‘รักนะ แต่ก็เกลียดเหมือนกัน’ อาจเป็นหนึ่งในความรู้สึกของการเผชิญหน้ากับ Toxic Relationship ที่คอยบั่นทอนชีวิตทุกวัน ซึ่งความสัมพันธ์สุด Toxic นี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นแค่ระหว่างคนด้วยกันเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความสัมพันธ์ของเมืองและคนที่อยู่อาศัยในเมืองด้วย
วาเลนไทน์ปีนี้ Urban Creature ขอขยับออกจากความสัมพันธ์แบบโรแมนติกมาพูดถึงความสัมพันธ์ในรูปแบบ ‘Love-Hate Relationship’ ของคนและเมืองกันบ้าง ว่ามีอะไรที่ทำให้เราทั้งรักทั้งเกลียด จนหนีออกจากความสัมพันธ์พังๆ นี้ไม่ได้
วินมอเตอร์ไซค์
อยู่ในเมืองรถติดจะตาย แต่ไม่เป็นไร เพราะไม่ต้องขับรถก็เดินทางในเมืองได้ง่ายๆ ด้วยขนส่งสาธารณะที่มีให้เลือกหลากหลาย (แต่ไม่ดีสักอย่าง) ซึ่งบริการที่ดูจะได้ใช้บ่อยที่สุดก็คงหนีไม่พ้นพี่วินมอเตอร์ไซค์ ที่สามารถพาเราซอกแซกฝ่าการจราจรที่ติดขัดไปได้อย่างรวดเร็ว
แต่ถึงจะเร็วรี่แค่ไหนก็มีปัญหามากมายให้ต้องระแวดระวัง ทั้งความอันตรายที่เกิดจากการขับขี่เร็วเกินไป บางคนก็รอติดไฟแดงไม่เป็น เห็นช่องว่างก็รีบพุ่งตัวออกไปทันที หรือบางทีก็มีการคิดราคาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งความรักตัวกลัวตายก็ทำให้เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต้องยอมจ่ายเงินเพื่อความปลอดภัยในชีวิต
ถึงจะเกลียดที่ต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ แต่ก็รักชีวิตเมืองที่มีวินมอเตอร์ไซค์ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องทรมานเดินฝ่าความร้อน
ห้างสรรพสินค้า
นัดเจอเพื่อนทีไร สุดท้ายก็หนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้าทุกที ถึงจะเปลี่ยนย่านไปเรื่อยๆ แต่ด้วยอากาศที่ร้อนและฝุ่นควันที่ลอยคว้างตลอดปีตลอดชาติ ก็ไม่มีที่ไหนจะเหมาะกับการเป็นจุดหมายนัดเจอกันในเมืองมากไปกว่านี้อีกแล้ว
แม้การเดินเล่นหรือกินข้าวในห้างฯ จะเย็นสบายดี แต่พอไปบ่อยๆ ก็เริ่มจะเบื่อ บางครั้งก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปสนุกที่อื่นบ้าง เช่น ออกไปนั่งปิกนิกกับเพื่อนสาวท่ามกลางสวนดอกไม้ หรือออกไปนอนอ่านหนังสือรับลมเย็นๆ ในสวนแบบเซ็นทรัลพาร์ก ทีนี้พอนึกถึงค่าฝุ่นที่แดงแจ๋แล้วก็คงต้องขอกลับไปอยู่ในห้างฯ เหมือนเดิมแล้วกัน
ฟู้ดเดลิเวอรี
ทำงานเหนื่อยมากพอแล้ว ให้ทำอาหารอีกก็คงไม่ไหว เลยขอใช้วิธีลัดไปกับการเลือกร้านอาหารผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรีบนสมาร์ตโฟนแทน แค่กดสั่งเมนูอาหารที่อยากกินจากแอปฯ ที่มีให้เลือกหลากหลายเจ้า และทำอะไรรอเพลินๆ อาหารก็พร้อมมาเสิร์ฟถึงที่ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน ถ้าพร้อมจ่ายก็ไม่มีปัญหา
แต่พออาหารมาถึงกลับไม่ได้มีแค่ข้าวกล่องเดียว เพราะมันมาพร้อมพลาสติกจำนวนมากที่ร้านห่อมาเพื่อป้องกันการหกเลอะเทอะระหว่างทาง แถมยังมีการแยกกล่องข้าว ถุงน้ำซุป และถุงน้ำจิ้มอีกเยอะแยะมากมาย จนทำเอาเรารู้สึกผิดกับโลก
ไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มขยะให้กับโลกเลย แต่สั่งเดลิเวอรีก็สบายกับชีวิตกว่ามาก โดยเฉพาะเวลาที่เหนื่อยล้าเหลือทน แต่ถึงอย่างไรเราก็จะพยายามเดินไปร้านข้าวแถวบ้าน อุดหนุนพ่อค้าแม่ขายในพื้นที่ให้ได้มากที่สุดแล้วกันนะ
สตรีทฟู้ด
เมืองไทยเป็นครัวโลก ไม่ใช่แค่อาหารที่มีสารพัดเมนูให้ได้ลิ้มลอง แต่เวลาหิวโซต่อให้กี่โมงกี่ยามก็ไม่มีปัญหา เพราะแค่เดินออกมาตามริมถนนก็จะเจอสตรีทฟู้ดมากมายให้เลือกสรรไม่ซ้ำเมนู
ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่ต้องการอาหารราคาย่อมเยา ก็จะยิ่งรู้สึกขอบคุณการมีอยู่ของร้านสตรีทฟู้ดเหล่านี้ แต่ถ้าวันไหนที่ต้องรีบเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางเท้า ก็จะรู้สึกหงุดหงิดกับการตั้งร้านเกะกะขวางทางและกินพื้นที่ทางเดินจนทำให้เราต้องลงไปเดินบนถนน วันดีคืนดีก็โดนรถบีบแตรไล่หรือไม่ก็เกือบโดนมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนอีก
ถึงความผิดส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะร้านแผงลอย แต่ถ้าไม่มีร้านพวกนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปฝากท้องที่ไหนอยู่ดี
สกายวอล์ก
ไม่ว่าจะย่านถูกหรือย่านหรูในกรุงเทพฯ ก็ไม่มีที่ไหนที่เดินบนทางเท้าได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวสะดุดหัวคะมำ เพราะฉะนั้นถ้าเลือกได้ก็ขอเดินบนสกายวอล์กเพื่อความรวดเร็วและปลอดภัยของสุขภาพเท้าแทนแล้วกัน แถมยังเชื่อมต่อเข้าตึกต่างๆ ในหลายแห่ง
แต่พอเดินบนสกายวอล์กก็ทำให้เราพลาดการค้นพบร้านรวงต่างๆ ที่อยู่ตามทาง รวมถึงไม่ได้สำรวจเมืองในระดับสายตา ถ้าทางเท้าดีและกว้างขวางพอที่จะเอื้อต่อการเดินมากกว่าในตอนนี้ ก็จะทำให้คนเมืองอย่างเราหันมาสนใจสิ่งรอบข้างระหว่างทางมากกว่าเดิม แถมอาจยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าต่างๆ ได้ลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย