‘ป้อมควบคุมสัญญาณจราจร’ ที่พบเห็นอยู่ทั่วไปเวลาเดินในเมือง ไม่ว่าจะบนฟุตพาทหรือกลางสี่แยก เป็นโครงสร้างที่ยากจะมองข้าม เพราะถึงแม้ว่าในปัจจุบันป้อมเหล่านี้จะถูกทิ้งร้างเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ก็ยังตั้งกีดขวางทางเท้า กินพื้นที่บนฟุตพาทจนคนเดินต้องทำตัวลีบๆ เดินหลบ หรือแทบจะต้องลงถนนไม่ต่างจากเดิม
จะดีกว่าไหมถ้าป้อมจราจรเหล่านี้ถูกดัดแปลงใหม่ให้เป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ต่อคนเมือง ช่วยให้เมืองมีชีวิตชีวาและน่าอยู่ขึ้น
คอลัมน์ Urban Sketch ขอถือโอกาสนี้ชวนทุกคนมาร่วมกันจินตนาการว่า นอกจากการทุบทิ้งไปเฉยๆ แล้ว เรายังดัดแปลงโครงสร้างที่มีอยู่ได้อย่างไรบ้าง เพื่อแก้ปัญหาป้อมจราจรที่กีดขวางทางเดินให้เกิดประโยชน์กับคนเดินมากขึ้น
‘Pocket Park’ เปลี่ยนให้เป็นทางเดินพร้อมสวนขนาดย่อม เพิ่มสวนจิ๋วให้กระจายทั่วเมือง

เวลาเดินบนฟุตพาทหรือข้ามทางม้าลาย ป้อมจราจรมักเป็นหนึ่งในสิ่งกีดขวางที่ทำให้รำคาญใจอยู่เสมอ ด้วยความที่เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่มาก แถมยังถูกปล่อยร้าง ไม่ได้รับการดูแลหรือนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น
ถ้าเราลองปรับพื้นที่นี้ให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมารู้สึกดีขึ้น ด้วยการรื้อโครงสร้างที่มีอยู่เดิมบางส่วนให้เดินผ่านได้ บวกกับวางกระถางต้นไม้ เพิ่มเก้าอี้เข้าไป ให้กลายเป็นสวนหย่อมขนาดจิ๋ว เพิ่มความสบายตา ร่มเย็น เติมพื้นที่สีเขียวใหม่ในเมือง ก็น่าจะทำให้ป้อมจราจรที่เคยเป็นอุปสรรคของคนสัญจรกลายเป็นพื้นที่ที่โอบรับผู้คนมากขึ้น แถมยังช่วยลดมลภาวะจากท้องถนนอีกด้วย
‘Kiosk Stalls’ ปรับฟังก์ชันให้เป็นร้านกาแฟ ร้านหนังสือ หรือซุ้มขายอาหารย่อมๆ เติมสีสันให้ข้างทาง

ในเมื่อเหล่าร้านอาหารแผงลอยหรือสตรีตฟูดเป็นของขึ้นชื่อของไทย และเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนอยู่แล้ว
ถ้าเราลองใช้ประโยชน์จากโครงสร้างและระบบไฟฟ้าที่มีอยู่ ทำบานหน้าต่างที่เปิด-ปิดได้ ติดป้ายร้านค้า เพิ่มแผงวางขายของด้านนอก และทำพื้นที่จัดเก็บสินค้าด้านใน รีโนเวตใหม่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้ามาเช่าพื้นที่ได้ ก็กลายเป็นหน้าร้านย่อมๆ แล้วนะเนี่ย
เพียงเท่านี้ก็เปลี่ยนจากโครงสร้างขวางทางที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ให้เป็นร้านหนังสือ ร้านกาแฟ หรือซุ้มขายอาหารจานด่วนที่เป็นหลักเป็นแหล่ง มีโครงสร้างที่แน่นอน และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองได้แล้ว คิดภาพตามแล้วนึกถึงพวกร้านลักษณะนี้ในมหาวิทยาลัยหรือสวนสาธารณะที่มีพื้นที่จำกัด แต่เป็นตัวช่วยแก้เบื่อหรือรองท้องที่ดี
‘Urban Rest Area’ ปรับปรุงเป็นจุดนั่งพักในเมือง หลบแดด คลายเหนื่อยระหว่างสัญจร

การเดิน คือวิธีการเดินทางที่เป็นมิตรกับเมืองที่สุด แต่ถ้าให้เดินแบบมาราธอนท่ามกลางอากาศร้อนของประเทศไทยคงไม่ไหว เราเลยลองรีโนเวตป้อมจราจรให้เป็นจุดนั่งพักระหว่างทางของคนเดินเมืองดีกว่า
เริ่มจากการนำกำแพงสองฝั่งที่ขนานกับทางเดินออก ให้คนสามารถเดินทะลุผ่านตรงกลางได้ เรียงเก้าอี้ไว้ตรงกำแพงที่เหลืออีกสองฝั่ง ติดไฟให้คนเดินตอนกลางคืนรู้สึกสบายใจขึ้น รวมถึงเพิ่มจุดชาร์จแบตเตอรี่และเติมน้ำ ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนที่สัญจรไปมา คล้ายๆ บทบาทของป้ายรถเมล์ แต่พื้นที่ตรงนี้มีหน้าที่รองรับคนที่อยากนั่งพักหรือต้องการหาที่คุยงานคุยธุระได้อย่างไม่ต้องกังวลคนเดินสวนไปมา
‘Open Mic’ เปิดเป็นเวทีให้ศิลปินเปิดหมวก โชว์ความสามารถ สร้างเสียงเพลงให้ย่าน

ทุกวันนี้เราเห็นการจัดสรรพื้นที่ให้นักดนตรีได้มาแสดงความสามารถกันมากขึ้น ทั้งที่เป็นการตั้งวงดนตรีจริงจังและการเปิดหมวกเล็กๆ เช่น บริเวณจุดเชื่อมต่อสกายวอล์กหน้าหอศิลปกรุงเทพฯ กลางถนนคนเดินสยาม หรืออุโมงค์ทางเชื่อมไป MRT ของสามย่านมิตรทาวน์
ป้อมควบคุมไฟจราจร โดยเฉพาะทำเลกลางสี่แยกและจุดที่มีคนเดินผ่านเป็นประจำ ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่น่าสนใจสำหรับกิจกรรมนี้ เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่ที่มีทั้งคนและรถยนต์สัญจรตลอดเวลา ยังเหมาะเป็นกิจกรรมคลายความเบื่อให้ผู้คนที่ติดอยู่ในรถยามการจราจรหนาแน่น
ด้วยฟังก์ชันของป้อมที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีหลังคาและไฟฟ้าอยู่แล้ว ถ้าเราลองปรับโครงสร้างจากป้อมขนาดใหญ่ให้เหลือเพียงฉากกั้นฝั่งที่หันหน้าเข้าหาถนน เปิดพื้นที่ข้างหลังให้คนเดินผ่านได้ ทาสีใหม่ วางเก้าอี้และจุดสำหรับต่อปลั๊กลำโพง ก็ดูเพียงพอให้ศิลปินมือสมัครเล่นดนตรีแนวอะคูสติก หรือทำการแสดงแนวเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ไม่ใช้โปรดักชันยิ่งใหญ่
และเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้มือใหม่ที่อยากฝึกปรือฝีมือแต่ไม่มีอุปกรณ์เป็นของตัวเอง เราก็จัดเตรียมระบบให้ลงทะเบียนใช้พื้นที่และยืมอุปกรณ์ เช่น ลำโพง ไมโครโฟน คาฮอง เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลพื้นที่ และสะดวกต่อนักดนตรีที่มาใช้งาน ถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนเมืองเข้าถึงศิลปะได้มากขึ้น และช่วยให้เมืองมีชีวิตชีวาด้วย
‘Street Side Chess Club’ พลิกโฉมเป็นสนามแข่งหมากรุกจิ๋ว พื้นที่พบปะแห่งใหม่ของคนในชุมชน

ขอทิ้งท้ายด้วยอีกหนึ่งกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะที่เราพบเห็นได้บ่อยในต่างประเทศแต่ในไทยไม่ค่อยมี อย่างการเล่นหมากรุกแบบเอาต์ดอร์
แต่ถ้าจะให้เล่นกลางแดดร้อนๆ ในไทย ไม่ว่าใครก็คงไม่มีสมาธิในการเดินหมาก แถมอาจจะหงุดหงิดจนลุกขึ้นมามีเรื่องกันแทน นี่ยังไม่นับเรื่องไม่มีพื้นที่สาธารณะที่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะบริเวณใจกลางเมืองอีกนะ
ถ้าเราใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตรงนี้ เปลี่ยนป้อมควบคุมไฟจราจรที่มีโครงสร้างหลังคาอยู่แล้วให้เป็นโต๊ะแข่งหมากรุกริมทาง ก็ดูเป็นอีกหนึ่งไอเดียพื้นที่สาธารณะขนาดย่อมที่จัดการง่าย ใช้พื้นที่น้อย แค่มีชุดโต๊ะเก้าอี้หินอ่อนลายกระดานหมากที่คุ้นตา และตัวหมากสำหรับเดินเกม เพียงเท่านี้ก็กลายเป็นจุดนัดพบใหม่ของคนในย่านนั้นได้แล้ว