
LIFESTYLE
ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ ตอบโจทย์ Urban Lifestyle อย่างลงตัว กับหน้าหมวดหมู่ “LIFESTYLE” ของ Urban Creature นิตยสารออนไลน์ที่นำเสนอเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับกิจกรรมด้านไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ อัปเดตเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อเติมเต็มทุกวันของคุณให้มีสีสันยิ่งกว่าเคย ผ่านคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ในรูปแบบหลากหลาย จากเพื่อนนักคิดนักเขียนคนเมือง ที่พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับคุณ
ปักหมุดเช็กอินย่านวัฒนธรรม บางโพ-พระนคร-บางลำพู กับกิจกรรมสร้างสรรค์ที่พร้อมให้มาบวก งาน Bangkok Design Week 2025 วันนี้ – 23 กุมภาพันธ์ 2568
เข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของงาน ‘Bangkok Design Week 2025’ เทศกาลงานออกแบบสร้างสรรค์ที่ชวนให้เราออกมาเดินเล่นชมความสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในย่านต่างๆ รอบกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้นับว่าเป็น Phase 2 ของงาน คิวของย่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่าง ‘พระนคร’ ‘บางลำพู-ข้าวสาร’ และย่านอื่นๆ ที่ได้เปิดพื้นที่ให้ทุกคนเข้ามาเยือนถิ่นเช็กอินย่านได้ตั้งแต่วันนี้ – 23 กุมภาพันธ์ กับโปรแกรมที่น่าสนใจประจำย่าน ซึ่งหากใครสนใจวางแผนการเข้าร่วมงานก็ดูเพิ่มเติมก่อนไปได้ที่ bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program และหากใครถูกใจหลายกิจกรรมใน Bangkok Design Week 2025 จนเลือกไม่ได้ แต่ถ้าจะให้ไปวันเดียวทั้งหมดคงไม่ไหว คอลัมน์ Events ขออาสารวบรวมกิจกรรมไฮไลต์ที่น่าสนใจในช่วงที่ 2 ของเทศกาลฯ กับ 3 ย่านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอย่าง ‘บางโพ’ ‘พระนคร’ และ ‘บางลำพู-ข้าวสาร’ กับโค้งสุดท้ายของเทศกาลฯ ในปีนี้มาให้ แนะนำให้เตรียมพัดลมจิ๋ว หมวก และน้ำดื่มไปด้วยนะ บางโพ เริ่มกันที่ ‘บางโพ’ ย่านการค้าไม้เก่าแก่ที่ได้มาร่วมแจมงาน Bangkok Design Week เป็นครั้งที่ […]
วันวานยังหวานอยู่ส่อง 5 ย่านในกรุงเทพฯ จากหนังรักเก่าไทยที่อยากชวนทุกคนไปตามรอยในเดือนแห่งความรัก
ป่านนี้เหมยลี่จะได้แต่งงานหรือยังนะ… สวัสดีวันวาเลนไทน์ Urban Creature ขอชวนย้อนเวลาไปหา 5 ภาพยนตร์รักไทยที่ถ่ายทำในแต่ละย่านของกรุงเทพมหานคร ชวนให้คิดถึงเหล่าตัวละครในเรื่องที่เมื่อเวลาผ่านไปขนาดนี้ โต้งกับมิวก็คงโตจนทำงาน หรือเหมยลี่อาจจะได้แต่งงานมีลูกไปแล้วหรือเปล่า นอกจากตัวละครในเรื่องจะโตไปตามกาลเวลา เราอยากชี้ชวนให้สำรวจความเปลี่ยนแปลงของย่านที่ฉากต่างๆ ในภาพยนตร์ได้บันทึกความทรงจำของพื้นที่นั้นไว้ สยาม : รักแห่งสยาม ย้อนเวลากลับไป 18 ปีกับ ‘รักแห่งสยาม’ ภาพยนตร์รักตลอดกาลที่พาผู้ชมไปสำรวจวัยมัธยมฯ Puppy Love และเรื่องราวของโต้งกับมิว จนเพลง ‘กันและกัน’ ติดหูมาโดยตลอด ไม่เพียงแต่ความรักและเรื่องราวชีวิตวัยมัธยมฯ ชวนคิดถึง พื้นที่อย่างสยามก็เป็นอีกองค์ประกอบที่ทำให้การเล่าความรักครั้งนี้สมบูรณ์แบบ ด้วยความเป็นวัยรุ่นตลอดกาลของสถานที่แห่งนี้ แน่นอนว่าถ้านึกถึงรักแห่งสยามก็ต้องมี ‘เปี๊ยก ดีเจสยาม’ ตามมาด้วย แต่ปัจจุบันร้านนี้ได้ปิดตัวไปและกลายเป็นพื้นที่ของร้านชานมไข่มุกแทน หรือฉากในความทรงจำอย่างฉากที่โต้งบอกเลิกโดนัทกลางลานน้ำพุเซ็นเตอร์พอยท์ ตอนนี้ก็เป็นพื้นที่โล่งๆ หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์พอยท์, ดิจิตอล เกตเวย์ หรือห้างฯ ข้างสยามสแควร์วัน ตามแต่ชื่อที่ใครจะอยากเรียก และเพียงแค่เอ่ยคำว่าลานน้ำพุเซ็นเตอร์พอยท์ ก็เหมือนจะกลายเป็นมุกดักแก่กันไปเสียแล้ว แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ก็ต้องยอมรับว่าสถานที่นี้เคยเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นและความทรงจำเรื่องรักใคร่ในวัยเยาว์ ยิ่งเมื่อมีกระแสการพัฒนาพื้นที่สาธารณะให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายเข้ามาผสมรวม พลวัตการเปลี่ยนแปลงของสยามจึงโตตามเหล่าตัวละครในเรื่องและเราหลายๆ คนเช่นกัน นอกจากนั้น หลังการปรับปรุงครั้งใหญ่ของสยามเมื่อปี 2565 พื้นที่แห่งนี้ถูกปรับปรุงทัศนียภาพและการใช้สอยขนานใหญ่ […]
HUA LAMPHONG DESIGN WEEK 2025 สำรวจชีวิตคนในย่าน ตามไปมองความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในหัวลำโพง
แม้จะผ่านมาเกือบครึ่งทาง แต่เชื่อว่าหลายคนยังมีอีกหลายย่านใน Bangkok Design Week 2025 ที่ยังไม่ได้ย่างเท้าเข้าไปเยือนกัน เพราะครั้งนี้เทศกาลฯ จัดขึ้นในหลายย่านของกรุงเทพฯ แถมยังมีระยะเวลาจัดงานที่แตกต่างกัน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเร่งรีบเก็บให้ครบทุกย่านเหมือนปีก่อนๆ วันนี้คอลัมน์ Events ขอพามาโฟกัสกันที่ย่านหัวลำโพงกับ ‘HUA LAMPHONG DESIGN WEEK 2025’ ที่ปีนี้จัดขึ้นเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ระหว่างวันที่ 8 – 9, 15 – 16, 22 – 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ตั้งแต่ซอยพระยาสิงหเสนี, ชุมชนตรอกสลักหิน, ซอยสุนทรพิมล ไปจนถึงถนนรองเมือง โดยมี Co-Host ย่านเจ้าเดิมคือริทัศน์บางกอก (RTUS-Bangkok) นอกจากไฮไลต์ที่เราเลือกมาให้ทุกคนจับมือจูงแขนพาเพื่อนสนิทหรือคนรู้ใจไปเดินเที่ยววีกเอนด์นี้ ใครที่อยากรู้ว่าในหัวลำโพงมีกิจกรรมอะไรอีก เข้าไปดูได้ที่ t.ly/oiwM_ เพราะครั้งนี้หัวลำโพงจัดเต็มกับ 12 นิทรรศการ 1 เวิร์กช็อป 4 อีเวนต์ 1 เสวนา และ […]
Flowerrarium ร้านจัดดอกไม้และสวนขวดย่านเมืองเก่าของอดีตผู้แทนยาที่อยากให้ทุกคนมอบดอกไม้แก่กันได้โดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษ
จำได้ไหมว่าได้รับดอกไม้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เวลาเห็นใครสักคนถือช่อดอกไม้ หรือเดินผ่านร้านดอกไม้ ก็มักจะชวนให้นึกถึงโอกาสพิเศษอย่างวันเกิด วาเลนไทน์ คริสต์มาส หรือวันครบรอบ แถมยังต้องเป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษพอจะมอบดอกไม้ให้กันอีกด้วย แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วโอกาสในการให้ดอกไม้ไม่จำเป็นต้องจำกัดไว้เพียงแค่วันบางวันหรือบางช่วงเวลา แต่เราให้ดอกไม้กันได้ทุกวัน เพราะมันเป็นของที่เพียงได้รับก็รู้สึกดีแล้ว หรือการให้ดอกไม้ขอบคุณตัวเองที่ผ่านวันทั้งดีและแย่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร พอพูดถึงเรื่องดอกไม้ คอลัมน์ Urban Guide เลยขอพาไปรู้จักกับ ‘เยีย-อารยา ภู่ผึ้ง’ เจ้าของ Flowerrarium ร้านต้นไม้-ดอกไม้ใจกลางย่านเมืองเก่าอย่างชุมชนเลื่อนฤทธิ์ เขตการค้าเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่เพิ่งรีโนเวตใหม่ให้กลายเป็นตึกสีขาวเหลืองตัดสีเขียวสวยเด่น เราเดินเข้าไปในชุมชนเลื่อนฤทธิ์จนสุดซอย ก่อนเจอเข้ากับเหล่าต้นไม้ ดอกไม้ วางประดับสวยงามอยู่หน้าร้าน พร้อมป้ายสีเขียวเข้มของร้านดูสบายตา สดชื่น ต้อนรับวันใหม่ จากผู้แทนยาสู่เจ้าของร้านดอกไม้ “เยียทำงานเป็นผู้แทนยามาสิบกว่าปี จนรู้สึกว่าถึงจุดอิ่มตัว เลยเริ่มมองหาแพสชันใหม่ๆ ลองเวิร์กช็อปไปเรื่อยๆ จนได้มาเจอว่าเราชอบดอกไม้กับสวนขวด รวมถึงตัวเราที่ชื่อเยียก็มาจากดอกเยียบีรา พี่สาวเป็นคนตั้งให้ ก็เลยเริ่มศึกษาเรื่องดอกไม้มาเรื่อยๆ” หลังส่งตัวเองศึกษาการจัดต้นไม้-ดอกไม้มาสักพัก ก็ถึงเวลาเปิดร้านที่เยียใช้คำว่า เปิดขึ้นได้ด้วย ‘จังหวะ’ จังหวะที่อยากจัดดอกไม้ จังหวะที่บังเอิญมาเจอชุมชนเลื่อนฤทธิ์ จังหวะที่ชอบตึกเก่าในย่านสงบ และจังหวะที่อยากให้คนได้รับดอกไม้ที่ตรงใจ ตลอดช่วงเวลา 6 เดือนที่เยียเปิดร้านนี้ขึ้นมา เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายในความสนใจเรื่องดอกไม้ของคนไทย […]
รวมธุรกิจแบบจีนๆ ในย่านตลาดน้อยที่รวมอายุได้กว่า 500 ปี ส่วนผสมไทย-จีน ที่จะทำให้เข้าใจธุรกิจของครอบครัวจีนมากขึ้น
แม้จะมาช้าไปสักหน่อย แต่ช่วงตรุษจีนแบบนี้ นอกจากจะร้อง ‘ต้าชั่วเท่อชั่ว ปู๋ย่าวหลาย อู๋หลู่หว่อเตอเหม่ย’ กันแล้ว เชื่อว่าหลายๆ คน โดยเฉพาะลูกหลานเชื้อสายจีนก็คงนึกถึงโปรดักต์ อาหาร หรือสิ่งละอันพันละน้อยที่บ่งบอกถึงความเป็นจีนขึ้นมา ในฐานะที่เราก็เป็นลูกหลานคนจีนคนหนึ่ง จึงอยากพาทุกคนไปสำรวจ 4 ธุรกิจของชาวจีนในย่านตลาดน้อยที่อยู่กันมากว่าศตวรรษ รวมถึง 1 พิพิธภัณฑ์ และ 1 ธุรกิจบ้านใกล้เรือนเคียงที่กำลังจัดนิทรรศการอยู่ใกล้ๆ เพื่อฉายภาพให้เห็นว่าในวันที่ย่านนี้กลายเป็นย่านสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยว มาถ่ายรูป ภายในย่านเองยังมีธุรกิจที่พยายามปรับตัวและดำเนินมาอย่างยาวนานรวมอยู่เป็นส่วนหนึ่งด้วย ร้านขายยาเอี๊ยะแซ | อนามัยประจำย่าน ต้นตำรับยาดมกระปุกพกมือ ถ้าตั้งต้นจาก MRT สถานีหัวลำโพง ‘ร้านขายยาเอี๊ยะแซ’ คือร้านแรกในย่านตลาดน้อยที่เราจะพาไปเยี่ยมเยียนวันนี้ บอกเลยว่าแค่เดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ได้กลิ่นสมุนไพรจีนชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแล้ว “สมัยก่อนตรงนี้เป็นชุมชนจีน ร้านสมุนไพรจีนเลยเป็นเหมือนอนามัยของชุมชน เป็นที่พึ่งของชุมชน มีอะไรเขาจะวิ่งหา” ‘แตงโม-นพรัตน์ เฉลิมชัยกิจ’ ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลเฉลิมชัยกิจ และรุ่นที่ 3 ของร้านขายยาเอี๊ยะแซบอกกับเรา ที่ตัวเลขไม่ตรงกันแบบนี้ นพรัตน์บอกกับเราว่า เพราะในความเป็นจริงก่อนจะมาเป็นร้านขายยาเอี๊ยะแซในย่านตลาดน้อยแบบปัจจุบัน ร้านยาแรกของเหล่ากงตั้งอยู่ที่ชลบุรี ชื่อว่า ‘เอี๊ยะซิ่ว’ ส่วนเอี๊ยะแซตั้งต้นจากอากงเห็นทำเลตรงนี้ […]
พาเหล่านักอ่านเช็กอิน 12 ห้องสมุดในกรุงเทพฯ บรรยากาศดี เดินทางง่าย ฟังก์ชันครบ ตั้งอยู่ในย่านที่ไปเดินเล่นต่อได้
ใครที่กำลังหากิจกรรมสักอย่างทำเพื่อพักผ่อนกายคลายความเครียดในวันที่ยังมีบรรยากาศดีๆ แบบนี้อยู่ การได้อ่านหนังสือในสักมุมหนึ่งของเมืองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะทุกวันนี้ห้องสมุดหลายแห่งในกรุงเทพฯ เป็น ‘ห้องสมุดที่มากกว่าห้องสมุด’ เพราะห้องสมุดในยุคนี้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การใช้งานห้องสมุดง่ายขึ้น มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตให้ใช้ ตอบโจทย์คนทำงาน Work from Anywhere ในยุคนี้อย่างมาก และในหลายๆ ห้องสมุดก็มีพื้นที่น่าสนใจที่ไม่ใช่แค่มุมหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เล่นบอร์ดเกม พื้นที่ฉายภาพยนตร์ หรือพื้นที่สำหรับเด็ก เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย และพาตัวเองเดินเข้าไปในพื้นที่สงบๆ และอบอุ่นสักแห่งเพื่อเติมพลัง วันนี้คอลัมน์ Urban Guide เลยขอมาปักหมุดพิกัด 12 ห้องสมุด พาทุกคนไปเปิดประตูเช็กอินห้องสมุดในกรุงเทพฯ ฉบับอัปเดตล่าสุด ให้ทุกคนได้เจอมุมอ่านที่ชอบ หนังสือเล่มที่ใช่กัน 01 | ห้องสมุดมารวย ‘ห้องสมุดมารวย’ ถือเป็นห้องสมุดเฉพาะทางด้านการตลาดและการลงทุนแบบครบวงจร และได้ชื่อว่าเป็นห้องสมุดตลาดทุนที่ครบวงจรที่แรกในประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีการเพิ่มหนังสือประเภทต่างๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อรองรับนักอ่านทุกเพศทุกวัย ภายใต้คอนเซปต์ ‘ห้องสมุดมีชีวิต’ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่หนังสือเล่มให้อ่านเท่านั้น แต่ยังมีสื่อดิจิทัลต่างๆ สำหรับข้อมูลด้านการลงทุน เพื่อบริการให้ผู้ใช้งานเข้าถึงฐานข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย พื้นที่ห้องสมุดแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นที่สำหรับนั่งอ่านหนังสือ นั่งทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถใช้เสียงได้ ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่อ่านหนังสือสำหรับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีบริการอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ […]
ช่วงกึ่งกลางระหว่างความเป็นและความตาย กับหลากหลายความสัมพันธ์ที่บรรจบกัน ณ ร้านโคมไฟใน Light Shop
*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์* ค่ำคืนนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ในซอยเปลี่ยวที่มืดมิด ฝนตกพรำ พื้นเต็มไปด้วยน้ำขังและความสกปรก กลางซอยมีร้านขายโคมไฟขนาดคูหากว่าๆ ที่เปิดไฟสว่างไสวทั้งคืน ทันทีที่ประตูเปิดออก เสียงกระดิ่งประตูดังขึ้นเบาๆ พร้อมด้วยชายหนุ่มสวมแว่นสีชาที่ยืนขึ้นต้อนรับกับคำถามว่า “มีอะไรให้ช่วยครับ” นี่คือเรื่องราวของอีกหนึ่งซีรีส์ในจักรวาลซีรีส์ชื่อดังอย่าง Moving ซึ่งดัดแปลงจากเว็บตูนของนักเขียน ‘คังฟูล’ มาสู่ซีรีส์ความยาว 8 ตอน เรื่อง ‘Light Shop’ ที่เส้นแบ่งระหว่างคนเป็นกับคนตายมาบรรจบกันที่ร้านโคมไฟ ด้วยฉากเปิดเรื่องที่ชายหนุ่มเดินลงมาจากรถเมล์ในเส้นทางกลับบ้าน ที่ป้ายรถเมล์นั้นเขาได้เจอกับหญิงสาวใส่ชุดสีขาว ผมยาวสีดำปิดหน้าปิดตา นั่งรออยู่พร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ทุกวัน ควบคู่กับช่วงต้นของเรื่องที่เหล่าตัวละครเหมือนจะมีความสามารถในการมองเห็นผีได้ คล้ายจะพาเราเข้าไปอยู่ในโลกหลังความตายเหมือนซีรีส์ขนหัวลุกทั่วๆ ไป ก่อนเรื่องราวจะตัดสลับระหว่างโลกกึ่งความเป็นความตายและห้องพักผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยโคม่า ที่มีเหล่าพยาบาลสาวคอยดูแล จนผู้ชมหลายคนถึงกับเอ่ยปากว่า ช่วง 4 ตอนแรกกับ 4 ตอนหลังของซีรีส์เหมือนกำลังเล่าคนละเรื่องกันอยู่ แล้วจึงนำมาสู่ครึ่งหลังของ Light Shop ที่เฉลยถึงจุดร่วมของเหล่าตัวละครซึ่งประสบอุบัติเหตุบนรถเมล์คันเดียวกันจนอยู่ในภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย คล้ายกำลังใช้วันเวลาวนลูปในซอยเปลี่ยวที่หนีออกไปไม่ได้ พร้อมประเด็นสำคัญว่ามนุษย์ทุกคนมีหลอดไฟเป็นของตัวเองคนละหนึ่งหลอด เมื่อเราอยู่ในช่วงระหว่างความเป็นและความตาย เรามีหน้าที่พาตัวเองไปยังร้านโคมไฟและหาหลอดไฟของตนเองให้เจอจึงจะกลับไปยังโลกมนุษย์ได้ แต่ถ้าหากเราหาร้านโคมไฟไม่เจอ หรือตัดสินใจทิ้งหลอดไฟอันริบหรี่ของตนเองไปนั้น เราก็จะจากโลกนี้ไปเหมือนคนตายคนอื่นๆ ความยากลำบากขณะมีชีวิตของคนชายขอบ ความพิการ “ทำไมจำฉันไม่ได้สักที” กลายเป็นคำถามที่ทำให้ ‘จียอง’ หรือผีสาวชุดขาวคอยตามติด ‘ฮยอนมิน’ […]
พาชมไฮไลต์สุดว้าว! กับงาน WOW Festival 2025 อีเวนต์ที่นำร่องด้วยแนวคิด ‘เพราะเรื่องเมืองคือเรื่องของทุกคน’ วันนี้ – 19 มกราคม ที่สวนเบญจกิติ
เปิดปีใหม่เข้ามาถึงช่วงกลางเดือนมกราคมแล้ว แต่อากาศในกรุงเทพฯ ก็ยังคงเย็นสบายชวนให้ออกไปใช้ชีวิตมาก และหากใครไม่รู้ว่าอากาศดีๆ แบบนี้จะออกไปสนุกกับชีวิตในเมืองที่ไหน เราขอชวนทุกคนไปออกแบบเมืองในฝันท่ามกลางอากาศเย็นๆ กันที่งาน ‘WOW Festival 2025’ ที่สวนเบญจกิติกัน WOW Festival 2025 : Wonder of Well-Living City งานเทศกาลและเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่จัดโดย ‘สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ASA)’ โดยงานในครั้งนี้มาภายใต้ธีม ‘เมืองดี คนมีพลัง’ ที่ต้องการให้งานนี้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความสุขและศักยภาพของผู้คน เพื่อส่งเสริมเมืองให้เป็นพื้นที่น่าอยู่มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยคำถามที่ชวนผู้คนมาร่วมกันขบคิดไปพร้อมๆ กันว่า ‘อยากเห็นเมืองในอนาคตเป็นแบบไหน’ ก่อนที่คำถามนี้จะนำเราไปสู่ข้อสงสัยว่า คนเมืองอย่างเราจะพัฒนาเมืองอย่างไรได้บ้าง ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในงานนี้ วันนี้คอลัมน์ Events เลยอยากพาไปชมสิ่งน่าสนใจภายในงานนี้ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผลงานศิลปะที่มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ พื้นที่ผ่อนคลายช่วยฮีลใจจากความวุ่นวายและเร่งรีบภายในเมือง หรือแม้แต่พื้นที่จับจ่ายใช้สอยทั้งของกินเติมพลังและสินค้าท้องถิ่นจากหลากหลายพื้นที่ก็มีให้เลือกช้อปในงานนี้ด้วย WOW World, Empowered People Stage Presented by TOAเอนกายพักใจพร้อมคลายเครียดไปกับเสียงดนตรี หลังจากเดินผ่านส่วนของสวนสาธารณะเข้ามาแล้ว จุดแรกที่เราจะได้เจอในงานนี้ก็คือพื้นที่แห่งการฮีลกายและฮีลใจ หากเดินเหนื่อยๆ หรือเพิ่งออกกำลังกายเสร็จก็มาแวะนั่งพักริมอาคารโรงงานยาสูบที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวจากสวนป่าเบญจกิติกันได้ บริเวณนี้นอกจากจะมีชิ้นงานตกแต่งเพิ่มชีวิตชีวาให้กับพื้นที่แล้ว […]
จากบ้านเก่าอายุกว่า 150 ปี สู่ ‘บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี’ ที่มีหุ้นส่วนกว่า 500 ชีวิต
โรงแรมในสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เน้นการตกแต่งและการบริการ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ อยากกลับมาใช้บริการอีก แต่ ‘บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี’ ที่จังหวัดจันทบุรี ขอเลือกคิดต่างออกไป เพราะนอกจากทำเลจะโอบล้อมไปด้วยบรรยากาศดีๆ อยู่ติดริมแม่น้ำ มีห้องพักที่สะดวกสบายแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ชวนให้ผู้เข้าพักได้ศึกษาและทำความรู้จักจันทบุรี รวมถึงพื้นที่ชุมชนริมน้ำจันทบูรให้มากขึ้นอีกด้วย มากไปกว่านั้น ลูกค้าเองยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาชุมชนผ่านการเข้าพักได้อีก ที่พักในจันทบุรีแห่งนี้แตกต่างจากที่พักอื่นๆ อย่างไร คอลัมน์ Urban Guide จะขอพาไปสำรวจกันถึงเมืองจันท์ บ้านพักประวัติศาสตร์ที่เก็บเรื่องราวของเมืองเอาไว้ที่ล็อบบี้โรงแรม หากมองผ่านๆ โรงแรมแห่งนี้อาจดูเหมือนบ้านเก่าทั่วไปในชุมชน แค่อาจจะดูใหญ่โตกว่าบ้านหลังอื่นเล็กน้อย แต่หากสังเกตให้ดี ล็อบบี้โรงแรมแห่งนี้มีหน้าตาคล้ายคลึงกับพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ ที่เชิญชวนให้เราก้าวเท้าเข้าไปดูว่าสิ่งที่จัดแสดงอยู่นั้นมีอะไรบ้าง เรื่องราวส่วนใหญ่ที่เราได้เห็นผ่านสิ่งของต่างๆ ล้วนแล้วแต่บรรจุความเป็นมาของจังหวัด และการดำเนินชีวิตของผู้คนสมัยก่อนในแถบนี้ ด้วยความที่ชุมชนริมน้ำจันทบูรเป็นย่านเก่าแก่ของจังหวัด รวมถึงเคยเป็นเมืองท่าค้าขายในสมัยก่อน จึงมีเรื่องราวมากมายที่น่าสนใจ และสามารถรวบรวมมาเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเยี่ยมชม “หลวงราชไมตรีเป็นคนแรกที่บุกเบิกเรื่องของการทำสวนยางพารา เนื่องจากท่านเคยไปเรียนหนังสืออยู่ที่ปีนัง แล้วพอกลับมาอยู่ที่บ้าน ท่านเห็นว่าสภาพอากาศของที่จันทบุรีไม่ได้ต่างอะไรกับมาเลเซียเลย ท่านก็เลยสั่งพันธุ์ยางเข้ามาทดลองปลูกจนประสบความสำเร็จ และกลายเป็นอาชีพเสริมของคนจันท์ เรียกได้ว่าเป็นบิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก แล้วนอกจากทำสวนยาง ท่านก็เป็นพ่อค้าพลอยด้วย” ‘หมู-ปัทมา ปรางค์พันธ์’ ผู้จัดการบ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี เล่าให้เราฟังถึง ‘หลวงราชไมตรี’ ผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ และสร้างคุณูปการให้กับชาวจันทบุรีเป็นอย่างมาก ด้วยความที่สถานที่แห่งนี้มีเรื่องราววิถีชีวิตของชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้คนในชุมชนตั้งใจเก็บรักษาความสวยงามนี้เอาไว้ จนกลายมาเป็น […]
ออกไปท่องอวกาศ สำรวจจักรวาลกับ Space Journey Bangkok นิทรรศการอวกาศระดับโลกที่ลงจอดครั้งแรกในเอเชีย วันนี้ – 16 เม.ย. 68 ที่ไบเทคบุรี
‘นักบินอวกาศ’ น่าจะเคยเป็นความฝันวัยเด็กของพวกเราหลายคน แต่ต้องยอมรับว่า พอโตขึ้นมาเรื่อยๆ เราจะรู้ได้เองว่ามันเป็นความฝันที่อยู่แสนไกลไปหลายปีแสง ด้วยขอบเขตของการเข้าถึงข้อมูล และการสัมผัสเทคโนโลยีอวกาศที่ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ‘Space Journey’ คือนิทรรศการด้านอวกาศระดับโลก ที่จะช่วยเติมเชื้อเพลิงความฝันในการทำงานด้านอวกาศให้ดูเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริง ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป ด้วยความตั้งใจของบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ที่อยากยกอวกาศมาให้เด็กไทยเข้าถึงได้ง่ายๆ จึงติดต่อนิทรรศการระดับโลกนี้มาจัดแสดงที่ประเทศไทยด้วย นิทรรศการอวกาศระดับโลกนี้ไม่ได้เป็นแค่ครั้งแรกของบ้านเรา แต่ยังหมายรวมถึงครั้งแรกในทวีปเอเชีย ที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ใกล้เคียงจะได้เดินทางมาสัมผัสการสำรวจอวกาศกันอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568 ที่ไบเทคบุรี คอลัมน์ Events จะพาไปแหวกว่ายสำรวจอวกาศบางส่วนของนิทรรศการ Space Journey Bangkok กันว่า ทำไมนิทรรศการนี้ถึงเป็นอีกหนึ่งนิทรรศการที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาด หลังจากเดินทางไปจัดแสดงมาหลายประเทศ ก็ถึงเวลาที่นิทรรศการ Space Journey มาลงจอดที่ประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในฝั่งประเทศเอเชียที่นิทรรศการอวกาศระดับโลกนี้ได้มาจัดแสดง Space Journey บอกเล่าตั้งแต่ต้นกำเนิดของการศึกษา สำรวจ และการเดินทางในอวกาศ จนถึงการพัฒนาด้านอวกาศในปัจจุบัน โดยเป็นการจัดแสดงวัตถุจริงหลายร้อยชิ้นจากสหรัฐอเมริกา, สหภาพโซเวียต และประเทศอื่นๆ ซึ่งบางชิ้นส่วนเป็นชิ้นงานที่เคยใช้จริงในอวกาศ […]
โลกหลังกำแพง ลูกกรง ลวดหนาม ที่กักขังความฝันให้ต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ใน ‘วัยหนุ่ม 2544’
นับตั้งแต่หนังอย่าง 4 Kings ทั้งสองภาคออกฉาย สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนในสไตล์งานของผู้กำกับ ‘พุฒิพงษ์ นาคทอง’ คือการมีท่าทางเป็นบทเรียนสอนใจผู้ชมด้วยบริบทปัญหาเรื่องราวในสังคมไทย หากว่าเป็นหนังเรื่องอื่น ด้วยท่าทีเช่นนี้ผู้ชมหลายคนอาจรู้สึกเหมือนกำลังถูกชี้หน้าสั่งสอน หรือรับชมละครคุณธรรมที่มีคติสอนใจในตอนจบ แต่กับงานที่ผ่านมาตั้งแต่ 4 Kings ทั้งสองภาค จวบจนมาถึง ‘วัยหนุ่ม 2544’ นั้นกลับดูกลายเป็นเสน่ห์ของหนังที่ทำมาด้วยความซื่อตรง จริงใจ และมีความรู้สึกร่วมส่วนตัวแฝงอยู่จนผู้ชมสามารถสัมผัสได้ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่มากไปไม่น้อยไปแบบนี้นี่เอง ทำให้ท่าทีของการสั่งสอนผู้ชมกลายเป็นการเชื้อเชิญไปร่วมสัมผัสประสบการณ์ช่วงหนึ่งในช่วงชีวิตของคนที่พลาดพลั้ง และไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้ไปเกิดขึ้นกับใคร หรือกระทั่งเป็นการยับยั้งไม่ให้คนที่กำลังหลงทางไปก่อกรรมทำเข็ญแก่ชีวิตผู้อื่นดั่งบรรดาตัวละครสมมุติในเรื่อง และในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งเป็นผลงานลำดับที่สามของผู้กำกับก็ดูเหมือนยังคงย่ำอยู่กับคอนเซปต์เดียวกันกับผลงานหนังสองภาคก่อนหน้า แค่ที่ต่างจากเดิมคือบริบทสถานที่ จากสถาบันช่างกลมาสู่ภายในรั้วของเรือนจำ และตัวละครเด็กช่างกลที่ทำผิดพลาดในชีวิต ซึ่งครั้งนี้ไม่อาจหลีกหนีผลของการกระทำของตัวเองได้เหมือนในผลงานก่อน วัยหนุ่ม 2544 จึงคล้ายวางตัวเป็นเรื่องราวภาคต่อจาก 4 Kings ได้อย่างกลายๆ ราวกับนี่คือหนังปิดไตรภาคของเรื่องราวเด็กช่างของผู้กำกับคนนี้ และนำไปสู่การสานต่อเรื่องราวว่า ความผิดพลาดทั้งหลายที่ช่วงวัยหนุ่มก่อขึ้นอาจนำไปสู่ปลายทางอันดำมืดภายหลังได้เพียงใด นอกจากเรื่องราวที่เข้มข้นจริงจังลึกลงไปยังมุมมืดแล้ว ด้านฝีมือการกำกับของผู้กำกับคนนี้ยังพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยการนำเสนอภาพที่ปล่อยให้ผู้ชมเห็นห้วงเหตุการณ์ชั่วขณะโดยไม่ต้องมีบทพูดอธิบาย และการตามติดตัวละครโดยไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่อง ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนร่วมสังเกตเหตุการณ์ชีวิตคนคนหนึ่งมากกว่าชมภาพยนตร์ที่มีเซตติ้งซีเควนซ์ชัดเจน มากไปกว่าการถ่ายทอดภาพชีวิตในคุกที่ดูสมจริง เป็นธรรมชาติ และเต็มไปด้วยความหดหู่ที่ดูเป็นความโดดเด่นของหนัง ซึ่งได้มาจากการไปถ่ายทำกันในสถานที่จริง อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ บรรดาเหล่านักแสดงทั้งหลายที่ปรากฏตัวบนจอ แต่ละคนมีบทบาทหน้าที่โดดเด่นแตกต่างกันไป แต่ทุกคนล้วนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะถ้าใครคนใดคนหนึ่งทำพลาดไปแม้สักนิดเดียว อาจส่งผลให้หนังทั้งเรื่องเสียรูปไปเลยก็ได้ […]
มองความเชื่อในผีและเอเลียนผ่าน DANDADAN ที่สะท้อนปัญหาสังคมที่น่ากลัวยิ่งกว่า
มนุษย์ชอบเรื่องลี้ลับตั้งแต่ตอนไหนคงไม่มีใครทราบ เพราะความกลัวคือหนึ่งในความบันเทิงของมนุษย์ที่มีมาอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเรื่องภูตผีปีศาจ ตำนานเมือง เวทมนตร์ หรือในยุคร่วมสมัยที่เรามีทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) อ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์อย่างเอเลียนหรือมอนสเตอร์ แต่จะเป็นอย่างไรถ้าทั้งสองเรื่องเหนือธรรมชาติถูกยำรวมกันจนกลายเป็นอนิเมะน้องใหม่ไฟแรงอย่าง ‘DANDADAN’ เรื่องราวแสนวายป่วงเริ่มขึ้นจาก ‘อายาเสะ โมโมะ’ (Ayase Momo) เด็กสาวมัธยมปลายผู้เชื่อในเรื่องผี และ ‘ทาคาคุระ เคน’ (Takakura Ken) หรือในอีกชื่อว่า ‘โอคารุน’ เด็กชายผู้เชื่อในเรื่องของสิ่งมีชีวิตต่างดาว ทั้งสองได้ท้าพิสูจน์ในสิ่งที่ตนเชื่อ และปรากฏว่าทั้งผีและเอเลียนดันมีอยู่จริงๆ เสียด้วย ทั้งคู่จึงต้องจำใจร่วมทีมฝ่าฟันต่อสู้กับพวกมัน ผ่านเรื่องราวแสน ‘กาว’ ที่พาให้เราหัวเราะเคล้าน้ำตาไปตลอดทั้งเรื่อง แม้ภายนอกอาจดูเหมือนอนิเมะโชเน็งพลังมิตรภาพตามปกติ แต่อย่าประมาทเด็ดขาด เพราะ DANDADAN พร้อมเสิร์ฟเนื้อหาหนักๆ ที่พาให้เราตับสั่นอยู่ไม่น้อย ทั้งประเด็นปัญหาสังคม การสูญเสีย ความโหดร้ายของมนุษย์ที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าผีหรือเอเลียน คอลัมน์เนื้อหนังจึงขอพาทุกคนมองย้อนกลับมาสำรวจความกลัวของมนุษย์อย่างรอบด้านอีกครั้ง และตั้งคำถามถึงสิ่งที่เราควรกลัวจริงๆ ว่าคืออะไรกันแน่ ความกลัวที่มนุษย์สร้างขึ้น “ถ้าเราเลี้ยงเด็กคนหนึ่งขึ้นมาโดยไม่ให้รับรู้เรื่องผีเลย เด็กคนนั้นจะกลัวผีหรือไม่” หนึ่งในคำถามที่ตั้งแง่เกี่ยวกับความกลัวของมนุษย์ เพราะหากเราร้อยเรียงประวัติศาสตร์ความกลัวของ ‘สัตว์โลก’ มนุษย์นั้นถือว่าแปลกออกไป สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของคนและสัตว์ดูเหมือนคล้ายกันแต่ความจริงกลับแตกต่าง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่กลัวสิ่งที่เป็นรูปธรรมที่สามารถทำอันตรายกับตัวมัน เช่น ความร้อนจากไฟ […]