เรียนรู้วิธีการเดินให้สนุก สุขภาพดี และบำบัดจิตกับ ‘52 Ways to Walk อัศจรรย์แห่งการเดิน’ เลือกเลยว่า อยากเดินเมือง เดินป่า หรือเดินหลงทาง

ย้อนไปเมื่อตอนเด็กๆ หรือวัยเยาว์ เรามักจะเดินผจญภัยตามเมือง เข้าออกตรอกซอกซอย หรือกระทั่งบุกป่าฝ่าดงในสวนแถวบ้าน แต่พอโตขึ้น เข้าวัยทำงาน เราก็เดินน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากทำงาน อากาศร้อน มีรถยนต์ส่วนตัว ไปจนถึงความสะดวกสบายของบริการเดลิเวอรี ‘52 Ways to Walk อัศจรรย์แห่งการเดิน’ คือหนังสือที่เขียนโดย Annabel Abbs นักจิตภูมิศาสตร์ นักเขียน และนักเดิน ว่าด้วยการชักชวนให้เรากลับมา ‘หัดเดิน’ อีกครั้ง ผ่านสารพัดวิธีเดินถึง 52 วิธี ไม่ว่าจะเป็นการเดินเมือง เดินอาบป่า เดินแบกสัมภาระ เดินทำงาน เดินถอยหลัง เดินดมกลิ่น ไปจนถึงเดินแบบแรนดอม ปล่อยตัวเองให้หลงทาง  เพราะอย่าลืมว่าทุกครั้งที่เราเดินก็เท่ากับเราช่วยลดมลภาวะทางอากาศและเสียง ทั้งยังป้องกันไม่ให้ที่ดินในเมืองกลายเป็นที่จอดรถ ถนน หรือศูนย์การค้า ขณะเดียวกัน การเดินทางด้วยวิธีนี้ยังเป็นการบำรุงรักษาดูแลเมืองให้สะอาด ปลอดภัย รื่นรมย์ ใกล้ชิดกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมในแบบที่ได้กลิ่นต้นไม้ใบหญ้า หรือแวะทักทายเล่นกับน้องหมาน้องแมว ไถ่ถามถึงความเป็นอยู่ของเพื่อนบ้านได้ นอกจากวิธีการเดินให้สนุกอย่างการเดินชมทัศนียภาพ เดินเพลินไปกับกลิ่นเมือง เดินท่ามกลางแสงแดด เดินลุยฝน ฯลฯ ใน 52 […]

ออกกำลังกายด้วยการเดินเป็นประจำ แค่เดินระยะสั้นๆ แถวบ้านไม่กี่นาที ก็ช่วยให้สุขภาพจิตดีได้

หลายคนอาจหลงลืมไปว่า การเดินคือการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด ใช้ทรัพยากรน้อย และทำได้เลย สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือกังวลว่าจะต้องหาเครื่องมืออุปกรณ์ในการออกกำลังกาย ลองให้การเดินเป็นตัวเลือกแรกดูก่อน เพราะแค่เปลี่ยนจากการนั่งมอเตอร์ไซค์เป็นการเดินเข้าซอยในระยะทางสั้นๆ เดินไปใช้บริการขนส่งสาธารณะใกล้ๆ หรือการเดินเล่นรอบๆ บ้านในเส้นทางที่คุ้นเคย เท่านี้ก็ช่วยให้เราแข็งแรงได้แล้ว ทว่ามากไปกว่าความแข็งแรงทางกายภาพ การเดินยังช่วยเสริมสร้างให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้อีกด้วย เดินวันละนิดจิตแจ่มใส แน่นอนว่าเราพอนึกออกว่าทำไมการเดินถึงช่วยให้สุขภาพกายแข็งแรงได้ แต่อาจไม่แน่ใจว่าการเดินช่วยเรื่องของสุขภาพจิตได้อย่างไร อย่างที่บอกไปว่าการเดินคือหนึ่งในการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด ซึ่งในระหว่างที่ออกกำลังกายนั้น ร่างกายของเราจะหลั่งสาร Endorphins (เอ็นดอร์ฟิน) ที่ช่วยส่งเสริมความสุข ทำให้อารมณ์ดีออกมา รวมถึงยังช่วยคลายเครียดและบรรเทาอาการซึมเศร้า อีกทั้งการได้ขยับร่างกายยังช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดอีกด้วย Mental Health Foundation รายงานว่า การใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติจะช่วยลดระดับภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลของเราได้ ซึ่งธรรมชาติเหล่านั้นไม่ได้หมายถึงป่า เขา หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เท่านั้น แต่การออกจากบ้านเพื่อเดินไปยังพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน เดินไปยังร้านค้าแถวบ้าน หรือเดินไปทำกิจกรรมในที่ต่างๆ ผ่านวิวทิวทัศน์ที่ประกอบด้วยต้นไม้ดอกไม้ริมทาง หรือสวนเล็กๆ ของเพื่อนบ้าน กระทั่งพบเจอสัตว์เลี้ยงอย่างหมาแมวก็ช่วยเสริมสุขภาวะที่ดีได้ มีการศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยในหนานจิง ประเทศจีน ระบุว่า การเดินในระยะเวลานานหรือระยะทางไกลไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการช่วยส่งเสริมสุขภาพอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ถ้าเราเดินอย่างสม่ำเสมอและกลายเป็นกิจวัตรประจำวันต่างหากที่จะช่วยสร้างประโยชน์ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพทางอารมณ์ที่ดีได้มากกว่าคนที่ไม่เดิน เมืองที่สนับสนุนการเดิน = สนับสนุนสุขภาพจิตที่ดี แม้ไม่ได้เป็นการช่วยรักษาสุขภาพจิตโดยตรง แต่ถ้าจะบอกว่าเมืองที่เอื้ออำนวยต่อการเดินเป็นอีกหนึ่งทางในการสนับสนุนให้คนเมืองมีสุขภาพจิตที่ดีก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก เพราะดูเหมือนว่าละแวกบ้านจะเป็นสถานที่ที่ดีและง่ายที่สุดสำหรับการเดิน นอกจากจะพาให้เราได้ลดความเครียดด้วยการออกมาเปิดหูเปิดตา สูดลมหายใจ สังเกตสิ่งรอบข้างกว้างๆ แล้ว […]

ค้นหาพื้นที่สุขภาพใกล้ฉัน ติดตามข้อมูลสุขภาพและกิจกรรมทางกายบน ‘City Health Check TH’ แพลตฟอร์มส่งเสริมสุขภาวะที่ดีให้คนไทย

สุขภาพของคนไทยเป็นอย่างไร พื้นที่ใกล้ๆ ที่เราจะไปออกกำลังกายได้อยู่ตรงไหนบ้าง จังหวัดเรามีพื้นที่สีเขียวมากเพียงพอหรือยัง ที่ผ่านมาหัวข้อทั้งหมดนี้อาจเป็นเรื่องที่ติดตามได้ยาก แต่ในตอนนี้เราสามารถค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพเหล่านี้ได้ง่ายๆ บนช่องทางออนไลน์ผ่าน ‘City Health Check TH’ แพลตฟอร์มกิจกรรมทางกายจากความร่วมมือกันของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ Bedrock Analytics City Health Check TH คือแพลตฟอร์มส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่รวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่ในรูปแบบ Open Data จากหลากหลายแหล่งและหลากหลายมิติ เพื่อให้ผู้เข้าใช้งานเห็นภาพรวมของกิจกรรมทั้งหมด และนำไปวิเคราะห์ความเชื่อมโยงของข้อมูลได้ โดยข้อมูลขนาดใหญ่เหล่านี้สามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาและแก้ปัญหาเมืองในหลายๆ ทาง เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคนไทยให้ดีขึ้นได้ โดยกิจกรรมทางกายที่ว่านั้นคือ การเคลื่อนไหวร่างกายที่ทำให้เกิดการใช้พลังงานที่ช่วยให้ร่างกายมีการเผาผลาญ แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ กิจกรรมทางกายในการทำงานต่างๆ และการเรียน กิจกรรมทางกายในการเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง และกิจกรรมทางกายเพื่อการนันทนาการหรือกิจกรรมยามว่าง ส่วนจุดประสงค์ของแพลตฟอร์มนี้ก็เพื่อศึกษาแนวทางและพัฒนาแผนงานในการใช้ประโยชน์จากข้อมูล เหมาะกับการใช้งานทั้งในระดับใหญ่และปัจเจก เช่น – นักวิชาการหรือนักวิจัย ที่ต้องการนำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์ในเชิงลึกเพื่อสร้างองค์ความรู้หรือนวัตกรรมใหม่ๆ– หน่วยงาน ที่เก็บข้อมูลและใช้ข้อมูลเพื่อที่จะได้รู้ว่ามีจุดไหนที่ต้องการแก้ปัญหาบ้าง– องค์กรหรือบริษัท ที่ต้องการข้อมูลไปใช้เพื่อการตลาด– บุคคลทั่วไป ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกในเรื่องที่สนใจ นอกจากเรื่องสุขภาพของประชากรแล้ว บนแพลตฟอร์มนี้ยังมีฟังก์ชันติดตามข้อมูลพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ศูนย์กีฬา […]

Angkor Grace Residence & Wellness Resort จากโครงการบ้านพักอาศัยทิ้งร้าง สู่รีสอร์ตความยั่งยืนเพื่อสุขภาพ

อย่างที่ใครหลายคนรู้กันว่า ในช่วงวิกฤตทางการเงินมักทำให้หลายอย่างหยุดชะงัก ไม่เว้นแม้แต่สิ่งปลูกสร้างหรือโครงการต่างๆ จนบางไซต์ก่อสร้างกลายเป็นพื้นที่ทิ้งร้าง ไม่ถูกใช้งาน และกัมพูชาก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องเผชิญกับวิกฤตนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอดีต ‘Angkor Grace Residence & Wellness Resort’ คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากกรณีที่โครงการที่อยู่อาศัยที่คนท้องถิ่นเรียกว่า ‘Boreys’ ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 จนส่งผลให้สร้างเสร็จเพียงครึ่งเดียว และต้องทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบครั้งใหญ่จากโครงการที่อยู่อาศัยให้กลายเป็นรีสอร์ต ก่อนที่การระบาดใหญ่ของโควิดจะเปลี่ยนทิศทางรีสอร์ตอีกครั้ง ด้วยแนวคิดและรูปแบบธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ทำให้ Bloom Architecture บริษัทสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในเรื่องความยั่งยืนซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกรุงพนมเปญและปารีส มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนอาคารด้านหน้าจากที่พักอาศัยเดิมให้กลายเป็นสถานพยาบาลระดับพรีเมียมที่เต็มไปด้วยความยั่งยืนและเน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ความท้าทายอีกอย่างที่ Bloom Architecture ต้องเผชิญคือ การสร้างอาคารต่อจากโครงสร้างและงานก่ออิฐเดิมที่เกือบเสร็จสมบูรณ์ให้กลายเป็นห้องพักที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการบริการแบบบูรณาการ ไปพร้อมๆ กับการชุบชีวิตพื้นที่ร้างให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งผ่านพื้นที่ด้านหน้าอาคารและบริเวณส่วนกลาง เริ่มจากการหยิบเอาแนวคิดที่เน้นธรรมชาติเข้ามาใช้ โดยเริ่มจากการสร้างทางเดินสีเขียวภายในโครงการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแม่น้ำเสียมเรียบที่ไหลผ่านเมือง และเมื่อตัดกับคอนกรีตเคลือบสีเลียนแบบดินแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของเสียมเรียบที่ถูกใช้เป็นวัสดุหลักของโครงการ ก็ยิ่งเชื่อมโยงตัวตึกเข้าหาพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีความพยายามที่จะเลือกใช้วัสดุอิฐดินเผาที่ผลิตในท้องถิ่นและบล็อกลมที่มีลวดลายแบบเขมรดั้งเดิม เพื่อให้วัสดุเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมเดิมของคนในพื้นที่ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำสองสระ ร้านอาหาร ห้องจัดงาน และร้านกาแฟเปิดให้บริการ ทีมนักออกแบบหวังว่า Angkor Grace Residence & Wellness Resort จะกลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ทำให้การมาท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาถือเป็นการพักผ่อนทั้งจิตใจและร่างกายอย่างแท้จริง Sources :ArchDaily | […]

เปิดข้อมูลสำรวจลานกีฬาทั่วกรุงเทพฯ อยากให้คนเมืองแข็งแรง แต่กลับไม่มีพื้นที่ให้ออกกำลังกาย

‘กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ’ หลายคนคงเผลอร้อง ‘ฮ้าไฮ้ ฮ้าไฮ้’ ตามหลังเสมือนกำลังอยู่ในช่วงกีฬาสีวัยเด็ก โดยเพลง ‘กราวกีฬา’ ได้แต่งขึ้นมากว่า 100 ปี เป็นหลักฐานที่ว่าประเทศไทยมีการส่งเสริมชาวสยามให้เล่นกีฬาออกกำลังกายมาอย่างยาวนาน สอดคล้องกับสำนวนโบราณแสนเชยที่เราฟังจนเอียนหู ‘การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ’ ฟังดูแล้วเหมือนจุดเริ่มของการลดโรคคือ ‘การออกกำลังกาย’ แต่การตามหาพื้นที่เล่นกีฬาในเมืองหลวงที่มีขอบเขตแสนจำกัดย่อมเป็นเรื่องที่ต้องพยายาม อย่างไรก็ตาม เรายังมี ‘ลานกีฬา’ พื้นที่สำหรับออกกำลังกายเพื่อสนับสนุนชาวเมืองให้มีสุขภาพแข็งแรง โดยกระจัดกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ กว่า 1,126 แห่ง จุดประสงค์ของลานกีฬาคือ การอำนวยพื้นที่ในการออกกำลังกายให้ผู้รักสุขภาพ แต่ชาวกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งกลับส่ายหัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพื้นที่เหล่านี้อยู่ตรงไหน และเลือกที่จะยอมเสียเงินรายชั่วโมงเช่าสนามหรือคอร์ตแทน อีกทั้งในบางลานกีฬาคนทั่วไปกลับไม่สามารถเข้าถึงได้หรือมีเงื่อนไขเฉพาะตัว โดยใน ‘เมืองชีวิตดีๆ ที่ลงตัว’ กลับมีลานกีฬาสาธารณะเพียง 107 แห่งเท่านั้น สถานที่ตั้งลานกีฬาที่บางคนหาไม่เจอ เริ่มจากเรามาดูกันว่าลานกีฬาในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในสถานที่ไหนบ้าง สิริรวมทั้งสิ้นจำนวน 1,126 แห่ง แบ่งเป็น 1) สถานศึกษา 419 แห่ง (37.21%)2) ลานกีฬาชุมชน 324 แห่ง […]

5 โรคฮิตที่คนเมืองเป็นกันไม่หาย คุณอาจไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับ ‘จุลินทรีย์ในลำไส้’

ความจริงที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ว่าหลายๆ โรคที่คุณป่วยอยู่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ‘จุลินทรีย์ในลำไส้’ สิ่งสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อน ระบบต่างๆ ในร่างกาย เพราะอวัยวะต่างๆ นั้นต่างต้องพึ่งพาจุลินทรีย์ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นระบบขับถ่าย ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาทและสมอง ระบบทางเดินหายใจ หรือแม้แต่การผลิตวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายเพื่อให้ชีวิตดำรงต่อไปได้ ซึ่งภูมิต้านทานของคนเรามีมากถึง 70% ในลำไส้ หมายความว่า ถ้าจุลินทรีย์ในลำไส้เราไม่สมดุล ก็อาจจะส่งผลต่อโรคมากมายที่จะเกิดขึ้นมาตามมา ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักจะมาจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคปัจจุบัน ลองมาดูว่าจุลินทรีย์ในลำไส้นั้น มีผลกับอาการเจ็บป่วยอะไรบ้างที่คนเมืองยุคนี้เป็นกัน ถ้าคุณพยายามกินผักทั้งสวนแล้วก็ยังไม่ถ่าย หรือกินอะไรผิดสำแดงนิดหน่อยก็ท้องเสีย อาการแบบนี้เราเรียกว่า โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome; IBS) เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร มักจะมีอาการท้องผูก, ท้องเสีย หรือเป็นทั้งสองอย่าง สาเหตุของโรคนี้เกี่ยวข้องกับสภาวะไม่สมดุลของประชากรจุลินทรีย์ในลำไส้ ชื่อจุลินทรีย์ Methanogens ซึ่งสามารถสร้างก๊าซมีเทนได้ โดยผู้ป่วยจะมีจุลินทรีย์จำพวก Methanogens ในปริมาณมาก จะผลิตแก๊สมีเทนออกมามาก ทำให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวน จึงทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง มีก๊าซเกินในกระเพาะและลำไส้ โดยการเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการสร้างกรดไขมันที่จะช่วยลดการอักเสบของลำไส้ลงได้ ภูมิแพ้อากาศ จามบ่อยเป็นว่าเล่น แม้จะดูแลทำความสะอาดห้องใช้เครื่องฟอกอากาศก็แล้ว แต่อาการที่ว่าก็ยังไม่หายไปสักที สาเหตุนั้นเกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ในลำไส้เหมือนกัน เพราะคนที่มีจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่สมดุล มีโอกาสที่เซลล์เยื่อบุผนังลำไส้จะสูญเสียความสามารถในการควบคุมการผ่านเข้าออกของสารอาหาร บรรดาสารพิษ สารก่อภูมิแพ้ และเชื้อก่อโรคจึงสามารถเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยไม่ผ่านการกรอง ซึ่งเรียกว่า “ภาวะลำไส้รั่ว” หรือ “Leaky […]

‘กินที่ชอบ บาลานซ์ที่ใช่ ไปกับเนสท์เล่’ กิจกรรมที่ชวนทุกคนมาดูแลตัวเองอย่างยั่งยืน ด้วยการกินอยู่อย่างสมดุล เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี

เทรนด์การดูแลสุขภาพกำลังมา โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินที่ดีต่อร่างกาย แต่ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบัน อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะควบคุมหรือกินอาหารเพื่อสุขภาพได้ทุกมื้อ ‘เนสท์เล่’ เข้าใจถึงข้อจำกัดในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน และต้องการให้ผู้คนยังได้กินอาหารอร่อยเพื่อฮีลใจในแต่ละวันไปพร้อมๆ กับการดูแลสุขภาพ จึงได้จุดประกายคอนเซปต์  ‘การกินอยู่อย่างสมดุล’ หรือ Balanced Diet เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพกายและใจที่ดีอย่างยั่งยืน ผ่านเวิร์กชอป ‘กินที่ชอบ บาลานซ์ที่ใช่ ไปกับเนสท์เล่’ ที่มาพร้อมความรู้จากนักโภชนาการและเคล็ดลับการกินอาหารที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ สำหรับการกินอยู่อย่างสมดุลนั้นคือการกินอาหารที่หลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม และสามารถกินอาหารที่ชอบ เช่น ของหวาน ขนม เบเกอรี่ ฯลฯ ได้ในสัดส่วนที่พอเหมาะ โดยไม่ต้องตัดหรืองดกินอะไรไป การกินแบบนี้จะเป็นการกินที่ไม่เครียดจนเกินไป ทำให้เราสามารถทำได้นาน สุขภาพก็จะดีแบบยั่งยืน เนสท์เล่ได้แบ่งปันวิธีการกินอยู่อย่างสมดุลผ่านเทคนิคง่าย ๆ อย่าง ‘บวก แบ่ง แพลน’ เน้นความพอดีทั้งประเภทและปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพื่อช่วยปรับการกินให้สมดุลทีละน้อย จนกลายเป็นนิสัยและนำไปปรับใช้ได้กับทุกไลฟ์สไตล์ ดังนี้ ไม่เพียงแต่ความรู้ที่นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เท่านั้น แต่ภายในงานยังมีกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้รีเช็คพฤติกรรมในแต่ละวันของเราว่าสมดุลและดีต่อร่างกายของเราหรือยัง และควรปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ดีกับตัวเอง รวมไปถึงการได้ลองทำอาหารเมนู ‘ยำคอหมูย่างกราโนล่า’ ที่ใช้เทคนิค ‘บวก (Food Pairing)’ จับคู่วัตถุดิบที่ให้ความหลากหลายได้ครบทุกหมู่ อีกทั้งเมนูนี้ยังเสริมด้วยคุณประโยชน์จากกราโนล่าธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งเป็นแหล่งของใยอาหาร ช่วยชะลอการดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอล และยังช่วยให้อิ่มท้องได้นานอีกด้วย […]

องค์การอนามัยโลกประกาศ ความเหงาอาจไม่เท่าอวกาศ แต่อันตรายเท่าสูบบุหรี่ 15 มวน

ถือเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับหนุ่มสาวขี้เหงา เมื่อ ‘องค์การอนามัยโลก’ (WHO) ประกาศยกให้ ‘ความเหงา’ เป็นปัญหาน่ากังวลด้านสาธารณสุขของโลก ก่อนหน้านี้ความเหงามักถูกมองเป็นเพียงปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เมื่อมีการระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ WHO หันมาให้ความสนใจภัยเหงามากขึ้น และตัดสินใจตั้งคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศให้จัดการกับความเหงาในฐานะภัยคุกคามด้านสุขภาพ เนื่องจากภาวะล็อกดาวน์ที่ทำให้เกิดการชะงักงันของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้ระดับความเหงาของมนุษย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยการวิจัยพบว่า การอยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลานานเป็นอันตรายต่อสุขภาพเทียบเท่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน จนอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงมีความเสี่ยงร้ายแรงเทียบเท่าผู้ที่มีโรคอ้วนและผู้ที่ออกกำลังกายน้อย Murthy ศัลยแพทย์ทั่วไปของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า มีผู้สูงอายุมากถึง 1 ใน 4 จากทั้งหมดทั่วโลกที่ต้องเผชิญกับความเหงา และความเหงาเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมที่อาจทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบในเวลาต่อมาได้มากขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และไม่เพียงแค่ผู้สูงอายุที่ต้องเผชิญกับความเหงาเท่านั้น แต่มีวัยรุ่นถึง 15 เปอร์เซ็นต์ที่กำลังประสบกับภาวะนี้ และคาดการณ์ว่าตัวเลขจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตเช่นกัน ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้อาจเกิดภาวะเครียดจนมีแนวโน้มที่จะไม่ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา นำไปสู่ปัญหาความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการว่างงานในอนาคต พูดได้ว่า ความเหงาอาจเป็นภัยที่กำลังคุกคามสุขภาพและสังคมอย่างเงียบๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทย กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่รัฐควรเริ่มมองหาวิธีรับมืออย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่ความเหงาจะลุกลามเป็นวงกว้างในสังคม Sources :Global News | t.ly/1OmGgPeople | t.ly/O4NXzThe Guardian […]

FYI

ชวนคนเมืองดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน ด้วยอาหารดูแลสุขภาพเชิงรุก เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการกิน ‘หมูมีโอเมก้า 3’

ยุคนี้ใครๆ ก็หันมาใส่ใจสุขภาพและใช้ชีวิตอย่างสมดุลมากขึ้น เพราะทนไม่ไหวกับสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จากการทำงานหนัก การผจญรถติดวันละหลายชั่วโมง รวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนและมลพิษรอบตัว แม้จะมีหลายวิธีที่คนเมืองอย่างเราๆ สามารถเปลี่ยนสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงขึ้นได้ แต่หนึ่งในแนวทางที่ง่ายที่สุดคือการปรับพฤติกรรมการกินของตัวเอง ซึ่ง Urban Creature มีทริกแนะนำที่ทำได้ง่ายๆ เพียงเลือกกินเนื้อหมูมีโอเมก้า 3 ที่เต็มไปด้วยประโยชน์ในมื้ออาหารของเราทุกวัน ก็สามารถบำรุงร่างกายของเราให้เฮลตี้ เพราะในปัจจุบันสังคมไทยมีอัตราการเจ็บไข้ได้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นในคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะสัดส่วนผู้ป่วยกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-communicable Diseases : NCDs) เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง เป็นต้น ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคเหล่านี้คือ พฤติกรรมการกินของเรานั่นเอง เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคนทั่วโลก คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคีเครือข่ายทั้งภาคการศึกษาและเอกชน จึงร่วมกันจัด การประชุมวิชาการนานาชาติด้านสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม และการศึกษา เพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 28 – 29 กันยายน 2566 โดยภายในงานมีผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม Urban Creature ได้สรุปความรู้น่าสนใจจากสัมมนาที่เหมาะกับคนเมืองยุคใหม่ภายใต้หัวข้อ ‘การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี’ […]

‘EKM6’ แพลนต์เบสด์คอมมูนิตี้สเปซใจกลางเอกมัย ที่อยากให้คนเมืองได้สัมผัสธรรมชาติ และกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

“เราอยากให้คนที่มารู้สึกว่าทุกช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่คือ Kind Moment ทั้งกับตัวเอง ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม” ‘แพม-เปรมมิกา ศรีชวาลา’ ผู้ก่อตั้ง ‘EKM6’ แพลนต์เบสด์คอมมูนิตี้สเปซสีเขียวเล็กๆ ภายในซอยเอกมัย 6 บอกกับเราถึงสิ่งที่อยากส่งต่อไปยังผู้เข้าใช้บริการ หลายคนอาจไม่รู้ว่า ภายในใจกลางย่านเอกมัยยังมีสถานที่หนึ่งที่เป็นเหมือนโอเอซิสสำหรับคนรักสุขภาพให้ได้มาใช้เวลาร่วมกับธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน โดยชื่อของ EKM6 ถูกตั้งขึ้นให้ล้อไปกับสถานที่ตั้งของตัวโครงการอย่าง ‘ซอยเอกมัย 6’ และคำว่า ‘E(very) K(ind) M(oment)’ ยังเป็นการย้ำเตือนว่าที่นี่จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติรอบตัว รวมถึงอาหารและผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Plant-based จากผู้ประกอบการรายเล็กในประเทศไทย จนทุกช่วงเวลากลายเป็น Every Kind Moment E(verything) has a beginning. “เราไม่ได้คิดเรื่องธุรกิจตั้งแต่ต้น แต่มันเริ่มมาจากลูกแพ้นมและไข่ แล้วเขาอยากกินไอศกรีม เราเลยลองหาสูตรจากอินเทอร์เน็ตมาทำ จนกลายเป็นไอเดียเล็กๆ ที่ผุดมาจากลูกชายว่าทำไมไม่ลองทำขายดู” แพมเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเข้าสู่วงการแพลนต์เบสด์อย่างเป็นทางการ ก่อนเริ่มขยับขยายมาเป็นผู้ประกอบการรายเล็กที่ออกอีเวนต์ขายไอศกรีมแพลนต์เบสด์ในชื่อ Beyond Pops และได้พบกับกลุ่มผู้ประกอบการรายอื่นที่มีความสนใจในเรื่องสุขภาพเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เมืองไทยไม่ค่อยมีคอมมูนิตี้ของคนชื่นชอบอาหารแพลนต์เบสด์ให้รวมตัวกัน บวกกับแพมเองก็เห็นช่องว่างว่าบ้านเรายังไม่มีพื้นที่ที่รวมธุรกิจเหล่านี้ไว้และเปิดขายได้ทุกวันโดยไม่ต้องรองานอีเวนต์ นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจสร้างสถานที่แบบนั้นขึ้นมาด้วยตนเอง “เรารู้สึกว่าคนที่มาอีเวนต์เกี่ยวกับแพลนต์เบสด์ มันมีตั้งแต่คนที่ให้ความสนใจแพลนต์เบสด์อยู่แล้วไปจนถึงคนทั่วไปที่เขาสงสัยว่าอาหารประเภทนี้คืออะไร เราเลยคิดเล่นๆ […]

ฮาวทูชาร์จแบตฯ กายใจในเมืองใหญ่ที่ดูดพลังเราทุกวัน คุยกับนักละครบำบัด ‘กิ๊ฟท์ ปรีห์กมล’

ในฐานะคนที่จากบ้านเกิดมาอยู่เมืองใหญ่หลายปี สิ่งที่ทำใจให้ชินไม่ได้สักทีคือความรู้สึกไม่มีพลังในการควบคุมสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ฉันไม่อาจเรียกตัวเองว่าเพื่อนสนิทกับขนส่งสาธารณะ ไม่ชอบความแออัด กะเวลาไม่ได้ ถ้าจะเดินทางครั้งหนึ่งก็ต้องเผื่อเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง ไหนจะฝุ่นควันในอากาศและสถานการณ์บ้านเมืองที่ทำให้หัวร้อนได้ทุกวัน  ‘เมืองนี้สูบพลัง’ คือความคิดตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน ความรู้สึกต่อมาที่หลายคนน่าจะมีเหมือนกันคือ ‘ฉันอยากออกไปจากที่นี่ แต่ยังไปไหนไม่ได้’ ด้วยเหตุผลนับร้อยพันที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกันคอยฉุดรั้งไว้ นั่นคือเหตุผลที่ฉันมาพบกับ ‘กิ๊ฟท์-ปรีห์กมล จันทรนิจกร’ หญิงสาวผู้ที่หลายคนอาจรู้จักในฐานะผู้ก่อตั้ง Ma.D Club for Better Society กิจการเพื่อสังคมที่ซัปพอร์ตกลุ่มคนผู้อยากสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีในสังคมเมื่อหลายปีก่อน ประสบการณ์เกี่ยวกับสุขภาพจิตจากตัวเธอเองและคนรอบข้างในช่วงเวลานั้น ทำให้ปรีห์กมลสนใจด้านจิตใจและการบำบัดมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะละครบำบัดที่ทำงานกับเธอได้ดีเป็นพิเศษ หลังจาก Ma.D ปิดตัวลงในปลายปี 2018 เธอจึงเดินทางไปเรียนต่อ MA Drama and Movement Therapy ที่ The Royal Central School of Speech and Drama ประเทศอังกฤษ และกลับมาทำงานที่นี่ในฐานะนักละครบำบัด และในฐานะคนทำงานเกี่ยวข้องกับร่างกายและจิตใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ปรีห์กมลคือคนที่เราอยากขอคำปรึกษาเรื่องการกลับมาดูแลกายใจในเมืองสูบพลังที่เรา (จำเป็น) ต้องใช้ชีวิตอยู่ เล่าให้ฟังหน่อยสิว่าหลักของละครบำบัดที่คุณทำอยู่คืออะไร และมันต่างจากการบำบัดแบบอื่นอย่างไร สำหรับเรา […]

Healthy City จำลองเมืองสุขภาพดีให้คนสุขภาพดีตามแบบฉบับ WHO

‘เมืองสุขภาพดี’ คือเมืองที่เอื้อให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีจากสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย ตอบสนองความต้องการพื้นฐาน และเปิดโอกาสให้คนมีปฏิสัมพันธ์จากการทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ปัจจุบันเมืองใหญ่จำนวนไม่น้อยมีสุขภาพย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เนื่องจากคนจากต่างจังหวัดหรือพื้นที่อื่นๆ ย้ายเข้ามาอยู่มากขึ้น ด้วยความหวังว่าจะมีชีวิตดีและก้าวหน้ามากกว่าเดิม  เมื่อคนส่วนใหญ่มารวมตัวกันอยู่ในเมือง ปัญหาที่ตามมาก็คือประชากรมีมากเกินไป ทำให้โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่แล้วไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยทุกคนได้ ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ที่อยู่อาศัยคับแคบ ความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข ระบบขนส่งมวลชนไม่ครอบคลุม พื้นที่สาธารณะมีจำกัด มลพิษทางอากาศ หรือแม้แต่อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำลง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนสร้างผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของชาวเมืองได้ทั้งสิ้น ดังนั้น คอลัมน์ Urban Sketch จึงขออาสาจำลองเมืองสุขภาพดีตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อพัฒนาเมืองและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ปัจจัยอะไรบ้างที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพของทั้งเมืองและผู้คนอย่างถ้วนหน้า ไปติดตามพร้อมกันได้เลย  1. ดูแลสุขภาพจิตของผู้คน ปัญหาที่คนเมืองต้องพบเจอในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นความกดดันในการใช้ชีวิตและการทำงาน ความยากจน มลภาวะ โครงสร้างพื้นฐานที่ย่ำแย่ ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความเครียดจนนำไปสู่อาการป่วยทางจิตได้ ดังนั้น ผู้คนควรมีสิทธิ์เข้าถึงบริการทางด้านสุขภาพจิตมากขึ้น เช่น การเข้าถึงการปรึกษาหรือการรักษาผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งจะช่วยให้คนได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่พวกเขาเจอในแต่ละวันและระบายความเครียดได้ 2. เพิ่มพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สีเขียว การสร้างตึกและอาคารคือการเจริญเติบโตของเมืองที่ทำให้เมืองแออัด และทำให้มีพื้นที่ในการใช้ชีวิตน้อยลงเรื่อยๆ ไม่เพียงเท่านั้น เมืองที่หนาแน่นจนรู้สึกอึดอัดยังอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย เพราะฉะนั้นการเพิ่มพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สีเขียวจึงเป็นแนวทางสำคัญที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ทางสังคมและกิจกรรมทางกายของผู้คน รวมถึงเปิดโอกาสให้คนที่ใช้ชีวิตคนเดียวได้พบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นกับคนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยลดความเครียด […]

1 2

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.