‘สวนลุมฯ โทเปีย’ จัดระเบียบพื้นที่สวนลุมฯ ให้เหมือนใน Zootopia เพื่อที่สัตว์ทุกชนิดจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า สัตว์หลากหลายชนิดสามารถอยู่ร่วมกันได้ในธรรมชาติ แต่เมื่อเราได้ชม ‘Zootopia’ ก็พบว่า หากมีการจัดการให้ที่อยู่ของสัตว์ต่างๆ เป็นระบบระเบียบ จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของสัตว์เหล่านี้ดีขึ้นได้ นั่นทำให้เรานึกไปถึง ‘สวนลุมพินี’ สวนสาธารณะใจกลางเมืองที่แม้ว่าจะไม่ได้มีสัตว์มากมายเหมือนในแอนิเมชัน แต่ก็เป็นภาพจำลองเล็กๆ ในการอยู่ร่วมกันของเหล่าสัตว์ได้เป็นอย่างดี จึงอยากลองจินตนาการว่า ถ้าสวนลุมฯ ไม่ได้เป็นแค่พื้นที่สาธารณะของผู้คน แต่ยังทำหน้าที่เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีแต่สัตว์อยู่อาศัยเหมือนใน Zootopia จะเป็นอย่างไร คอลัมน์ Urban Isekai ขอรับบทเป็นนายกเทศมนตรีแห่ง ‘สวนลุมฯ โทเปีย’ ที่จะออกแบบและจัดการอาณาจักรสัตว์กลางกรุงเทพฯ ให้เป็นระเบียบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สัตว์ทุกตัวอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในสวนลุมฯ โทเปียแห่งนี้ 🏡 แบ่งเขตที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับทุกสปีชีส์ ถ้าเปรียบสวนลุมฯ เป็นเหมือน Zootopia พื้นที่แห่งนี้ก็คืออาณาจักรที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตซึ่งต้องการพื้นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับสปีชีส์ของตัวเอง เพราะฉะนั้นในฐานะนายกเทศมนตรี เราจะไม่ปล่อยให้สัตว์ชนิดไหนต้องถูกทิ้งอยู่ข้างหลัง ขอเริ่มต้นด้วยการจัดเขตแดนที่อยู่กันก่อน โดยสัตว์ที่เราเจอบ่อยๆ ในสวนลุมฯ คือตัวเงินตัวทองและแมว ก็เลยจะให้อภิสิทธิ์ด้วยการแบ่งโซนที่อยู่อาศัยตามสปีชีส์ของสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ออกเป็นโซนสัตว์บกและโซนสัตว์เลื้อยคลาน โซนสัตว์บกจะเป็นพื้นที่สำหรับแมว หมา กระรอก หรืออาจมีหนูบ้างประปราย โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่โล่งกว้าง เพื่อให้ทุกตัวได้ออกแรงและใช้กำลังวิ่งอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งทำพื้นที่ร่มเอาไว้ให้หลบแดดหลบฝน รวมไปถึงจัดเตรียมลานทรายแมวและลานโล่งที่มีเสาสำหรับหมากระจายตัวตามพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ตลบอบอวล ส่วนโซนสัตว์เลื้อยคลานจะเป็นพื้นที่สำหรับตัวเงินตัวทอง เต่า กิ้งก่า หรืองู […]

ซีเกมส์ 2025 มองความล้มเหลวของการจัดการแข่งกีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่การสื่อสาร การจัดการ และการเตรียมตัว

ใกล้จะเกิดขึ้นในอีกเพียงไม่กี่วันแล้ว กับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยได้กลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งในรอบ 18 ปี โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568  นอกจากจะเห็นข่าวการแข่งขันนี้จากแคมเปญ ‘SAWASDEE SEA GAMES 2025 เชียร์ไทยในบ้านเรา’ ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดึงนักแสดง ศิลปิน และอินฟลูเอนเซอร์จากหลากหลายวงการมาร่วมขบวนโปรโมต หลายคนก็น่าจะเห็นจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์การจัดงานที่ไม่เป็นระบบระเบียบ ไม่ต่อเนื่อง และไม่มีประสิทธิภาพ นี่ยังไม่นับรวมการเจนฯ AI ทำโปสเตอร์โปรโมตอีกนะ เรียกว่ามีเรื่องให้น่าผิดหวังรายวันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ Urban Creature จึงอยากนำเสนอข้อมูลและแง่มุมที่เราสนใจให้ผู้อ่านรับทราบเพิ่มเติม ตั้งแต่ข้อมูลทั่วไป การออกแบบการสื่อสาร กีฬาบรรจุใหม่ ไปจนถึงแนวทางจัดการขยะของซีเกมส์ครั้งนี้ที่ดูมีความพยายาม แต่อาจจะยังน้า รู้จัก SEA GAMES 2025ผ่านมุมมองของการออกแบบการสื่อสาร(ที่เปลี่ยนรัฐบาลที ก็กระทบจนแปรปรวนไปหมด) สิ่งแรกที่เราเห็นเมื่อมีการจัดการแข่งขันกีฬาระดับสากลนั้นไม่ใช่พิธีเปิดแต่อย่างใด แต่เป็น ‘อัตลักษณ์องค์กร’ หรือ Corporate Identity (CI) ที่สื่อสารออกมาผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่างๆ CI จะเป็นสิ่งที่กำหนดการออกแบบที่เกิดขึ้นตลอดการจัดการแข่งขัน ตั้งแต่สื่อประชาสัมพันธ์ก่อนงาน […]

เหาะเหินด้วยวิชาตัวเบา สำรวจเมือง Kaifeng มหานครศูนย์กลางยุทธภพในเกม Where Winds Meet

Where Winds Meetเมื่อสายลมพัดพา ก็ถึงคราท่องยุทธภพ ในเวลานี้เกมที่มาแรงที่สุดคงไม่พ้น ‘Where Winds Meet’ เกมท่องยุทธภพจากค่ายเกม Everstone Studio ที่จะพาเราไปรับบทจอมยุทธ์ผจญภัยในช่วงศตวรรษที่ 10 ของจีน หรือที่เรียกกันว่ายุคห้าราชวงศ์และสิบอาณาจักร สำรวจโลกกว้างในยุคที่มีความไม่สงบทุกหย่อมหญ้า ฝึกวิชาเพื่อเป็นหนึ่งในใต้หล้า ทำเอาชาว Urban Creature อดหลับอดนอนไปท่องยุทธภพกันหลายคนเลย ภายในเกม แผนที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ ได้แก่ Qinghe พื้นที่ชนบทที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ และธรรมชาติ และ Kaifeng มหานครไคเฟิง หรือที่ชาวไทยเรียกกันว่า ‘ไคฟง’ เมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสุดอลังการ แสงสีและความบันเทิงทั่วทุกท้องถนน ผู้คนทำกิจกรรมอย่างพลุกพล่านตลอดเวลา จนมีคำกล่าวว่า โคมไฟในเมืองไคเฟิงช่วงค่ำคืนส่องสว่างกว่าดวงดาราบนท้องนภาเสียอีก ในคอลัมน์ Urban Isekai นี้ เราจะรับบทเป็นจอมยุทธ์พเนจรวิ่งลัดเลาะตามแนวหลังคาออกสำรวจเมืองไคเฟิง มหานครที่เต็มไปด้วยแสงสี ชื่นชมสถาปัตยกรรมอันงดงาม แว่วหูฟังเสียงกระซิบจากโรงน้ำชา และดำดิ่งสู่ตรอกซอกซอยที่ซ่อนความลับไว้มากมาย เอาละ…ใช้วิชาตัวเบาของเจ้า แล้วรีบตามมาเสีย! Kaifeng มหานครจีนโบราณ ศูนย์กลางโลกยุทธภพ เมืองไคเฟิงในเกม […]

เปลี่ยนป้อมควบคุมไฟจราจรที่เบียดบังทางเท้า ให้เป็นพื้นที่เอื้อต่อผู้สัญจร และสร้างชีวิตชีวาให้เมือง

‘ป้อมควบคุมสัญญาณจราจร’ ที่พบเห็นอยู่ทั่วไปเวลาเดินในเมือง ไม่ว่าจะบนฟุตพาทหรือกลางสี่แยก เป็นโครงสร้างที่ยากจะมองข้าม เพราะถึงแม้ว่าในปัจจุบันป้อมเหล่านี้จะถูกทิ้งร้างเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ก็ยังตั้งกีดขวางทางเท้า กินพื้นที่บนฟุตพาทจนคนเดินต้องทำตัวลีบๆ เดินหลบ หรือแทบจะต้องลงถนนไม่ต่างจากเดิม จะดีกว่าไหมถ้าป้อมจราจรเหล่านี้ถูกดัดแปลงใหม่ให้เป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ต่อคนเมือง ช่วยให้เมืองมีชีวิตชีวาและน่าอยู่ขึ้น คอลัมน์ Urban Sketch ขอถือโอกาสนี้ชวนทุกคนมาร่วมกันจินตนาการว่า นอกจากการทุบทิ้งไปเฉยๆ แล้ว เรายังดัดแปลงโครงสร้างที่มีอยู่ได้อย่างไรบ้าง เพื่อแก้ปัญหาป้อมจราจรที่กีดขวางทางเดินให้เกิดประโยชน์กับคนเดินมากขึ้น ‘Pocket Park’ เปลี่ยนให้เป็นทางเดินพร้อมสวนขนาดย่อม เพิ่มสวนจิ๋วให้กระจายทั่วเมือง  เวลาเดินบนฟุตพาทหรือข้ามทางม้าลาย ป้อมจราจรมักเป็นหนึ่งในสิ่งกีดขวางที่ทำให้รำคาญใจอยู่เสมอ ด้วยความที่เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่มาก แถมยังถูกปล่อยร้าง ไม่ได้รับการดูแลหรือนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ถ้าเราลองปรับพื้นที่นี้ให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมารู้สึกดีขึ้น ด้วยการรื้อโครงสร้างที่มีอยู่เดิมบางส่วนให้เดินผ่านได้ บวกกับวางกระถางต้นไม้ เพิ่มเก้าอี้เข้าไป ให้กลายเป็นสวนหย่อมขนาดจิ๋ว เพิ่มความสบายตา ร่มเย็น เติมพื้นที่สีเขียวใหม่ในเมือง ก็น่าจะทำให้ป้อมจราจรที่เคยเป็นอุปสรรคของคนสัญจรกลายเป็นพื้นที่ที่โอบรับผู้คนมากขึ้น แถมยังช่วยลดมลภาวะจากท้องถนนอีกด้วย ‘Kiosk Stalls’ ปรับฟังก์ชันให้เป็นร้านกาแฟ ร้านหนังสือ หรือซุ้มขายอาหารย่อมๆ เติมสีสันให้ข้างทาง  ในเมื่อเหล่าร้านอาหารแผงลอยหรือสตรีตฟูดเป็นของขึ้นชื่อของไทย และเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนอยู่แล้ว ถ้าเราลองใช้ประโยชน์จากโครงสร้างและระบบไฟฟ้าที่มีอยู่ ทำบานหน้าต่างที่เปิด-ปิดได้ ติดป้ายร้านค้า เพิ่มแผงวางขายของด้านนอก และทำพื้นที่จัดเก็บสินค้าด้านใน รีโนเวตใหม่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้ามาเช่าพื้นที่ได้ ก็กลายเป็นหน้าร้านย่อมๆ แล้วนะเนี่ย […]

ค่าเช่าแพง แต่ค่าแรงถูก กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองค่าเช่าที่อยู่อาศัยแพงอันดับหนึ่งของโลก

ช่วยด้วย จ่ายค่าเช่าไม่ไหวแล้ว! ทุกวันนี้คุณจ่ายค่าเช่าห้องกันคนละเท่าไหร่ เป็นห้องขนาดเท่าใด และอาศัยกันอยู่กี่คน เพราะด้วยเศรษฐกิจและค่าครองชีพในตอนนี้ จะให้ซื้อบ้านเป็นของตัวเองสักหลังคงแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่พอมาเทียบอัตราค่าเช่าและรายได้ บางครั้งก็ยังดูสูงเกินเอื้อมไปอยู่ดี คนกรุงเทพฯ จ่ายค่าเช่า 79 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ล่าสุดข้อมูลจาก DWS บริษัทจัดการสินทรัพย์ ได้นำผลการสำรวจ Housing Affordability (ความสามารถในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย) ปี 2568 มาขยายผลเป็น 80 เมืองทั่วโลกแล้วพบว่า กรุงเทพฯ ได้อันดับรั้งท้ายในอัตราส่วนระหว่างค่าเช่าบ้านกับรายได้ รวมถึงมีคะแนนความสามารถในการจ่ายค่าเช่ารวม (Combined Affordability Score) ต่ำที่สุด จนแทบสรุปได้เลยว่า กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองรายได้ต่ำ ค่าเช่าแพงไปแล้ว ในรายงานให้ข้อมูลว่า ปกติแล้วสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมระหว่างค่าบ้านกับรายได้ คือต้องต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เช่น รายได้ 30,000 บาท ค่าเช่าบ้านไม่ควรเกิน 9,000 บาท เพื่อที่จะเหลือเงินออม หรือแบ่งจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่จากรายงานสถิติ กรุงเทพฯ มีอัตราส่วนค่าเช่า (สำหรับอะพาร์ตเมนต์ 2 […]

ห้องน้ำหญิง ความเหลื่อมล้ำทางเพศที่เกิดจากการออกแบบพื้นที่สาธารณะ และแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว

เกิดเป็นผู้หญิงต้องอดทน ทนทุกอย่าง ทนทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องเข้าห้องน้ำ เวลาไปเดินห้างฯ ภาพของผู้หญิงที่ต่อแถวเข้าห้องน้ำเป็นภาพที่พบเห็นได้เป็นประจำ ทั้งที่ห้องน้ำชายไม่มีคิวเลย นี่คือปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศในพื้นที่สาธารณะที่เกิดขึ้นมาอย่างเนิ่นนาน จนเป็นเหมือนเรื่องปกติที่สังคมชินชา ทุกคนเข้าใจร่วมกันว่า ‘ผู้หญิงเข้าห้องน้ำ = นาน’ ทว่าในช่วงหลังมานี้ เทรนด์การออกแบบอาคารสาธารณะเริ่มมีการกำหนดสัดส่วนของห้องน้ำหญิงให้มากกว่าห้องน้ำชาย หรือแม้กระทั่งการมาถึงของห้องน้ำสำหรับทุกเพศ (Unisex Toilet) ก็ค่อยๆ ทำให้สังคมตระหนักรู้ว่า การเข้าห้องน้ำสาธารณะได้โดยไม่ต้องรอคิวนานเป็นสิทธิที่ทุกคนควรได้รับ และจริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ทำได้หากผ่านการคิดคำนึงและออกแบบมาอย่างถี่ถ้วน คอลัมน์ Curiocity อยากชวนมาดูประเด็นความเหลื่อมล้ำทางเพศที่เกิดขึ้นจากห้องน้ำสาธารณะ ทั้งสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงการแก้ไขด้วยการออกแบบในระยะยาว สาเหตุที่ผู้หญิงต้องรอคิวเข้าห้องน้ำแทบทุกครั้ง จากสถิติของ The Guardian พบว่า 59 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงประสบปัญหาการรอคิวห้องน้ำที่นานเกินไป ในขณะที่ฝั่งผู้ชายมีเพียง 11 เปอร์เซ็นต์ที่ประสบปัญหานี้ โดยหนึ่งในต้นตอสาเหตุมาจากการที่เพศหญิงใช้เวลาในห้องน้ำประมาณ 90 วินาที ในขณะที่เพศชายใช้เพียง 40 วินาที อันเนื่องมาจากสรีระร่างกายและพฤติกรรมการขับถ่าย อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่ชี้ให้เห็นว่า สาเหตุที่ผู้หญิงใช้เวลาในห้องน้ำนานกว่านั้นเกิดจากหลายปัจจัย เช่น เลเยอร์ของเสื้อผ้าที่มากกว่าผู้ชาย การทำความสะอาดฝารองโถก่อนนั่ง การมีประจำเดือน และจากปัจจัยภายนอกอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การช่วยพาลูกหรือผู้สูงอายุเข้าห้องน้ำ […]

Congestion Fee นโยบายค่าธรรมเนียมรถติด ความหวังที่จะช่วยลดรถยนต์บนท้องถนน

“อยู่กรุงเทพฯ ออกจากบ้านช้ากว่าปกติสิบนาที ชีวิตเปลี่ยน” เสียงบ่นอื้ออึงของเหล่าคนกรุงที่ต้องขับรถออกมาทำงานในเช้าวันจันทร์ โดยเฉพาะในย่านรถติดเป็นประจำอย่างอโศก เพชรบุรี ลาดพร้าว และอีกหลากหลายเส้นทาง ถึงขนาดเป็นหัวข้อประจำปีที่คนในโลกอินเทอร์เน็ตออกมาแชร์กันว่า แต่ละคนต้องใช้เวลากี่ชั่วโมงกว่าจะถึงที่ทำงาน และเคยรถติดอยู่บนท้องถนนกันนานที่สุดเป็นเวลาเท่าใด ซึ่งหลายคนอาจรู้กันดีว่า กรุงเทพฯ นั้นเป็นที่เลื่องลือเรื่องรถติด และยังคว้าตำแหน่งอันดับ 2 ของเมืองที่รถติดที่สุดในโลก จาก TomTom Traffic Index อีกด้วย คอลัมน์ Curiocity อยากชวนมาดูโมเดลของต่างประเทศ ผสมกับความพยายามของรัฐบาลไทยที่พูดถึงการแก้ปัญหารถติด ด้วยนโยบายการเก็บค่าธรรมเนียมรถติดในเขตเมืองกัน ชงนโยบายแก้รถติดด้วยค่าธรรมเนียม นโยบายนี้พูดถึงการเก็บค่าธรรมเนียมบนถนน 6 เส้นทางที่การจราจรคับคั่ง หรือเรียกง่ายๆ ว่ารถติดมาก ได้แก่ 1. ทางแยกเพชรบุรี-ทองหล่อ (ช่วงถนนเพชรบุรี และทองหล่อ)2. ทางแยกสีลม-นราธิวาส (ช่วงถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และถนนสีลม)3. ทางแยกสาทร-นราธิวาส (ช่วงถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และถนนสาทร)4. ทางแยกปทุมวัน (ช่วงถนนพญาไท และถนนพระรามที่ 1)5. ทางแยกราชประสงค์ (ช่วงถนนราชดำริ ถนนพระรามที่ 1 และถนนเพลินจิต)6. ทางแยกประตูน้ำ (ช่วงถนนราชดำริ […]

Bangkok Outdoor Library โครงการห้องสมุดกลางแจ้งในกรุงเทพฯ ที่อยากใช้พื้นที่สาธารณะส่งเสริมการอ่าน

‘พื้นที่สาธารณะ’ กลายเป็นวาระสำคัญที่หลายเมืองทั่วโลกหยิบยกขึ้นมาใช้เป็นแนวทางพัฒนาเมือง เห็นได้จากการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของหลายๆ สถานที่ที่มีอยู่แล้วให้โอบรับคนทุกกลุ่ม และดึงดูดให้คนอยากออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่เรามองว่าน่าสนใจและอยากให้มีในกรุงเทพฯ คือ Outdoor Library หรือห้องสมุดกลางแจ้ง ที่ประเทศเกาหลีใต้หยิบมาปรับใช้กับพื้นที่สาธารณะในเมือง เช่น โซลพลาซา หรือริมคลองชองกเยชอน โดยเปิดพื้นที่ในช่วงหน้าร้อนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ให้คนมานั่งชิล อ่านหนังสือ โดยจะมีการจัดกิจกรรม การแสดง และแสดงดนตรีร่วมด้วย ด้วยเหตุนี้ คอลัมน์ Urban Sketch จึงลองมองหาสถานที่และพื้นที่ในเมืองที่มีศักยภาพในการจัดกิจกรรมแบบนี้มานำเสนอ เพราะแค่จัดเตรียมเสื่อ บีนแบ็ก เก้าอี้ กองหนังสือ เฟอร์นิเจอร์ที่ถอดประกอบกับเคลื่อนย้ายได้ และอาจจะเซตมุมแลกหนังสือให้ผู้คนมาแชร์หรือส่งต่อเล่มโปรดเพิ่มเติมก็เพียงพอแล้ว เพราะคงดีไม่น้อยเลยถ้าเมืองจะมีพื้นที่สาธารณะให้คนมาพบปะ ทำกิจกรรม รวมถึงเข้าถึงการอ่านและหนังสือได้มากขึ้น สกายวอล์กเปลี่ยนพื้นที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าให้เป็นมุมของนักอ่าน ปกติหน้าที่ของสกายวอล์กคือ การเป็นเส้นทางเชื่อมต่อ อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสถานีใหญ่ๆ ที่มีคนพลุกพล่าน เชื่อมกับเหล่าห้างสรรพสินค้า เช่น สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เป็นต้น ด้วยความที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง มีโครงสร้างที่คลุมแดดคลุมฝน เราจึงมองว่าบริเวณนี้มีศักยภาพในการปรับให้เป็นห้องสมุดกลางแจ้ง ยิ่งโดยเฉพาะตรงพื้นที่ทางเชื่อมที่มีประติมากรรมใบบัวของสถานีสนามกีฬาฯ และพื้นที่ทางเชื่อมตรงบริเวณห้างฯ เอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์ของสถานีพร้อมพงษ์ น่าจะจัดกิจกรรมได้แบบไม่กระทบการสัญจรมากนัก ซึ่งถ้าหากร่วมมือกับห้างฯ […]

‘เฟื่องนคร’ เดินเท้าสำรวจ 5 ร้านรวงบนหนึ่งในสามถนนแรกของไทย เส้นทางตัดผ่านระหว่างประวัติศาสตร์กับปัจจุบัน 

เชื่อว่าใครหลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อ ‘เฟื่องนคร’ และมีจังหวะที่หยุดสนใจกับความไพเราะของชื่อ ซึ่งนามที่สวยงามทั้งรูปและความหมายนี้คือชื่อของหนึ่งในถนน 3 สายแรกของไทย ที่ถูกตั้งให้สอดคล้องและมีความหมายคล้ายกันเพื่อความเป็นสิริมงคล เริ่มต้นที่เจริญกรุง ต่อด้วยบำรุงเมือง และถัดมาคือเฟื่องนครนั่นเอง ‘ถนนเฟื่องนคร’ สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2406 เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนเจริญกรุง โดยเริ่มต้นที่แยกสี่กั๊กพระยาศรี และสิ้นสุดที่แยกสี่กั๊กเสาชิงช้าซึ่งเชื่อมกับถนนบำรุงเมือง เฟื่องนครจึงเปรียบเหมือนทางตัดผ่านเชื่อมต่อระหว่างถนนสองเส้นนี้ ความน่าสนใจของถนนเส้นนี้ไม่ใช่แค่การเป็นถนนสายแรกๆ ของมหานครบางกอก แต่ทิวทัศน์ตลอดทั้งเส้นยังเต็มไปด้วยร่องรอยความเฟื่องฟูจากอดีต เนื่องจากเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวการค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นย่านอัญมณี เครื่องประดับ หรือแหล่งรวมโรงพิมพ์ของพระนครในยุคสมัยก่อน แม้ว่าคอลัมน์ Neighboroot จะพาผู้อ่านไปสำรวจถนนหลากหลายสายบนเกาะรัตนโกสินทร์มาแล้วหลายครั้ง แต่ Urban Creature ก็ยังอยากชวนไปเดินส่องเฟื่องนคร ถนนอีกสักสายของอาณาบริเวณนี้ ผ่านร่องรอยจากอดีตสู่ปัจจุบัน สะท้อนการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยจากย่านชุมชนค้าขายสู่ย่านท่องเที่ยวที่มองว่าความช้าคือสุนทรียะอย่างหนึ่ง จากความยาว 2.5 กิโลเมตร สู่ทางถนน 500 เมตร ถนนเฟื่องนครสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เดิมทีหัวถนนสายนี้เริ่มต้นที่ปากคลองตลาดและสิ้นสุดที่วัดบวรนิเวศวิหาร แต่ปัจจุบันเส้นทางจากเสาชิงช้าสิ้นสุดที่วัดบวรฯ ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่ของถนนตะนาว ทำให้เฟื่องนครในปัจจุบันเริ่มต้นที่แยกสี่กั๊กพระยาศรีและสิ้นสุดที่แยกสี่กั๊กเสาชิงช้า เหลือระยะทางแค่ 500 เมตรเท่านั้น  ถนนเฟื่องนครในอดีตไม่ได้มีแค่ความยาวที่ยาวกว่าปัจจุบัน แต่ยังควบตำแหน่งการเป็นหนึ่งในย่านการค้าอันคึกคักตามความหมายของชื่อถนน โดยเฉพาะร้านเพชรพลอยและทองคำ ซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลชุมชนใกล้เคียงอย่าง […]

กราฟฟิตี้ช่วยพัฒนาเมือง ส่องตัวอย่างย่านและเมืองจากต่างประเทศที่ใช้งานศิลปะเป็นส่วนช่วยสร้างอัตลักษณ์เมือง

ผนังของเมืองเป็นของใคร กราฟฟิตี้เป็นงานศิลปะทำลายความสวยงามของเมือง หรือช่วยเพิ่มอัตลักษณ์ของพื้นที่ คำถามเหล่านี้วนเวียนบนโลกอินเทอร์เน็ตจากเหตุการณ์ที่มีคนพ่นสีทับงานศิลปะบนกำแพงในซอยเจริญกรุง 30 ซึ่งเป็นภาพกราฟฟิตี้ของศิลปินชาวสเปน ภายใต้โครงการ Krung Thep Creative Streets กราฟฟิตี้คืออะไร ทำไมต้องพ่นบนกำแพง ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า การทำงานศิลปะบนผนังของเมืองนั้นมีหลากหลายรูปแบบ และมีวิวัฒนาการมาตั้งแต่อดีต โดยมีสองคำง่ายๆ ที่ใช้จำกัดความงานศิลปะบนผนังอย่าง Mural และ Graffiti Mural หรือ จิตรกรรมฝาผนัง คือภาพวาดหรือศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นผิวขนาดใหญ่ เช่น ผนัง เพดาน หรือกำแพง โดยส่วนใหญ่มักจะทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ก็พวกภาพวาดส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือจิตรกรรมฝาผนังในวัด ส่วน Graffiti เดิมทีเป็นวัฒนธรรมย่อย (Subculture) ที่เน้นการแสดงออกถึงตัวตน การประกาศอาณาเขต หรือการวิพากษ์วิจารณ์สังคม ส่วนใหญ่มักทำในพื้นที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จริงๆ แล้วในปัจจุบันเส้นแบ่งระหว่าง Mural และ Graffiti เริ่มมีความเลือนรางมากขึ้น เนื่องจากศิลปินกราฟฟิตี้หลายคนพัฒนาฝีมือและได้รับการยอมรับ จนสามารถสร้างสรรค์ผลงาน Mural ขนาดใหญ่ที่ถูกกฎหมายได้ ซึ่งงานเหล่านี้มักจะผสมผสานสไตล์และเทคนิคของกราฟฟิตี้เข้าไปด้วย เราจึงเรียกศิลปะบนกำแพงในยุคใหม่ๆ นี้โดยรวมว่า […]

วนเวียนวกวนใน Liminal Spaces ของไทย จะหาทางออกอย่างไรบนทางเดินที่ไม่มีจุดสิ้นสุด เหมือนตัวเอกใน Exit 8

เคยไหม เวลาเดินคนเดียวในเมืองช่วงเช้าตรู่ บ่ายๆ หรือกระทั่งค่ำมืดในอุโมงค์ทางเดิน สะพานลอย สถานีรถไฟฟ้า หรือลานจอดรถ รู้ตัวอีกทีหันไปรอบๆ ดันไม่เจอใคร บรรยากาศวังเวง อย่างกับข้ามไปอีกโลกหนึ่ง สถานที่โล่งๆ ว่างเปล่า เส้นทางทอดยาวไกลที่ให้ความรู้สึกของความไม่มั่นคง ไม่คุ้นเคยแต่คุ้นเคยในทีแบบนี้ ในทางพื้นที่เรียกว่า Liminal Space หมายถึงพื้นที่ก้ำกึ่ง ช่วงรอยต่อ ซึ่งความลึกลับนี้ก็ถูกนำมาทำเป็นเกมสยองขวัญ The Exit 8 ที่ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นเตรียมเข้าฉายบ้านเราในช่วงปลายเดือนธันวาคม เนื้อหาว่าด้วยสถานการณ์ที่ชายหนุ่มต้องหาทางออกจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินให้ได้ โดยต้องจดจำทางและความผิดปกติของพื้นที่ ซึ่งความผิดปกติที่ว่าปรากฏตัวทั้งในรูปแบบป้าย อุทกภัย คน หรือสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ควรมีอยู่ในสถานี เป็นต้น คอลัมน์ Urban Isekai จึงอยากชวนทุกคนจินตนาการตามว่า ถ้าเซตติ้งใน Exit 8 อยู่ที่ไทย Liminal Space ที่เราต้องเอาตัวรอด หาทางออกให้ได้ จะเป็นที่ไหนได้บ้าง ที่จอดรถ 3,000 คัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ Liminal Space แห่งแรกที่เราอยากชวนไปเดินวนหาทางออกคือ ที่จอดรถ 3,000 คัน […]

ดานัง เมืองเวียดนามกลาง ที่มุ่งสู่เสือตัวที่ห้าจากเขตการค้าเสรีและความมุ่งมั่นออกแบบเมือง

เพียง 5 เดือนแรกของปี 2568 เมืองแห่งนี้ต้อนรับนักท่องเที่ยวไปกว่า 4.6 ล้านคน และมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งสูงขึ้นจากปีก่อนถึง 37 เปอร์เซ็นต์ โดยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นเมืองเพิ่งได้รับการพัฒนาอย่างจริงจังเพียง 20 ปีหลังสงครามเวียดนาม แค่นี้คงพอจะทายกันได้แล้วว่า เมืองที่เรากำลังพูดถึงอยู่คือ ‘ดานัง’ เมืองขึ้นชื่อแห่งเวียดนามกลาง เมื่อช่วงหนึ่งถึงสองเดือนที่ผ่านมา หลายคนน่าจะได้ยินเกี่ยวกับข่าวการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของดานัง ที่นักท่องเที่ยวหลากหลายประเทศบินลัดฟ้าไปเยี่ยมชม ‘Man-made Destination’ อย่างสะพานทองที่มีสองมือรองรับไว้ บานาฮิลล์ จุดเช็กอินยอดฮิตที่พาวาร์ปไปฝรั่งเศสไม่รู้ตัว หรือสะพานมังกร จุดชมแสงสีเสียงที่สวยตระการตา แต่ในอีกไม่ช้านครดานังจะผันตัวจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตกลายเป็นเขตการค้าเสรี (Free Trade Zone) ที่ไม่ใช่เพียงที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม แต่เวียดนามยังตั้งใจวางรากฐานและออกแบบเมืองให้เขตการค้าเสรีแห่งใหม่ของประเทศนี้ยิ่งใหญ่กว่าที่เคย วันนี้คอลัมน์ City in Focus ขอชวนบินลัดฟ้าไปสำรวจนครดานัง และการพัฒนาเมืองที่จะทำให้เมืองนี้เป็นมากกว่าเมืองท่องเที่ยวของเวียดนามกลาง ปรับเมืองให้พร้อมค้าขายอย่างเสรี อย่างแรกเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า เขตการค้าเสรีคืออะไร และทำไมเวียดนามถึงต้องมีเขตการค้าเสรี หากอธิบายอย่างง่ายที่สุด เขตการค้าเสรีดานัง (Da Nang Free Trade Zone) คือเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ต้องการส่งเสริมการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ โดยยกเว้นภาษีนำเข้า-ส่งออก เพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง […]

1 2 3 52

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.