ล่าสุดสวนเบญจกิติเปิดสนามกีฬาแห่งใหม่ให้ทดลองใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เล่นได้ตั้งแต่พิกเคิลบอล เทเบิลเทนนิส ฟุตซอล แบดมินตัน บาสเกตบอล และเทคบอล แถมใช้งานฟรีจนคนต่อคิวแน่นวันต่อวัน ใครที่สนใจลองไปใช้บริการกันได้ ไหนๆ ไปพักผ่อนที่สวนแล้ว ลองเพิ่มแพลนออกกำลังกายไปด้วย ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น ส่วนใครไม่อยากไปต่อคิวรอนาน ทางกองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวก็เปิดให้จองคิวแล้วที่ xn--12cas8d9a1a5d5bza8a8f.com ติดต่อสอบถามได้ที่ Line https://line.me/ti/p/REE_m1gN5j สนามกีฬาเบญจกิติ ตั้งอยู่ในสวนเบญจกิติ ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ (goo.gl/maps/TuJAZ1cKSgigbXcc9) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 21.00 น.
สำรวจสถาปัตยกรรมร่วมสมัยไทย-ไต้หวัน ในนิทรรศการ ‘Infinity Ground’ วันที่ 18 ก.ค. – 6 ส.ค. ที่หอศิลปฯ (BACC)
นอกจากขึ้นชื่อเรื่องอาหารและศิลปวัฒนธรรมแล้ว ไต้หวันยังโดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรมอาคารสิ่งก่อสร้างไม่แพ้กัน หากใครเคยไปเยือนสักครั้งคงต้องสนุกกับการเดินชมบ้านเมืองของประเทศนี้แน่ๆ ‘Infinity Ground – Thailand and Taiwan Contemporary Architecture Exhibition’ คืองานนิทรรศการที่รวบรวมสถาปัตยกรรมร่วมสมัยของไทยและไต้หวันไว้ในที่เดียว ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ร่วมกับคณะสายออกแบบจาก 4 มหาวิทยาลัยในไทย ถือเป็นครั้งแรกของปีที่มีการจัดแสดงผลงานการออกแบบสถาปัตยกรรมจาก 8 บริษัทสถาปนิก ทั้งจากประเทศไทยและไต้หวัน ผ่านมุมมองของ ‘การเลื่อนไหล’ และ ‘การรวมตัว’ ของโลก เพื่อเป็นตัวแทนของความหลากหลายทางวัฒนธรรม สภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาสังคมที่ส่งผลต่องานสถาปัตยกรรมทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ภายในงาน Infinity Ground แบ่งการนำเสนอสถาปัตยกรรมร่วมสมัยของไทยและไต้หวันออกเป็น 2 หมวด ได้แก่ ‘การแลกเปลี่ยนบนผืนดิน’ (Ground Exchanges) และ ‘ความรู้สึกจากผืนดิน’ (Feeling Grounds) ที่แสดงวิถีชีวิตใหม่ของมนุษย์และธรรมชาติผ่านสถาปัตยกรรมบนพื้นฐานร่วมกัน เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมหาคำตอบถึงอนาคตของหน้าที่สถาปัตยกรรมต่อผืนดินที่ตั้งอยู่ รวมถึงมองหาการบรรจบกันของสถาปัตยกรรมที่สนองต่อบริบทของถิ่นที่ร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีเสวนาและการบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับวงการสถาปัตย์อีกด้วย ใครที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ลงทะเบียนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ forms.gle/C8T22yDZ8dXVaEEu5 […]
Swiftlet Bookshop & Coffee ร้านหนังสืออิสระแห่งใหม่ในเมืองพัทลุง กับการเป็นพื้นที่พบปะพูดคุย ดื่มกาแฟ และทำกิจกรรม
จากการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ทำให้สังคมออนไลน์เข้ามาเป็นโลกอีกใบของเราไปโดยปริยาย สิ่งต่างๆ ที่เคยได้รับความนิยมกลับค่อยๆ เลือนหายไป หนึ่งในนั้นคือ ‘ร้านหนังสืออิสระ’ ที่แน่นอนว่าเดิมทีก็มีจำนวนน้อยอยู่แล้ว และในปัจจุบันยิ่งเห็นแนวโน้มที่น้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ทว่าก็ยังมีคนหนุ่มสาวอีกไม่น้อยที่ยังคงชื่นชอบการเขียนการอ่าน และนำแพสชันเหล่านั้นมาสร้างพื้นที่ใหม่ๆ ในบ้านเกิดที่ห่างไกลจากเมืองศูนย์กลางอย่างกรุงเทพฯ เรากำลังพูดถึงร้านหนังสืออิสระแห่งใหม่ในเมืองพัทลุงที่มีชื่อว่า ‘ร้านหนังสือนกนางแอ่น Swiftlet Bookshop & Coffee’ ที่ดำเนินการโดย ‘แด๊กซ์-ปรัชวิชญ์ บุญยะวันตัง’ นักเขียนหน้าใหม่ผู้มีบทกวีรวมเล่มชื่อ ‘การเดินอากาศบางประการ’ จากสำนักพิมพ์เหล็กหมาด “เราเป็นวัยรุ่นที่เรียนที่นี่มาตั้งแต่เกิด พบว่าพัทลุงแทบไม่มีร้านหนังสือแล้ว ผิดกับเมื่อก่อนที่มีทั้งร้านขายหนังสือการ์ตูนและร้านขายนิตยสาร” แด๊กซ์บอกเล่าจุดประสงค์หนึ่งของการเปิดร้านหนังสือขนาดอบอุ่นของเขา ย้อนกลับไปช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง แด๊กซ์ได้ทำความรู้จักกับหนังสือวรรณกรรมที่น่าสนใจมากมาย ส่งผลให้การอ่านการเขียนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน จนท้ายที่สุดต้นทุนต่างๆ ที่สะสมมาในช่วงวัยแสวงหาก็ส่งไม้ต่อให้เขาได้ทำสิ่งที่อยากทำในวันที่กลับมาอยู่บ้าน ร้านหนังสือแห่งนี้อุดมไปด้วยหนังสือน่าสนใจหลายประเภทที่เจ้าของร้านคัดสรรมานำเสนอ เช่น วรรณกรรมทั้งไทยและต่างประเทศ หนังสือเกี่ยวกับการเมือง หนังสือหมวดเฉพาะสำหรับคนเสื้อแดง หนังสือปรัชญา บทกวีทั้งงานไทยและงานแปล หนังสือทำมือ และหนังสือจากนักเขียนอิสระที่พิมพ์เองขายเอง “มีคนเข้ามาที่ร้านแล้วบอกว่า เมื่อก่อนชอบอ่านหนังสือ แต่ไม่ได้เป็นนักเขียนเพราะว่าต้องเรียน แต่ตอนนี้ลูกทำงานหมดแล้ว เขาเลยเหมือนได้สานต่อความฝันของเขาในการอ่านหนังสือที่ชอบ มันเป็นความสุขที่ส่งมาถึงเรา” นอกจากกลิ่นของหนังสือแล้ว เมื่อเปิดประตูเข้าไปในร้าน ผู้มาเยือนจะได้กลิ่นกาแฟที่อบอวลสร้างบรรยากาศสงบเงียบ มีสมาธิ และรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ซึ่งเจ้าของร้านเลือกสนับสนุนเมล็ดของเกษตรกรไทย […]
‘STROM’ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย ที่นอกจากช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังปรับแต่งการใช้งานได้ทั้งคัน
ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าที่กลายเป็นทางเลือกใหม่ของคนใช้รถใช้ถนน เพราะตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเองก็กำลังเป็นที่สนใจไม่แพ้กัน แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่มีให้เลือกไม่มากนัก และอาจดูไม่สวยงามเหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ทำให้หลายคนยังตัดสินใจซื้อไม่ได้ เพราะเข้าใจ Pain Point นี้ ‘STROM’ แบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของไทยจึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งทั้งหน้าตาและการใช้งานของตัวรถได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ขั้นตอนการประกอบเครื่องเลยทีเดียว STROM คือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบ BEV 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เพียงแค่เสียบเข้ากับปลั๊กไฟบ้านแบบ 220V โดยไม่ต้องรอให้แบตเตอรี่หมดก่อนก็ได้ นอกจากใช้พลังงานสะอาดและชาร์จไฟได้อย่างสะดวกสบาย STROM ยังเป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพียงแบรนด์เดียวที่มีบริการให้ลูกค้าปรับแต่งรถของตัวเองได้ตามใจชอบ เพื่อเสริมฟังก์ชันและปรับการใช้งานให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานตั้งแต่ที่โรงงานโดยไม่ต้องไปเสียเงินตกแต่งเพิ่มเติมจากร้านภายนอก และไม่ต้องกลัวว่าจะเสียสิทธิ์การรับประกันจากแบรนด์ สำหรับการปรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะมี 2 โปรแกรมให้เลือก คือ STROM VA Custom Project (Visual Appearance) ตกแต่งอุปกรณ์เพื่อความสวยงามด้วยการเพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งานอย่างครบทุกรูปแบบ และ STROM OP Custom Project (Optimum Performance) ที่สามารถปรับสมรรถนะของรถให้ถูกใจและเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานที่หลากหลายของผู้ใช้งาน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง stromthailand.com
‘นิรันดร์’ พวงหรีดรักษ์โลกจากผ้าห่อศพ สวดศพเสร็จ บริจาคต่อ ไม่ก่อให้เกิดขยะ
ใครจะไปคิดว่าพวงหรีดที่เราส่งไปแสดงความเสียใจในงานศพ จะสามารถแปลงร่างออกมาเป็นผ้าห่อศพผืนใหญ่สำหรับใช้งานต่อหลังจบงานได้ และ ‘นิรันดร์’ คือเจ้าของไอเดียสุดล้ำนี้ ก่อนหน้านี้มีร้านพวงหรีดหลายเจ้าที่พยายามปรับรูปแบบของสินค้าจากเดิมที่เป็นเพียงดอกไม้สดให้หลากหลายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้ พัดลมตั้งพื้น เครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ ส่วนนิรันดร์เป็นแบรนด์พวงหรีดน้องใหม่ที่เพิ่งกระโดดเข้ามาในวงการได้ไม่นาน แต่ด้วยคอนเซปต์สุดกรีนอย่างการนำผ้าห่อศพมาจัดเป็นพวงหรีดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นิรันดร์จึงกลายเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว พวงหรีดผ้าห่อศพจากนิรันดร์มีให้เลือกทั้งหมด 2 ขนาด คือ พวงหรีดแบบใช้ผ้า 5 ผืน ราคา 1,900 บาท และพวงหรีดแบบใช้ผ้า 10 ผืน ราคา 2,900 บาท ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อตามการใช้งาน ความเหมาะสม และงบประมาณส่วนตัวได้ โดยทางนิรันดร์ยังมีบริการพรินต์ป้ายติดพวงหรีด และส่งสินค้าให้ฟรีถึงงานศพในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากสั่งก่อนเวลา 15.00 น. ของทุกวัน ทางร้านสามารถจัดส่งให้ภายในวันเดียวกันได้ ส่วนใครที่กังวลว่าคนรับจะไม่รู้ว่าพวงหรีดที่เราส่งไปทำมาจากผ้าห่อศพที่สามารถใช้งานหรือบริจาคต่อได้ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะพวงหรีดทุกอันจะมีป้ายแขวนที่บอกรายละเอียดของผ้าห่อศพ รวมถึงแนะนำสถานที่บริจาคติดไปด้วย สำหรับใครที่ไม่มีเวลาไปบริจาคผ้าห่อศพด้วยตัวเอง ก็สามารถแจ้งทางเพจเฟซบุ๊กของทางนิรันดร์เพิ่มเติมได้เลย เพราะนอกจากที่นิรันดร์จะขายพวงหรีดจากผ้าห่อศพแล้ว ทางแบรนด์ยังเปิดเพจเฟซบุ๊กในชื่อ ‘ห่มบุญ’ สำหรับเป็นสายพานบุญในการนำส่งผ้าห่อศพไปยังหน่วยงานที่ต้องการด้วย ใครสนใจอยากสั่งซื้อพวงหรีดผ้าห่อศพจากทางนิรันดร์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Niran นิรันดร์ พวงหรีดรักษ์โลก
ซัพพอร์ตท้องถิ่น เสพงานคราฟต์เมืองนคร กับเทศกาล CREATIVE NAKHON วันที่ 6 – 9 ก.ค. 66 ที่บวรนคร จ.นครศรีฯ
นครศรีธรรมราช คือหนึ่งในจังหวัดที่มีซีนงานสร้างสรรค์โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม หรืองานคราฟต์ ยกตัวอย่าง หัตถกรรมจักสานจากกระจูด ร้อยลูกปัดมโนราห์ ผ้ามัดย้อม ผ้าบาติก Urban Creature ชวนคนรักงานคราฟต์ไปเทศกาลงานศิลป์เมืองนครศรีธรรมราช ‘CREATIVE NAKHON 5’ (เทศกาลครีเอทีฟนคร ครั้งที่ 5) ภายใต้แนวคิด ‘คลั่งคราฟท์’ โดยกลุ่มครีเอทีฟนคร ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช บวรนคร ภายใต้การสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA, และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB และภาคีเครือข่าย ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อผลักดันเทศกาลครีเอทีฟนครสู่การเป็น Flagship Event ตามแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการจัดงานเทศกาล (Festival Economy) ปั้นนครศรีธรรมราชสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองและชุมชนอย่างยั่งยืน ภายในงานมี 5 นิทรรศการงานคราฟต์พื้นเมือง ดังนี้ – Local Creative นิทรรศการงานสร้างสรรค์ที่มีโจทย์ให้นักสร้างสรรค์ในท้องถิ่นนำแรงบันดาลใจจากทักษะงานฝีมือในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ผลงาน – The Craft Master […]
‘SCOPE Promsri’ คอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท ที่ยก Cenotes จากเม็กซิโกมาไว้ใจกลางเมือง
ปัญหาของการอยู่อาศัยในเมืองใหญ่คือการถูกล้อมรอบด้วยตึกและอาคาร จนอาจทำให้ห่างไกลจากธรรมชาติ แต่ ‘SCOPE Promsri’ ได้คำนึงถึงความสำคัญในการอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จึงได้ยกแหล่งธรรมชาติที่สวยงามมาไว้ภายในโครงการ เพื่อเป็นพื้นที่แห่งความสงบ ใช้หลบหนีความวุ่นวายในเมือง SCOPE Promsri คือคอนโดมิเนียมในซอยสุขุมวิทที่ตั้งใจให้ผู้พักอาศัยสัมผัสถึงธรรมชาติได้มากขึ้นแม้อยู่ใจกลางเมือง พื้นที่ต่างๆ ภายในโครงการจะมีร่มเงาจากต้นไม้พืชเขตร้อน และความสะดุดตาตรงบริเวณพื้นที่ส่วนกลางด้วย ‘Cenote Court’ ซึ่งเปรียบเหมือนกับโอเอซิสจากเขตร้อนที่เป็นพื้นที่สำหรับสูดอากาศและพักผ่อนหย่อนใจด้วยเสียงของน้ำ ทั้งหมดนี้ได้แรงบันดาลใจจาก ‘Cenotes’ สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติคาบสมุทรยูคาทาน ในประเทศเม็กซิโก ดีไซน์ที่สวยงามไม่ได้อยู่แค่การตกแต่งเท่านั้น แต่วัสดุ อุปกรณ์ และเฟอร์นิเจอร์ภายในโครงการยังคำนึงถึงการออกแบบ คุณภาพ และฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบถ้วน ผ่านการคัดสรรจากแบรนด์ชั้นนำตามมาตรฐานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ ตู้เย็น อ่างล้างจาน โซฟา และโต๊ะรุ่นพิเศษที่แบรนด์ Ligne Roset ออกแบบและผลิตให้ SCOPE Promsri ที่เดียวเท่านั้น
‘Farmille Plant-based Yogurt’ โยเกิร์ตไทยจากถั่วชิกพีและถั่วลันเตา ให้โปรตีนสูง น้ำตาลต่ำ เป็นวีแกน 100%
ในปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยเริ่มให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาหารประเภทแพลนต์เบส (Plant-based) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใครหลายคนให้ความสนใจตามไปด้วย เพราะเป็นอาหารที่ทำจากพืช 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์ ‘Farmille’ ฟู้ดสตาร์ทอัพรายใหม่ของไทยที่สนใจเรื่องแพลนต์เบสเป็นทุนเดิมได้เปิดตัว ‘Farmille Plant-based Yogurt’ โยเกิร์ตระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ตลาดอย่างแตกต่าง ด้วยการชูจุดเด่นการเป็นแพลนต์เบสโยเกิร์ตที่ทำจากถั่วชิกพีและถั่วลันเตารายแรกของไทย ซึ่งเรียกว่าเป็นวีแกนแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ Farmille Plant-based Yogurt ผลิตจากกรรมวิธีการบ่มหมักโยเกิร์ตด้วยนวัตกรรมและสูตรลับเฉพาะของแบรนด์ ทำให้โยเกิร์ตมีทั้งความอร่อย หอมมัน ทานง่าย ในขณะที่เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มและมีความคงตัว ทั้งยังถือเป็นแพลนต์เบสโยเกิร์ตแบรนด์แรกที่การันตีว่าเป็นโยเกิร์ตโปรตีนสูง โดยมีโปรตีนต่อ 1 หน่วยบริโภคมากถึง 10 กรัม นอกจากนี้ Farmille Plant-based Yogurt ยังถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้รักสุขภาพได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม่มีคอเลสเตอรอล มีดรรชนีน้ำตาลต่ำ มีโปรไบโอติกช่วยในการขับถ่าย และอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ใครสนใจอยากลองชิม Farmille Plant-based Yogurt หาซื้อได้ตามร้านสุขภาพ Health Shop และ Supermarket ชั้นนำทั่วไป รวมถึงช่องทางออนไลน์ของทาง Farmille ในราคาถ้วยละ 55 […]
ดับร้อนกับ ‘Ice Da Yo-yo’ เครื่องทำไอศกรีมแบบพกพาที่ทำได้โดยการเล่นโยโย่ 3 นาที
เมื่ออากาศร้อนขึ้น ผู้ปกครองอาจจะต้องเจอปัญหาที่เด็กๆ เรียกร้องขอให้ซื้อไอศกรีมเพื่อดับร้อนอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าหากไม่อยากเสียเงินบ่อยๆ เราขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อให้เด็กๆ ได้ทำไอศกรีมด้วยตัวเอง แถมยังได้ออกกำลังกายแขนด้วย ‘Takara Tomy’ ผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับ ‘Hello Kitty’ ในการผลิต ‘Ice Da Yo-yo’ เครื่องทำไอศกรีมแบบพกพาที่นอกจากจะใช้งานได้ทุกที่แล้ว ยังทำหน้าที่เป็นของเล่นให้เด็กๆ ได้สนุกกับการเล่นโยโย่อีกด้วย ภายใน Ice Da Yo-yo จะถูกแบ่งออกเป็นสองช่อง ช่องหนึ่งสำหรับใส่ส่วนผสมในการทำไอศกรีม อีกช่องสำหรับใส่น้ำ น้ำแข็ง และเกลือ เพื่อทำให้ส่วนผสมนั้นแข็งตัวเป็นไอศกรีมหลังจากเล่นโยโย่เพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น การทำงานของ Ice Da Yo-yo นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทำไอศกรีมในถุงที่เป็นกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ได้ทำความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ และต้นแบบของรูปร่างอุปกรณ์นี้ก็ได้มาจากโยโย่สไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ทำขึ้นจากลูกโป่งน้ำผูกกับยางยืดนั่นเอง เจ้าเครื่องทำไอศกรีมโยโย่มีให้เลือกถึง 4 คาแรกเตอร์จาก Sanrio ได้แก่ ‘Cinnamoroll’, ‘Hello Kitty’, ‘My Melody’ และ ‘Kuromi’ มีราคาอยู่ที่ตัวละ 2,640 เยน หรือประมาณ 650 […]
Nodeul Island Park เกาะสวนสาธารณะกลางแม่น้ำฮัน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเกาะเทียมที่ถูกทิ้งร้าง
เมื่อพูดถึงแม่น้ำฮัน เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงภาพการต้มรามยอนด้วยเครื่องอัตโนมัติ หรือนั่งปิกนิกกินไก่ทอดกับเบียร์ในสวนสาธารณะริมแม่น้ำแบบชิลๆ แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากสวนสาธารณะตามแนวยาวริมแม่น้ำฮันแล้ว ตรงบริเวณเกาะกลางแม่น้ำก็มีสวนสาธารณะแบบลอยน้ำกับเขาด้วยเหมือนกัน ‘Nodeul Island Park’ เป็นสวนสาธารณะที่กินพื้นที่ทั้งหมดของ ‘เกาะโนดึล’ เกาะเทียมกลางแม่น้ำที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนักสะพานข้ามแม่น้ำฮันในปี 1917 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกปล่อยทิ้งร้างมานานหลายทศวรรษ เนื่องจากมีระยะทางไกลจากริมแม่น้ำ ทำให้เดินทางไปได้ยาก แต่หลังจาก ‘MMK+’ บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมและผังเมืองสัญชาติเกาหลีใต้ เข้ามารับผิดชอบในการปรับรูปแบบพื้นที่ของเกาะใหม่ให้เป็นพื้นที่สาธารณะหลายระดับที่คงไว้ซึ่งความสวยงามของธรรมชาติ ก็ทำให้เกาะโนดึลกลับมาคึกคักอีกครั้งในปี 2019 พื้นที่ Nodeul Island Park แบ่งออกเป็นสองระดับ โดยระดับพื้นดินเดิมของเกาะถูกเปลี่ยนให้เป็นสถานที่พักผ่อนในรูปแบบต่างๆ ที่เชื้อเชิญให้ผู้คนมาเยือนดื่มด่ำไปกับธรรมชาติและวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลาย ในขณะที่แพลตฟอร์มชั้นบนที่อยู่ในแนวเดียวกับสะพานเชื่อมเกาะถูกเปลี่ยนให้เป็นลานสาธารณะและจุดชมวิวพระอาทิตย์ รวมไปถึงเป็นแหล่งรวมสำนักงาน ร้านค้า แกลเลอรี ร้านหนังสือ ห้องโถงอเนกประสงค์ และห้องจัดแสดงที่จุคนได้กว่า 450 คน นอกจากนี้ ส่วนธรรมชาติที่มีอยู่เดิมของเกาะโนดึลยังได้รับการฟื้นฟูผ่านความร่วมมือจากหลายสาขาวิชา เพื่อให้ Nodeul Island Park ไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับผู้คน แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่อยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตบนเกาะได้ด้วย ปัจจุบันเกาะที่เคยถูกลืมแห่งนี้ได้กลายมาเป็นสวนสาธารณะและสถานที่ทางวัฒนธรรมยอดนิยมของชาวเกาหลีใต้และผู้มาเยือนจากต่างถิ่น ใครมีแพลนไปเกาหลีใต้ ลองเดินข้ามสะพานไปยัง Nodeul Island Park ดู บรรยากาศดีไม่แพ้การปิกนิกริมแม่น้ำฮันเลยทีเดียว Sources […]
ดูตึกเก่า เข้าศาลเจ้า แวะร้านรวง เดินเที่ยวย่านทรงวาดกับคนเขียนหนังสือ Song Wat Guidebook
สำหรับคนที่ชอบเดินเข้าตรอกซอกซอยในย่านต่างๆ ของกรุงเทพฯ ชื่อของ ‘ทรงวาด’ น่าจะเป็นหนึ่งในอันดับต้นๆ ของย่านที่น่าไปใช้เวลาเดินเล่น สำรวจเมือง แวะพักผ่อนตามสถานที่เจ๋งๆ รายทาง ล่าสุดกลุ่ม Made in Song Wat ที่อยากผลักดันให้ย่านนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบของชุมชนอื่นๆ ในกรุงเทพฯ และประเทศไทย ได้จัดทำหนังสือ ‘Song Wat Guidebook : Love Letter to the Neighbourhood’ ที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์สนุกๆ ผู้คนในพื้นที่ ร้านรวงน่าสนใจ และทุกซอกทุกมุมของทรงวาด ในรูปแบบภาษาไทยและอังกฤษในเล่มเดียว พอมีหนังสือไกด์บุ๊กแล้ว จะไม่มีการตามรอยเส้นทางก็กระไรอยู่ ทางกลุ่ม Made in Song Wat จึงจัด Mini Walking Tour ทริปเดินทัวร์ฉบับกะทัดรัด ชวนเที่ยวทรงวาดกับคนเขียน Song Wat Guidebook : Love Letter to the Neighbourhood โดยจะเป็นการตามไปทำความรู้จักย่านนี้ […]