สมาคมผู้ปกครองและครู (PTA) ประจำโรงเรียนชั้นประถมศึกษาในเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่นผุดไอเดียเด็ด สร้างสรรค์สติกเกอร์ในธีมหยุดการบุลลี่ลงบนแอปพลิเคชันแชตยอดฮิตอย่าง Line
สติกเกอร์นี้มาจากภาพประกอบฝีมือนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษายามาอุจิ (Yamauchi) ในเขตอาโอบะ เมืองโยโกฮาม่า โดยแนบถ้อยคำให้กำลังใจเด็กๆ ไว้ในภาพ ซึ่ง Seijun Sato อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนหวังว่าคนที่ได้ใช้สติกเกอร์เหล่านี้จะได้รับความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
สติกเกอร์ที่ว่ามีทั้งหมด 178 รูปแบบ ประกอบไปด้วยวลีภาษาญี่ปุ่นต่างๆ อาทิ ขอบคุณ, คุณทำได้ดีมาก และ ฉันอยู่ข้างคุณเสมอนะ โดยวางเคียงกับเจ้าการ์ตูนมาสคอตของโรงเรียนที่มีชื่อว่า ‘คีย์ลีฟ (Keyaleaf)’
สติกเกอร์ชุดดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือกับนักวาดภาพประกอบชื่อ ‘โดคุคิโนโกะ (Dokukinoko)’ ซึ่งลูกสาวของนักวาดภาพคนนี้ ก็เข้าเรียนในโรงเรียนประถมฯ เช่นกัน เธอทำสติกเกอร์คีย์ลีฟกับ PTA ในปี 2019 และเปิดตัวโปรเจกต์อื่นๆ เพื่อทำสติกเกอร์จากภาพที่เด็กนักเรียนวาดในปี 2020 ซึ่งทำให้ได้รับภาพวาดทั้งหมดมาจากเด็กๆ จำนวนประมาณ 100 คน
เมื่อเดือนมกราคม 2021 โดคุคิโนโกะยังได้รับรางวัลสูงสุด ประเภทภาพวาดประกอบจากเวที ‘yuru-chara’ โดยศิลปินเข้าร่วมประกวดในธีมป้องกันการฆ่าตัวตายเพราะการถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งรางวัลนี้จัดขึ้นโดยองค์กรไม่แสวงผลกำไรในโตเกียว
ต่อมาในเดือนมิถุนายน ระหว่างการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน โดคุคิโนโกะได้แนะนำให้มีการทำสติกเกอร์ไลน์เพื่อป้องกันการบุลลี่ขึ้นมา เกิดเป็นกลุ่มค้นหาภาพประกอบและคำพูดที่อบอุ่นใจสำหรับเพื่อนๆ จนได้รับผลงานจากนักเรียนจำนวนถึง 178 คน โดยศิลปินสาวใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนวาดภาพสติกเกอร์ให้แล้วเสร็จ ด้วยวิธีการสแกนแต่ละภาพลงบนคอมพิวเตอร์ของเธอเอง
ภูมิหลังของโดคุคิโนะโกะเอง ก็เคยถูกรังแกในสมัยเรียน ซึ่งเธอได้อธิบายไว้ในแนวคิดของโปรเจกต์ว่า “ช่วงนั้นการบุลลี่ มีทั้งความรุนแรงทางคำพูดและการกระทำทางร่างกาย แต่การสังเกตเห็นจากภายนอกกลับยิ่งยากมากขึ้น อย่างในกรณีที่เกิดในโซเชียลมีเดีย ฉันจึงหวังว่าคนในสังคมจะตระหนักถึงการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อการสื่อสารที่อบอุ่นใจ ไม่ใช่เพื่อการกลั่นแกล้ง”
สำหรับคนที่สนใจคีย์ลีฟ สติกเกอร์ไลน์นี้จัดจำหน่ายโดย PTA ประจำโรงเรียนยามาอุจิ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 และกำลังมีการพิจารณาเรื่องรายได้ที่ได้รับให้เด็กนักเรียนได้ใช้ต่อไป
(ต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นโดย Nao Ikeda, Yokohama Bureau)
Sources : The Mainichi | https://cutt.ly/BULTdjW