นักวิจัยได้รวบรวมข้อมูลเมืองใหญ่ๆ ในโลก และประเมินโดย ‘สถาบันสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาระหว่างประเทศ (IIED)’ พบว่า ในระยะเวลากว่า 30 ปีนั้น วันที่อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส ใน 43 เมืองหลวงเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 1,062 วัน ตั้งแต่ปี 2537 – 2546 เป็น 1,335 วัน ตั้งแต่ปี 2558 – 2567
โดยทางสถาบันฯ ได้ยกตัวอย่างเมืองหลวงอย่างโรมและปักกิ่ง ที่มีวันที่อุณหภูมิเฉลี่ยกว่า 35 องศาเซลเซียสเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่าสองเท่า หรือลอนดอนที่ปกติมีอากาศที่ค่อนข้างเย็น แต่กลับมีวันที่อุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียสเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเลยทีเดียว



บางเมืองต้องเผชิญหน้ากับความร้อนติดต่อกันอย่างน่ากังวล ยกตัวอย่างในเดือนตุลาคม ปี 2566 จาการ์ตามีวันที่อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียสยาวนานถึง 30 วัน ซึ่งเป็นจำนวนวันที่มากกว่าในช่วงระยะเวลา 10 ปี (ปี 2537 – 2546) เสียอีก
ความร้อนเหล่านี้ไม่เพียงก่อความรำคาญ ไม่สบายตัว อึดอัดจากความร้อน แต่ยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับไม่เต็มที่ ประสิทธิภาพในการทำงานที่แย่ลง ความเครียดที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากคลื่นความร้อนอีกด้วย
Tucker Landesman นักวิจัยอาวุโสของ IIED มองว่า ความร้อนนี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้คน โดยเฉพาะบางกลุ่มที่ต้องเจอกับสภาพอากาศร้อนจัด เช่น คนหนุ่มสาวที่ทำงานกลางแจ้ง ผู้สูงอายุ ผู้ที่อาศัยในที่อยู่อาศัยที่ต่ำกว่ามาตรฐาน และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องปรับอากาศได้
ไม่แน่ว่าในอนาคตอุณหภูมิของโลกเราอาจจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมอีก ดังนั้นร่มเงาจากอาคารหรือต้นไม้ตามทาง และพื้นที่สีเขียวในเมือง จึงอาจเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เมืองร้อนน้อยลง
Sources :
International Institute for Environment and Development (IIED) | tinyurl.com/yc5a9zn, tinyurl.com/225rz65n
The Guardian | tinyurl.com/ye4h7rv3