ภาพสถานีขนส่งโทรมๆ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศที่ต้องการเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดที่ตนจากมา บ้างนั่งรอรถโดยสารอย่างใจจดใจจ่อ บ้างก็นอนพักรอให้เวลาเดินทางมาถึง บรรยากาศเหล่านี้กลายเป็นภาพที่เราเห็นกันจนคุ้นชิน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวของทุกๆ ปี
แต่ภายใต้ความคุ้นชิน กลับไม่ใช่สิ่งที่สร้างความสะดวกสบายให้กับบรรดาผู้โดยสารที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงภายในสถานีขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นความแออัดวุ่นวาย สภาพแวดล้อมที่มืดและสกปรก โครงสร้างที่ทรุดโทรม ไหนจะป้ายบอกทางที่สับสน รวมถึงฟังก์ชันต่างๆ ไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้บริการเอาเสียเลย
วันนี้ Urban Creature จึงขออาสาดีไซน์สถานีขนส่งสาธารณะแห่งใหม่ ที่มาพร้อม 4 พื้นที่ใช้งานซึ่งเกิดจากแนวคิดที่นึกถึงหัวใจคนเดินทางเป็นหลัก มีตั้งแต่จุดซื้อตั๋วที่สะดวกรวดเร็ว ไปจนถึงการขึ้นลงรถโดยสารที่สะดวกและไม่วุ่นวาย ซึ่งเราเชื่อว่าถ้าการออกแบบเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง สถานีขนส่งสาธารณะแห่งใหม่คงจะน่าใช้งานและตอบโจทย์ผู้โดยสารกว่าเดิมเยอะเลย
01 | One-stop Booking Service
จองตั๋วรถง่ายด้วยปลายนิ้ว
เคยเจอปัญหาที่ไม่รู้ว่าต้องซื้อตั๋วรถโดยสารสาธารณะจากที่ไหนไหม พอไปซื้อที่สถานีล่วงหน้า เขาก็บอกให้รอซื้อวันเดินทางจริง พอถึงวันเดินทางจริง พนักงานกลับบอกว่าทำไมไม่ซื้อออนไลน์ แต่พอจะเข้าจองออนไลน์ก็งงเข้าไปใหญ่ เพราะเสิร์ชเข้าไปเจอเป็น 10 เว็บไซต์ แล้วอย่างนี้ต้องจองตรงไหนกันแน่
จะปล่อยให้คนเดินทางปวดหัวแบบนี้ต่อไปคงไม่ไหว เราเลยขอเปลี่ยนระบบการจองใหม่ให้เป็น ‘One-stop Booking Service’ เว็บไซต์กลางสำหรับจองตั๋วที่ไม่ว่าจะเป็นรถทัวร์หรือรถตู้ค่ายไหน ก็จองได้ง่ายผ่านเว็บไซต์เดียว ไม่ต้องค้นหากันให้วุ่นวาย
แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกซื้อตั๋วผ่านออนไลน์ ในสถานีก็จะมีตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ และบริการจำหน่ายตั๋วโดยเจ้าหน้าที่บริเวณเคาน์เตอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ไม่คุ้นชินกับการจองออนไลน์ หรือมีเหตุให้ต้องเดินทางแบบกะทันหัน
02 | Wayfinding Signage
เดินทางสะดวกด้วยเส้นสัญลักษณ์นำทาง
ซื้อตั๋วได้แบบสบายๆ แล้ว การเดินทางก็ต้องสบายด้วย เพราะทุกวันนี้แค่ทางเชื่อมต่อไปยังสถานีขนส่งยังเป็นปัญหาอยู่ ไหนจะเรื่อง BTS หรือ MRT ที่ไม่เชื่อมต่อกับสถานีโดยตรง นี่ยังไม่รวมถึงป้ายบอกทางที่มองแล้วเกิดความสับสนกว่าเดิม
แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยการสร้างทางเชื่อมไปสู่สถานีแบบไร้รอยต่อ (Seamless) ที่มีป้ายบอกทางอย่างชัดเจนทั้งในและนอกอาคาร รวมไปถึงการติด ‘Wayfinding’ สัญลักษณ์บอกทิศทางที่แยกสีตามแต่ละภาคไว้บริเวณพื้นสถานี เพื่อนำทางผู้โดยสารไปยังจุดรอรถได้อย่างถูกต้อง เป็นวิธีจัดระเบียบการเดินรถอย่างเป็นสัดส่วน และลดความสับสนของผู้โดยสารด้วย
นอกจากจะทำให้การใช้บริการในสถานีง่ายและไหลลื่นมากขึ้น วิธีนี้ยังจะช่วยลดเสียงตะโกนเรียกผู้โดยสารจากพนักงานของแต่ละบริษัท ทำให้พื้นที่ภายในสถานีขนส่งกลับมาเงียบสงบ และเหมาะสำหรับการพักผ่อนระหว่างรอรถอีกครั้ง
03 | Waiting Station
จุดพักสำหรับนักเดินทาง
หลายครั้งเรามักเห็นภาพของผู้โดยสารมีเหตุจำเป็นต้องค้างคืนภายในสถานีขนส่งสาธารณะ ต้องนั่งหลับคอพับบนเก้าอี้รอขึ้นรถ ที่มองอย่างไรก็รู้สึกปวดหลังตามทุกที
เราขอเสนอทางแก้ปัญหานี้ด้วยบริการ ‘โรงแรมแคปซูล’ (Capsule Hotel) สำหรับพักค้างคืนโดยเฉพาะ ที่นอกจากผู้รอโดยสารจะได้นอนรอรถแบบสบายๆ เรายังได้พื้นที่นั่งรอรถกลับคืนมาเป็นจำนวนมากอีกด้วย
นอกจากโรงแรมแคปซูลแล้ว เรายังจะสร้าง ‘ห้องอาบน้ำ’ ไว้บริการสำหรับผู้ที่ทนความเหนียวตัวจากการเดินทางไม่ไหว รวมถึงมี ‘ศูนย์อาหาร’ ราคาถูกที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง เพื่อทำให้จุดพักสำหรับนักเดินทางแห่งนี้ตอบโจทย์คนเดินทางได้อย่างครบวงจรมากขึ้น
04 | Easy Boarding Point
ขึ้น-ลงรถง่าย ไม่วุ่นวาย
มาถึงจุดจอดสำหรับขึ้น-ลงรถ อีกหนึ่งปัญหาที่เจออยู่เสมอคือรถแต่ละคันต่างมีจุดจอดเป็นของตัวเอง ทำให้การขึ้นรถโดยสารแต่ละครั้งเป็นระบบที่คนต้องเดินหารถโดยสารที่มีจุดจอดประจำในลานจอดรถด้วยตัวเอง สร้างความสับสน มึนงง ล่าช้า หรือหลายครั้งที่เกิดความวุ่นวายเมื่อต้องเดินตัดผ่านหน้ารถคันอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ เราขอหยิบเอาวิธีการแบ่งประตูเกตแบบสนามบินมาใช้ เพื่อสร้างโฟลว์การเดินรถแบบใหม่ ที่ให้รถโดยสารสามารถขับมาจอดตามประตูหมายเลขตามที่บันทึกไว้ในตั๋วโดยสารได้ทันที รวมไปถึงมีจุดตรวจตั๋ว จุดรับฝากของ และจุดโหลดกระเป๋าใต้ท้องรถ ก่อนเข้าไปยังพื้นที่รอรถอย่างชัดเจน เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้โดยสารอีกครั้งและป้องกันมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวมา
นอกจากนี้ การขึ้นและลงรถโดยสารโดยมีประตูเข้า-ออกแยกกันอย่างชัดเจน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความแออัด สร้างโฟลว์ให้คนเดินง่าย และสะดวกสบายมากขึ้น และป้องกันอุบัติเหตุและความชุลมุนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทางได้ด้วย
Writer
มณิสร วรรณศิริกุล
Graphic Designer
