คงไม่บ่อยนัก ที่เราจะรู้จักแหล่งที่มาของ ‘กาแฟ’ ที่เราดื่ม และจะมีสักกี่ครั้งในชีวิตที่ได้สูดกลิ่นพร้อมจิบกาแฟจากแหล่งจริงๆ เหล่านี้ดึงดูดให้เราขับรถผ่านโค้งนับพัน และฝ่าสายหมอกไปยังตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อไปเข้าใจศาสตร์กาแฟกับ ‘วิสาหกิจชุมชนหอมเหาะ’ ที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟชั้นดี และน่าสนใจตรงที่เป็นจังหวัดที่เพิ่งมาจริงจังเรื่องกาแฟไม่นานนัก
ซึ่งการไปแม่ฮ่องสอนครั้งนี้ นอกเหนือจากการเอาร่างกายไปปะทะลมหนาว และคลุกคลีตีโมงกับกาแฟกันจนหนำใจ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรายิ้มตาม คือการที่คนทำกาแฟทุกชีวิตตั้งใจให้ชุมชนเล็กๆ ในจังหวัดที่ได้ชื่อว่ายากจนที่สุดในประเทศ สามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง
‘แม่ฮ่องสอน’ เป็นจังหวัดที่ต้องใช้ความตั้งใจในการไปเยือน เพราะกว่าจะถึงเมืองแห่งสายหมอกแห่งนี้ต้องขับรถผ่านโค้งนับพัน ใครที่ใจสู้ไม่ไหวก็คงคิดหนักแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าความอุดมสมบูรณ์ อากาศดีแบบที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ และความอยากดื่มด่ำกาแฟแม่ฮ่องสอนของเราจะเอาชนะอาการเมารถได้เป็นปลิดทิ้ง
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/10/01-3-1024x682.jpg)
ทำไมต้องมาถึงวิสาหกิจชุมชนหอมเหาะ
คงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย นั่นเพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ปลูกกาแฟหลักของแม่ฮ่องสอน ซึ่งจากที่เราได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นมาของชาวแม่เหาะ ก็ต้องยอมรับเลยว่า กาแฟกับคนแม่ฮ่องสอนถือเป็นความผูกพันที่ไม่อาจแยกจากกันได้ เพราะแม้แต่หน้าบ้านยังมีต้นกาแฟน้อยใหญ่แย่งกันขึ้นหลังละสองสามต้น
แม้การปลูกกาแฟจะไม่ใช่เรื่องใหม่ของที่นี่ แต่ถ้าเป็นระดับอุตสาหกรรมแล้วล่ะก็ แม่ฮ่องสอนยังถือเป็นน้องใหม่หากเทียบกับเชียงใหม่หรือเชียงราย
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/10/02-1-1024x682.jpg)
ปลูกกาแฟ เขาว่ายิ่งสูงยิ่งดี! แม่ฮ่องสอนเลยได้เปรียบตรงจุดนี้ไป ซึ่งที่นี่สูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 1,200 เมตร และไม่ต้องถามถึงคุณภาพของเมล็ดกาแฟเลย เพราะการปลูกแบบผสมจนกลมกลืนกับป่าธรรมชาติ บวกกับสภาพอากาศที่เย็นฉ่ำตลอดทั้งปี ต้นกาแฟเลยได้รับสารอาหารจนอิ่ม และเป็นกาแฟที่มีคุณภาพไม่แพ้ใคร
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/10/03-1-1024x682.jpg)
โดยความน่าทึ่งของผลไม้สุดเท่อย่าง ‘กาแฟ’ ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับแหล่งปลูกนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี กลายเป็นเสน่ห์ของกลิ่น รส และสัมผัสที่แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น ซึ่งที่ ‘แม่เหาะ’ ก็เป็นอาราบิกาที่คนไทยคุ้นเคย พร้อมความอบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้ป่าส่งตรงจากไร่กาแฟ
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/10/04-1-682x1024.jpg)
ชุมชนจะเดินหน้าได้ต้องมีตัวตั้งตัวตี การมาเยือนแม่เหาะครั้งนี้เราได้พูดคุยกับ พี่มานพ เพียรชอบไพร ผู้มีเชื้อสายปกาเกอะญอที่เห็นชาวดอยอยู่กับกาแฟมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก ซึ่งเขาบอกกับเราว่า แต่ก่อนคนแม่เหาะปลูกกาแฟกันแบบซื้อมาขายไป ใช้สารเคมีทำไร่จนคุณภาพชีวิตแย่ลง และไม่ได้ต่อยอดอะไรจากกาแฟ
ยิ่งแม่ฮ่องสอนได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศ เลยทำให้เขาตั้งใจเรียนจนจบ และนำความรู้จากการที่ได้ทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ มาพัฒนาบ้านเกิด โดยใช้ ‘กาแฟ’ ซึ่งเป็นผลไม้ที่ผูกพันกับชาวแม่เหาะเป็นทุนเดิม มาสร้างคุณค่าและมูลค่าจนชาวบ้านสามารถลืมตาอ้าปากได้จนถึงทุกวันนี้
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/10/05-1-1024x682.jpg)
เมื่อเก็บเกี่ยวกาแฟจากต้นเรียบร้อย ก็เข้าสู่การผลิตและแปรรูป ปัญหาคือของคนทำกาแฟแม่เหาะคือองค์ความรู้และงบที่มีจำกัด การผลิตกาแฟวิถีพื้นบ้านที่ใช้อากาศธรรมชาติ กระด้ง หรือใดๆ ก็ตามอาจไม่ตอบโจทย์ เพราะบางทีเราไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้เอง จนทำให้ราขึ้นบ้างล่ะ เมล็ดเสียบ้างล่ะ ซึ่งหากมีเมล็ดใดเมล็ดหนึ่งเสีย ก็ต้องโละทิ้งทั้งหมด
สิ่งเหล่านี้ทำให้สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) หรือ NIA : National Innovation Agency, Thailand เข้ามาคิดค้นของเล่นใหม่ที่ช่วยให้ชาวแม่เหาะบ่มเพาะกาแฟได้ดีและรวดเร็วขึ้น อย่างการตากแห้งผ่าน ‘ห้องควบคุมความชื้น’ ที่ทำให้กาแฟได้ความชื้นที่เหมาะสม มีกลิ่นหอม และรสชาติเข้มข้น หรือเทคโนโลยี FIR (Far Infrared Radiation) ที่ช่วยรักษา สี กลิ่น รสชาติให้คงเดิม
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/10/06-1-1024x682.jpg)
คนแม่เหาะใช้กาแฟ 1 ต้นอย่างคุ้มค่า อย่างดอกและเปลือกกาแฟก็นำมาทำชา หรือไฮไลท์อย่างเมล็ดก็นำมาบดๆ คั่วๆ จนเป็นสินค้าที่เราต้องซื้อกลับมาฝากคนที่บ้าน ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ผ่านชื่อสุดคิวท์ว่า ‘กาแฟหอมเหาะ’ ที่ฟินจนเราต้องเหาะไปเลย
ยิ่งได้รู้ว่ากาแฟที่เราจิบเข้าเส้นเลือดแต่ละอึก คราฟต์ด้วยเกษตรกรผู้ทำกาแฟ ทั้งยังผลิตโดยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายป่า และไม่กอบโกยด้วยการเร่งการผลิต ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกดีเป็นเท่าตัว
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/10/08-1024x682.jpg)
นอกจากผลิตภัณฑ์จากกาแฟระดับพรีเมียม ที่แม่เหาะยังเปิดให้ทุกคนมาท่องเที่ยวเชิงเกษตร เช่นการปลูกกาแฟอินทรีย์บนดอยสูง เราลองจินตนาการดูคงดีไม่น้อย หากได้เรียนรู้ศาสตร์กรีนๆ จากตัวจริง พร้อมสูดอากาศธรรมชาติสุดฟินบนดอย หรือทดลองเป็นผู้จัดเจนทางด้านกาแฟ ที่เข้าใจทั้งการผลิตและแปรรูปกาแฟแบบครบวงจร ชนิดที่เรียกว่าคัดกันเมล็ดต่อเมล็ด
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/10/21-1-1024x682.jpg)
ก่อนจากกัน พี่มานพดริปกาแฟให้แขกผู้มาเยือน ซึ่งอากาศก็เหมือนเป็นใจ เพราะเย็นกำลังดีแบบที่ไม่ต้องใส่เสื้อกันหนาว การดริปทิ้งเวลาอยู่ครู่หนึ่ง พี่มานพก็เทกาแฟอุ่นๆ ลงแก้วใบเล็กให้เรา กาแฟหอมเหาะจากคนแม่เหาะเมื่อคั่วออกมาและบดใส่ในถุงดริป รสและกลิ่นของมันไม่เข้มจนขม แต่เข้มแบบหอม กลมกล่อม และกรุ่นด้วยกลิ่นดอกไม้ป่าหลากพันธุ์ รสชาติสมดุลละมุนลิ้นติดใจเรามาก
หากมีโอกาสหน้า เราอยากชวนคนรู้ใจขับรถไปเยือนคนทำกาแฟ และนั่งเพลินใจกับกาแฟแก้วใหญ่ที่แม่เหาะอีกสักครั้ง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปเก็บเมล็ดกาแฟกับชาวบ้าน และสวมบทบาทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟดู มันคงจะสนุกไม่น้อยเลย
ตามติดคนทำกาแฟแม่เหาะ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : homhoh.com
Facebook : กาแฟหอมเหาะ