
LATEST
เครือข่ายสิ่งแวดล้อมรณรงค์หยุดปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำเทมส์และตรวจคุณภาพน้ำ ให้สะอาดพร้อมว่ายเล่น
กลุ่มรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศอังกฤษ – ‘Sewage Free Thames’ และเครือข่าย เรียกร้องให้ยุติการปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำและเสนอต่อภาครัฐให้ขึ้นทะเบียนสายของแม่น้ำเทมส์ที่ไหลผ่านเมืองออกซ์ฟอร์ดให้คนทั่วไปลงเล่นตามธรรชาติน้ำได้ สำนักข่าว The Guardian ของอังกฤษรายงานวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า หลังจากการผลักดันของเครือข่ายสิ่งแวดล้อม ทางรัฐบาลเปิดเผยว่ามีโอกาสที่แม่น้ำเทมส์จะขึ้นทะเบียนประกาศเป็นจุดลงเล่นน้ำสาธารณะได้เป็นจุดที่สองของสหราชอาณาจักร และตอนนี้ประชาชนกำลังถูกเชิญให้มาร่วมเสนอความเห็นอยู่ หากการประกาศสำเร็จแล้ว ขั้นต่อไปคือการตรวจสอบคุณภาพ และปรับปรุงคุณภาพน้ำเพื่อให้ลงเล่นได้อย่างปลอดภัย นอกเหนือจากแม่น้ำเทมส์ที่ไหลผ่านทางตอนใต้รวมถึงกรุงลอนดอนที่เป็นจุดท่องเที่ยวอย่างสะพานหอคอย (London Bridge) หรือลอนดอนอาย (London Eye) แล้ว แม่น้ำสายแรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นจุดอนุญาตลงเล่นน้ำได้ก็คือ แม่น้ำวอร์ฟ (Wharfe) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ แต่เมื่อเดือนเมษายน 2021 ที่ผ่านมามีการตรวจสอบคุณภาพน้ำในบริเวณนั้น กลับพบว่าอยู่ในระดับ ‘แย่’ เพราะการปล่อยน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดลงแม่น้ำ ประเด็นคุณภาพแม่น้ำและมลพิษทางน้ำนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในอังกฤษเลยทีเดียว ด้วยความที่ลักษณะภูมิศาสตร์เป็นเกาะ มีแม่น้ำไหลผ่านเชื่อมต่อกับทะเล ซึ่งทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมก็ทำให้ผู้คนเชื่อมโยงกับสายน้ำและธรรมชาติ ทำให้ประเด็นนี้ปล่อยผ่านไปไม่ได้ง่ายๆ รายงานล่าสุดจากคณะกรรมการตรวจสอบด้านสภาพแวดล้อม (Environmental Audit Committee) ของอังกฤษเผยว่า เมื่อวันที่ 2 – 3 ตุลาคม 2020 มีน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดถูกปล่อยลงแม่น้ำเทมส์กว่า 2 พันล้านลิตรเทียบเท่ากับสระน้ำมาตรฐานโอลิมปิกกว่า […]
ซัปพอร์ตร้านหนังสืออิสระ พร้อมลุ้นรางวัลหนังสือ 100 เล่มจาก OKMD กับ ‘Bookself : ตัวฉันกับร้านหนังสือ’
ในยุคสมัยที่ร้านหนังสือไม่ได้เป็นแค่สถานที่ซื้อ-ขายหนังสืออย่างเดียว แต่กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็น รวมไปถึงสเปซที่ให้พลังงานดีๆ คนจำนวนไม่น้อยจึงเลือกให้ร้านหนังสือเป็นจุดหมายปลายทางในวันหยุด ซึ่งในอีกทางหนึ่งยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยอย่างเจ้าของร้านหนังสืออิสระทั่วประเทศด้วย เพราะต้องการสนับสนุนร้านหนังสืออิสระและการอ่าน OKMD จึงจัดกิจกรรมสนุกๆ ด้วยการชวนทั้งนักอ่านและคนที่ชื่นชอบร้านหนังสือมาแชร์ร้านหนังสืออิสระในดวงใจ เพื่อลุ้นรับรางวัลเป็นหนังสือจากห้องสมุด OKMD จำนวน 100 เล่ม วิธีการง่ายๆ แค่ถ่ายภาพมุมโปรดในร้านหนังสืออิสระ ไม่ว่าจะเป็นรูปเก่า-ใหม่ เซลฟี่ หน้าปกหนังสือ หรือบรรยากาศร้าน แล้วอธิบายสักหน่อยว่าทำไมถึงชอบร้านหนังสือ หรือเรื่องราวความประทับใจใดก็ได้ แล้วแชร์ลง Instagram หรือ Facebook ตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ พร้อมกับแท็กชวนเพื่อนๆ ที่อยากให้ไปด้วยกัน ใส่โลเคชันร้าน และเติมแฮชแท็ก #OKMDBookself #ตัวฉันกับร้านหนังสือ ให้ครบถ้วน เพียงเท่านี้ก็เตรียมตัวลุ้นรับหนังสือ 100 เล่มที่บ้านได้เลย ใครที่สนใจ ร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยกิจกรรมจะประกาศผลผู้โชคดีในวันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่ OKMD
“ยังมีคนที่ไม่มีสิทธิ์รักใครได้อย่างเป็นทางการ” คุยเรื่องสมรสเท่าเทียมกับคนจัดม็อบ LGBTQ+
แม้หลายคนพร่ำบอกว่าประเทศไทยเฟรนด์ลี่กับ LGBTQ+ มาก แต่เชื่อไหมผ่านมาหลายสิบปี รัฐไทยยังไม่เคยคุ้มครองสิทธิที่พวกเขาจะรักกันได้อย่างเท่าเทียมเลยสักครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อเกือบสองปีก่อนในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 เรายังจดจำบรรยากาศและกิจกรรมของ ‘ม็อบไม่มุ้งมิ้งแต่ตุ้งติ้งค่ะคุณรัฐบาล’ ได้ดี ในฐานะที่เป็นม็อบที่มีสีสันมากที่สุด มีลูกล่อลูกชนมากที่สุด และครีเอทีฟที่สุดในประวัติศาสตร์การชุมนุมของประเทศไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งการต่อบทหนังเรื่อง ‘หอแต๋วแตก’ ที่บิดเอารายละเอียดประเด็นปัญหาทางการเมืองไทยมาสื่อสารอย่างลงตัว การใช้เพลงฮิตในชุมชนคนที่มีความหลากหลายทางเพศเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย การแสดงออกอย่างเสรีผ่านเสื้อผ้าหน้าผมของผู้ชุมนุมที่สดใสจัดจ้าน การปรากฏของธงรุ้งงขนาดใหญ่โบกสะบัดสง่างามกลางถนน รวมถึงการปราศรัยรสแซ่บถึงรากปัญหาเพื่อเรียกร้องสิทธิและเป็นปากเสียงสื่อสารปัญหาใต้พรมที่ LGBTQ+ ต้องเผชิญมาแสนนาน กิจกรรมทั้งหมดสร้างสรรค์ได้อย่างมีลูกเล่นชวนอมยิ้ม แต่ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงหลักการอย่างหนักแน่น เพราะต้องการสนับสนุนจุดยืนของขบวนการประชาธิปไตยเต็มใบ รวมถึงต้องการเรียกร้องและผลักดันประเด็นความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้นจริงสักที ทำให้ แรปเตอร์–สิรภพ อัตโตหิ และเพื่อนสมาชิกกลุ่มเสรีเทยพลัส หยิบเอาไอเดียที่ตัวเองเสนอในแฮชแท็กทวิตเตอร์ #ไอเดียออกม็อบ มาเดบิวต์จัดม็อบแรกในชีวิต ในเวลานั้นประเด็นเรื่องเพศและมูฟเมนต์ #สมรสเท่าเทียม เริ่มมีกระแสพูดถึงอย่างแพร่หลายแล้ว ทว่าเมื่อเกิดม็อบที่โฟกัสถึงสิทธิของคนเพศหลากหลายขึ้น ทั้งยังมี ม็อบไม่มุ้งมิ้งแต่ตุ้งติ้งค่ะคุณรัฐบาล ครั้งที่ 2 และอีกหลายๆ ม็อบตามมา ประกอบกับกลุ่มแอ็กทิวิสต์ที่ต่อสู้เรื่องเพศทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ที่เริ่มมีพื้นที่ เป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็ยิ่งเสริมพลังให้การต่อสู้เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ และขอบเขตบทสนทนาเรื่องนี้ให้ไปไกลกว่าที่เคย ล่าสุดมูฟเมนต์ #สมรสเท่าเทียม ได้กลายเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมอย่างดุเดือดว่า ทำไมรัฐบาลไทยถึงยังไม่ให้ผ่านซะที (วะ) โดยที่แรปเตอร์เองก็ได้ร่วมจัดม็อบสมรสเท่าเทียมในนามเครือข่ายภาคีสีรุ้งเพื่อสมรสเท่าเทียม […]
แคมเปญ Adidas ใช้ภาพเปลือยอกหลายรูปแบบใน #SupportIsEverything เพื่อส่งพลังให้ผู้หญิงมั่นใจ
“เราเชื่อว่า หน้าอกของผู้หญิงทุกรูปทรงและทุกไซส์ ควรได้รับการซัปพอร์ตและได้รับความสบาย นี่คือเหตุผลที่สปอร์ตบรารุ่นใหม่ของเรามีจำนวน 43 สไตล์ เพื่อที่ทุกคนจะได้ค้นหาสิ่งที่ใช่ให้ตัวเอง” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แบรนด์ Sport Wear ชื่อดังอย่าง Adidas ทวีตเมสเสจนี้พร้อมกับภาพหน้าอก 25 รูปแบบ ซึ่งมีอยู่หลากหลายรูปร่าง หลายขนาด และหลายโทนสีผิว โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเน้นย้ำว่า ร่างกายของมนุษย์ควรได้รับการปรับให้เป็นมาตรฐานในทุกรูปแบบ ภาพหน้าอกและเมสเสจเหล่านี้คือ แคมเปญที่แบรนด์ทำเพื่อ Empower ให้ผู้หญิงทุกคนมั่นใจในเรือนร่างของตัวเอง ซึ่งปล่อยออกมาพร้อมกับคอลเลกชันสปอร์ตบราชุดใหม่ล่าสุด Adidas เชื่อมโยงคอลเลกชันนี้ควบคู่กับแฮชแท็ก#SupportIsEverything ซึ่งเมื่อปล่อยออกมาก็ไวรัลในทันที โพสต์ใน Instagram ก็ได้รับความสนใจล้นหลาม ในขณะที่โพสต์ใน Twitter มียอดไลก์กว่าสามหมื่น และหนึ่งหมื่นโควตทวีต ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ผู้คนจะมาร่วมเฉลิมฉลองและซัปพอร์ตแคมเปญ ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งแสดงความเห็นว่า นี่เป็นเรื่องสำคัญ ทำได้ดีมาก Adidas! ในขณะที่ผู้ใช้อีกคนเสริมว่า ในฐานะพ่อของลูกสาวที่เล่นกีฬาสองคน เด็กผู้หญิงจำนวนมากเลิกเล่นกีฬา เพราะไม่สามารถหาชุดที่ใส่สบายและเหมาะสมได้ Adidas ได้ตอบกลับความคิดเห็นต่างๆ ด้วยว่า สิ่งสำคัญก็คือ ต้องทำให้ร่างกายมนุษย์เป็นเรื่องปกติ และช่วยกันสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นถัดไปรู้สึกมั่นใจและไม่อาย เราต้องการให้คนรุ่นหลังมั่นใจในร่างกาย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมภาพนี้จึงมีความสำคัญต่อการแชร์สู่สังคม แต่ก็ไม่ใช่ว่า […]
ที่ทำงานต้องเท่าเทียม Netflix มีสัดส่วนผู้บริหารผิวดำ และพนักงานหญิงเพิ่มขึ้น
Netflix ได้เพิ่มความหลากหลายของพนักงานในสหรัฐอเมริกา รวมถึงผู้บริหารระดับสูงที่เป็นคนผิวดำ เพราะอยากให้องค์กรเป็นภาพสะท้อนถึงประชากรหมู่มาก Bloomberg รายงานว่าจำนวนพนักงานผิวดำที่ Netflix เพิ่มขึ้นมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วน 10.7 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานประจำ และในรายงานประจำปีที่เผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ยังบอกว่า ขณะนี้มีพนักงานผิวดำประจำอยู่ในตำแหน่งบริหารในแดนลุงแซมถึง 13 เปอร์เซ็นต์ ทว่าพนักงานกลุ่ม Hispanic หรือผู้ที่มาจากประเทศที่ใช้ภาษาหรือวัฒนธรรมแบบสเปนเช่น Mexico, Puerto Rico หรือ Cuba มีสัดส่วนเพียง 8.6 เปอร์เซ็นต์และยังมีบทบาทไม่เพียงพอ ตามที่มีการบันทึกมา พนักงานของ Netflix จำนวนมากเกือบถึง 1 ใน 4 ขององค์กรเป็นชาวเอเชีย และพนักงานผู้ชายก็มีอัตราส่วนมากขึ้น ซึ่งความหลากหลายทางเพศและเชื้อชาติได้ถูกหยิบยกมาพูดถึงมากขึ้นในแต่ละองค์กรในช่วงหลายปีมานี้ Starbuck และ Target เริ่มเปิดเผยข้อมูลด้านความเท่าเทียมของพนักงาน รวมถึง Intel ก็รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายเงินตามเพศและเชื้อชาติด้วย ที่ผ่านมาสตรีมมิงชื่อดังจากสหรัฐฯ ได้ว่าจ้างหัวหน้าฝ่าย Diversity & Inclusion หรือความหลากหลายและการผนวกรวมให้เกิดความเท่าเทียมกันในปี 2018 และส่งเสริมการเป็นตัวแทนชนกลุ่มน้อยและชาติพันธุ์ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เมื่อปีที่ผ่านมา Netflix […]
มาเติมความหวานให้ชีวิตกันเถอะ! ชวนซื้อคราฟต์ช็อกโกแลตแบรนด์ไทย คอลเลกชันพิเศษวันวาเลนไทน์
อีกไม่กี่วันจะถึงวันวาเลนไทน์แล้ว หากใครยังไม่รู้จะซื้ออะไรเป็นของขวัญเพื่อฉลองเทศกาลแห่งความรักดี เราขอแนะนำของขวัญสุดคลาสสิกอย่าง ‘ช็อกโกแลต’ ที่ทั้งความหมายดีและใครได้ไปก็ต้องแฮปปี้แน่นอน (โดยเฉพาะคนที่รักช็อกโกแลต) แต่จะซื้อช็อกโกแลตธรรมดาที่มีขายทั่วไปก็คงไม่เหมาะกับวันพิเศษ ถ้าอยากให้คนรับได้กินช็อกโกแลตดีๆ ได้สนับสนุนแบรนด์และเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ในไทยไปด้วย เราขอแนะนำให้เพิ่มกิมมิกด้วยการซื้อ ‘คราฟต์ช็อกโกแลตแบรนด์ไทย’ ที่มีคอลเลกชันพิเศษออกใหม่เฉพาะวันวาเลนไทน์นี้ คราฟต์ช็อกโกแลต คือช็อกโกแลตที่ต้องใช้ความประณีตในการทำ คล้ายๆ กับการทำงานศิลปะ ใช้วัตถุดิบที่ดี และทำด้วยกรรมวิธีที่พิถีพิถัน ทำให้ได้รสชาติของโกโก้จริงๆ และโกโก้ที่ใช้จะมีเอกลักษณ์ทางรสชาติแตกต่างกันตามภูมิประเทศของแหล่งปลูก คราฟต์ช็อกโกแลตจะผลิตครั้งละน้อยๆ ให้ความสำคัญตั้งแต่การคัดสรรแหล่งที่มาของโกโก้ วัตถุดิบที่ใช้หมักเมล็ดโกโก้ ไปจนถึงการทำช็อกโกแลตออกมาเป็นบาร์ ต่างจากช็อกโกแลตที่ถูกผลิตเพื่ออุตสาหกรรมจำนวนมาก (Mass Production) ไม่ได้เน้นความพิถีพิถันและมีการแต่งรส กลิ่น สี ใส่สารเสริมต่างๆ จนทำให้รสชาติที่แท้จริงของช็อกโกแลตแทบไม่หลงเหลืออยู่เลย นี่คือลิสต์ 4 แบรนด์คราฟต์ช็อกโกแลต น่าซื้อเป็นของขวัญวาเลนไทน์นี้ 1. KAD KOKOA แบรนด์ช็อกโกแลตสัญชาติไทยที่พยายามปลุกกระแสโกโก้ไทยให้กลับมาอีกครั้ง ด้วยการพยายามเสาะหาแหล่งปลูกโกโก้ที่มีคุณภาพเพื่อทำช็อกโกแลต Single Origin ของท้องถิ่นนั้นๆ ปีนี้มาพร้อมกับช็อกโกแลต Bonbon Box กล่องสีแดง สร้างสรรค์โดยเชฟไมค์ วางขายตลอดเดือนกุมภาพันธ์จนกว่าของจะหมด ภายในกล่องประกอบด้วย Kad Kokoa Single Origin Dark […]
8 อีเวนต์ต้อนรับวาเลนไทน์ ชวนคู่รักใช้เวลาร่วมกันในวันแห่งความรัก
เทศกาลแห่งความรักที่กำลังจะมาถึงนี้ หลายคนคงกำลังแพลนว่าจะพาคนรู้ใจไปเดตที่ไหนสักที่ จะพาไปช้อปปิงเลือกซื้อของขวัญที่ห้างสรรพสินค้า กุมมือดูหนังรักแสนหวานในโรงภาพยนตร์ หรือทานดินเนอร์สุดหรูใต้แสงเทียนแบบที่เคยทำมาทุกปีดีนะ แต่ถ้าใครเบื่อบรรยากาศเดิมๆ และอยากพาคนรักไปใช้ช่วงเวลาที่ดีร่วมกันในบรรยากาศใหม่ๆ Urban Creature ขออาสาหยิบอีเวนต์น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในวันแห่งความรักนี้ มาให้คู่รักได้เลือกทำกิจกรรมที่โดนใจ ตั้งแต่เดินชมนิทรรศการงานศิลปะ เล่นเซิร์ฟสเก็ตพร้อมเอนจอยกับอาหารอร่อยๆ ในคาเฟ่สไตล์บีชคลับ นั่งฟังเพลงรัก ทำเวิร์กช็อปเย็บปักถักร้อย ถ่ายรูปคู่ในตู้สติกเกอร์ ไปจนถึงกางเต็นท์นอนชิลใต้แสงจันทร์เลยทีเดียว แล้ววันวาเลนไทน์ในปีนี้ของคุณจะน่าจดจำ และอาจทำให้คุณกับคู่รักได้กระชับความสัมพันธ์ อิ่มอก อิ่มใจ และอิ่มเอมไปตลอดการใช้เวลาทำกิจกรรมเหล่านี้ร่วมกันอีกด้วย 01 Art Cart 06 : I love you to Phrom Phong and back SAC Gallery ขอต้อนรับเดือนแห่งความรักด้วยโปรเจกต์ ‘Art Cart 06 : I love you to Phrom Phong and back’ ที่ได้แรงบันดาลใจจากประโยคบอกรักสุดละมุนอย่าง “I love you […]
Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน แสนสิริออกหุ้นกู้ 100 ล้านบาทเพื่อการศึกษาไทย ลดจำนวนเด็กหลุดระบบการศึกษาเป็น ‘ศูนย์’
รู้หรือไม่ว่า มีเด็กยากจนมากมายกำลังจะหลุดจากระบบการศึกษากว่า 1.9 ล้านคน สาเหตุหลักเกิดจากผู้ปกครองมีฐานะยากจน ประกอบกับวิกฤตโรคระบาด ที่ทำให้พ่อแม่มีรายได้น้อยลง ถูกพักงานชั่วคราว หรือตกงาน จึงจำเป็นต้องให้ลูกออกจากระบบการศึกษากลางคัน และตัวเลขของเด็กเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจึงเป็นที่มาของโครงการ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ โครงการที่ ‘แสนสิริ’ ร่วมกับ ‘กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)’ จัดทำขึ้นเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยและลดจำนวนเด็กหลุดจากระบบการศึกษาเป็น ‘ศูนย์’ และแสนสิริต้องการสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมให้คนไทยรับรู้และตระหนักถึงปัญหาด้านการศึกษา จึงได้ออกหุ้นกู้แสนสิริ ระดมทุน 100 ล้านบาท บริจาคให้กับ กสศ. เพื่อใช้ในการดำเนินการโครงการดังกล่าว สำหรับโครงการ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ นี้จะสร้าง ‘ราชบุรีโมเดล’ เป็นจังหวัดต้นแบบ เนื่องจากราชบุรีมีเด็กฐานะยากจน และยากจนพิเศษที่เสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาอยู่ประมาณ 10,000 คน ซึ่งเหมาะสมกับจำนวนเงินระดมทุน 100 ล้านบาท อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่ใกล้กับกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก เพื่อให้พนักงานทุกคนของแสนสิริ ลูกค้า และพันธมิตร ได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมช่วยเหลือเด็กอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญ แสนสิริไม่มีโครงการในจังหวัดนี้ ทำให้มีความโปร่งใสและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน แสนสิริและ กสศ. […]
3D Concrete Printing Pavilion – Design Possibility With A Façade นวัตกรรมงานก่อสร้างเพื่อความยั่งยืน
นอกจากงานดีไซน์สนุกๆ ที่ผลัดเปลี่ยนกันมาจัดแสดงในงาน Bangkok Design Week ทุกปีแล้ว งานนี้ยังเป็นพื้นที่ให้เราได้อัปเดตนวัตกรรมล้ำๆ และเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศทุกปีอีกด้วย ถ้าใครไปงาน Bangkok Design Week 2022 ในช่วงนี้ จะพบกับพาวิลเลียนคอนกรีต 3D ขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่หน้าทางเข้าอาคารที่ว่าการไปรษณีย์กลาง ดูเผินๆ พาวิลเลียนนี้เหมือนโครงสร้างอาคาร แต่จริงๆ แล้วคือ ฟาซาด (Façade) คอนกรีตที่ CPAC Green Solution (ซีแพค กรีน โซลูชัน) ผลิตด้วยเทคนิค 3D Printing ถ้าเดินเข้ามาดูใกล้ๆ และลองสัมผัสจะพบว่าฟาซาดชิ้นนี้พื้นผิวแทบไม่ต่างจากคอนกรีตแบบเดิม แถมยังสร้างลวดลายและออกแบบให้โค้งเว้าได้ไม่จำกัดรูปทรง ที่สำคัญคือทั้งหมดนี้ใช้เวลาพิมพ์แค่ 32 ชั่วโมง และใช้เวลาติดตั้งภายใน 8 ชั่วโมงเท่านั้น ผลงานชิ้นนี้คือ 3D Concrete Printing Pavilion – Design Possibility With A Façade เทคโนโลยีการก่อสร้างจาก CPAC […]
Duxton & Keong Saik เดินเล่นร้านเก่าและร้านเก๋ ย่านประวัติศาสตร์ของชุมชนชาวจีนในสิงคโปร์
ถ้าคุณถามผมเมื่อปีที่แล้วถึงสิงคโปร์ ผมคงส่ายหัวเบาๆ ก่อนตอบแบบไร้เยื่อใยว่าไม่เห็นจะมีอะไรนอกจากเมอร์ไลออน ถนนออร์ชาร์ด เซ็นโตซา การ์เดนส์บายเดอะเบย์ แล้วก็…ข้าวมันไก่ – หารู้ไม่ว่าผมเองจะถูกโชคชะตาและสถานการณ์โควิดพัดพาชีวิตย้ายมาทำงานถึงประเทศนี้ – ประเทศที่ผมเคยบอกว่าไม่มีอะไรเลย คนสิงคโปร์ทำงานกันจริงจัง แต่ก็เที่ยวกันอย่างบ้าคลั่งเช่นเดียวกัน ท่ามกลางสถานการณ์ของโลกที่การเดินทางข้ามประเทศทำได้ยาก ผมถือโอกาสนี้สำรวจย่านต่างๆ ที่น่าสนใจและไม่ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ หนึ่งในนั้นคือย่านแถบถนน Duxton (ดักซ์ตัน) และถนน Keong Saik (ค็องเซค) ครับ “โห แถวนั้นน่ะเหรอ มีแต่ร้านมิชลินเหอะ” – คำตอบจากเพื่อนเจ้าถิ่นเมื่อผมถามถึงย่านแถบถนน Duxton (ดักซ์ตัน) และถนน Keong Saik (ค็องเซค) คำตอบนี้ไม่เกินจริงเลย หากคุณลองกดดูแผนที่ร้านอาหารในเว็บไซต์หลักของมิชลิน ไกด์ในสิงคโปร์ (https://guide.michelin.com/sg/en) จะพบร้านที่ถูกปักหมุดว่าได้ดาวมิชลินหรือไม่ก็บิบ กูร์มองด์ กระจุกตัวอยู่ในย่านนี้นับได้เกินสิบร้าน – ไม่น่าแปลกใจที่ย่านด้านตะวันตกของไชนาทาวน์แถบนี้จะถูกนิยามโดยคนสิงคโปร์ว่าเป็นย่านแห่งร้านอาหารสุดฮิป ที่แม้ชื่อของย่านนี้จะไม่คุ้นหูนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ แต่รับประกันได้ว่าแอบซ่อนอะไรไว้มากกว่าที่คิด หากใครมีโอกาสมาสิงคโปร์อยากให้ลองแวะมาที่ Duxton และ Keong Saik ดูสักครั้ง เพราะถนนสายเล็กๆ ทั้ง 2 […]
ย้อนดูประวัติศาสตร์ผู้ว่าฯ กทม. ก่อนความหวังครั้งใหม่ที่ปลายปากกา
ปี 2563 ที่ผ่านมา ในต่างจังหวัดมีการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งเป็นรัฐบาลท้องถิ่นที่ใกล้ชิดประชาชน คอยทำหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการดำรงชีวิต อย่างเช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.), เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แต่เมื่อหันมามองที่กรุงเทพมหานคร ก็คิดว่า เมื่อไรจะมีการเลือกตั้งกับเขาสักที? คำถามนี้สะท้อนว่า เราไม่ได้เลือกตั้งผู้แทนเข้าไปทำงานเป็นปากเสียงให้มานานมากแล้ว หลังจากอยู่กับปัญหาสะสมเรื้อรังมากมาย ตั้งแต่ อากาศเป็นพิษ รถติดยาวเหยียด ทางเท้าพัง เหยียบแล้วชุ่มโชก รถเมล์ที่มาช้า กะเวลาไม่ได้ น้ำท่วมขังทุกครั้งที่ฝนตก รถไฟฟ้าราคาครึ่งร้อย หรือค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนน่าตกใจว่า จะใช้ชีวิตยังไงให้รอดในแต่ละวัน ฯลฯ จริงๆ แล้วประเด็นพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่คนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งที่เป็นคนพื้นที่ และคนที่เข้ามาเรียน ทำงาน หรือเหตุผลอื่นๆ ต้องเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นำมาสู่คำถามที่ว่า แล้วปัญหาที่อยู่รอบตัวเราในทุกๆ วันแบบนี้ จะแก้ไขหรือจัดการอะไรได้บ้าง ซึ่งหนทางแก้คงหนีไม่พ้นการกลับไปสำรวจว่า คนที่มีอำนาจกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองเป็นอย่างไร งบประมาณก้อนต่างๆ จำนวนมหาศาลที่ได้รับจากภาษีที่ทุกคนจ่ายๆ กันแต่ละปีจัดสรรไปกับอะไรบ้าง ใช้มันคุ้มค่าหรือเปล่า และที่สำคัญคือ เรามีสิทธิ์ ‘เลือก’ ‘ออกแบบ’ หรือ […]
ตามติด #ม็อบชาวนา เสียงสะท้อนปัญหาภาระหนี้สิน และราคาข้าวตกต่ำของเกษตรกรไทย
คนไทยถูกพร่ำสอนให้สำนึกบุญคุณของชาวนาที่ปลูกข้าวให้ทุกคนกินเสมอมา เพราะข้าวแต่ละเม็ดได้มาอย่างยากลำบาก จึงมีการยกย่องให้เกษตรกรเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ถ้าไม่มีชาวไร่ชาวนาประเทศเราจะอยู่ไม่ได้ แต่ในความเป็นจริง กระดูกสันหลังของไทยกลับถูกละเลยให้ทุกข์ยากและลำบากเพียงลำพัง ทำนามากี่ปีๆ ก็ลืมตาอ้าปากไม่ได้สักที ใครที่ติดตามมูฟเมนต์ม็อบการเมืองในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ จะเห็นได้ว่าเกษตรกรหลายร้อยคนจากกว่า 36 จังหวัด ได้เดินทางมาปักหลักชุมนุม ‘ม็อบชาวนา’ ที่หน้ากระทรวงการคลัง บริเวณถนนพระราม 6 ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งช่วยแก้ไขและบรรเทาปัญหาหนี้ ผ่านกระบวนการจัดการหนี้สินของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่มีมติเห็นชอบโครงการดังกล่าว ทั้งที่ค้างคามาเป็นเวลานานกว่า 2 ปีแล้ว นอกจากปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นสวนทางกับราคาผลผลิตที่ตกต่ำลงมาตลอด บวกกับสถานการณ์โควิด-19 และการผันผวนของการเมืองไทยที่มีการรัฐประหารและเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีอยู่บ่อยครั้ง ทำให้นโยบายและการจัดการปัญหาฝั่งเกษตรกรรมไม่จริงจังและไม่ต่อเนื่อง เพราะเอาเข้าจริงก็มีเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทยที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2546 นับเป็นเวลาเกือบยี่สิบปีแล้ว แต่สถานการณ์ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมต่อไป หากยังไม่มีมติจาก ครม. เพื่อให้กองทุนฟื้นฟูฯ เข้ามาช่วยจัดการหนี้สินของเกษตรกรจากธนาคารของรัฐ ด้วยการตัดดอกเบี้ย ลดเงินต้นลง รวมถึงการลดข้อจำกัดที่จะเอื้อให้เกษตรกรชำระหนี้สินได้ในระยะยาว เพราะถ้ารัฐยังไม่มีการจัดการและแผนการรองรับที่ดี อาจทำให้ธนาคารยึดที่ดินของเกษตรกรไทย จนไม่มีที่ดินให้ทำกิน และที่เลวร้ายสุดคือการถูกยึดที่อยู่อาศัย ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสังคมไทยในระยะยาว ล่าสุดม็อบชาวนาได้เจรจากับทางรัฐบาลแล้ว และคาดว่ามติ ครม.จะออกมาในวันที่ 15 […]