โรงแรมในสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เน้นการตกแต่งและการบริการ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ อยากกลับมาใช้บริการอีก
แต่ ‘บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี’ ที่จังหวัดจันทบุรี ขอเลือกคิดต่างออกไป เพราะนอกจากทำเลจะโอบล้อมไปด้วยบรรยากาศดีๆ อยู่ติดริมแม่น้ำ มีห้องพักที่สะดวกสบายแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ชวนให้ผู้เข้าพักได้ศึกษาและทำความรู้จักจันทบุรี รวมถึงพื้นที่ชุมชนริมน้ำจันทบูรให้มากขึ้นอีกด้วย
มากไปกว่านั้น ลูกค้าเองยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาชุมชนผ่านการเข้าพักได้อีก
ที่พักในจันทบุรีแห่งนี้แตกต่างจากที่พักอื่นๆ อย่างไร คอลัมน์ Urban Guide จะขอพาไปสำรวจกันถึงเมืองจันท์
บ้านพักประวัติศาสตร์ที่เก็บเรื่องราวของเมืองเอาไว้ที่ล็อบบี้โรงแรม
หากมองผ่านๆ โรงแรมแห่งนี้อาจดูเหมือนบ้านเก่าทั่วไปในชุมชน แค่อาจจะดูใหญ่โตกว่าบ้านหลังอื่นเล็กน้อย แต่หากสังเกตให้ดี ล็อบบี้โรงแรมแห่งนี้มีหน้าตาคล้ายคลึงกับพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ ที่เชิญชวนให้เราก้าวเท้าเข้าไปดูว่าสิ่งที่จัดแสดงอยู่นั้นมีอะไรบ้าง
เรื่องราวส่วนใหญ่ที่เราได้เห็นผ่านสิ่งของต่างๆ ล้วนแล้วแต่บรรจุความเป็นมาของจังหวัด และการดำเนินชีวิตของผู้คนสมัยก่อนในแถบนี้ ด้วยความที่ชุมชนริมน้ำจันทบูรเป็นย่านเก่าแก่ของจังหวัด รวมถึงเคยเป็นเมืองท่าค้าขายในสมัยก่อน จึงมีเรื่องราวมากมายที่น่าสนใจ และสามารถรวบรวมมาเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเยี่ยมชม
“หลวงราชไมตรีเป็นคนแรกที่บุกเบิกเรื่องของการทำสวนยางพารา เนื่องจากท่านเคยไปเรียนหนังสืออยู่ที่ปีนัง แล้วพอกลับมาอยู่ที่บ้าน ท่านเห็นว่าสภาพอากาศของที่จันทบุรีไม่ได้ต่างอะไรกับมาเลเซียเลย ท่านก็เลยสั่งพันธุ์ยางเข้ามาทดลองปลูกจนประสบความสำเร็จ และกลายเป็นอาชีพเสริมของคนจันท์ เรียกได้ว่าเป็นบิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก แล้วนอกจากทำสวนยาง ท่านก็เป็นพ่อค้าพลอยด้วย”
‘หมู-ปัทมา ปรางค์พันธ์’ ผู้จัดการบ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี เล่าให้เราฟังถึง ‘หลวงราชไมตรี’ ผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ และสร้างคุณูปการให้กับชาวจันทบุรีเป็นอย่างมาก
ด้วยความที่สถานที่แห่งนี้มีเรื่องราววิถีชีวิตของชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้คนในชุมชนตั้งใจเก็บรักษาความสวยงามนี้เอาไว้ จนกลายมาเป็น ‘บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี’ บนถนนสุขาภิบาล ถนนสายแรกของจังหวัดจันทบุรี เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์จากการเข้าพักผ่อน และนำรายได้จากการต้อนรับนักท่องเที่ยวมาช่วยพัฒนาชุมชนริมน้ำจันทบูรแห่งนี้ให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง
จากบ้านเก่าอายุกว่า 100 ปี สู่ที่พักด้วยการร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน
บ้านไม้อายุกว่า 150 ปีแห่งนี้ ได้รับการบูรณะและปรับปรุงโดยการออกแบบของสถาบันอาศรมศิลป์ ที่ได้เข้ามาในชุมชนและร่วมทำโปรเจกต์ด้วยกัน จนเกิดเป็น ‘บริษัท จันทบูรรักษ์ดี จำกัด’ ในการร่วมมือกับชมรมพัฒนาชุมชนริมน้ำจันทบูร เข้าออกแบบปรับปรุง ฟื้นฟูตัวอาคาร เพื่อทำเป็นจันทบูรโมเดล โครงการตัวอย่างของการอนุรักษ์อย่างมีส่วนร่วมด้วยแนวคิดกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise)
และเมื่อเราถามว่าทำไมถึงเลือกปรับปรุงให้เป็นบ้านพักประวัติศาสตร์ แทนที่จะปรับเปลี่ยนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว ปัทมาก็เล่าต่อพลางแย้มยิ้ม
“บางครั้งมรดกวัฒนธรรมก็เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านเข้าใจ ก็เลยเลือกสิ่งที่จับต้องและเห็นได้ง่ายที่สุด นั่นคือนำตัวอาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมมาพัฒนาเป็นธุรกิจเพื่อสังคม และอาคารที่ว่านั้นก็คือบ้านหลวงราชไมตรี
“โดยเจ้าของบ้านผู้เป็นทายาทหลวงราชไมตรียินดีให้เช่าเรือนไม้เก่าแก่ริมน้ำจันทบูร ในราคาเดือนละหนึ่งบาท เป็นระยะเวลาสามสิบปี ซึ่งก่อนจะมาเป็นโรงแรมเราก็มีหลายไอเดียว่าจะทำอย่างไรกับบ้านหลังนี้ดี สิ่งสำคัญคือเรื่องของเงินลงทุนกับผลกำไรที่จะกลับคืนมา
“เราเช่าบ้านเดือนละหนึ่งบาทก็จริง แต่เราต้องลงทุนในการบูรณะบ้านเอง ซึ่งเงินที่ใช้บูรณะบ้านค่อนข้างเยอะ เรามองว่าถ้าบูรณะด้วยเงินลงทุนขนาดนั้นก็ต้องเป็นธุรกิจที่มีรายได้กลับคืนมาเยอะพอสมควร เลยตกลงกันว่าทำเป็นโรงแรมแล้วกัน”
จริงอยู่ที่ชื่อในการบริหารงานนั้นเป็นของบริษัท จันทบูรรักษ์ดี จำกัด แต่ความจริงแล้วการชุบชีวิตบ้านเก่าแห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ล้วนแล้วแต่เป็นคนในชุมชนที่ร่วมกันเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในการสร้างโรงแรมแห่งนี้ขึ้นมา เรียกได้ว่าเจ้าของที่แท้จริงของบ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรีนี้ก็คือผู้คนในชุมชนริมน้ำจันทบูรนั่นเอง
ปัทมาเสริมต่อว่า นับจนถึงตอนนี้ ผู้ร่วมหุ้นโรงแรมไม่ได้มีแค่คนในชุมชนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนต่างอำเภอและต่างจังหวัดที่บอกต่อๆ กันไปจนแทบจะทั่วประเทศไทยแล้ว ทำให้ในตอนนี้มีผู้ถือหุ้นกว่า 500 คนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ทางจันทบูรรักษ์ดีก็ได้ทำความเข้าใจกับผู้ร่วมหุ้นทุกคนว่า โรงแรมแห่งนี้มีทิศทางในการเป็นธุรกิจเพื่อสังคม การดำเนินงานของผู้ที่เข้ามาดูแลโรงแรมล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจน้อย โชคดีที่ทุกคนเข้าใจถึงความตั้งใจในการอนุรักษ์บ้านโบราณแห่งนี้เอาไว้ จึงทำให้บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรียังคงเปิดรับนักท่องเที่ยวมาจนถึงตอนนี้
บ้านพักที่รักษาเรื่องราวประวัติศาสตร์เอาไว้ทุกส่วน
แม้จะไม่ใช่โรงแรมขนาดใหญ่ แต่ที่บ้านหลวงราชไมตรีก็มีห้องพักที่รอต้อนรับผู้มาเยือนมากถึง 10 ห้อง โดยแต่ละห้องล้วนมีชื่อเป็นของตัวเอง ซึ่งมีที่มาและเรื่องราวต่างๆ เชื่อมโยงกับชื่อห้องอยู่
ปัทมาเสริมว่า บ้านหลังนี้มีทั้งคุณค่าและมูลค่าในการนำมาต่อยอดเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับที่พัก ดังนั้นทีมผู้ออกแบบจึงนำเรื่องราวในช่วงชีวิตของหลวงราชไมตรีทั้งหมดมาดีไซน์เป็นห้องพักทั้งหมด 10 ห้อง
นอกจากพื้นที่ล็อบบี้ที่เก็บรวมเรื่องราวต่างๆ ของหลวงราชไมตรีและประวัติศาสตร์พื้นที่ที่น่าสนใจเอาไว้แล้ว โรงแรมแห่งนี้ยังเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างของบ้านเก่าเอาไว้ผ่านชื่อห้องต่างๆ
“อย่างชื่อห้องนายพ่อ นายแม่ ก็คือห้องที่หลวงราชไมตรีพักจริงๆ ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ เราก็ตกแต่งภายในห้องด้วยเรื่องราวของหลวงราชไมตรีจากคำบอกเล่าของคนที่เคยอยู่บ้านนี้ เขาบอกว่าคนที่อยู่ในบ้านนี้จะเรียกหลวงราชไมตรีกับภรรยาท่านว่านายพ่อกับนายแม่ ในความหมายก็คือเป็นทั้งนายและพ่อแม่ เนื่องจากบ้านหลวงราชไมตรีไม่ได้มีแค่ลูกท่านอยู่แค่นั้น แต่มีเด็กคนอื่นๆ ที่ท่านให้ทุนการศึกษามาเรียนหนังสือ มาอาศัยอยู่ด้วย ถ้าใครไม่มีที่จะอยู่ก็มาอยู่ที่บ้านท่านได้ ท่านก็ให้อยู่ แล้วให้ช่วยงานบ้าน”
ชื่อห้องไม่ได้เชื่อมโยงแค่กับความเป็นอยู่ของหลวงราชไมตรีเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับพื้นที่ของจันทบุรีอีกด้วย อย่างการค้าพลอยและเครื่องเทศสมุนไพรที่เป็นอาชีพของชาวจันท์ก็ถูกนำมาเป็นชื่อห้องพักที่นี่ด้วยเหมือนกัน
“หรืออย่างห้องวิถีจันท์จะเป็นห้องที่อยู่มุมของบ้าน มองไปเราจะเห็นเจดีย์ของวัดโบสถ์เมืองพอดี มองเห็นถนนของชุมชนริมน้ำจันทบูรที่ตอนเช้าจะมีพระเดินออกมาบิณฑบาต”
คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริงไปนัก หากจะบอกว่าการพักที่นี่นับเป็นการซึมซับและเข้าถึงความเป็นจันทบุรีได้อย่างดีเลยทีเดียว
ชุมชนสร้างโรงแรม โรงแรมคืนรายได้ให้ชุมชน
อีกสิ่งที่ทำให้บ้านหลวงราชไมตรีแตกต่างจากที่พักในย่านเก่าแก่อื่นๆ คือ เรื่องของความเชื่อมโยงกับชุมชนตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการปรับปรุงบ้านเก่าหลังนี้ให้กลายเป็นที่พัก ไปจนถึงการนำรายได้จากการต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับคืนสู่ชุมชน
เพราะเป้าหมายสำคัญของการปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นโรงแรมคือการพัฒนาชุมชน ดังนั้นนอกจากทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชนริมน้ำจันทบูร ที่ไม่ว่าจะออกจากโรงแรมแล้วเลี้ยวซ้ายหรือเดินไปทางขวาก็จะได้สัมผัสกับวิถีชุมชนอย่างแท้จริง ยังควบรวมไปถึงอาหารเช้าของโรงแรมที่เป็นฝีมือของร้านอาหารในชุมชน ซึ่งทำให้เราได้อุดหนุนคนในพื้นที่ไปด้วยในตัว
จันทบุรีเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีประวัติศาสตร์เรื่องราวที่น่าค้นหามากมาย รวมถึงยังเป็นแหล่งอาหารอร่อยที่สายกินต้องได้ไปลิ้มลองรสชาติของอาหารท้องถิ่นกันสักครั้ง และแน่นอนว่าที่ชุมชนริมน้ำจันทบูรแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในจังหวัดที่มีให้ครบทั้งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะที่บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี
การเข้าพักที่นี่จะพาให้เราได้ย้อนกลับไปสู่อดีตในพื้นที่ที่เป็นต้นกำเนิดของหลายๆ อย่างในจันทบุรี และออกมาเดินเที่ยวในชุมชนเพื่อใช้เวลาซึมซับวิถีชีวิตชาวบ้านกันได้อย่างเต็มที่ เราเชื่อว่าการได้มาใช้เวลาในโรงแรมแห่งนี้จะทำให้ทุกคนหลงรักบรรยากาศของชุมชนริมน้ำจันทบูรอย่างแน่นอน
บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี
เวลาทำการ : ทุกวัน เช็กอินเวลา 14.00 น. เช็กเอาต์เวลา 11.00 น.
พิกัด : 252 ถ.สุขาภิบาล ต.วัดใหม่ อ.เมือง จ.จันทบุรี
แผนที่ : maps.app.goo.gl/L5XrcGDUGQMe7GDF9
ช่องทางติดต่อ :
โทร. 08 8843 4516, 08 1915 8815
E-mail : [email protected]
Facebook : บ้านหลวงราชไมตรี Historic Inn
Website : www.baanluangrajamaitri.com