
LATEST
ไม่ต้องไปถึงที่ก็อุดหนุนสินค้าหัตถกรรมไทยได้ ‘ThailandPostMart’ จาก SACIT และไปรษณีย์ไทย แพลตฟอร์มผลักดันงานท้องถิ่นไทยไปสู่สากล
งานหัตถกรรมเป็นสินค้าขึ้นชื่อของไทย ไม่ว่านักท่องเที่ยวชาติไหน หากได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดก็มักจะซื้อสินค้าท้องถิ่นติดไม้ติดมือกลับไปทุกครั้ง แต่ถ้าพวกเขาหรือกระทั่งตัวเราเองไม่ได้มีเวลาแวะเวียนไปล่ะ จะมีทางไหนที่เราสามารถเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมไทยโดยไม่ต้องไปถึงแหล่งบ้าง สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ได้มองหาวิธีการนำเสนอเรื่องเล่าของงานฝีมือผ่านสินค้าชนิดต่างๆ จากผู้ประกอบการ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ ส่งต่อไปให้กับคนนอกชุมชน เพื่อสร้างฐานลูกค้าในวงกว้าง และเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตให้สามารถจำหน่ายสินค้าถึงมือผู้บริโภคอย่างมีคุณภาพ จากแนวคิดนี้นำมาสู่การร่วมมือกันระหว่าง SACIT และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขยายการจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมไทยบนช่องทางออนไลน์ในรูปแบบ ‘เลือก สั่ง จ่าย ส่ง’ หวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้างานหัตถกรรมไทยได้ง่ายขึ้น พร้อมจัดส่งถึงมือลูกค้าผ่านแพลตฟอร์ม www.thailandpostmart.com ความพิเศษคือ ไม่ใช่แค่ลูกค้าในประเทศไทยเท่านั้นที่สั่งสินค้าได้ แต่ลูกค้านอกประเทศเองก็สั่งสินค้าได้ด้วยเหมือนกัน ถือว่าเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงงานศิลปหัตถกรรมไทยในกลุ่มลูกค้าสากล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืนของสินค้าประเภทนี้ในไทย นอกจากสินค้าหัตถกรรมแล้ว บนแพลตฟอร์มนี้ยังมีสินค้าท้องถิ่นอื่นๆ ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคหลากหลายชนิดให้เลือกซื้ออีกด้วย ใครที่อยากสนับสนุนผู้ประกอบการไทย แค่เลือกดู กดสั่ง และจ่ายเงิน หลังจากนั้นก็รอรับสินค้าที่ไปรษณีย์ไทยมาส่งให้ถึงหน้าบ้านได้เลย
‘โซล เกาหลีใต้’ เมืองที่เชื่อว่าฝุ่นจะหมด ฟ้าจะใสในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้วยนโยบาย Clearer Seoul 2030
ท้องฟ้ามัวๆ สีเทาอมเหลืองกลายเป็นภาพที่ชินตาของประชาชนชาวเกาหลีใต้ ถึงขนาดกลายเป็นมุกตลกว่า เหตุผลที่คนเกาหลีใต้ชอบสวมเสื้อผ้าสีดำก็เพราะว่าถ้าใส่เสื้อผ้าสีอ่อนหรือสีขาวออกจากบ้านไป กลับบ้านมาจะได้เสื้อสีเทาเพราะฝุ่นแทน แต่วันนี้มุกตลกเหล่านั้นอาจใช้ไม่ได้แล้ว เพราะเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา (2025) อินสตาแกรมทางการของรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ลงประกาศเฉลิมฉลองวันที่เกาหลีใต้มีอากาศสะอาด ฝุ่นลดลงสูงสุดในรอบหลายปี ด้วยหลากหลายนโยบายและความพยายามของชาวเกาหลีใต้ โดยนโยบายที่โดดเด่นที่สุดก็คือ Clearer Seoul 2030 ที่สืบเนื่องมาจากนโยบาย Clear Seoul ในปี 2007 ซึ่งเป็นความพยายามสร้างอากาศสะอาดให้ชาวแทฮันมินกุกได้หายใจกันอย่างเต็มปอดยาวนานกว่า 20 ปี เปลี่ยนรถบนท้องถนนเพื่อลดฝุ่น หลังพบว่า 28 เปอร์เซ็นต์ของสาเหตุการเกิดฝุ่น PM 2.5 เกิดจากรถยนต์ดีเซล รัฐบาลเกาหลีใต้จึงออกแผนเปลี่ยนรถยนต์ดีเซลทั่วเมืองให้กลายเป็นรถที่ปล่อยมลพิษต่ำ โดยเฉพาะรถที่ต้องวิ่งระยะใกล้เข้าตัวเมือง ซอยบ้านเรือนและเขตที่พักอาศัยบ่อยๆ อย่างรถขนส่งพัสดุ รถบัสเข้าเมือง (Town Bus) หรือแม้กระทั่งรถทำความสะอาด รวมถึงมอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร เนื่องจากวัฒนธรรมการสั่งอาหารเดลิเวอรีที่เติบโตมากในเกาหลีใต้ ด้วยรูปแบบอาหารคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างต็อกโบกี ไก่ทอด หรือเบอร์เกอร์ง่ายๆ สำหรับมื้อดึก อีกทั้งวัฒนธรรม ‘ฮนจก’ หรือวัฒนธรรมการชอบอยู่คนเดียวของคนเกาหลีใต้ ขัดกับร้านอาหารที่มักเสิร์ฟเป็นมื้อใหญ่และบางร้านไม่รับลูกค้าเพียงคนเดียวสำหรับการเปิดโต๊ะ ความนิยมสั่งข้าวมากินที่บ้านจึงเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มอเตอร์ไซค์ส่งอาหารต้องวิ่งวนอยู่ในเขตเมืองตลอดทั้งวันทั้งคืน มอเตอร์ไซค์เหล่านี้ถูกสั่งให้เปลี่ยนเป็นยานพาหนะไฟฟ้าทั้งหมด เพราะจักรยานยนต์เป็นหนึ่งในต้นตอปัญหาที่ปล่อยมลพิษสูง นอกจากนั้น […]
Thaipography Archive แพลตฟอร์มคลังป้ายฟอนต์ไทย จากกลุ่มคนรักในตัวอักษรที่จะมาป้ายยาให้คนสนใจป้ายมากขึ้น
นี่คือเว็บไซต์รวบรวมการออกแบบฟอนต์ไทย โดย ‘บูม-พร้อมพรรณ ศุขสุเมฆ’ ที่อยากชวนทุกคนหยุดดูป้ายร้านค้า ตึก อาคารบ้านเรือนให้นานขึ้น พร้อมถ่ายภาพเก็บไว้ลงคลัง เพราะเมื่อผ่านไปแล้วเราอาจไม่มีโอกาสได้กลับมาเห็นป้ายเหล่านี้อีก Thaipography Archive เป็นส่วนหนึ่งของ Thaipography Project ที่มาจากความตั้งใจออกแบบฟอนต์ตัวอักษรไทยแล้วนำมาดัดแปลงเป็นตัวอักษรแบบละติน หรือกลุ่มตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยังคงความเป็นไทยอยู่ ซึ่งเป็นกระบวนการออกแบบตัวอักษรแบบย้อนกลับ เพราะปกติการออกแบบฟอนต์ภาษาไทยที่ใช้กันทั่วไปนั้นจะออกแบบด้วยตัวละตินก่อนแล้วค่อยแปลงเป็นภาษาไทย นับเป็น ‘การทดลอง’ เล็กๆ ของผู้มีความสนใจในตัวอักษรว่า หากเราสลับวิธีออกแบบแล้ว คนไทยจะดูออกไหมว่าฟอนต์นี้เริ่มต้นจากแบบอักษรไทย และชาวต่างชาติจะอ่านตัวอักษรละตินเหล่านี้ออกไหมหากสวมความเป็นไทยเข้าไป ซึ่งก่อนจะนำมาสู่กระบวนการทดลองทั้งหมดก็ต้องมีคลังรูปแบบตัวอักษรไทยที่มากพอจะเห็นเอกลักษณ์และแนวทางได้ แพลตฟอร์มคลังป้ายตัวอักษรไทยจึงถือกำเนิดขึ้นมา ด้วยเวลากว่า 6 ปีที่บูมสนใจในเรื่องตัวอักษรและลายเส้นของไทย เธอเริ่มจากการศึกษาข้อมูลที่รวบรวมตัวอักษรและการออกแบบของไทย จนปี 2022 บูมเจอหนังสือ ‘แกะรอยตัวพิมพ์ไทย’ ของ ‘ประชา สุวีรานนท์’ และได้รู้ว่าอาจารย์ใช้เวลาเป็น 10 ปีในการรวบรวมรูปแบบการออกแบบ และทำให้รู้ว่ามีคนสนใจเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ยังขาดแหล่งที่รวบรวมการออกแบบ ฟอนต์ และแบบตัวอักษรที่อาจสูญหายไว้ เธอจึงสร้าง Thaipography Archive ไว้เป็นพื้นที่แบ่งปันและเก็บรักษางานออกแบบดีๆ พร้อมชวนผู้ที่สนใจในภาพป้ายไทยอย่าง @thaiposign และ @thaipography_photo มาช่วยรวบรวมตัวอักษรและเรียนรู้ข้อมูลงานออกแบบเหล่านี้ให้ละเอียดขึ้น โดยคาดหวังให้แพลตฟอร์มนี้เป็นแหล่งความรู้สำหรับนักเรียน […]
‘Sakamoto Days’ ช่วยซาคาโมโตะออกแบบร้านชำแห่งใหม่ในไทย ให้กลมกลืนกับพื้นที่และเฟรนด์ลีกับลูกค้าทุกคน
ถึงจะวางมือจากการรับจ้างฆ่าและผันตัวเป็นเจ้าของร้านขายของชำไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าในแต่ละวันของ ‘ซาคาโมโตะ ทาโร่’ ในการ์ตูนเรื่อง Sakamoto Days จะไม่ได้ขายของอย่างสงบสุขเลยสักครั้ง เพราะมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาเยี่ยมเยียนและสร้างความปวดหัวให้กับร้านทุกวัน และถ้าจะต้องเปิดร้านขายของไป เตรียมต่อสู้กับเหล่านักฆ่าที่หมายจะเอาค่าหัวไป ร้านชำแห่งนี้คงเจ๊งกะบ๊งแน่ๆ เพื่อความสงบสุข ครอบครัวซาคาโมโตะและเหล่าพนักงานอาจต้องโยกย้ายไปอยู่ทำเลใหม่ หลบหนีพวกนักฆ่า คอลัมน์ Urban Isekai ขอชวนซาคาโมโตะซังมาตั้งรกรากที่ไทย และช่วยออกแบบร้านชำแห่งใหม่ให้กลมกลืนกับพื้นที่ แถมได้ช่วยเหลือผู้คนตามที่ให้สัญญากับภรรยาด้วย เลือกทำเลในชุมชนให้อยู่ใกล้ผู้คนมากที่สุด ก่อนจะตั้งร้านก็ต้องเลือกทำเลที่บริการได้อย่างทั่วถึงก่อน เราจึงแนะนำซาคาโมโตะให้เลือกเปิดสาขาใหม่ในชุมชนที่อยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล วัด เพื่อเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ผู้คนจะนึกถึงเวลาซื้อของ และเพื่อความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการสาธารณะ (เกิดมีการต่อสู้ขึ้นมาอีกจะได้มีสถานที่รองรับ) รวมไปถึงเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ ให้คนในชุมชน หรือเหล่านักฆ่าที่ผันตัวมาเป็นครอบครัวพนักงานร้านชำซาคาโมโตะได้มาพบปะกัน ต้องการสินค้าอะไร ซาคาโมโตะหาได้ทุกอย่าง เป็นแหล่งขายสินค้าในชุมชนทั้งทีก็ต้องพร้อมให้บริการอย่างครบวงจร ไม่ว่าใครต้องการอะไร ซาคาโมโตะจะหามาให้ทุกอย่าง ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ หากเป็นสินค้าที่ไม่มีอยู่ในสต๊อก ก็แค่แจ้งความต้องการทิ้งไว้ ถ้าได้สินค้าชิ้นนั้นมาแล้วทางร้านจะรีบแจ้งให้ลูกค้ากลับมารับสินค้าที่สั่งไว้ทันที แต่ขอเตือนเอาไว้ก่อนว่า อย่าคิดจะสั่งสินค้าที่หามาไม่ได้จริงๆ เพราะเหล่าลูกน้องนักฆ่าของซาคาโมโตะพร้อมจะสั่งสอนอยู่ตลอดเวลานะ! อาหารรองท้อง พร้อมดื่ม พร้อมทาน ไม่ใช่แค่ของใช้หรือของสดเท่านั้นที่มีให้ แต่ร้านแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ฝากท้องให้คนในชุมชนด้วย กับเมนูง่ายๆ กินได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำเต้าหู้ […]
ตามล่า ‘ฝาท่อเยาวราช’ ผ่านแอปฯ Coral 18 ลาย 18 จุด แลกของรางวัลฟรี จาก รพ.เทียนฟ้ามูลนิธิ ถึงบริพัตร คลองโอ่งอ่าง
การเดินในเมืองจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยแอปพลิเคชัน Coral ที่ชวนทุกคนมาตามล่าลาย ‘ฝาท่อเยาวราช’ เพื่อชมงานศิลปะและศึกษาประวัติศาสตร์ของย่านนี้ไปพร้อมๆ กัน เพียงแค่โหลดแอปฯ Coral จากนั้นเข้าไปในหน้ากิจกรรม ‘ฝาท่อ Chinatown เยาวราช’ แล้วเปิดแมปเดินตามเก็บ 18 ลายฝาท่อ จาก 18 โลเคชัน ตั้งแต่บริเวณหน้าโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิไปจนถึงถนนบริพัตร คลองโอ่งอ่าง โดยใช้ฟังก์ชันเปลี่ยนจากฝาท่อจริงให้กลายเป็นของสะสมดิจิทัลลายฝาท่อได้เลย มากไปกว่านั้น ภายในแอปฯ ยังมีรายละเอียดภาพวาดและสถานที่ของลวดลายฝาท่อนั้นๆ ให้เราอ่านกันด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการศึกษาประวัติศาสตร์และเรื่องราวของพื้นที่บนถนนเยาวราชแบบสนุกๆ ด้วยการนำแนวคิด Gamification มาประยุกต์ ส่วนใครที่เก็บฝาท่อดิจิทัลคู่กับตัวฝาท่อจริงครบแล้ว ก็ไปแลกรับของที่ระลึกสุดน่ารัก สติกเกอร์ลายฝาท่อ และตราปั๊มได้ที่1) ร้าน Culture Connex ชุมชนเลื่อนฤทธิ์ เวลา 11.00 – 19.00 น. (ปิดวันจันทร์)2) อาคารพิชัยญาติ เคาน์เตอร์บริการลูกค้า ชั้น 2 เวลา 07.00 – 21.00 น. ทุกวัน3) ร้าน […]
‘บ้านผีเสื้อ’ เชียงใหม่ บ้านหลังแรกของโลก ที่ใช้พลังงานสะอาด และผลิตไฟฟ้าด้วยตัวเองได้ 100%
บ้านพักอาศัยบนพื้นที่ 18 ไร่ ที่เชียงใหม่หลังนี้มีความโดดเด่นคือ เป็นบ้านที่พึ่งพาตนเองจากพลังงานแสงอาทิตย์ 100% โดยใช้เทคโนโลยีอิเล็กโทรไลเซอร์ไฮโดรเจนในการแปลงน้ำเป็นไฮโดรเจน เพื่อผลิต จัดเก็บ และใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงาน ทำให้บ้านสามารถผลิตพลังงานเองได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้า บ้านผีเสื้อ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีเป้าหมายในการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ด้วยการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ตอบสนองต่อความพยายามในการเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ของประเทศไทย ที่นี่ใช้ระบบพลังงานแบบออฟกริดโดยอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อนำมาขับเคลื่อนบ้านด้วยพลังงานสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในช่วงที่ไม่มีแสงแดด ก็ยังมีการจ่ายพลังงานอย่างต่อเนื่องและเสถียร โดยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและไม่ปล่อยคาร์บอน ด้วยระบบของแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 140 กิโลวัตต์ (kWp) ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงกลางวันเพื่อใช้ในบ้านและตอบสนองความต้องการพลังงานทันที ขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์ส่วนเกินจะถูกนำมาผลิตไฮโดรเจนผ่านอิเล็กโทรไลเซอร์ขนาด 20 kW ที่ทำการแยกน้ำออกเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน ไฮโดรเจนจะถูกเก็บในรูปแบบก๊าซที่แรงดัน 35 บาร์ ในถังจะเก็บไฮโดรเจนได้สูงสุด 42 กิโลกรัม ซึ่งสามารถจ่ายพลังงานให้กับบ้านได้ประมาณ 600 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ในเวลากลางคืนหรือช่วงที่มีแสงแดดน้อย ไฮโดรเจนที่เก็บไว้จะถูกแปลงกลับเป็นกระแสไฟฟ้าโดยใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Fuel Cell) ขนาด 8 กิโลวัตต์ […]
Unsolved Mysteries ปริศนาไร้คำตอบ
ทุกแห่งหน ทุกมุมถนน และทุกซอกซอยของเมือง ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความน่าสงสัยที่ซ่อนอยู่โดยไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร แปลก สวยงาม ประหลาด หรือความบังเอิญ สิ่งที่คุณเห็นเกิดจากมุมมองและการตีความ ไม่มีสิ่งใดถูก และแน่นอนไม่มีสิ่งใดผิด ลองมองโลกให้ใกล้ขึ้นอีกนิด บางที ‘ปริศนาไร้คำตอบนี้’ อาจจะปรากฏอยู่ตรงหน้าของคุณก็เป็นได้ ติดตามผลงานของ พีระ วรปรีชาพาณิชย์ ต่อได้ที่ peera-vora.com หากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected]
‘Architecture for Dogs’ นิทรรศการผลงานการออกแบบสำหรับสุนัข เพื่อให้น้องหมาใช้งานได้ตามความต้องการ
คนเลี้ยงสัตว์เข้าใจดีว่า เฟอร์นิเจอร์หรืองานออกแบบบางชิ้นไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อรองรับนิสัยหรือการใช้งานของน้องหมาน้องแมวในบ้าน ทำให้หลายครั้งเราต้องรับหน้าที่ดัดแปลงหรือปรับของใช้เหล่านั้นให้เด็กๆ ใช้งานได้ แต่คงจะดีไม่น้อยถ้ามีเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อน้องหมาน้องแมวของเราโดยเฉพาะ Architecture for Dogs คือนิทรรศการที่รวมผลงานของสถาปนิกและนักออกแบบในแวดวงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ ที่ไม่ใช่แค่คอกหรือที่นอนทั่วๆ ไป แต่มีความพิเศษตรงที่เข้าใจในความต้องการของน้องหมา ซึ่งก่อนหน้านี้งานนี้ได้เดินทางไปจัดแสดงมาแล้วหลายประเทศ และตอนนี้ก็กำลังจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ ADI Design ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ชิ้นงานออกแบบที่ว่ามีตั้งแต่ผลงานของ ‘Hiroshi Naito’ ที่ออกแบบที่นอนทำความเย็นสำหรับสุนัขสายพันธุ์ Spitz ขึ้นมา เนื่องจากเป็นพันธุ์ขนยาว ทำให้เขาสังเกตเห็นว่าในช่วงฤดูร้อน Pepe น้องหมาที่จากไปแล้วของเขามักจะชอบไปนอนอยู่บนพื้นกระเบื้องบริเวณที่อาบน้ำเพื่อช่วยลดอุณหภูมิลง จึงออกแบบท่ออะลูมิเนียมสำหรับใส่ถุงน้ำแข็งด้านใน พร้อมกับสอดแผ่นไม้สลับกับท่อเพื่อให้น้องหมาไม่ลื่นในระหว่างที่ใช้งานที่นอนนี้ หรือบ้านรถเข็นสำหรับ Shiba ของ ‘Toyo Ito’ ที่อยากให้เจ้าหมาออกไปข้างนอกกับเจ้าของได้ทุกวันแม้จะแก่จนเดินไม่ไหวก็ตาม รถเข็นนี้ออกแบบมาให้อากาศถ่ายเทได้ดี มีเบาะนุ่มๆ รองรับ มีร่มหลังคาที่เปิด-ปิดได้หลายระดับเพื่อช่วยบังแดดบังฝน และมีการออกแบบพื้นรถให้ต่ำที่สุดเพื่อที่เจ้าหมาจะได้ขึ้น-ลงรถอย่างสะดวก นิทรรศการ Architecture for Dogs จะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 หากใครมีโอกาสไปที่มิลานก็แวะไปชมได้ที่ ADI Design Museum หรือหากใครอยากนำชิ้นงานเหล่านี้มาปรับใช้กับน้องหมาที่บ้านบ้าง […]
หนึ่งวันกับ ‘นาเกลือ’ ย่านเก่าแก่กว่า 100 ปี ใจกลางพัทยา พื้นที่ประมงเชิงอนุรักษ์ และชุมชนวิถีชีวิตคนจีน
ทะเล เมืองแห่งการท่องเที่ยว เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันความบันเทิง และภาพชาวต่างชาติที่นั่งอยู่เต็มหาด พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวเก๋ๆ มากมาย คือภาพจำของ ‘พัทยา’ ที่ถามร้อยคนก็คงตอบทำนองนี้เกือบร้อยคน แต่ใครจะรู้ล่ะว่า ท่ามกลางความเจริญในพัทยาแห่งนี้ จะมี ‘ชุมชนนาเกลือ’ ชุมชนเก่าแก่ที่ยังมีชีวิตซ่อนตัวอยู่ที่นี่ด้วย คอลัมน์ One Day With… ขอพักปอด หนีฝุ่นในเมืองไปสูดกลิ่นทะเลที่ชุมชนนาเกลือ ชุมชนชาวจีนเก่าแก่ใจกลางพัทยากับกิจกรรม ‘เดินศึกษาย่านเก่านาเกลือ’ ที่จะพาทุกคนมาร่วมสัมผัสวิถีชีวิตชาวนาเกลือตั้งแต่การกิน การอยู่ ไปจนถึงการมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในชุมชน ผ่านการนำชมของ ‘ไกด์คุณป้า’ ที่เกิดและเติบโตในชุมชน การันตีว่าเราจะได้รู้ทุกซอกทุกมุมที่น่าสนใจของชุมชน แถมการมาเที่ยวที่นี่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนให้ชุมชนนาเกลือแห่งนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วย ‘เดินศึกษาย่านเก่านาเกลือ’ เป็นกิจกรรมจากกลุ่มปั้นเมืองที่ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมืองพัทยา และชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนนาเกลือ ในการขับเคลื่อนแผนงานให้เกิดขึ้นและเป็นไปตามวิสัยทัศน์ ‘นาเกลือย่านเก่าสร้างสรรค์ (Na Kluea-Creative Old Town)’ เพื่อฟื้นฟูย่านนาเกลือ รักษาวิถีชีวิต วัฒนธรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้ย่านนาเกลือแห่งนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เหล่าไกด์คุณป้าที่เกิดและเติบโตมาเป็นอย่างดีในชุมชนนาเกลือ เป็นผู้ที่จะพาเราเดินทางในกิจกรรมวันนี้ การเดินสำรวจชุมชนนาเกลือเริ่มต้นด้วยการสักการะ ‘องค์เซียนซือ’ องค์ประธานของ ‘มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน’ และเป็นเทพเจ้าที่ชาวบ้านในย่านนี้นับถือ เนื่องจากเป็นเทพเจ้าแห่งการกุศลและช่วยเหลือคน “ทุกวันที่หนึ่งและสิบห้าของทุกเดือนจะมีพิธีทรงเจ้า คนส่วนใหญ่มักมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์และเอารถมาให้คนทรงช่วยเจิมให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต” […]
‘House of Lucie Samui & Samui Art Center’ พัฒนาพื้นที่และสร้างแรงบันดาลใจด้วยศิลปะ บนแลนด์มาร์กทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของสมุย
หมุดหมายแห่งใหม่ของการไปเที่ยวเกาะสมุยอาจไม่ได้มีเพียงชายหาดอีกต่อไป แต่ยังมี ‘House of Lucie Samui & Samui Art Center’ อาคารจัดแสดงผลงานศิลปะ 3 ชั้นที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเมืองร้อน จัดตั้งขึ้นเพื่อมอบโอกาสให้ศิลปินท้องถิ่นทุกแขนงเข้ามาติดต่อใช้พื้นที่ในการแสดงผลงานได้ฟรี ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ภาพวาด งานปั้น หรืองานแกะสลักก็ตาม นอกจากนี้ยังจัดให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน ทั้งการจัดเวิร์กช็อปและงานเสวนาเกี่ยวกับศิลปะในแง่ต่างๆ อีกทั้งยังมีกิจกรรม One Shot-One Minute ที่ผู้เข้าร่วมงานต่างๆ ที่จัดขึ้นภายใต้อาร์ตเซ็นเตอร์แห่งนี้สามารถเข้ามาแบ่งปันภาพถ่ายและพูดคุยถึงความรู้สึกในภาพนั้นๆ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องราวของศิลปะได้มากขึ้นด้วย โดยตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนของชั้นที่ 1 และ 2 เป็นบริเวณของหอศิลปะสมุยที่จะจัดแสดงงานศิลปะท้องถิ่นในรูปแบบของภาพวาด งานปั้น และงานแกะสลัก ส่วนด้านบนชั้น 3 เป็นบริเวณของ ‘House of Lucie’ ที่ใช้จัดแสดงผลงานภาพถ่ายโดยเฉพาะ ในแต่ละครั้งนิทรรศการจะจัดแสดงนานถึง 1 – 2 เดือน เพื่อหวังว่าจะช่วยเสริมกำลังใจแก่ศิลปิน และเปิดโอกาสในการสร้างรายได้จากศิลปะของพวกเขาให้มากขึ้น พื้นที่ทางวัฒนธรรมแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือของ ‘ฮอสเซน ฟาร์มานี’ […]
รวมธุรกิจแบบจีนๆ ในย่านตลาดน้อยที่รวมอายุได้กว่า 500 ปี ส่วนผสมไทย-จีน ที่จะทำให้เข้าใจธุรกิจของครอบครัวจีนมากขึ้น
แม้จะมาช้าไปสักหน่อย แต่ช่วงตรุษจีนแบบนี้ นอกจากจะร้อง ‘ต้าชั่วเท่อชั่ว ปู๋ย่าวหลาย อู๋หลู่หว่อเตอเหม่ย’ กันแล้ว เชื่อว่าหลายๆ คน โดยเฉพาะลูกหลานเชื้อสายจีนก็คงนึกถึงโปรดักต์ อาหาร หรือสิ่งละอันพันละน้อยที่บ่งบอกถึงความเป็นจีนขึ้นมา ในฐานะที่เราก็เป็นลูกหลานคนจีนคนหนึ่ง จึงอยากพาทุกคนไปสำรวจ 4 ธุรกิจของชาวจีนในย่านตลาดน้อยที่อยู่กันมากว่าศตวรรษ รวมถึง 1 พิพิธภัณฑ์ และ 1 ธุรกิจบ้านใกล้เรือนเคียงที่กำลังจัดนิทรรศการอยู่ใกล้ๆ เพื่อฉายภาพให้เห็นว่าในวันที่ย่านนี้กลายเป็นย่านสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยว มาถ่ายรูป ภายในย่านเองยังมีธุรกิจที่พยายามปรับตัวและดำเนินมาอย่างยาวนานรวมอยู่เป็นส่วนหนึ่งด้วย ร้านขายยาเอี๊ยะแซ | อนามัยประจำย่าน ต้นตำรับยาดมกระปุกพกมือ ถ้าตั้งต้นจาก MRT สถานีหัวลำโพง ‘ร้านขายยาเอี๊ยะแซ’ คือร้านแรกในย่านตลาดน้อยที่เราจะพาไปเยี่ยมเยียนวันนี้ บอกเลยว่าแค่เดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ได้กลิ่นสมุนไพรจีนชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแล้ว “สมัยก่อนตรงนี้เป็นชุมชนจีน ร้านสมุนไพรจีนเลยเป็นเหมือนอนามัยของชุมชน เป็นที่พึ่งของชุมชน มีอะไรเขาจะวิ่งหา” ‘แตงโม-นพรัตน์ เฉลิมชัยกิจ’ ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลเฉลิมชัยกิจ และรุ่นที่ 3 ของร้านขายยาเอี๊ยะแซบอกกับเรา ที่ตัวเลขไม่ตรงกันแบบนี้ นพรัตน์บอกกับเราว่า เพราะในความเป็นจริงก่อนจะมาเป็นร้านขายยาเอี๊ยะแซในย่านตลาดน้อยแบบปัจจุบัน ร้านยาแรกของเหล่ากงตั้งอยู่ที่ชลบุรี ชื่อว่า ‘เอี๊ยะซิ่ว’ ส่วนเอี๊ยะแซตั้งต้นจากอากงเห็นทำเลตรงนี้ […]
‘เวิ้งนครเกษม เยาวราช’ จากตลาดเครื่องดนตรีและของเก่าสู่โครงการรองรับการท่องเที่ยวย่านไทย-จีน
ย่านแห่งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ข้าวผัดปู ร้านขายเครื่องดนตรี และเหล่าสินค้าต่างประเทศในความทรงจำของใครหลายคน กำลังจะถูกพลิกโฉมครั้งใหญ่ด้วยโครงการจาก AWC หรือบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ที่ปรับปรุงพื้นที่ ‘เวิ้งนาครเขษม’ ให้กลายเป็น เวิ้งนครเกษม เยาวราช เดิมทีช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง คนไทยเริ่มสนใจดนตรีตะวันตก บนพื้นที่ 14 ไร่ของเวิ้งนาครเขษมจึงเป็นแหล่งนำเข้าเครื่องดนตรีจากตะวันตกมาขาย จนกลายเป็นที่ขายของเก่า เครื่องดนตรี เครื่องทองเหลือง รวมถึงร้านอาหาร ด้วยจุดเด่นการเป็นตึกแถวแบบอาคารไม้ ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ใน พ.ศ. 2508 ชาวเวิ้งฯ ได้ปรับปรุงอาคารเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมสร้างตลาดใหม่ชื่อว่า ‘ตลาดปีระกา’ เพราะสร้างเสร็จในปีระกา และเป็นที่รู้จักในฐานะที่ตั้งของร้านอาหารชื่อดัง วัตถุโบราณ และหนังสือเก่าแก่มากมาย และล่าสุดกับเวิ้งฯ ฉบับใหม่ที่กำลังจะกลายเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวและบริการหรูในโครงการ River Journey Project เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง ทรงวาด, ล้ง 1919 และเอเชียทีค ตามแพลนแล้วในพื้นที่นี้จะมีศาลาจีน (Chinese Pavilion) ความสูง 8 ชั้น เสริมความศักดิ์สิทธิ์ […]