เคยมั้ยที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วปวดไปหมด ปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ แต่หาสาเหตุเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนบางคนอาจจะรีบไปวัดทำบุญจัดสังฆทานชุดใหญ่เพราะคิดว่ามีเจ้ากรรมนายเวรมาขี่คออยู่ จะบ้าเหรอ!? ลองหันไปดูหมอนที่หนุนอยู่ทุกวันก่อนมั้ย
คนส่วนใหญ่เวลาเลือกซื้อหมอนจะไม่ได้ใส่ใจมากนัก “ซื้อๆ ไปเหอะ หมอนอะไรก็นอนได้เหมือนกันแหละ” หยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้เลยนะ เพราะหมอนเนี่ยสำคัญมากๆ เราใช้เวลาอยู่กับมันวันละตั้งกี่ชั่วโมง จะไม่เลือกให้ดีหน่อยเหรอ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีการเลือกหมอนให้เพื่อนๆ ได้นอนหลับกันอย่างสบายใจ ไร้กังวล ไม่ต้องบ่นปวดเมื่อย ไม่ต้องเสียเงินไปเข้าร้านนวดกันอีกต่อไป
ก่อนอื่นขอแนะนำก่อนว่า วัสดุที่ใช้ทำหมอนมีหลายชนิด ทั้งใยสังเคราะห์ โฟม ยางพารา ขนสัตว์ และนุ่น มาดูกันก่อนดีกว่าว่าแต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง
ใยสังเคราะห์ได้รับความนิยมมาก ด้วยราคาที่ไม่แพงและดูแลรักษาได้ง่าย แต่ใช่ว่าถูกแล้วจะไม่ดีนะ เพราะสามารถรองรับสรีระได้เป็นอย่างดีเลย แต่ว่าอายุการใช้งานจะไม่ค่อยนาน เพราะถ้าเกิน 6 เดือนหมอนของคุณก็จะเริ่มมีไรฝุ่นตัวน้อยๆ เข้ามาอยู่แล้วสิ
การ Support ****
กันฝุ่น *
ความทนทาน **
ราคา *****
นุ่น สามารถปรับรูปร่างตามรูปศีรษะได้เป็นอย่างดี เพราะมีความนุ่มและยืดหยุ่นได้มาก แถมยังเป็นวัสดุธรรมชาติ ส่วนราคาก็น่าคบหาอีกต่างหาก
การ Support ****
กันฝุ่น *
ความทนทาน ***
ราคา *****
เมมโมรีโฟม สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงไปตามอุณหภูมิได้ และกระจายแรงกดทับได้ดี ช่วยลดอาการปวดตามร่างกายได้เป็นอย่างดี
การ Support *****
กันฝุ่น ***
ความทนทาน ****
ราคา **
ขนสัตว์ มีทั้งขนนก ขนเป็ด และขนห่าน หมอนที่ทำจากขนสัตว์จะนุ่มมากกกก แต่ราคาก็สูงมากเช่นกัน ที่สำคัญหมอนชนิดนี้ไม่เหมาะกับคนที่แพ้ฝุ่นหรือเป็นโรคภูมิแพ้นะ เพราะขนสัตว์จะเก็บฝุ่นเยอะ ควรนำไปตากแดดบ่อยๆ และห้ามโดนน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
การ Support ****
กันฝุ่น ***
ความทนทาน ***
ราคา *
ยางพารา นี่แหละ คุณค่าที่คุณคู่ควร ทั้งแข็งแรงทนทาน ใช้ได้นานหลายปี และยังรองรับคอ หลัง ไหล่ ได้เป็นอย่างดี แถมยังเหมาะมากๆ สำหรับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ส่วนราคาก็นั่นแหละค่ะ แพงเอาเรื่องเลย แต่ถ้าซื้อทีเดียวแล้วใช้นานๆ ก็คุ้มนะ
การ Support *****
กันฝุ่น *****
ความทนทาน *****
ราคา *
นอกจากเรื่องวัสดุแล้ว อีกอย่างที่เราต้องคำนึงถึงก่อนจะซื้อหมอนสักใบนั่นก็คือ ท่านอนของเรานั่นเอง รู้มั้ยว่าการเลือกหมอนก็ต้องดูด้วยนะว่าเราชอบนอนแบบไหน นอนหงาย นอนตะแคง นอนคว่ำ ยืนนอน ตีลังกานอน พอๆ เริ่มเยอะละ
นอนหงาย ควรเลือกหมอนที่ไม่สูงหรือเตี้ยจนเกินไป เพราะจะช่วยให้คอตั้งอยู่ในระดับที่เหมาะสม และช่วยบาลานซ์แผ่นหลังส่วนบนและกระดูกสันหลังได้เป็นอย่างดี หรือถ้าใครมีปัญหาปวดหลังก็ควรหาหมอนอีกใบมารองต้นขา เพื่อให้กระดูกสันหลังตั้งตรง ไม่ต้องบ่นปวดหลังกันอีกต่อไป
นอนตะแคง ควรเลือกหมอนให้สอดรับกับช่องว่างระหว่างคอและไหล่ให้พอดี หมอนควรจะมีความสูงพอที่จะยกระดับคอให้รับกับกระดูกสันหลังได้ และที่สำคัญต้องใช้หมอนข้างด้วยนะ เพื่อรองรับช่องว่างระหว่างขา เพื่อให้ร่างกายอยู่ในท่าที่เหมาะสมนั่นเอง
นอนคว่ำ ไม่ควรหนุนหมอน แต่ถ้าใครอยากจะหนุนก็ควรเลือกหมอนที่เตี้ยหรือแบนมากๆ แนะนำให้เลือกใช้หมอนที่ทำจากขนสัตว์ เพราะเวลานอนลงไปแล้วหมอนจะจมลงไปและไม่คืนรูป ทำให้ไม่ปวดคอและไหล่
นอกจากหมอนแล้ว ปลอกหมอนก็สำคัญไม่แพ้กันนะ ปลอกหมอนที่ดีควรจะเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าที่โปร่งๆ หน่อย เพราะระบายอากาศได้ดี ช่วยป้องกันไรฝุ่น และยังลดความชื้นจากเหงื่อได้อีกด้วย
เพราะเวลานอนเป็นเวลาเดียวที่ร่างกายของเราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ถ้าหลับไม่สบายก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว เพื่อนๆ ก็อย่าลืมเอาเทคนิคการเลือกหมอนไปใช้กันดูนะ