ในสมัยก่อนมนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกัน การวางรกรากตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มักยึดโยงและปรับตัวตามธรรมชาติเป็นหลัก เช่น ใกล้แหล่งน้ำหรือพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้ง่ายต่อการดำรงชีวิต
แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้คนไม่ได้ปรับตัวเข้ากับธรรมชาติเหมือนสมัยก่อน ทำให้การมีอยู่ของเมืองเป็นการขัดขวางธรรมชาติไปโดยสิ้นเชิง ยกตัวอย่างการตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้แหล่งน้ำในปัจจุบันที่ไม่ตอบโจทย์คนทั่วไปแล้ว เนื่องจากต้องมาคอยระวังปัญหาน้ำท่วม
Resilient City คือคำนิยามถึงเมืองที่ต้องปรับตัวไปตามสภาพอากาศ เนื่องจากอากาศหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติเริ่มมีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อเมืองและชาวเมืองมากขึ้น ซึ่งนอกจากมนุษย์เองที่ต้องปรับตัว ตัวเมืองเองก็ต้องปรับตัวเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน