เข้าใจสัจธรรมและกัญชากับ วิน-ศรีราชาร็อคเกอร์ - Urban Creature

“ดงกัญชาบานแล้ว น้อมวันรับอรุณใหม่ เธอไม่ต้องสงสัย ใช้กัญรักษาเยียวยา”

แม้กัญชาในประเทศไทยจะเพิ่งเริ่มนำมาใช้ทางการแพทย์ แต่ก็เป็นการเปิดโลกให้คนไทยได้รู้จักด้านประโยชน์ของกัญชามากขึ้น และทำให้กัญชามีที่ยืนในสังคม วงเรกเก้สายเขียว ‘ศรีราชาร็อคเกอร์’ จึงหยิบเอากัญชามาใส่เนื้อเพลงใหม่ล่าสุด ‘ดงกัญชาบาน’

เปิดหูเปิดตาแล้วจงเปิดใจกับ ‘วิน-ชูจิตารมย์’ นักร้อง นักแต่งเพลง ผู้บุกเบิกวง ‘ศรีราชาร็อคเกอร์’ ที่มีสมาชิกมากหน้าหลายตา ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว 16 ปี เรานัดกับพี่วินที่ร้านกาแฟ ‘Blue Dye Cafe’ ย่านทองหล่อ ในบรรยากาศเรียบง่ายเป็นกันเอง ชวนคุยเรื่องกัญชาแล้วลงลึกถึงแก่นพุทธศาสนาที่ซ่อนอยู่ในวรรคเพลง เข้าใจรสพระธรรมเรกเก้ที่มีอะไรมากกว่าดนตรีชวนฟุ้งในหมู่ควัน

| แก่นแท้ของ ‘เรกเก้’ คืออะไร

วิน : “เรกเก้มันเข้ากับจังหวะชีวิตเราที่สุด ไปช้าๆ ไม่ต้องรีบ เวลาโยกก็เหมือนกับเราเดิน มันเป็นมูฟเมนต์ที่พอดีๆ ไม่เหนื่อยไป ไม่น้อยไป เป็นทางสายกลาง เรกเก้สื่อสารทุกอย่าง เรื่องโลก จักวาล วิทยาศาสตร์ ศาสนา ความเป็นชีวิต เพื่อตามหาความจริง การเข้าถึงสัจธรรม มันมีความใกล้เคียงกับความเป็นพุทธ”

| แสดงว่านับถือพุทธ ถ้าอย่างนั้นเป็นคนธรรมะธรรมโมไหม

วิน : “ผมเป็นชาวพุทธ เมื่อก่อนก็ค่อนข้างเคร่ง บวชสองรอบก็อิน ผมไม่ได้มีศิลปินหรือใครเป็นไอดอล ผมมีเจ้าชายสิทธัตถะเป็นไอดอล ท่านเป็นศิลปินที่อาร์ตมาก แต่ปัจจุบันผมไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นพุทธมามกะหรือเป็นชาวพุทธขนาดนั้น ผมพยายามไม่มองว่ามันเป็นศาสนา ผมอยากมองให้มันเป็นหลัก เป็นความธรรมดา เป็นความเรียบง่าย เป็นกฏธรรมชาติ”

“ถ้าคำเรียกหรือคำนิยามมันทำให้คนดูสูงขึ้น แต่การปฏิบัติของคนแม่งต่ำลง มันก็เท่านั้น”

| คิดอย่างไรกับคำว่า ‘เมืองไทยเมืองพุทธ’

วิน : “นิยามคำว่าพุทธแท้หรือพุทธเทียม สำหรับผมมันไม่มี มันคืออะไรก็ได้ไม่มีถูกผิด ถ้าเราคิดว่าเราแท้ มันก็จะมีข้อจำกัดว่ากูต้องแท้ กูต้องทำให้ถึง หรือถ้าเราเทียมมันก็กดตัวเองลงไป เห้ย กูเป็นของปลอมว่ะ งั้นกูไม่ต้องทำดีแล้วกัน เป็นพระตุ๊ดก็ได้ แต่ถ้าเราเลือกที่จะเป็นอะไรก็ได้ ไม่ต้องไปจำกัดความว่าแท้หรือเทียม แค่เราทำแล้วเราสบายใจ ทำแต่ในสิ่งที่ไม่เดือดร้อนใคร อยู่กับปัจจุบัน ผมว่าจะแท้หรือเทียมไม่สำคัญ”

“ขอโดนแดดอีกสักหน อยากจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดกลายเป็นหมา
วัฏฏะสงสารไม่เคยดับสิ้นสุดเขตปรารถนา อย่าอ่อนล้าแม้ปัญหาใดใด”

| เพลง ‘ตากแดด’ เกี่ยวอะไรกับการเวียนว่ายตายเกิด

วิน : “มันยากที่จะทำให้คนอินเรื่องเกิดแก่เจ็บตาย ชาตินี้ชาติหน้า แต่เราไม่ได้อยากยึดติดตรงนั้นนะ เพลงตากแดดพูดถึงการเวียนว่ายตายเกิด เราพยายามทำให้คำนี้ใช้ได้กับทุกมูฟเมนต์ของชีวิต ไม่ใช่แค่การนิพพาน หรืออะไรที่มันดูยากเย็น”

“สำหรับผมมันเป็นนาฬิกาที่วนไปแล้ววนกลับมา วันนี้เราตื่นจากความตายของเมื่อวาน มันเหมือนกับชีวิตที่วนอยู่ในลูป”

| ทำไมต้องตากแดด มันสื่อถึงอะไร

วิน : “ชีวิตเรายังไงมันก็ต้องมีทุกข์ ยังไงมันก็ต้องมีสุข มันคือการเปลี่ยนผ่าน ผมอยากให้เพลงนี้มันอัดพลังให้กับคนที่กำลังหมดแรงที่จะทำอะไร แล้วออกไปตากแดด ไม่ต้องกลัวว่ามันจะร้อน หรือกลัวว่าผิวจะเสีย ไม่ต้องทาครีมกันแดด ออกไปตากให้แดดมันเผาไปเลย ออกไปลุยเลยดีกว่าอยู่เฉยๆ”

| ตั้งใจไปถ่าย MV เพลงนี้ที่อินเดียเลยไหม

วิน : “เราจะไปเที่ยวอยู่แล้ว เราสนใจวัฒนธรรมและเครื่องดนตรี ไปลองเรียนกลองฮับบ้า และคิดว่าอยากไปที่นี่เพื่อเพลงนี้ เพราะพาราณสีเป็นดินแดนที่พระพุทธเจ้าเกิด เป็นดินแดนอารยะ มันคือการตากแดดของผมที่ได้ออกไปเผชิญ”

| “อินเดีย” เป็นดินแดนพิศวงจริงเหรอ

วิน : “วัฒนธรรมที่นั่นสวยงาม พาราณสียังมีพราหมณ์ ยังมีการปฏิบัติตัวที่…โอโห อะไรเนี่ย นี่มันยุคไหนแล้ว ถ้าใครได้ไปจะเข้าใจเลยว่ามันส์แค่ไหน ก็เจอแต่เรื่องครับหนักทุกวัน หนักทุกเรื่อง มีแต่ปัญหาให้แก้ แล้วมันเหมาะกับเพลงนี้ ผมคิดซะว่าไปใช้กรรม โดนอะไรก็เอ้ออ เอาเถอะๆๆ โดนโกง โดนแซงคิว เสียงแตร สภาพแวดล้อม ต้องเอาตัวรอด ถ้าไปแบบดิบๆ นะ ถ้าไปแบบนอนโรงแรมมันก็สบายแหละ แต่ผมนี่ไปแบบนอนข้างขี้วัว”

| ประสบการณ์แย่ที่สุดที่เจอมาคืออะไร

วิน : ประสบการณ์ที่แย่ที่สุดหรอ มันก็แย่จริงๆ พูดไปก็คง 18+ นิดนึง คือผมอยู่บนรถไฟคนเดียว แล้วมีคนเอาของมาขาย เราก็ขอเขาซื้อบุหรี่ เขาเลยชวนไปสูบในห้องน้ำ แต่เขาขอสูบอย่างอื่นด้วย เราก็รู้สึกแบบ…”

| แล้วได้มุมมองอะไรกลับมาบ้าง

วิน : “โลกนี้มันกว้างใหญ่เหลือเกิน มันมีอะไรที่แปลกหรือสิ่งที่เราคิดไม่ถึงอีกหลายอย่าง มันมีความเชื่อที่บางอย่างมันเหมือนไม่มีเหตุผล บางอย่างมันไม่ใช่แค่ความรู้สึก มันให้บทเรียน ให้ความคิด ให้แรงบันดาลใจใหม่ ให้เนื้อเพลงใหม่ๆ มันทำให้คนที่อยู่ในกะลาแบบผม ได้แง้มกะลาออกมานิดนึง ซึ่งผมอยากจะแง้มมันออกมาอีก”

| พูดถึงเพลงใหม่บ้าง อะไรคือที่มาของเพลง ‘ดงกัญชาบาน’

วิน : “ก่อนหน้านี้เราใช้คำว่า ‘นักกินผัก’ ‘การแชร์’ ‘พรรณลำพัง’ จะพยายามหลีกเลี่ยงคำที่ตรงไปตรงมา เพื่อรักษาตัวเองนี่แหละครับ ไม่ให้โดนเพ่งเล็งจนเกินไป แต่ตอนนี้เรากล้าใช้คำว่า ‘กัญชา’ แบบเต็มปากเต็มคำ เพราะกฏหมายและการกระเพื่อมของสังคม ตอนนี้ผมต้องสนับสนุน ผมต้องกล้าพูดแล้ว”

| เมื่อกัญชาถูกกฏหมาย คิดว่าประเทศจะก้าวไปทางไหน

วิน : “เพลงดงกัญชาบานเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่า กัญชาในไทยมันบานแล้วนะ เอามาใช้ทางการแพทย์ได้แล้ว ก็ดูไปตามสเต็ป ตอนนี้ที่มันมีปัญหาอยู่ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ถ้าพูดตรงๆ มันเป็นผลประโยชน์มหาศาลที่จะทำให้ประเทศไทย GDP พุ่งสูงปรี๊ด มันเป็นมูลค่าที่ต้องแบ่งกัน มันก็เลยยังคลุมเครือ”

| คิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ไทยจะเปิด ‘เสรีกัญชา’

วิน : “ผมเชื่อว่ามันเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว วันหนึ่งมันอาจไปถึงสันทนาการได้ คนจะมีความรู้และมีข้อมูลที่ดีมากๆ ฉลาดกว่ามัน ฉลาดกว่าระบบ ฉลาดกว่านายทุน ฉลาดกว่าบาบิลอน ฉลาดกว่ารัฐบาล อยากให้ทุกคนสามารถปลูกใช้เองได้ ไม่ต้องมีใต้ดิน ไม่ต้องมีการตรวจเยี่ยวแบบไร้สาระ”

| แปลว่ากัญชาควรเป็นสิทธิที่ทุกคนเข้าถึงได้

วิน : “มันเป็นสิทธิมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่บรรพบุรุษมาเป็นพันๆ หมื่นๆ ปี ซึ่งระบบทุนนิยมเนี่ยทำให้มันเป็นยาเสพติด แต่เราก็ต้องรู้จักใช้แบบพอดี รู้กินรู้อยู่ ผมไม่แนะนำให้ไปจมอยู่กับบ้อง แล้วก็สูบอย่างเดียวไม่เป็นอันทำอะไร อย่างนั้นคือแป้ก เราควรที่จะทำงาน ควรที่จะสร้างสรรค์ ทุกอย่างต้องอยู่บนความพอดีและองค์ความรู้”

| ‘ศรีราชาร็อคเกอร์’ ทำเพลงไปเพื่ออะไร

วิน : “เราอยากจะเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ เราไม่ได้มีค่าย หรือโปรโมทเพื่อการขาย เราไม่ใช่สินค้า เราอยากบอกเรื่องรอบตัวที่มันมีความหมาย มีประโยชน์ มีคุณค่า อะไรก็ได้ที่มันพอจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในสังคม เนื้อเพลงอาจดูทำตัวเป็นคนดี แต่เราก็มีด้านที่แย่เหมือนกัน เพลงพวกนี้มันเป็นอุดมคติ มันเป็นความฝัน และมันเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ”

“เนื้อเพลงเหล่านี้มันเป็นอะกาลิโกที่ใช้ได้ไม่จำกัดกาลเวลา เราพูดเรื่องนี้ได้ทุกยุคทุกสมัย มันคือสัจธรรม เราจะพยายามที่จะไม่ปรุงแต่งอะไรมาก เราอยากให้ทุกคนอยู่กับความธรรมดา ความเรียบง่าย และให้เพลงช่วยเตือนสติ เรียกพลังบวกกลับมา”

| ปลายเดือนนี้จะมาเล่น ‘Pink Cloud Festival’

TRYSTAND นักวาดภาพประกอบ เบื้องหลัง MV หลายๆ ตัวของศรีราชา ก็จะมาโชว์ผลงานศิลปะในงานนี้ด้วย คิดว่างานนี้เป็นอย่างไร ?

วิน : “ดนตรีกับงานศิลปะมันควรจะอยู่ด้วยกัน ศิลปะมันควรจะอยู่แทรกซึมกับทุกอย่าง ดนตรีก็เช่นกัน งานนี้ผมว่าน่าจะมันส์ ส่วนใหญ่เป็นวงต่างประเทศก็คงได้แลกเปลี่ยนคัลเจอร์กันครับ คนที่มาจากข้างนอกเขาจะได้เห็นว่า ตอนนี้บ้านเราพัฒนาไปถึงไหนแล้ว”

เตรียมตัวมาสนุกกับเทศกาลดนตรีและศิลปะ ‘Pink Cloud Festival’ ที่รวบรวมวงดนตรีทั้งไทยและเทศกว่า 12 วง และศิลปินรุ่นใหม่รุ่นเก๋าที่จะมาปล่อยของ เจอกัน 25 พฤษภาคมนี้ ที่ THAI WAKE PARK ลำลูกกา คลอง 6

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/pinkcloudfestival/

Content Writer : Angkhana N.
Photographer : Janenarong S. , Nipon S.
Graphic Designer : Jirayu P.

Writer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.