Inujima เกาะศิลปะที่เลิกถลุงแร่มาดูแลสิ่งแวดล้อม

พูดถึงเกาะศิลปะของญี่ปุ่น ชื่อของ Naoshima คงขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ใครมีเวลามากหน่อย อาจจะเคยแวะไป Teshima หรือ Shodoshima ที่อยู่ใกล้ๆ กัน จริงๆ แล้วในน่านน้ำทะเล Seto Inland ยังมี Inujima เกาะศิลปะอีกแห่งที่กรุบกริบไม่แพ้กัน แถมยังมีสตอรี่เข้มข้นและสภาพแวดล้อมแตกต่างจากเกาะศิลปะอื่นๆ ที่นี่เคยเป็นอดีตที่ตั้งโรงถลุงแร่ทองแดงซึ่งตัวโรงงานยังอยู่ในสภาพดีและถูกปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดเท่ แถมยังมี Art House กระจายตัวอยู่ทั่วเกาะอย่างเก๋ ดูเผินๆ ก็กรุบกริบตามมาตรฐานจริตงานอาร์ตร่วมสมัยญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่สถาปัตยกรรมและงานศิลปะบนเกาะนี้กำลังพยายามทำคือการสร้างมูลค่าใหม่ให้กับโรงงานที่อดีตเคยสร้างความเสียหายให้สิ่งแวดล้อมและนำความเดือดร้อนมาให้คนในชุมชน ถ้ายังไม่เคยไป วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับความใส่ใจที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของอินุจิมะ เกาะศิลปะไซซ์เอสที่มีความยาวรอบเกาะ 36 กม. พื้นที่ 0.54 ตร.กม. และคนอยู่อาศัยประมาณ 50 คน Inujima Seirensho Art Museum อินุจิมะอยู่ในเขตจังหวัดโอคะยะมะ เป็นเกาะหลักในบรรดาหมู่เกาะอินุจิมะและเป็นเกาะเดียวที่มีคนอาศัยอยู่ เป็นเกาะชิลๆ ที่เดินประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงก็ทั่วแล้ว สมัยก่อนนิยมตั้งบนเกาะเพราะอยากลดมลภาวะทางอากาศในตัวเมืองและเพื่อความสะดวกในการขนส่งวัสดุต่างๆ คนในเกาะลงทุนตั้งโรงงานถลุงแร่ทองแดงในปี 1909 แต่อยู่ได้แค่ […]

โปรโมตการท่องเที่ยวแนวใหม่ในญี่ปุ่น ที่ชวนคนมาเที่ยวมัตซึซากิ ล่าหมูป่า ในค่ายซอมบี้ที่รับบทโดยผู้สูงอายุ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องไอเดียบรรเจิดมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็มีสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า ‘ช่างคิดได้’ จริงๆ ล่าสุดที่เมืองมัตซึซากิ จังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งเล็กๆ ในญี่ปุ่น มีไอเดียโปรโมตการท่องเที่ยวที่ดูแปลกแต่น่าสนุกสุดๆ เพราะเขาไม่ได้เปิดเมืองให้แค่ไปท่องเที่ยวแบบธรรมดา แต่เขาให้เราไปเที่ยวค่ายซอมบี้! และซอมบี้ทั้งหมดรับบทโดยผู้สูงอายุในเมืองนี้ด้วย ในคลิปโปรโมตการท่องเที่ยวของเมืองมัตซึซากิ จะมีชายคนหนึ่งชื่อ ‘คาเนะมัตซึ’ กำลังบันทึกภาพตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก ตัดสลับกับภาพกิจกรรมกลางแจ้งที่เขาทำตอนมาถึงเมืองมัตซึซากิ มีทั้งการล่าหมูป่า เดินเขา เก็บส้ม ปั่นจักรยาน จนกระทั่งมาเผชิญหน้ากับซอมบี้และหนีมาหลบอยู่ในภูเขา เพื่ออัปโหลดวิดีโอให้ทุกคนดูว่าตอนนี้เขากำลังเจอซอมบี้ไล่ล่าอยู่ เขายังอธิบายวิธีเอาตัวรอดเอาไว้ว่า “ให้กลั้นหายใจเวลาเจอซอมบี้” นอกจากนี้ยังมีฉากที่คาเนะมัตซึเจอซอมบี้อยู่ในทุกๆ ที่ ทั้งตู้โทรศัพท์สาธารณะในเมือง ที่พัก บนเขา จนกระทั่งเขาถูกกัดและกลายเป็นซอมบี้ในที่สุด ทุกอย่างในคลิปดูสมจริงเอาใจคนรักหนังซอมบี้แบบสุดๆ  แต่จริงๆ แล้วเมืองมัตซึซากิยังไม่มีใครติดเชื้อซอมบี้จริงๆ คลิปนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยว ‘ค่ายซอมบี้’ ประจำปีของเมืองมัตซึซากิ เมืองเล็กๆ ในชนบทบนชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอิซุ และมีประชากรประมาณ 6,000 คนเท่านั้น (ซึ่งไม่มีตัวเลขยืนยันว่าเป็นคนจริงๆ กี่คน และรับบทซอมบี้กี่คน) โชคไม่ดีที่การแพร่ระบาดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มายังมัตซึซากิลดลง และทำการล่าสัตว์ลดน้อยลงไปด้วย ปริมาณกวางและหมูป่าในเมืองจึงเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และสร้างความเสียหายให้กับการส่งออกใบซากุระโมจิซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ หน่วยงานควบคุมศัตรูพืชและสัตว์ของเมืองมัตซึซากิหวังว่าการโปรโมตการท่องเที่ยวค่ายซอมบี้ในครั้งนี้ จะช่วยเรียกนักท่องเที่ยวกลับมาที่เมืองนี้ได้อีกครั้ง แต่ไม่ใช่แค่เพื่อมาดูซอมบี้เท่านั้น พวกเขายังต้องการนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการล่าสัตว์เพราะต้องการควบคุมประชากรกวางและหมูป่าในเมืองด้วย นอกจากการล่าสัตว์แล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมเดินเขา […]

Seibuen Yuenchi สวนสนุกยุคโชวะอายุ 71 ปีที่เอาความคึกคักยุค 60 มาชวนเล่นฉลองวัยเก๋าและวันวาน

โลกแห่งจินตนาการที่พาทุกคนย้อนความทรงจำ คนที่เคยมาเที่ยวโตเกียวน่าจะคุ้นกับชื่อ Seibu กันบ้าง เพราะเป็นหนึ่งในบริษัทรถไฟยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น คุณเซบุเขาทำสวนสนุกด้วยคือ Seibuen Yuenchi (เซบุเอ็น ยูเอ็นจิ) เริ่มสร้างความสนุกมาตั้งแต่ปี 1950 และเพิ่งอายุครบ 70 ปีเมื่อปีที่แล้วเลยรีโนเวตสวนใหม่เพื่อเฉลิมฉลองวัยเก๋า ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมานี้เอง ธีมของสวนเจนฯ ใหม่คือโลกที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและชวนให้อบอุ่นหัวใจ คนที่มาจะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศเก่าๆ สไตล์วินเทจที่ชวนให้คิดถึงยุคโชวะของญี่ปุ่นโดยอิงยุค 60 เป็นหลัก  เราชอบสภาพภูมิประเทศของที่นี่มาก มีการเล่นระดับเนินน้อยใหญ่มากมาย แถมมีต้นไม้เขียวขจีชวนสดชื่น เจ้าหน้าที่ของสวนแอบกระซิบบอกเรามาว่า เมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นป่าเขา ตอนสร้างสวนสนุกเลยพยายามคงสภาพทางธรรมชาตินั้นไว้ให้ได้มากที่สุดรวมไปถึงต้นไม้ด้วย ถ้าเราขึ้นยูเอฟโอที่ชมวิวได้ 360 องศาหรือชิงช้าสวรรค์จะได้เห็นพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยความร่าเริงของสวนสนุกซึ่งหาดูยากในเมืองใหญ่ ส่วนบรรยากาศวินเทจ ถ้าคิดไม่ออกว่าเป็นยังไง ลองคิดว่าเราได้เข้าไปอยู่ในโลกของหนังเรื่อง Always Sunset on the Third Street ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1958 ตอนโตเกียวทาวเวอร์กำลังจะสร้างเสร็จ เราสามารถเดินสำรวจวิถีชีวิตชาวบ้านในย่านที่อยู่อาศัยบนถนนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้คน อันเป็นที่มาของความอบอุ่นที่จับใจ  ความวินเทจก็ลงดีเทลมาก เช่น เมนูอาหาร ราคาสินค้าอาหารต่างๆ ปรับให้เข้ากับยุคนั้นทั้งหมด (เราเลยต้องแลกธนบัตรที่น่ารักสุดใจ) มีขนมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนอย่าง shiberia […]

BOOK AND BED TOKYO โฮสเทลฮิตที่ตอบโจทย์ทั้งการนอน การอ่าน และการทำงานนอกบ้าน

BOOK AND BED TOKYO เป็นโฮสเทลที่มีแนวคิดว่า ทุกคนสามารถดื่มด่ำกับหนังสือจำนวนกว่า 4,000 เล่มที่จัดเก็บในห้องหนังสือขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ได้นอนหลับพักผ่อนบนเตียงสบายๆ เป็นแหล่งพบปะกันของเหล่าหนอนหนังสือ และยังได้จิบเครื่องดื่มจากคาเฟ่ในที่พักระหว่างการอ่านหนังสือหรือทำงานได้อย่างรื่นรมย์ ทำให้โฮสเทลที่เต็มไปด้วยสิ่งพิมพ์มากมายแห่งนี้ เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือในช่วงพักจากการทำงาน อย่างในสาขาชินจูกุ ก็มีชั้นหนังสือเรียงกันเป็นแถวๆ และมีเตียงซ้อนกัน ยิ่งไปกว่านั้น ที่พักสำหรับยอดนักอ่านดังกล่าว ยังเหมาะสมกับคนทำงานแบบ Telework ซึ่งทำงานอยู่ที่ไหนบนโลกก็ได้เสียด้วย ที่พักเจ้าไอเดียนี้ มีจำนวนเตียงทั้งหมด 55 เตียง แบ่งพื้นที่อ่านหนังสือด้วยผ้าม่าน ซึ่งมีให้เลือกทั้งในรูปแบบห้องเดี่ยวและห้องคู่ พร้อมวิวแสงสีช่วงตอนกลางคืนของย่าน Kabukicho ในชินจูกุ ทั้งนี้ยังมีห้องอาบน้ำ และห้องสุขาส่วนกลางที่แยกตามเพศไว้ให้บริการด้วย  จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ BOOK AND BED TOKYO ถูกมองว่าเป็นร้านหนังสือที่ผู้คนมาพักค้างคืนได้ อย่างที่สาขาชินจูกุ ผู้ใช้บริการจะได้รับประสบการณ์การนอนข้างชั้นวางหนังสือประมาณ 2,500 เล่ม ซึ่งมีประเภทและสไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่นวนิยาย มังงะ สมุดภาพ และตำราปรัชญา แม้ว่าจะไม่มีการจัดจำหน่ายหนังสือ แต่บรรดาแขกก็สามารถหยิบมันมาอ่านได้เท่าที่ใจต้องการ ซึ่งโฮสเทลนี้ไม่ได้มีแค่เตียงนอนรองรับคนมาทำงานรูปแบบระยะไกลเท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่มีผู้คนจำนวนมากมาใช้สอยด้วย ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งคิดเป็นจำนวนถึง 70 […]

รณรงค์หยุด Bully ผ่านสติกเกอร์ Line ฝีมือนักเรียนญี่ปุ่นในโยโกฮาม่า

สมาคมผู้ปกครองและครู (PTA) ประจำโรงเรียนชั้นประถมศึกษาในเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่นผุดไอเดียเด็ด สร้างสรรค์สติกเกอร์ในธีมหยุดการบุลลี่ลงบนแอปพลิเคชันแชตยอดฮิตอย่าง Line  สติกเกอร์นี้มาจากภาพประกอบฝีมือนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษายามาอุจิ (Yamauchi) ในเขตอาโอบะ เมืองโยโกฮาม่า โดยแนบถ้อยคำให้กำลังใจเด็กๆ ไว้ในภาพ ซึ่ง Seijun Sato อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนหวังว่าคนที่ได้ใช้สติกเกอร์เหล่านี้จะได้รับความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ สติกเกอร์ที่ว่ามีทั้งหมด 178 รูปแบบ ประกอบไปด้วยวลีภาษาญี่ปุ่นต่างๆ อาทิ ขอบคุณ, คุณทำได้ดีมาก และ ฉันอยู่ข้างคุณเสมอนะ โดยวางเคียงกับเจ้าการ์ตูนมาสคอตของโรงเรียนที่มีชื่อว่า ‘คีย์ลีฟ (Keyaleaf)’ สติกเกอร์ชุดดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือกับนักวาดภาพประกอบชื่อ ‘โดคุคิโนโกะ (Dokukinoko)’ ซึ่งลูกสาวของนักวาดภาพคนนี้ ก็เข้าเรียนในโรงเรียนประถมฯ เช่นกัน เธอทำสติกเกอร์คีย์ลีฟกับ PTA ในปี 2019 และเปิดตัวโปรเจกต์อื่นๆ เพื่อทำสติกเกอร์จากภาพที่เด็กนักเรียนวาดในปี 2020 ซึ่งทำให้ได้รับภาพวาดทั้งหมดมาจากเด็กๆ จำนวนประมาณ 100 คน เมื่อเดือนมกราคม 2021 โดคุคิโนโกะยังได้รับรางวัลสูงสุด ประเภทภาพวาดประกอบจากเวที ‘yuru-chara’ โดยศิลปินเข้าร่วมประกวดในธีมป้องกันการฆ่าตัวตายเพราะการถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งรางวัลนี้จัดขึ้นโดยองค์กรไม่แสวงผลกำไรในโตเกียว  ต่อมาในเดือนมิถุนายน ระหว่างการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน โดคุคิโนโกะได้แนะนำให้มีการทำสติกเกอร์ไลน์เพื่อป้องกันการบุลลี่ขึ้นมา […]

ดูหนังออนไลน์ฟรี! จากเจแปนฟาวน์เดชั่น เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่นแบบออนไลน์ 2565 ช่วง Pre-event ดูฟรี 15 – 22 พ.ย. 64

กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่นแบบออนไลน์ 2565 จากเจแปนฟาวน์เดชั่น ที่จัดฉายภาพยนตร์ญี่ปุ่นแบบออนไลน์ฟรีใน 24 ประเทศ เพื่อส่งเสริมการเผยแพร่ภาพยนตร์ญี่ปุ่นในต่างประเทศและให้แฟนๆ ภาพยนตร์ญี่ปุ่นได้ดูกันแบบจุใจ ในปีที่ผ่านมา เจแปนฟาวน์เดชั่นได้มีการจัดเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่นแบบออนไลน์เป็นครั้งแรก ซึ่งเข้าถึงผู้ชม 20 ประเทศใน 5 ทวีปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยมีการเผยแพร่ภาพยนตร์ญี่ปุ่นมากถึง 30 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายใหม่ไปจนถึงภาพยนตร์คลาสสิก โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีจำนวนการเข้ารับชมทั้งหมดมากกว่า 210,000 ครั้งจากผู้ชมทั่วโลก ในขณะที่โรงภาพยนตร์ในหลายประเทศเป้าหมายยังคงปิดให้บริการ เนื่องมาจากผลกระทบของ COVID-19  ในปีนี้เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่นจะมีขึ้นในรูปแบบออนไลน์เป็นครั้งที่สอง ใน 24 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยและประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ผู้ชมในประเทศไทยสามารถชมภาพยนตร์ได้ถึง 16 เรื่อง พร้อมคำบรรยายเป็นภาษาไทย ได้ฟรีผ่านเว็บไซต์สตรีมภาพยนตร์ญี่ปุ่น ‘JFF+’ ที่ดำเนินการโดยเจแปนฟาวน์เดชั่น ตอนนี้อยู่ในช่วง Pre-event เปิดให้ชมฟรี 5 เรื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 – 22 พฤศจิกายน พ.ศ. […]

มื้อนี้ไม่ง้อแมสก์ ประสบการณ์มื้ออาหารใต้โคมโบราณป้องกันโควิด-19

เรียวกังชื่อ Hoshinoya ในเมืองโตเกียวหัวใส จัดมื้ออาหารในโรงแรมที่เรียกว่า Tokyo Lantern Dinner ซึ่งมีการจัดเตรียมโคมใสที่สร้างสรรค์จากไวนิลให้บรรดาแขกที่มากินข้าว ได้ร่วมมื้ออาหารโดยไม่ต้องสวมแมสก์ให้รำคาญใจกันอีกต่อไป ซึ่งนี่คือหนึ่งในผลผลิตของงานดีไซน์ ที่ทำให้เราเห็นว่าอุตสาหกรรมการออกแบบทั่วโลกต่างก็รับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่แผงกั้นระหว่างโต๊ะกินข้าว หรือรถส่งอาหารแบบไร้การสัมผัส แสดงให้เห็นว่าดีไซเนอร์พยายามจะทำให้การกินข้าวนอกบ้านเป็นเรื่องเป็นไปได้ในช่วงสามปีที่ผ่านมา แม้แต่ในปี 2021 นี้ ผลกระทบของโควิดที่มีต่อการกินข้าวนอกบ้านก็ยังคงมีอยู่เสมอ ส่งผลให้ยังเกิด New Normal เวอร์ชันใหม่ๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ เช่นเดียวกับที่โรงแรม Hoshinoya ในย่าน Otemachi ของกรุงโตเกียว ที่ได้ออกแบบประสบการณ์การกินอาหารในยุคนี้ให้สะดวกสบายมากขึ้น โดยสร้างโคมแทนแผงกั้นใสให้แขกของโรงแรมได้ใช้งาน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิดระหว่างมื้ออาหาร สิ่งนี้ออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าได้รู้สึกถึงความเป็นอิสระ โดยที่ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยระหว่างมื้ออาหาร แผงกั้นจากโคมนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยโรงแรมเอง ซึ่งบันดาลใจมาจากความคุ้นเคยในวัฒนธรรมการใช้โคมของญี่ปุ่น  โดยที่ส่วนยอดของโคมแต่ละอัน จะให้แสงอุ่นนุ่มนวลส่องลงมาจากบริเวณเหนือหัว ทำให้ใบหน้าของผู้ใช้บริการดูสว่างสดใส มองแล้วดูสบายตา เช่นเดียวกับแสงที่ตกกระทบจานอาหาร เจ้าโคมตัวนี้ผลิตโดยร้านโคมเจ้าเก่าแก่ชื่อ Kojima Shoten ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต โดยที่โคมแต่ละชิ้นจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 75 เซนติเมตร และสูงถึง 102 เซนติเมตร ทำให้มีพื้นที่เหลือเฟือในการเพลิดเพลินกับมื้ออาหาร โดยไม่ต้องกังวลหรือกลัวว่าการทานอาหารจะหกเลอะเทอะตัวโคมที่มีความหนา 0.15 เซนติเมตร  ดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังมื้ออาหารที่มีโคมรูปแบบนี้ […]

กินถั่วเน่าญี่ปุ่นวันละแพ็ค ลดอัตราการตายได้ถึง 10%

ใครเป็นแฟนคลับตัวยงของถั่วเน่าญี่ปุ่น หรือ นัตโตะ ยกมือขึ้น ! แต่ใครไม่ชอบก็คงร้องยี้ เพราะเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงด้านกลิ่นเหม็น ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า นัตโตะเป็นอาหารพื้นเมืองรสเลิศของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกินกันตอนเช้า ทำจากถั่วเหลืองนำไปหมักกับเชื้อแบคทีเรีย ที่ชื่อว่า Bacillus Subtilis สายพันธ์ุนัตโตไคเนส ในอุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส จะได้ถั่วหมักที่มาพร้อมเมือก แถมยังมีกลิ่นแรง แต่เทคโนโลยีการผลิตเดี๋ยวนี้สามารถลดกลิ่นได้บ้างแล้ว. กินนัตโตะตายช้ากว่าเดิม แต่อย่างก็ตามนัตโตะถูกยกให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสำหรับทุกวัย ทำให้ศูนย์มะเร็งแห่งชาติเข้ามาทำการวิจัยศึกษากว่า 25 ปี เกี่ยวกับอาหารและอัตราการตายกับกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายกว่า 90,000 คน ในญี่ปุ่น จากการสำรวจและติดตามได้ข้อสรุปว่า  ‘พบว่าผู้ชายและผู้หญิงที่บริโภคถั่วเหลืองหมักหรือนัตโตะ ประมาณ 50 กรัม ลดอัตราการตายถึง 10 % เทียบกับผู้ที่มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารอื่นๆ’ นัตโตะมีสารอาหารป้องกันโรค ศูนย์มะเร็งแห่งชาติยังบอกอีกว่านัตโตะมีแร่ธาตุ และสารอาหารมากมาย ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ และลดโอกาสเส้นเลือดสมองแตก แถมยังมีข้อมูลเสริมอีกว่าในนัตโตะนั้นมีโปรตีน โปรไบโอติกส์ วิตามินบี 12 สารต้านอนุมูลอิสระ และยังมีสารที่ช่วยป้องกันมะเร็งหลายชนิดได้อีกด้วย  ส่วนนัตโตะสามารถปรับไปเป็นเมนูอื่นได้ตามใจชอบ เพื่อการกินได้ง่ายขึ้นชาวญี่ปุ่นจึงมักนำเอาไปผสมกับโชยุหรือซี่อิ๊วญี่ปุ่น ใส่ต้นหอมซอย หัวไชเท้าฝอย ไข่ดิบ หรือนำไปทำเป็นราเม็งนัตโตะ ข้าวผัดนัตโตะ ซูชินัตโตะ […]

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.