วันศุกร์ทีไร ‘มนุษย์แรงงาน’ ดี๊ด๊าทุกที เพราะเป็นวันสุดท้ายของการทำงานในสัปดาห์! เพื่อชาร์จพลังกลับไปลุยงานต่อวันจันทร์ ว่าแต่การหยุดพัก 2 วันหลังจากเคร่งเครียดกับงานมายาวๆ 5 วันนั้นช่วยให้สมองและร่างกายเราพร้อมกลับไปทำงานจริงหรือเปล่า เพราะยังว่ากันว่าหลังจากได้พักยาวๆ แล้ว เมื่อกลับไปทำงานอีกครั้ง ประสิทธิภาพของคนทำงานจะดีขึ้น จนผลงานที่ออกมาเต็มไปด้วยคุณภาพ เรื่องนี้จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ คอลัมน์ Curiocity ชวนค้นคำตอบฉลองวันแรงงานกัน
ทำ 5 พัก 2 มาจากไหน
ย้อนกลับไปศตวรรษที่ 19 สมัยที่ยังไม่มีกฎหมายแรงงาน ทำให้นายจ้างกำหนดเวลาเข้า-ออกงาน รวมถึงชั่วโมงทำงานอย่างไรก็ได้ บางที่ดีหน่อยให้หยุดพัก 1 วัน ไม่เสาร์หรืออาทิตย์ขึ้นอยู่กับวันประกอบพิธีของแต่ละศาสนา แต่บางที่ก็แย่เกินใครเพราะไม่มีวันหยุด และให้พนักงานโหมทำงานมากถึง 14 ชั่วโมง/วัน
เนื่องจากงานหนักจนคนทำงานทนไม่ไหว จึงเกิดการนัดหยุดงานเพื่อออกมาประท้วง ท้ายที่สุดพี่น้องแรงงานเลือดนักสู้ก็ได้เวลาทำงานวันละ 8 ชั่วโมง และหลายประเทศบรรจุเข้าข้อกฎหมาย ประกอบกับปัญหาการขอหยุดงานไม่ตรงกันของแต่ละศาสนาที่ยากต่อการจัดการ และประสิทธิภาพการทำงานตกลง จึงมีข้อกำหนดเพิ่มเติมให้วันเสาร์-อาทิตย์เป็นวันหยุดงานประจำสัปดาห์ไปโดยปริยาย
ปี 1926 ‘เฮนรี ฟอร์ด’ เจ้าของฟอร์ด มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอเมริกา คือนายทุนแรกที่ทดลองให้คนงานทำงานแค่ 5 วัน วันละ 8 ชั่วโมง พบว่า ได้ปริมาณงานมากขึ้น ทั้งที่ชั่วโมงการทำงานน้อยกว่าเดิม แถมผลงานยังมีคุณภาพมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ หลายบริษัทที่เห็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจากบริษัทฟอร์ด และคำบอกเล่าของพนักงาน จึงทดลองทำตามจนกลายเป็นค่านิยมการทำงาน 5 วัน หยุด 2 วัน
หยุดมาก งานเยี่ยม
การหยุดงาน 2 วันกลายเป็นวัฒนธรรมคนทำงานมาจนถึงปัจจุบัน ไปจนถึงวันเสาร์-อาทิตย์ถูกเรียกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ ‘K. Anders Ericsson’ นักจิตวิทยาชาวสเปนผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการทำงาน ทำวิจัยเกี่ยวกับชั่วโมงการทำงานแล้วพบว่า การทำงาน 5 วัน วันละ 8 ชั่วโมง นั้นทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ลามไปจนผลงานออกมาไม่ดี เพราะความจริงแล้วสมองคนเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้วันละ 4 – 5 ชั่วโมงเท่านั้น
ดังนั้น เมื่อพนักงานใช้สมองทั้งหมดไปกับการทำงานมากถึง 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ ที่เกินขีดความสามารถของสมองมาอีกเท่าตัว การปล่อยพักเพียง 2 วันจึงไม่เพียงพอ ทั้งยังส่งผลให้เกิดความรู้สึกเบื่องานได้ง่าย เขาจึงแนะนำให้ลดจำนวนวันทำงานลง เพื่อให้พนักงานหยุดพักสมองให้เฟรชและพร้อมสำหรับการคิดไอเดียเจ๋งๆ และลงมือทำงานอย่างเต็มที่อีกครั้ง
สเปนทดลองหยุด 3 วันเป็นเวลา 3 ปี
จากหยุดพัก 2 วัน เริ่มมีหลายองค์กรในหลายประเทศเสนอวิธี ‘ทำงาน 4 พัก 3’ หรือทำงานสัปดาห์ละ 32 ชั่วโมง เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน และลดการพบปะกันในช่วง COVID-19 ระบาด ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นวัฒนธรรมของชั่วโมงการทำงานรูปแบบใหม่อีกด้วย
สเปนเป็นประเทศแรกๆ ที่ประกาศทดลองทำงาน 4 วัน และหยุด 3 วันเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยความคิดนี้พรรค Más País เป็นผู้ผลักดัน ซึ่งรัฐบาลก็เห็นด้วย และพร้อมสนับสนุนงบ 50 ล้านยูโรเป็นค่าใช้จ่ายให้บริษัทที่เข้าร่วม เพราะมองว่านอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพคนทำงานแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ และยังเป็นโอกาสที่ผู้คนจะมีเวลาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ไมโครซอฟต์ เจแปนลดวันทำงานโดยไม่ลดเงินเดือน
ปี 2019 บริษัทไมโครซอฟต์ สาขาประเทศญี่ปุ่น ทดลองให้พนักงานทั้งหมด 2,300 คนทำงานเพียง 4 วัน/สัปดาห์ ซึ่งให้หยุดวันศุกร์เพิ่มเป็นเวลา 1 เดือนโดยไม่หักเงินเดือน ผลทดลองพบว่า พนักงานมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นถึง 39.9 เปอร์เซ็นต์ ค่าไฟของบริษัทยังลดลงกว่า 23 เปอร์เซ็นต์ และลดการใช้กระดาษสำหรับพรินต์งานได้ถึง 59 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการทำงานในปี 2018
ล่าสุดวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ‘Katsunobu Kato’ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีและนักการเมืองจากพรรค Liberal Democratic (LDP) ก็ออกมาแถลงว่าจะหารือเรื่องนี้กับผู้เชี่ยวชาญต่อ เพื่อนำเสนอเข้ากฎหมายแรงงาน เพราะมีผลให้เห็นแล้วว่า การหยุดงาน 3 วัน/สัปดาห์ ช่วยส่งเสริม Work-life Balance ให้พนักงานได้จริง
ขอจัดการมรดกแค่ 4 วัน/สัปดาห์นะ
Perpetual Guardian บริษัทจัดการมรดกและอสังหาริมทรัพย์ ประเทศนิวซีแลนด์ทดลองให้พนักงาน 240 คนทำงาน 4 วัน/สัปดาห์เป็นเวลา 2 เดือน โดยมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยวิจัยและสรุปผล ปรากฏว่าประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 18 – 20 เปอร์เซ็นต์ มีแรงกระตุ้นเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ มีความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์ การเคารพซึ่งกันและกันในที่ทำงานเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญที่สุดคือ พนักงานมีสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 24 เปอร์เซ็นต์
ยังมีอีกหลายประเทศที่สนับสนุนการทำงาน 4 วันหยุดพัก 3 วัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เหล่าพนักงานในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น ประเทศอังกฤษที่มีหลายบริษัทเข้าร่วม หรือประเทศฟินแลนด์ที่ ‘ซันนา มาริน’ (Sanna Marin) นายกรัฐมนตรีเคยเอ่ยว่าอยากให้ทำงานเพียง 6 ชั่วโมง/วันด้วยซ้ำ
แล้วคุณล่ะ อยากทำงานกี่วัน หยุดกี่วัน เพื่อให้สมองได้พักอย่างเต็มที่ และเคยคิดกันไหมว่า บ้านเราจะลดชั่วโมงการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้าง Work-life Balance ได้เหมือนที่อื่นบ้างหรือเปล่า
Sources :
Fast Company | https://bit.ly/2Po4x2Z
K. Anders Ericsson | https://bit.ly/3gGgYSW
Sora News 24 | https://bit.ly/2QASG25
The Conversation | https://bit.ly/3tWIK1v
The Guardian | https://bit.ly/32OUrLS