The Goodcery ร้านโชห่วยแบบ Selected Shop ที่อยากให้คนเชียงใหม่ได้ชิมของกิ๋นดีๆ จากท้องถิ่นไทย

ถึงคุณจะไม่ใช่คนที่เดินเข้าร้านขายของชำบ่อยๆ หรือเข้าไปทีก็ไม่ได้ใช้เวลาอ้อยอิ่งอยู่ในร้านนานๆ แต่ถ้าได้รู้จัก ‘The Goodcery’ คุณอาจจะเปลี่ยนใจ ไม่ใช่แค่เพราะร้านขายของชำเชียงใหม่ร้านนี้ออกแบบร้านให้ช้อปสนุก เห็นอะไรก็อยากกินอยากซื้อไปเสียหมด แต่ The Goodcery ทลายกรอบของร้านขายของชำเดิมๆ ไปแบบไม่เหลือเค้า ตั้งแต่ชื่อร้าน The Goodcery ที่มาจากคำว่า Grocery Store หรือ ‘ร้านโชห่วย’ ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่าห่วยในภาษาไทย ร้านจึงหยิบคำที่มีความหมายตรงข้ามคือ ‘ดี’ หรือ Good ที่พ้องเสียงกับคำว่า Goods (สินค้า) อีกทีมาตั้งเสียเลย ถ้าถามว่าร้านมี ‘ดี’ อะไรบ้าง อย่างแรกคงเป็นสินค้าภายในร้านที่ไม่เหมือนกับร้านขายของชำร้านไหน เพราะ ‘น้ำตาล-ภัทรานิษฐ์ ศรีจันทร์ดร’ หนึ่งในหุ้นส่วนเลือกเองกับมือ โดยกำหนดเงื่อนไขไว้หลวมๆ ว่าจะต้องเป็นของโลคอลจากฝีมือชาวบ้านตัวเล็กๆ ในท้องถิ่น เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ที่สำคัญคือไม่ใช่สินค้าที่เราเห็นได้ตามห้างฯ ใหญ่ ดีอย่างที่สอง คงยกให้ไวบ์สของร้านที่ก้าวเข้ามาแล้วรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ในร้านขายของชำเลย แต่เป็นคาเฟ่ที่มีกาแฟ ขนมปัง อาหารพร้อมเสิร์ฟ แถมยังนั่งทำงานได้ตลอดทั้งวัน (ซึ่งเราทำแบบนั้นได้จริงๆ) The Goodcery สร้าง ‘ดี’ […]

Studio Ghibli ร่วมมือกับ Toyota เตรียมเปิดให้ใช้บริการ Catbus รถบัสแมวยักษ์จาก My Neighbor Totoro

ในที่สุดแฟนๆ ของภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง ‘My Neighbor Totoro’ ก็จะมีโอกาสได้นั่ง ‘Catbus’ หรือ ‘รถบัสแมว’ ของจริงกันแล้ว โดยความร่วมมือของสตูดิโอผู้สร้างแอนิเมชัน Studio Ghibli และผู้ผลิตรถยนต์ Toyota ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในจังหวัดไอจิ ที่ตั้งเดียวกันกับบ้านของ Ghibli หรือสวนสนุก Ghibli Park ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อปลายปีที่แล้วนั่นเอง Catbus นี้เป็นการนำรถยนต์รุ่น Toyota APM ที่เคยออกแบบไว้สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว​​มาแปลงโฉมใหม่ และเปลี่ยนให้เป็นรถบัสแมวที่รองรับผู้โดยสารได้สูงสุดคันละ 6 คน ก่อนจะเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ราวกับว่าตัวละครแมวในการ์ตูนกำลังคลานอยู่ ที่สำคัญ Catbus ยังขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่ปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศของโลก มั่นใจได้ว่าการเดินทางบนรถบัสแมวจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแน่นอน เบื้องต้นคาดว่า Catbus จำนวน 5 คันจะให้บริการได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2024 และจะมีหน้าที่รับส่งผู้โดยสารรอบๆ Expo 2005 Aichi Commemorative Park ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Ghibli Park Source : DesignTAXI […]

Park Pods พื้นที่สาธารณะเคลื่อนที่บนรถเข็นโรงงาน กับการสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้สวนในเมือง

จบไปแล้วกับงาน Bangkok Design Week 2023 แต่หลากหลายกิจกรรมและนิทรรศการภายในงานยังคงมีส่วนร่วมในการส่งต่อความคิดเห็นที่จะร่วมด้วยช่วยกันเปลี่ยนแปลงเมืองแห่งนี้ให้กลายเป็น ‘เมือง-มิตร-ดี’ ขึ้นจริงในอนาคต หนึ่งในนั้นคือ ‘Park Pods’ พื้นที่สาธารณะเคลื่อนที่บนรถเข็นที่เคลื่อนย้ายการติดตั้งในแต่ละวันไปยังสถานที่ต่างๆ รอบย่านนางเลิ้งในช่วงที่งานจัดขึ้น ทำให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ของการมีพื้นที่สาธารณะรูปแบบใหม่ๆ ใจกลางเมือง Park Pods เป็นผลงานการร่วมมือกันระหว่าง Weekend gardens, Precious Plastic, Weave Artisan และ Urban Studies Lab (USL) ในการออกแบบพื้นที่สาธารณะขึ้นมาบนรถเข็นอุตสาหกรรม (Push Cart) จากโรงงานฟอร์ดที่ปลดระวางพลาสติกรีไซเคิลและเฟอร์นิเจอร์ใช้แล้ว เพื่อท้าทายบรรทัดฐานของพื้นที่สาธารณะแบบเดิมๆ ด้วยการสร้างพื้นที่สาธารณะที่มีตั้งแต่สวน ตู้หนังสือ ที่นั่ง ห้องหลบมุม ตาข่ายเอนตัว หรือแม้กระทั่งโต๊ะหมากรุกขึ้น แต่ละ Park Pods มีขนาดเพียง 10 ตารางเมตร แต่จะมีการพยายามใช้วัสดุรีไซเคิลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และถอดประกอบได้ง่ายสำหรับการขนย้ายเมื่อเกิดปัญหาหรือจัดเก็บเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ในระหว่างการจัดตั้งชิ้นงานประมาณ 9 วันในย่านนางเลิ้ง Park Pods ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้เข้าร่วมงานและคนในชุมชนเอง ทำให้แม้ปัจจุบันมันจะถูกเก็บกลับมาเพื่อรอคอยการร่วมมือใหม่ๆ […]

เข้าใจฮาลาลใน 3 นาที! | Now You Know

‘ฮาลาล’ คือเครื่องหมายที่กำหนดขึ้นเพื่อรับรองมาตรฐานอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับชาวมุสลิม ชุมชนผู้นับถือศาสนาอิสลามคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า อาหารฮาลาลต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามข้อบัญญัติแห่งศาสนาอิสลาม ปราศจากสิ่งต้องห้าม และมีคุณค่าทางอาหาร แต่สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับชาวมุสลิม อาจยังไม่เข้าใจหรือมีข้อสงสัยว่า ผู้ผลิตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและขั้นตอนอะไรบ้าง จึงจะได้รับการประทับตราฮาลาลที่ข้างบรรจุภัณฑ์นั้นๆ Now You Know อีพีนี้ ชวนไปทำความเข้าใจเบื้องต้นว่าฮาลาลคืออะไรมีข้อกำหนดและมาตรฐานผลิตภัณฑ์อย่างไรบ้าง แค่ไม่มีหมูก็ถือว่าเป็นฮาลาลเลยหรือเปล่า

‘ประชาธิปไตยต้องการคุณ’ เว็บไซต์ VOTE 62 ชวนมาเป็นอาสาจับตาดูการเลือกตั้งปี 66

vote62.com คือเว็บไซต์ที่ Opendream, The Momentum, a day BULLETIN และ iLaw ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2562 เพื่อร่วมเป็นกระบอกเสียงสร้างความเข้าใจต่อข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเปิดให้ทุกคนนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ และยังสร้างระบบ Crowdsourcing สำหรับติดตามผลการเลือกตั้งและตรวจสอบการนับคะแนน ในช่วงเวลาที่การเลือกตั้งปี 2566 ใกล้เข้ามาทุกขณะ ทาง VOTE 62 ได้อัปเดตเว็บไซต์ใหม่ และเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครจับตาดูความโปร่งใสในการเลือกตั้ง ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และนี่คือภารกิจ 5 ขั้นตอนที่อาสาสมัครต้องช่วยกัน  1) ไปที่หน่วยเลือกตั้งใกล้บ้านหรือหน่วยเลือกตั้งไหนก็ได้ 2) จับตาการนับคะแนนหลังปิดหีบ นับ ขาน ขีด รวม 3) ถ่ายภาพป้ายประจำหน่วย กระดาษขีดคะแนน และใบรวมคะแนน 4) รายงานผลการเลือกตั้งที่เว็บไซต์ vote62.com 5) กรอกคะแนนเป็นตัวเลข แน่นอนว่าใครๆ ก็เป็นอาสาสมัครรายงานคะแนนผลการเลือกตั้งได้ หากสนใจอยากร่วมโปรเจกต์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/3YLBpAS หรือกรอกแบบฟอร์มการสมัครได้ที่ bit.ly/3YRjLM2 และอย่าลืมแอด […]

Fietsenstalling Stationsplein เปลี่ยนใต้น้ำให้เป็นอาคารจอดจักรยาน จอดฟรี 24 ชม. และจอดได้สูงสุด 11,000 คัน

เมื่อนึกถึงการเดินทางด้วยจักรยาน ภาพเมืองอัมสเตอร์ดัมในประเทศเนเธอร์แลนด์มักจะผุดขึ้นตามมา นั่นเพราะว่าผู้คนในเมืองแห่งนี้นิยมปั่นจักรยาน เพื่อลดการใช้รถยนต์บนท้องถนนซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมลภาวะทางอากาศนั่นเอง  เมื่อทางการรณรงค์ให้ผู้คนเลือกใช้จักรยานมากขึ้น และที่ทางบนพื้นดินก็ดูเหมือนจะจัดสรรได้ยากในปัจจุบัน เนเธอร์แลนด์จึงขยายพื้นที่จอดรถและจักรยานไปยังพื้นที่ใต้ดิน เพื่อแก้ปัญหาการจอดจักรยานบนท้องถนนที่ดูเกะกะตาหรือสร้างความไม่เป็นระเบียบให้กับเมือง ถัดมาในปี 2019 เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์แดนจักรยานก็ได้เริ่มสร้างโปรเจกต์อาคารจอดจักรยานใต้น้ำ เพื่อเปิดพื้นที่แห่งใหม่เป็นตัวช่วยจัดการพาหนะหลักของชาวเมืองอีกหนึ่งแรง โดยอาคารจอดจักรยานแห่งนี้ชื่อว่า ‘Fietsenstalling Stationsplein’ อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานีกลาง ‘Amsterdam Central Station’ ซึ่งเป็นสถานีสำหรับขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าและรถใต้ดิน  อาคารจอดจักรยานใต้น้ำจะแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ เปิดใช้ส่วนแรกไปเมื่อมกราคมที่ผ่านมา และส่วนที่สองก็กำลังมีแผนเปิดให้บริการในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อาคารจอดจักรยานทั้งสองจะสามารถช่วยรองรับจักรยานของชาวเมืองได้ถึง 11,000 คัน โดยสตูดิโอ ‘wUrck Architecture’ ที่รับหน้าที่ออกแบบอาคารแห่งนี้บอกว่า แรงบันดาลใจนั้นมาจากหอยนางรม เสมือนว่าชาวเมืองกำลังพาจักรยานคันโปรดไปตามบันไดเลื่อนผ่านโค้งเลี้ยวลงไปจอดรถในหอยยักษ์ใต้น้ำ เมื่อเข้ามาสู่ด้านในหอยยักษ์หรือตัวอาคาร จะพบกับโถงขนาดใหญ่ที่แบ่งแถวจัดเรียงแนวจอด และแบ่งกติกาต่างๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบ โดยพื้นผิวด้านในที่แห่งนี้จะใช้โทนขาวนวลของไข่มุกมาเป็นแสงสีหลักในพื้นที่ ส่วนด้านบนเพดานถูกออกแบบให้มีกระจกโค้งมนที่ใช้สีฟ้าประดับตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใต้น้ำ แต่ไม่อึดอัดเพราะพื้นที่ด้านในยังถูกดีไซน์ให้รู้สึกสว่างไสว มองเห็นความเรียบง่ายที่กว้างขวางและให้ความรู้สึกนุ่มนวลเย็นสบาย โรงจอดจักรยานใต้น้ำแห่งนี้สามารถมาจอดได้ฟรี 24 ชั่วโมง หรือถ้าใครมีธุระต้องจอดข้ามวันจะคิดค่าจอดวันละ 1.35 ยูโร (ประมาณ 50 บาท) และนอกจากจะเป็นพื้นที่จอดจักรยานของประชาชนทั่วไปแล้ว ที่จอดจักรยานแห่งนี้ยังเริ่มต้นทดลองบริการจักรยานส่วนกลาง (OV-Fiets Bikeshares) เพื่อให้ทุกคนใช้ขี่สัญจรไปมายังที่ต่างๆ […]

‘คบคนในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องน่ากลัว’ ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน และไม่มีกฎตายตัว

หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ออกจะดูไปในแนวคำขู่ ถึงอันตรายของการคบกับคนที่ทำงานในที่เดียวกัน ต้องเจอหน้ากันทุกวัน และอาจเต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมายหากรักไปไม่รอด เนื่องในเดือนแห่งความรักนี้ ผู้เขียนเลยอยากเล่าเรื่องราวที่หลายคนไม่ค่อยพูดถึง แต่ทำให้ใจฟูกันบ้าง นั่นคือ ‘ความรักที่เกิดในที่ทำงาน แล้วมันเวิร์ก สวยงาม และยาวนานยั่งยืน’ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับชายหนุ่มวัย 30 กลางๆ ขอเรียกเขาว่า ‘พี่บี’ แล้วกัน ตั้งแต่รู้จักกับเขาเมื่อหลายปีมาแล้ว ก็สัมผัสถึงความหอมหวานอบอุ่นของความรักระหว่างเขาและแฟน ซึ่งปัจจุบันคือภรรยาของเขา ที่มีให้กันและกันมาโดยตลอด จากบทสนทนาในครั้งนี้ บอกเลยว่าเราได้อะไรกลับไปมากกว่าแค่เคล็ดลับการทะนุถนอมความรักในที่ทำงานเยอะเลย ถ้าความรักดี การได้อยู่กับคนรักเพิ่มขึ้นเท่ากับได้เวลาที่ดีเพิ่มขึ้น “ความรักในที่ทำงาน มันคือตัวคูณ ถ้ามันดี มันจะมีความสุขแบบทวีคูณ แต่ถ้ามันแย่ มันก็พังเป็นเท่าตัวด้วยเหมือนกัน แต่สิ่งที่มาเป็นเส้นแบ่งเพื่อป้องกันไม่ให้ความรักหลงเดินไปในทางที่แย่คือ วุฒิภาวะของทั้งคู่” พี่บีเริ่มต้นบทสนทนาไว้อย่างนี้ และอธิบายเพิ่มว่า ในประเทศไทย เวลาที่เราอยู่ในที่ทำงานนับเป็นประมาณ 40 กว่าชั่วโมงต่ออาทิตย์ ถ้ามันดี ก็เท่ากับได้เวลาที่ดีที่ได้อยู่กับคนรักตั้ง 40 กว่าชั่วโมง แต่ถ้ามันแย่ เต็มไปด้วยความไม่เชื่อใจ น้อยใจ วุ่นวายใจ ฯลฯ แปลว่า 40 กว่าชั่วโมงนั้นจะเกิดการฝ่าฟันทรหดอยู่พอตัว “แต่มันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัวเลย ว่าคบคนที่ทำงานต่างที่กันจะดีเสมอไป หรือคบคนที่ทำงานที่เดียวกันแล้วจะแย่เสมอไป” […]

Meet Cute City เป็นไปได้ไหมหาก ‘กรุงเทพฯ’ จะ ‘โรแมนติก’ มากกว่านี้

อันดับหนึ่งของเมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลกคือ ‘ปารีส’ ประเทศฝรั่งเศส เพราะบ้านเมืองที่นั่นมีศิลปะ มีความงามทางประวัติศาสตร์ รวมถึงร้านอาหาร โรงแรม ให้ผู้คนได้อยู่กับความโรแมนติกไปกับทุกช่วงเวลาสุนทรีย์ของชีวิต ‘ซานฟรานซิสโก’ ประเทศสหรัฐอเมริกา มาเป็นอันดับสอง ที่นั่นมีภูเขาให้มอง มีทัศนียภาพของอ่าวให้ดู มีจุดชมวิว ชมความยิ่งใหญ่ของสะพานชื่อดัง ที่สำคัญมีสวนสาธารณะให้ผู้คนพักผ่อนทำกิจกรรมโรแมนติกได้อีกเพียบ  ส่วนเมืองที่สามได้แก่ ‘อัมสเตอร์ดัม’ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เรียกได้ว่าเป็นเมืองธรรมชาติ ผู้คนใช้จักรยานเดินทางกันเป็นส่วนมาก มีสภาพแวดล้อมที่มีดอกไม้เบ่งบานเป็นสีสันสดใสกันตลอดทั้งปี และยังสามารถนั่งเรือล่องไปในลำคลองมองดูเมืองได้ ทั้งสามเมืองสุดโรแมนติกนี้อ้างอิงมาจากผลสำรวจในปีที่ผ่านมาของ Bounce เว็บไซต์ฝากกระเป๋าชื่อดัง แน่นอนว่าเราไม่สามารถเอาประเทศทั้งหลายเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกับเมืองที่เราอาศัยอยู่ได้ แต่พอลองย้อนกลับมามองที่ ‘กรุงเทพมหานคร’ ต้องบอกว่าเมืองหลวงของไทยหาความโรแมนติกได้ยาก เพราะว่าเมืองนี้ได้กลายเป็นเพียงฉากหลังและมีภาพของการทำงานเป็นสิ่งเคลื่อนไหวทุกเมื่อเชื่อวัน  โดยสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย แจงจำนวนประชากรของประเทศไทยในปีที่ผ่านมาพบว่า ผู้คนที่อยู่ใน กทม.นั้นมีจำนวนถึง 5,494,932 คน ผู้คนมากมายขนาดนี้อยู่กับเมืองที่มีความเร่งรีบขึ้นเรื่อยๆ ติดกับงานที่ต้องทำเพื่อดำรงตนในยุคสมัยที่เศรษฐกิจย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ในวันที่ผู้คนยังคงต้องทำงาน และการเปลี่ยนแปลงสังคมก็ยังมีเรื่องมหาศาลที่ต้องตามแก้ไขกันต่อไป คอลัมน์ Urban Sketch จึงอยากลองออกแบบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้ให้เมืองเกิดความโรแมนติกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ชีวิตที่ผูกติดกับความเร่งรีบได้ผ่อนคลายลง เมื่อผู้คนได้มองเมืองที่มีสิ่งโรแมนติกมากกว่าเดิม หวังว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยเป็นความสุนทรีย์ของชีวิต และคอยหล่อเลี้ยงให้ใจดวงน้อยๆ […]

อาคารถล่มในตุรกี เพราะแผ่นดินไหวหนักหรือโครงสร้างไม่ได้มาตรฐาน?

อาคารพังถล่มกว่า 7,000 หลังผู้เสียชีวิตกว่า 41,000 รายผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100,000 ราย เหล่านี้คือตัวเลขความเสียหายซึ่งเป็นผลพวงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ติดกับพรมแดนประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ยังไม่รวมถึงประชาชนหลายหมื่นรายที่ยังสูญหาย และผู้รอดชีวิตอีกหลายแสนรายที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566) ตุรกีถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ทำให้ทางรัฐบาลกำหนดข้อบังคับในการก่อสร้างอาคารให้ปลอดภัยและต้านทานต่อแผ่นดินไหวได้มาตั้งแต่อดีต แต่สิ่งที่น่าสังเกตเกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งล่าสุดคือ อาคารที่พังถล่มลงมาจำนวนไม่น้อยเป็นอาคารสร้างใหม่ ซึ่งอาจสอดคล้องกับคำเตือนของผู้เชี่ยวชาญในช่วงหลายปีก่อนว่าอาคารใหม่หลายหลังในตุรกีไม่ปลอดภัย เนื่องจากการทุจริตในพื้นที่และนโยบายของรัฐบาล คอลัมน์ Curiocity พาไปหาคำตอบว่า ความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในรอบร้อยปีของตุรกีเกิดจากอะไร เป็นเพราะแผ่นดินไหวที่รุนแรงเทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์ หรือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ทำให้ผลกระทบหลังแผ่นดินไหวรุนแรงกว่าควรจะเป็น ประเทศที่อยู่บนแนวรอยเลื่อนเปลือกโลก แผ่นดินไหวคือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นบ่อยจนเป็นเรื่องปกติในตุรกี เนื่องจากประเทศนี้ตั้งอยู่บนภูมิภาคที่คร่อมอยู่บนแผ่นเปลือกโลกมากถึงสามแผ่น ซึ่งเป็นสาเหตุของแผ่นดินไหวที่รุนแรง โดยบันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุว่า ภูมิภาคนี้เริ่มเกิดแผ่นดินไหวมาอย่างน้อย 2,000 ปีแล้ว ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 17 ที่ตอนนั้นได้ทำลายเมืองหลายสิบแห่งพังราบเป็นหน้ากลอง แผ่นดินไหวขนาด 7.5 และ 7.8 แมกนิจูดครั้งล่าสุดในตุรกีและซีเรียเกิดขึ้นบริเวณ ‘แนวรอยเลื่อนอานาโตเลียตะวันออก’ […]

ย้อนดูหลักฐานการต่อสู้ของประชาชนที่นิทรรศการ ‘วัตถุพยานแห่งการต่อต้าน’ 20 ก.พ. – 26 พ.ค. 66 ที่ มธ. รังสิต

หลายครั้งที่การชุมนุมประท้วงหรือการต่อต้าน มักถูกฉายด้วยภาพจากฝั่งรัฐว่าเป็นการกระทำที่ผิดปกติ ก่อให้เกิดความวุ่นวาย จนประชาชนทั่วไปติดภาพของการออกมาชุมนุมว่าเป็นสิ่งที่เลวร้าย ทั้งที่จริงแล้วในรัฐธรรมนูญไทยหลายฉบับต่างรับรองเสรีภาพในการชุมนุมว่าเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ประชาชนพึงมี เพื่อให้การชุมนุมเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้สื่อสารความต้องการของตัวเองออกมาได้ และในการชุมนุมประท้วงเหล่านี้เอง สิ่งที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือแสดงเจตจำนงอย่างมีศิลปะและความคิดสร้างสรรค์แต่คงไว้ด้วยความตรงไปตรงมา เพื่อให้สารหรือข้อเรียกร้องมีพลังและไปถึงผู้คนที่หลากหลายมากขึ้น นั่นก็คืออุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย หรือวัตถุพยานอื่นๆ ในช่วงเวลานั้นๆ เพื่อรวบรวมวัตถุพยานที่หลงเหลือจากเหตุการณ์การชุมนุมเอาไว้ ‘พิพิธภัณฑ์สามัญชน Museum of Popular History’ จึงได้ร่วมมือกับ ‘พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์’ โดยมี ‘KINJAI CONTEMPORARY’ เป็นผู้จัดร่วมและออกแบบจนเกิดเป็นนิทรรศการ ‘วัตถุพยานแห่งการต่อต้าน (Evidences of Resistance)’ ขึ้น ภายในจะจัดแสดงวัตถุพยานสำคัญของความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยรัฐ รวมไปถึงวัตถุที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์ขันของผู้ชุมนุม ภายใต้สถานการณ์ตึงเครียดจนเหมือนไร้ซึ่งความหวัง เพราะสำหรับประชาชนมือเปล่าที่ไร้อำนาจและอาวุธ ความคิดสร้างสรรค์จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญเพียงไม่กี่อย่างที่พวกเขาใช้ได้  นิทรรศการ ‘วัตถุพยานแห่งการต่อต้าน’ จัดขึ้นที่ห้อง 112 พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ม.ธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 26 พฤษภาคม 2566 โดยเปิดให้เข้าชมได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.30 – […]

3’Orn Co-living ธีสิสหอพักย่านสะพานเหลืองที่อยากลดค่าครองชีพให้ชาว First Jobber

หนึ่งในปัญหาใหญ่ของวัยเริ่มทำงานคือ การต้องตัดสินใจเลือกระหว่างที่พักที่เดินทางไปทำงานสะดวกในราคาสูง หรือลดราคาที่พักลงมาแต่ต้องแลกกับการเดินทางที่ค่อนข้างลำบาก ซึ่งเมื่อคำนวณแล้ว สุดท้ายอาจไม่คุ้มกันอยู่ดี  จะดีกว่าไหม ถ้ามีที่อยู่อาศัยที่ทั้งใกล้ขนส่งมวลชน เดินทางง่าย ห้องพักอยู่สบาย และราคาเหมาะสมที่ไม่ถึงกับต้องตัดค่าใช้จ่ายบางส่วนทิ้งไป ‘อัน-อรวรา เวโรจน์วิวัฒน์’ นิสิตภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มองเห็นปัญหานี้ รวมไปถึงปัญหาการล่มสลายของชุมชนอยู่อาศัยดั้งเดิมในเมืองชั้นใน ซึ่งเกิดจากความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองที่เพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่เมืองชั้นในถูกรื้อ ส่งผลให้ผู้คนในชุมชนย้ายออก ร้านค้าซบเซา มีจำนวนตึกว่างให้เช่าหรือขายเพิ่มขึ้นในพื้นที่ชุมชน  เธอจึงนำมันมาเป็นไอเดียสำหรับการทำธีสิสในหัวข้อ ‘โครงการพัฒนาย่านที่อยู่อาศัยสะพานเหลืองเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชากรวัยทำงานตอนต้นและผู้อาศัยดั้งเดิม’ และไม่ใช่แค่การออกแบบผ่านโครงงานจนได้เป็นวิทยานิพนธ์ดีเด่นประจำปี 2562 เท่านั้น แต่ธีสิสหัวข้อนี้ยังกลายเป็น ‘หอพัก 3’Orn Co-living’ ที่เปิดให้คนเข้าพักได้จริงในย่านสะพานเหลือง ตรงกับความตั้งใจของผู้ออกแบบที่ต้องการทำที่อยู่อาศัยราคาเข้าถึงได้ และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กลุ่ม First Jobber อย่างตัวเอง First Jobber และปัญหาค่าครองชีพในเมือง “ด้วยความที่เราเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ได้รับเงินค่ากินอยู่เป็นรายเดือน ทำให้เป็นกังวลต่อการแบ่งค่าใช้จ่าย ค่ากิน ค่าอยู่ ยิ่งตอนปี 5 ใกล้จะเรียนจบ ก็เริ่มคิดว่าเราจะไปทำงานที่ไหน จะอยู่ยังไง จะจัดการค่าใช้จ่ายยังไง ซึ่งคาบเกี่ยวพอดีกับช่วงที่ทำธีสิส เราเลยเอาความกังวลและคำถามเหล่านั้นไปศึกษาต่อ  “จริงๆ ทำเพื่อตอบคำถามให้ตัวเองแหละ […]

ไขข้อข้องใจสารพันเรื่องผังเมืองกับสถาปนิกผังเมือง | Unlock the City EP.20

เป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะจัดการแก้ไข ‘ผังเมือง’ แล้วเมืองเราจะดีขึ้น เมื่อเกิดข้อถกเถียงกันถึงเรื่องปัญหาจราจร ระบบขนส่งสาธารณะ ความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในเมือง หรือกระทั่งคุณภาพชีวิตโดยรวมของคนเมือง หนึ่งในองค์ประกอบหลักที่ผู้คนมักหยิบมาเป็นคำตอบหรือหนทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนคือ ‘เรื่องผังเมือง’  แน่นอนใครๆ ต่างรู้ว่ากรุงเทพฯ ย่ำแย่ตั้งแต่การวางผังเมืองแล้ว ทว่าในสายตาผู้เชี่ยวชาญและทำงานด้านนี้โดยตรงอย่างสถาปนิกผังเมืองมองเรื่องนี้อย่างไร และในอนาคตปัญหานี้จะแก้ไขได้หรือไม่ ลองมาฟังคำอธิบายของ ‘พนิต ภู่จินดา’ เพื่อไขข้อข้องใจของทุกคนกันในเอพิโสดนี้ ติดตามฟัง Unlock the City ได้ทาง YouTube : https://youtu.be/xg8_SorCeFY Spotify : http://bit.ly/3K9EW8a Apple Podcasts : http://bit.ly/3lwTyUF Podbean : http://bit.ly/3xlXdr2

1 118 119 120 121 122 381

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.