ชวนดู ลุงดร เกตุเผือก สื่อประชาชน ไลฟ์สดเพื่อประชาธิปไตย สารคดีเชิงข่าวรางวัล Amnesty จาก Urban Creature 

“เราต้องการที่จะให้ประชาชนได้รู้ ใครจะไม่ถ่ายไม่ว่า แต่เราต้องการถ่าย”  นี่คือคำพูดง่ายๆ จากน้ำเสียงอันเป็นมิตรของ ‘ลุงดร เกตุเผือก’ เจ้าของเพจชื่อเสียงเรียงนามเดียวกับตัวเอง ลุงดรคือตัวอย่างของคนธรรมดาที่ผันตัวมาเป็นสื่อประชาชนติดตามถ่ายทอดสดเหตุการณ์ร้อน เพื่อส่งสารความจริงจากแทบทุกพื้นที่ที่มีการจัดม็อบประชาธิปไตย และติดตามไปยังพื้นที่ศาลต่างๆ ที่กำลังมีการดำเนินคดีกับประชาชนที่ออกมาชุมนุม เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความเป็นไปแบบวินาทีต่อวินาทีอย่างถึงลูกถึงคน  จากประชาชนที่ใช้โทรศัพท์ไม่ค่อยเป็น ผุดลุกขึ้นมาเรียนรู้ฟังก์ชันการใช้งานของมือถือใหม่ทั้งหมด และตะลุยถ่ายทอดภาพการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยบนท้องถนน ผ่าน ‘ไลฟ์สด’ แบบฉบับง่ายๆ และซื่อตรงของตัวเอง ในยุคที่สื่อถูกบงการ ถูกเซนเซอร์ และถูกบิดเบือน จนผู้ชมตามหาชุดความจริงได้อย่างจำกัด ลุงดรเป็นหนึ่งในคนไทยที่เลือกเป็นสื่อด้วยตัวเอง เมื่อไม่ต้องทำตามคำสั่งใคร การไลฟ์สดของเขา จึงเปรียบเสมือนความหวังเล็กๆ ของคนดูที่ต้องการเสพสื่อและตัดสินเหตุการณ์นั้นจากมุมมองของประชาชนจริงๆ  สารคดีสั้นจาก Urban Creature ชิ้นนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า ‘ลุงดร เกตุเผือก : สื่อ – ชาวบ้าน – ประชาธิปไตย I เมื่อชีวิตอุทิศเป็นสื่อประชาชน’ กำกับโดย ‘แทนชนก มุสิกธรรม’ และสร้างสรรค์โดยทีมโปรดักชันทั้งทีม ด้วยตั้งใจและเห็นว่าความจริงเป็นสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้สังคมเราก้าวไปสู่ความยุติธรรม และแทนชนกยังเชื่ออีกว่า ถ้าเรามีใจ ใครๆ ก็เป็นกระบอกเสียงเพื่อขับเคลื่อนสังคมได้ ทั้งนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ […]

SpokeDark TV เส้นทางแสบสันของสื่อประชาธิปไตย ที่อยู่ได้เพราะ “สปอนเซอร์เราคือคุณผู้ชม”

“เราอาจไม่ได้ไปต่อ”  พิธีกรในชุดพ่อหมอสีขาวใส่สร้อยประคำบอกกับผู้ชมผ่านรายการ ‘เจาะข่าวตื้น’ (ชื่อเต็มเดิมคือ ‘เจาะข่าวตื้น ดูถูกสติปัญญา’) ทางช่อง SpokeDark TV ที่เดินทางมาถึงตอนที่ 287  ความพังพินาศของเศรษฐกิจไทยตั้งแต่หลังการรัฐประหาร 2557 เป็นต้นมา และสึนามิเศรษฐกิจถล่มซัดอีกครั้งในปี 2563 นับตั้งแต่การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เราเห็นธุรกิจน้อยใหญ่ทยอยปิดตัว สำหรับ SpokeDark TV ทางรอดเดียวที่เหลืออยู่คือแรงสนับสนุนจากผู้ชมของช่อง ที่พอการันตีได้ด้วยยอดรับชมแต่ละคลิปไม่ต่ำกว่าหลักแสน  ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2021 เป็นต้นมาคือภารกิจที่ช่องต้องหาผู้ชมมาสนับสนุนรายเดือนภายใน 45 วันเป็นจำนวน 15,000 คน เพื่อให้เพียงพอกับต้นทุนการดำเนินงานของบริษัท จากเดิมยอดคนสนับสนุนอยู่ที่หลักพัน ขึ้นมาจนถึงหลักหมื่น แต่สถานการณ์ก็ยังไม่น่าวางใจ นี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในเส้นทางสื่อออนไลน์กว่า 15 ปีที่เปิดรับรายได้จากการสนับสนุนของผู้ชมรายการครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ภูมิทัศน์ของสื่อออนไลน์มีจำนวนนับได้ พวกเขาเริ่มทำรายการทีวีออนไลน์ในชื่อ ‘iHereTV’ จนมาเป็น ‘SpokeDark TV’  ในวันที่ทุกคนต่างลุกขึ้นมาเป็นสื่อ ผ่านการผลิตคอนเทนต์รวดเร็วเพียงปลายนิ้ว ประกอบกับสำนักข่าวออนไลน์ที่เกิดใหม่มากมาย ท่ามกลางมรสุมรุมเร้าทางการเมืองและเศรษฐกิจ แม้กระทั่งคดีความหมิ่นประมาทนายกรัฐมนตรีที่ผู้จัดรายการต้องแบกรับ แต่สื่อออนไลน์อย่าง SpokeDark TV ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกๆ […]

No one can save Bangkok? อ้าวเฮ้ย! เมื่อ ‘อัศวิน’ อาจไม่ได้ขี่ม้าขาวมากู้ กทม. อย่างที่คุยกันไว้นี่นา

ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ดีและลงตัว จริงๆ หรือยัง? ถ้ามองอย่างเที่ยงตรง เรามั่นใจว่า คำตอบคนส่วนมากคือ ‘ไม่’ เพราะกรุงเทพฯ ยังคงเผชิญกับปัญหาที่สะสมมานาน ทั้งการจราจรติดขัด ฝนตกแล้วน้ำท่วมขังในย่านต่างๆ การจัดการขยะที่ไม่เป็นระบบ ฝุ่น PM 2.5 ไปจนถึงระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ไม่ตอบโจทย์ผู้อาศัยจริงๆ สักที ทำให้การใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ เป็นไปอย่างยากลำบาก เหมือนผจญด้านโหดในเกม Adventure ทุกวันเลยทีเดียว เมื่อพูดถึงการแก้ปัญหาในเมืองกรุง ก็ต้องย้อนกลับไปที่ ‘ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร’ ผู้มีหน้าที่กำหนดนโยบาย ทิศทางการพัฒนาเมือง และการบริหารราชการของเมืองให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยปกติแล้ว ประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในเมืองหลวงจะได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กันทุก 4 ปี เพื่อเป็นตัวแทนของคนกรุง เข้าไปพัฒนาเมืองและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนรอบด้าน ว่าแต่…จำได้หรือเปล่าว่าชาวกรุงเทพฯ เลือกตั้งผู้ว่าฯ ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่? เพราะตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว ที่อัศวิน ขวัญเมือง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งนอกจากจะอยู่ในวาระนานกว่ากำหนดแล้ว เขายังมาจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยไม่ผ่านการเลือกจากประชาชนด้วย อัศวินในตำแหน่งผู้ว่าฯ และผลงานของเขา จึงไม่ต่างอะไรกับมรดกที่คณะรัฐประหารทิ้งไว้ให้ชาวกรุงเทพฯ นโยบายหลายข้อไม่สอดคล้องกับแนวทางแก้ปัญหา แถมเมกะโปรเจกต์หลายโครงการยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนและไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ทุ่มไปด้วย ทำไมจึงเป็นแบบนี้ […]

‘สหภาพคนทำงาน’ เปิดตัวสู้เผด็จการ และอำนาจผูกขาด เพราะแรงงาน และเศรษฐกิจต้องอยู่ได้ดีทั้งโครงสร้าง

เพราะทุกคนคือแรงงานผู้ขับเคลื่อนประเทศ แรงงานทุกคนจึงสำคัญและจำเป็นกับสังคมของเราอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ประเทศไทยเป็นประเทศทุนนิยม ปัญหาแรงงานและปัญหาของคนทำงานภายใต้ระบบทุน จึงเป็นประเด็นที่สำคัญ ควรต้องได้รับการแก้ไข และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด Movement การขับไล่รัฐบาลเผด็จการ และการเรียกร้องให้มีประชาธิปไตยเต็มใบในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมานี้ นักสหภาพแรงงาน และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกรุ่น ต่างมองเห็นและตระหนักถึงปัญหาแรงงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมทุกเมื่อเชื่อวัน ทำให้เกิดการจัดตั้งสหภาพแรงงานระดับชาติขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งอีกขาหนึ่งเพื่อเป็นแนวร่วมสำคัญต่อการเรียกร้องประชาธิปไตย และการขับไล่เผด็จการร่วมกับแนวร่วมอื่นๆ ด้วย นอกจากการเรียกร้องความยุติธรรมในระดับสิทธิของคนทุกคนแล้ว สหภาพยังหวังว่า เศรษฐกิจควรดีไปพร้อมกันทั้งโครงสร้างและระบบ ซึ่งหมายถึงการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำและช่องว่างระหว่างชนชั้นด้วย ‘สหภาพคนทำงาน’ หรือ ‘Workers’ Union’ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 โดยรวมตัวผู้คนที่ตระหนักถึงปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นมานาน และกำหนดเป้าหมายขององค์กรไว้จำนวนหกข้อด้วยกัน 1. เพื่อสร้างสำนึกร่วมทางชนชั้นให้เกิดกับทุกคนภายใต้แนวความคิด “เราทุกคนคือแรงงาน” 2. เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้กับแรงงานในการต่อสู้กับอำนาจของฝ่ายทุนและรัฐ 3. เพื่อสร้างและส่งเสริมพรรคการเมืองของชนชั้นแรงงาน ผลักดันให้เกิดรัฐสวัสดิการแบบถ้วนหน้าที่ครอบคลุมทุกคน 4. เพื่อเป็นองค์กรนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ สังคม และ การเมืองทั้งเชิงโครงสร้างและนโยบาย 5. เพื่อเป็นองค์กรนำให้การต่อสู้เพื่อให้ได้มา และรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม 6. เฉพาะหน้าเราจะเข้าร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเยาวชนและราษฎรที่เรียกร้องประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการอยู่ขณะนี้ สำหรับงานเปิดตัวที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ สมาชิกทุกคนสามารถเข้าร่วมประชุมใหญ่ ได้ตั้งแต่เวลา 10.00 – […]

ย้อนดูประวัติศาสตร์ผู้ว่าฯ กทม. ก่อนความหวังครั้งใหม่ที่ปลายปากกา

ปี 2563 ที่ผ่านมา ในต่างจังหวัดมีการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งเป็นรัฐบาลท้องถิ่นที่ใกล้ชิดประชาชน คอยทำหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการดำรงชีวิต อย่างเช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.), เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)  แต่เมื่อหันมามองที่กรุงเทพมหานคร ก็คิดว่า เมื่อไรจะมีการเลือกตั้งกับเขาสักที? คำถามนี้สะท้อนว่า เราไม่ได้เลือกตั้งผู้แทนเข้าไปทำงานเป็นปากเสียงให้มานานมากแล้ว หลังจากอยู่กับปัญหาสะสมเรื้อรังมากมาย ตั้งแต่ อากาศเป็นพิษ รถติดยาวเหยียด ทางเท้าพัง เหยียบแล้วชุ่มโชก รถเมล์ที่มาช้า กะเวลาไม่ได้ น้ำท่วมขังทุกครั้งที่ฝนตก รถไฟฟ้าราคาครึ่งร้อย หรือค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนน่าตกใจว่า จะใช้ชีวิตยังไงให้รอดในแต่ละวัน ฯลฯ  จริงๆ แล้วประเด็นพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่คนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งที่เป็นคนพื้นที่ และคนที่เข้ามาเรียน ทำงาน หรือเหตุผลอื่นๆ ต้องเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นำมาสู่คำถามที่ว่า แล้วปัญหาที่อยู่รอบตัวเราในทุกๆ วันแบบนี้ จะแก้ไขหรือจัดการอะไรได้บ้าง ซึ่งหนทางแก้คงหนีไม่พ้นการกลับไปสำรวจว่า คนที่มีอำนาจกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองเป็นอย่างไร งบประมาณก้อนต่างๆ จำนวนมหาศาลที่ได้รับจากภาษีที่ทุกคนจ่ายๆ กันแต่ละปีจัดสรรไปกับอะไรบ้าง ใช้มันคุ้มค่าหรือเปล่า และที่สำคัญคือ เรามีสิทธิ์ ‘เลือก’ ‘ออกแบบ’ หรือ […]

ทนายความเพื่อประชาชน I Somebody Ordinary EP.8

“หวังว่าอาชีพทนายสิทธิ์ของผมจะตกงาน เพราะถ้าเมื่อไรผมตกงานนั่นหมายถึงปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนมันหมดแล้ว” Somebody Ordinary EP.8 นี้จะพาไปพูดคุยกับทนายรอน ที่ยืนหยัดสู้เคียงข้างประชาชน รับว่าความตั้งแต่เรื่องทั่วไปจนถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน.ฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นทนายเพียงเพื่อครอบครัว กาลเวลาได้ทำให้ความคิดของทนายรอนเปลี่ยนไป ‘จากเพื่อตนเอง เป็นเพื่อสังคม’ ในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย กฎหมายอยู่ข้างความถูกต้อง หรืออยู่ข้าง…กันแน่ คุณสามารถถูกออกหมายจับได้เพียงแค่ความคิดเห็นทางการเมือง หรือแม้แต่การออกไปชุมนุม ในฐานะทนายของ ทนายรอน ทนายที่เก่งไม่ได้วัดกันที่ชนะคดี แต่คือทนายที่สามารถเรียกร้องบางอย่างในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการยุติธรรม.การพูดคุยในครั้งนี้จะสนุกขนาดไหนมารับชมคลิปนี้กันเลย! #urbancreature #ReinventTheWayWeLive #SomebodyOdinary #ทนายรอน #ชุมนุม #คดีความ

แจกฟรีฟอนต์ลายมือ จิตร ภูมิศักดิ์ ต่อยอดจากนิทานวาดหวังเล่ม ‘จ จิตร’ โดยกลุ่มวาดหวัง

ย้อนไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ‘วาดหวังหนังสือ’ ได้จัดทำหนังสือภาพสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ในเนื้อหาสิทธิ เสรีภาพ ความฝัน ความหวัง ประชาธิปไตย และความเป็นไปของบ้านเมือง ในรูปแบบเซตนิทานวาดหวัง 8 เรื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือ จ จิตร ว่าด้วยชีวิตของจิตร ภูมิศักดิ์ นักคิดนักเขียนที่มีผลงานวิชาการมากมาย ทั้งยังเป็นบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://urbancreature.co/8-children-books/) นอกจากได้รับการสนับสนุนในกลุ่มคนรักประชาธิปไตยแล้ว นิทานวาดหวังยังได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากกระทรวงศึกษาธิการและทางการไทย จนทำให้เกิดกระแสเป็นข่าวมากมาย ส่งผลให้ยอดขายพุ่งเกินความคาดหมายของทีมผู้จัดทำ ได้รับการจัดพิมพ์ครั้งที่ 2 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการจัดทำหนังสือ กลุ่มวาดหวังได้นำเงินไปส่งมอบให้หน่วยงานและกลุ่มกิจกรรมต่างๆ ที่ทำงานเพื่อสังคม ช่วยเหลือประชาชนในช่วงโควิด รวมถึงผู้ลี้ภัยไทยในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งยังนำไปทำโปรเจกต์ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสังคมที่น่าสนใจด้วย โปรเจกต์ที่ว่านั้นคือการทำฟอนต์จิตร ภูมิศักดิ์ จากลายมือของจิตร โดยมีกลุ่มประชาธิปไทป์เป็นผู้จัดทำให้ฟอนต์นี้ใช้งานได้ จุดประสงค์คือต้องการให้คนไทยได้ใช้ฟอนต์จิตรในการอ่านเขียน ซึมซับรับรู้ และรู้จักจิตรในอีกแง่มุมหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการทำให้ชื่อของเขาที่มาพร้อมความหวัง พลัง และความปรารถนาดีต่อส่วนรวมอยู่ร่วมในสังคมไทยไปอีกตราบนานเท่านาน ผู้ที่สนใจนำฟอนต์ไปใช้พิมพ์หนังสือหรือสื่อต่างๆ สามารถดาวน์โหลดฟรีที่ https://tinyurl.com/y4g2n3xm ซึ่งทางทีมผู้จัดทำขอแค่ให้ช่วยระบุเครดิตชื่อฟอนต์จิตร ภูมิศักดิ์ หรือติดแฮชแท็ก #ฟอนต์จิตร เมื่อใช้งานบนโลกออนไลน์ *หมายเหตุ ฟอนต์จิตรมีเพียงตัวอักษรไทย เลขไทย และเลขอารบิกเท่านั้น  […]

พุทธคือยาฝิ่น จึงใช้คอมมิวนิสต์ดับทุกข์ คุยกับอดีตเณรโฟล์ค ผู้ปลดจีวรมาจับค้อนเคียว

“ขอให้พระภิกษุโปรดจดจำว่าข้าพเจ้าคือคฤหัสถ์ ขอให้พระภิกษุโปรดจดจำไว้ว่าข้าพเจ้าคือคอมมิวนิสต์” ประโยคส่งท้ายการลาสิกขาของอดีตสามเณรโฟล์ค เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมาสร้างความงุนงงให้เราไม่น้อย ขณะที่กระแสสังคมส่วนใหญ่กำลังต่อสู้เรียกร้องเพื่อ ‘ประชาธิปไตย’ (จะมีคำสร้อยห้อยท้ายว่า “อันมีพระ…” หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นทีมกี่ข้อ)  แต่นักกิจกรรมวัย 21 ปีผู้นี้ประกาศตนว่าเขาเป็น ‘คอมมิวนิสต์’ จะเรียกว่าเป็นความกล้าหาญคงไม่ผิด แต่ในมุมมองของเรา สัดส่วนที่มากกว่าคงเป็นความบ้าบิ่น  ในเมื่อสังคมไทยยังคงถูก ‘ผีคอมมิวนิสต์’ หลอกหลอนอยู่ และยังไม่ลืมกันใช่ไหมว่าเพิ่งสี่สิบกว่าปีที่แล้วเองที่พระสงฆ์รูปหนึ่งเปล่งวจีกรรมว่า “ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป” เพราะเช่นนี้ เราจึงหอบหิ้วความสงสัยไปคุยกับอดีตเณรโฟล์ค ผู้บัดนี้ละผ้าเหลือง ไม่ใช่สามเณรใต้ร่มกาสาวพัสตร์​ แต่เป็น ‘สหรัฐ สุขคำหล้า’ คอมมิวนิสต์ผู้เชื่อมั่นว่าแนวทางแบบ Buddhist Marxism จะช่วยให้ประชาชนไม่ว่าศาสนาใดพ้นทุกข์อันเกิดจากความไม่เท่าเทียม อัปเดตชีวิตก่อนดีกว่า หลังจากสึกมาได้ประมาณสิบวัน คุณเป็นอย่างไรบ้าง ประเด็นแรกเลยซึ่งเป็นเรื่องแซวกันเล่นๆ ในหมู่เพื่อนผม คือการใส่กางเกงในครั้งแรกมันรู้สึกแปลกมาก เพราะมันอึดอัด และผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับผม เดี๋ยวนะ ปกติพระไม่ใส่กางเกงในกันจริงๆ เหรอ ไม่ใส่ครับ ไม่ใส่ มันจะโล่งๆ สบายๆ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ก็เลยแก้ปัญหาตัวเองโดยซื้อบ็อกเซอร์กับกางเกงในรัดรูปมาสองแบบ  ประสบการณ์ซื้อกางเกงในครั้งแรกเป็นอย่างไร ผมเรียกคนขายว่าโยม (หัวเราะ) […]

วาดหวังหนังสือ: หนังสือเด็กที่วางรากฐานความคิดและไม่เป็นพิษกับเยาวชน

‘ปลุกปั่น ล้างสมอง ทำให้แตกแยก’ นี่คือมุมมองของรัฐที่มีต่อ วาดหวังหนังสือ หนังสือนิทานสำหรับเด็กที่มีเนื้อหาเล่าถึงความฝัน ความแตกต่าง คุณค่าของตัวเอง ความสามัคคี และการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสร้างสรรค์  ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายหน่วยงานพร้อมใจกันเรียกสอบผู้ผลิตหนังสือชุดนี้ เพื่อที่จะ ‘แบน’ หนังสือนิทานที่รัฐมองว่าเป็นภัยต่อเด็ก ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กระทรวงศึกษาธิการ ไปจนถึงผู้ใหญ่อีกหลายคนที่ร้อนรนเมื่อได้เห็นเนื้อหาในหนังสือเหล่านี้ ข่าวนี้จึงเป็นตัวกระตุ้นให้หนังสือนิทานกว่า 17,000 เล่ม ขายหมดในไม่กี่วัน มีผู้อ่านที่ต้องพลาดโอกาสอีกจำนวนมาก และทีมงานยังไม่มีวี่แววจะผลิตเพิ่มเร็วๆ นี้ เพราะยังต้องสะสางกับเรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นอยู่  การที่หนังสือเด็กเกือบสองหมื่นเล่มขายหมดสต็อกอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน ไม่ใช่เรื่องง่ายของผู้ผลิตหนังสือในยุคนี้ และเราเชื่อว่าผู้ซื้อเองก็ไม่ได้ซื้อเพราะความเห็นใจ แต่เป็นเพราะเห็นความหวังดีที่หนังสือมีให้กับอนาคตของเด็กๆ เสียมากกว่า  ปกหลังของวาดหวังหนังสือเขียนว่า ‘วาดหวัง เติมพลังด้วยหนังสือดี ที่บอกเล่าถึงความจริง ความงาม ท่ามกลางความเป็นไป’ หนังสือนิทานทั้ง 8 เล่ม จึงเปรียบเสมือนบันทึกประวัติศาสตร์ของสังคมและการเมืองไทย ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านนักเขียนมากประสบการณ์ที่หวังอยากเห็นเมืองไทยดีขึ้นทั้งต่อเด็กและผู้ใหญ่ และบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวการ์ตูนที่วาดโดยนักวาดภาพประกอบไทยฝีมือดีหลายคน  หนังสือทั้ง 8 เล่มนี้สอดแทรกเรื่องพลังพลเมือง และหลักสิทธิมนุษยชนด้วยวิธีการที่เข้าใจง่าย เป็นหนังสือดีที่อ่านได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ได้มีพิษภัยอย่างที่รัฐกล่าวหา และเป็นหนังสือดีที่น่าจะอยู่ในห้องสมุดโรงเรียนเสียด้วยซ้ำ เพื่อให้เด็กๆ เติบโตไปเป็นพลเมืองที่เคารพทั้งตัวเองและผู้อื่น […]

Mob T-shirts อุดมการณ์และตัวตนบนเสื้อผ้า

เมื่อต้นปี 2563 การชุมนุมในไทยได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจังอีกครั้ง เกิดการเคลื่อนไหวของผู้ไม่ยอมจำนน คนที่ไม่ยอมถูกกดขี่เริ่มออกมาส่งเสียงเรียกร้อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่ตะโกนจากปาก ปรากฏการณ์บีบแตรรถยนต์ยาวนับหลายกิโลเมตร แฮชแท็กในโลกออนไลน์ การชูป้ายข้อความ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่อยู่แนบชิดติดตัวที่สุด นั่นก็คือเสื้อผ้า

พลอยวรินทร์ ชิวารักษ์ : “กลัวว่าวันที่มีประชาธิปไตยจริงๆ จะไม่มีเพนกวินอยู่ด้วย”

ไม่ว่า เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ จะเป็นแกนนำอันเป็นที่รักของมวลชนแค่ไหน จะเป็นเด็กก้าวร้าวรุนแรงในสายตาใคร จะเป็นพลเมืองจองหองของรัฐผู้แสนดี หรือจะเป็นผีร้ายหลอกหลอนชนชั้นปกครอง แต่สำหรับน้องสาวอย่าง พ้อย-พลอยวรินทร์ ชิวารักษ์ เพนกวินคือพี่ชายเพียงคนเดียว ที่เธอมี ถึงจะขี้แกล้ง ชอบยียวนกวนตีน แต่เขาโคตรจะห่วงน้องยิ่งกว่าใคร โลกภายนอกเพนกวินคือผู้กล้าที่ออกมาเคลื่อนไหวสั่นคลอนขั้วอำนาจทางการเมืองตั้งแต่เขาเรียนมัธยมฯ ถูกยุดยื้อออกจากห้องประชุมที่มีผู้นำทหารบ้าน้ำลายบนเวที  แต่เมื่อก่อนเรื่องการเมืองก็ยังดูจะเป็นเรื่องไกลสายตาพ้อยอยู่ดี  และแม้เพนกวินจะเป็นแค่นักศึกษา แต่เมื่อลงสนามรับบทแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เพื่อเรียกร้องให้ประเทศเน่าเฟะนี้ได้มีประชาธิปไตยจริงๆ สักที เขาก็ต้องแลกอุดมการณ์กับการถูกคุกคาม ไม่ใช่แค่คุกคามเพนกวิน แต่อันตรายยังทอดเงาสีดำไปยังครอบครัวชิวารักษ์ ถูกตีตราเป็นครัวเรือนคนชังชาติ และเป็นไอ้พวกตัวน่ารำคาญของผู้กดขี่  จากไกล การเมืองกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวพ้อยขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีอีกแล้วครอบครัวชนชั้นกลางที่เคยใช้ชีวิตสามัญ เพราะวันนี้พวกเขาสะกดคำว่าสงบ ร่วมกับพวกเผด็จการคลั่งอำนาจไม่ได้อีกต่อไป นี่จึงเป็นแรงขับสำคัญให้เด็กสาวที่ไม่เคยออกมาเคลื่อนไหว และไม่ไยดีการเมือง ตัดสินใจออกตามหาความยุติธรรม ด้วยการลุกมาต่อสู้ และทวงคืนความสุขที่แท้จริงให้สังคม เรารู้ว่าพ้อยไม่ได้คาดหวังให้คุณเห็นด้วยกับตัวเธอหรอก แต่ถ้ามองเพนกวินเป็นคนในครอบครัวตัวเอง คุณจะเลือกแสยะยิ้มอย่างสะใจ หรือเสียใจที่วัยรุ่นคนหนึ่งกำลังถูกทำร้าย เพียงเพราะเขาแค่อยากเห็นอนาคตที่ดีของทุกคน ไม่ว่าใครจะคิดยังไงก็ช่าง แต่พ้อยตัดสินใจหนักแน่นแล้วว่าจะออกมายืนเคียงข้างพี่ชาย ผู้ฝันจะได้เห็นประชาธิปไตยเต็มใบ แม้ต้องแลกกับความมอดไหม้ของตัวเองก็ตาม ลำปาง พีทกับพ้อยเป็นสองพี่น้องสายประชาธิปไตย “ตั้งแต่เกิดกวินชื่อพีท แต่นางบอกว่าอุ๊ย นกเพนกวินน่ารักจังเลย ขอเปลี่ยนชื่อเป็นเพนกวินดีกว่า (หัวเราะ) แล้วตอนเด็กๆ เราจะชอบเอาสีมาเขียนกำแพง […]

ไต้หวันระแวงจีน เมื่อจีนจัดกำลังล้อมรอบเกาะ

ถ้าติดตามการเมืองภูมิภาคเอเชีย ก็จะรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวันไม่ค่อยจะสู้ดีมานานมากแล้ว นอกจากการพยายามควบรวมฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา ไต้หวันก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายใหญ่ของ ‘นโยบายจีนเดียว’ ใหญ่ขนาดที่ประกาศว่าถ้าคนไต้หวันต้องการอิสรเสรีก็ต้องแลกกับเลือดเนื้อและสงคราม จริงๆ แล้วไต้หวันปกครองเป็นอิสระจากจีนตั้งแต่ปี 2492 แต่ถึงอย่างนั้นรัฐบาลปักกิ่งก็มองว่าเกาะนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตตัวเอง ซึ่งปักกิ่งตั้งใจแน่วแน่ว่าจะ ‘รวม’ ไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่เข้าด้วยกันให้ได้ และจะแข็งข้อใช้กำลังหากจำเป็น ไม่กี่วันมานี้ กระทรวงกลาโหมไต้หวันเผยว่าแสนยานุภาพของกองกำลังติดอาวุธจีนมีศักยภาพมากขึ้น จนพอที่จะขัดขวางการป้องกันตัวเองของชาติได้ มิหนำซ้ำแผ่นดินใหญ่ยังคอยมอนิเตอร์ไต้หวันอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนทางฝั่งไต้หวันเองก็มีการประเมินถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่ เพราะทางการปักกิ่งกำลังดำเนินการเพิ่มกิจการทางทหารล้อมเกาะ ชนิดที่ว่าจงใจมาหายใจรดต้นคอ สาเหตุที่ช่วงหลังการเมืองระหว่างสองจีนคุกรุ่น เพราะประธานาธิบดีหญิงของไต้หวันอย่าง ‘ไช่ อิงเหวิน’ แสดงจุดยืนประณามความพยายามของปักกิ่งที่จะบ่อนทำลายประชาธิปไตยของเกาะ ปักกิ่งจึงลุกขึ้นมาเพิ่มแรงกดดันทางการเมืองและการทหารต่อไทเป กระทรวงกลาโหมไต้หวันเสนอต่อรัฐสภาว่าด้วยเรื่องกองทัพจีน เพราะประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้ายแรงขึ้นกว่าปีที่แล้ว เพราะปี 2564 จีนเปิดตัวสิ่งที่เรียกว่า ‘การโจมตีอิเล็กทรอนิกส์ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง’ รวมถึงยุทธการบล็อกการสื่อสารข้ามฝั่งตะวันตกที่ครอบคลุมตั้งแต่หมู่เกาะที่ทอดยาวจากหมู่เกาะญี่ปุ่นผ่านไต้หวัน และทอดยาวลงไปที่ฟิลิปปินส์ หรือที่เรียกว่าจุดยุทธศาสตร์ First Island Chain ปัจจุบันจีนกำลังใช้ยุทธวิธีแบบออนไลน์ โดยรวบรวมกองทัพอินเทอร์เน็ตเพื่อโจมตีอินเทอร์เน็ตทั่วโลกทั้งแบบมีสายและไร้สาย เพื่อให้การป้องกันทางอากาศของไต้หวันเป็นอัมพาตผ่านการบังคับบัญชาทางทะเล และใช้ระบบตอบโต้การโจมตีที่มีประสิทธิภาพ นี่จึงเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อเกาะเล็กๆ อย่างไต้หวัน ทางกระทรวงได้เสริมว่าจีนได้พัฒนาขีดความสามารถของตัวเองด้วยการใช้ดาวเทียม Beidou ซึ่งเป็นการตอบโต้ระบบ GPS ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าของ นั่นหมายความว่าปักกิ่งติดตามความเคลื่อนไหวรอบๆ ไต้หวันโดยได้รับความช่วยเหลือจากเครื่องบินสอดแนม โดรน และเรือรวบรวมข่าวกรองของจีน ในขณะที่กระทรวงกลาโหมจีนไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นของไต้หวัน […]

1 2 3

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.