สำหรับมนุษย์ ‘ความกลัว’ คือเครื่องมือสำหรับควบคุมพฤติกรรมของคนตั้งแต่สมัยโบราณที่ยังไม่มีกฎหมายชัดเจน เทพเจ้า ศาสนา และสิ่งเหนือธรรมชาติมักถูกยกขึ้นเป็นบทลงโทษสร้างความเกรงกลัวในการกระทำผิด
สิ่งเหล่านี้ตกทอดหลงเหลือมาในคราบของตำนานและเรื่องเล่า แม้ปัจจุบันโลกจะหมุนนำด้วยหลักวิทยาศาสตร์ แต่ความกลัวในสิ่งเหนือธรรมชาติยังคงมีในสังคม ส่งผลให้เกิดการสร้างเรื่องราวใหม่เพื่อเป็นบทเรียนเตือนใจให้ความปลอดภัยในสังคม เราจึงยังเห็นเรื่องสยองขวัญประจำเมืองอย่าง ‘Urban legend’ ที่ปรับตัวเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอ
Kuchisake-onna (หญิงสาวปากฉีก) – ญี่ปุ่น
อย่าคุยกับคนแปลกหน้า ถ้าไม่อยากเจอพี่สาวปากฉีก
ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในแหล่งรวมเรื่องสยองขวัญ แต่หากพูดถึงเรื่องราวที่โด่งดังที่สุดและพบได้ในหลายเมืองคงหนีไม่พ้น ‘Kuchisake-onna’
ยามโพล้เพล้ในที่เปลี่ยว หญิงปริศนามักจะปรากฏตัวโดยสวมหน้ากากหรือผ้าปิดปากไว้ และถามผู้โชคร้ายที่เดินผ่านว่า ‘ฉันสวยไหม’ หากตอบว่า ‘ใช่’ เธอจะถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นปากที่ฉีกขาด แล้วถามคำถามเดิมอีกครั้ง ถ้าตอบว่า ‘ไม่’ เธอจะฆ่าคนคนนั้นทันที แต่ถ้าตอบว่า ‘ใช่’ เธอจะใช้กรรไกรตัดปากของผู้ตอบให้เป็นเหมือนเธอ
แม้ฟังดูสยองขวัญ แต่หญิงสาวปากฉีกมักปรากฏตัวเฉพาะเวลาโพล้เพล้หรือตอนกลางคืนเท่านั้น เป้าประสงค์ที่แท้จริงคือการเตือนใจให้ระมัดระวังในการเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะเด็กที่ควรรีบกลับบ้าน ไม่เถลไถลหรือคุยกับคนที่ไม่รู้จัก
The Hookman (ชายมือตะขอ) – มิชิแกน, สหรัฐอเมริกา
เตือนใจคู่รักที่มักชอบสนุกกันในที่เปลี่ยว
สหรัฐอเมริกามีภูมิประเทศที่กว้างใหญ่ ทำให้ตำนานประจำเมืองมีความหลากหลายต่างออกไป แต่เรื่องราวของ ‘The Hookman’ จากรัฐมิชิแกนยังคงร่วมสมัยตั้งแต่อดีตยุค 60 มาจนถึงปัจจุบัน
กลางดึกคืนหนึ่ง คู่หนุ่มสาวขับรถไปยังจุดที่เงียบสงบในป่าเพื่อเตรียมทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างน่าตื่นเต้น ทุกอย่างเหมือนกำลังไปได้ดี แต่เมื่อวิทยุประกาศว่ามีฆาตกรโรคจิตที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาล โดยมีลักษณะเด่นคือใส่ตะขอแทนมือ ทั้งสองรีบขับรถกลับบ้านด้วยความตกใจกลัว และเมื่อถึงบ้านทั้งสองกลับตกตะลึงอีกครั้งหลังพบว่ามีตะขอติดอยู่ที่ประตูรถ
ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีเหมือนทั้งสองในเรื่อง การหาสถานที่ตื่นเต้นสำหรับวัยกลัดมันเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่การนำตัวเองเข้าไปในสถานที่สุ่มเสี่ยงและอันตรายดูไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉลาดเสียเท่าไหร่ ที่สำคัญควรรับฟังข่าวสารอยู่เสมอเพื่อให้เท่าทันอันตราย ไม่เช่นนั้นคุณอาจพบจุดจบที่ต่างไปจากในเรื่อง
The Killer in the Backseat (ฆาตกรในเบาะหลัง) – นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
โปรดตรวจสอบพาหนะและเบาะหลังของท่านก่อนออกเดินทาง
เรายังคงอยู่ในอเมริกา แต่คราวนี้ขอข้ามฟากมายังนิวยอร์ก กับเรื่องราวที่ทำให้ชาวเมืองกลับมาระแวดระวังรถของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนใน ‘The Killer in the Backseat’
หญิงสาวคนหนึ่งกำลังขับรถกลับบ้านในตอนกลางคืน ผ่านไปสักพักเธอสังเกตเห็นรถบรรทุกขับตามหลังและเปิดไฟใส่เธอซ้ำๆ จนน่าหงุดหงิด เธอตัดสินใจจอดรถลงไปคุยกับคนขับรถบรรทุก และทราบเหตุผลชวนสยองว่าคนขับรถบรรทุกได้พยายามช่วยเธอจากฆาตกรที่แอบซ่อนอยู่ในเบาะหลังของรถ เธอจึงรอดออกมาได้อย่างเฉียดฉิว
ย้อนกลับไปในนิวยอร์กทศวรรษ 1960 รถยนต์เริ่มเป็นที่แพร่หลายอย่างจริงจัง และการเพิ่มขึ้นของฆาตกรต่อเนื่องก็เช่นกัน เรื่องฆาตกรในเบาะหลังจึงสร้างขึ้น หวังให้ทุกคนหมั่นตรวจสอบรถของตัวเองอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนขึ้นรถ เพื่อป้องกันไม่ให้มีบุคคลไม่พึงประสงค์แอบขึ้นมาด้วย
La Llorona (หญิงสาวร่ำไห้) – เม็กซิโก
เธอจะไม่มาหา ถ้าไม่ออกจากบ้านตอนกลางคืน
‘La Llorona’ อาจไม่คุ้นหูสำหรับคนไทย แต่สำหรับซีกโลกฝั่งละตินแล้ว หญิงสาวร่ำไห้ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวแสนน่าเศร้าและโด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ในหลายประเทศ
‘มาเรีย’ หญิงสาวคนหนึ่งจากหมู่บ้านเล็กๆ ในเม็กซิโก เธอได้โอกาสแต่งงานกับเศรษฐี แต่สามีเธอเป็นคนเจ้าชู้ มักไม่สนใจเธอ และหลับนอนกับหญิงอื่น ด้วยความโศกเศร้าและความโกรธ ทำให้คืนหนึ่งเธอตัดสินใจพาลูกสองคนไปยังแม่น้ำใกล้ๆ และทำให้ทั้งสองจมน้ำ แต่เมื่อตระหนักได้ถึงการกระทำอันโหดร้ายของตน เธอก็เสียใจร้องไห้เดินค้นหาลูกจนตรอมใจตายในที่สุด ความสยองในเมืองเกิดขึ้นหลังเธอจากไป ในตอนกลางคืนมักมีผู้ได้ยินเสียงร้องไห้ของมาเรีย และผู้โชคร้ายคนนั้นมักลงเอยกับอันตรายหรือเคราะห์ร้าย
แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้าของมาเรีย แต่การออกจากบ้านตอนกลางคืนนับเป็นสิ่งอันตรายทั้งอดีตและปัจจุบัน แม้บางคนโชคดีอาจไม่เจอกับหญิงสาวร่ำไห้ แต่อันตรายยามค่ำคืนที่แท้จริงกลับน่ากลัวยิ่งกว่าผีเสียอีก
ยายสปีด-ไทย
ดึกดื่นอย่าขับรถเร็ว ระวังคุณยายจะวิ่งตาม
‘ยายสปีด’ เรื่องราวประจำเมืองอันโด่งดัง แม้ยายสปีดจะปรากฏในหลากหลายพื้นที่ และมีเรื่องราวความเฮี้ยนต่างออกไป แต่สุดท้ายจุดประสงค์ของคุณยายกลับขมวดเพื่อเตือนใจในเรื่องเดียวกัน
ประวัติของยายนั้นแตกต่างออกไปในแต่ละพื้นที่ แต่จะเริ่มด้วยเรื่องราวหญิงชราคนหนึ่งที่มักเดินอยู่บริเวณริมถนนในเวลากลางคืน และที่ตรงกันแน่นอนคือ หากใครขับรถผ่านถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนแล้วโชคร้ายดันไปเห็นยายสปีดเข้า คุณยายจะออกวิ่งตามรถคันนั้นด้วยความเร็วสูงอย่างน่าประหลาดใจทันที ทำให้ผู้ที่พบเจอยายสปีดมักตกใจขวัญผวา เกิดเป็นอุบัติเหตุจากการพยายามหนี
ตำนานยายสปีดมักโผล่ไปอยู่ในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่อเตือนให้ระแวดระวังคนข้ามถนน และเตือนใจผู้ขับขี่รถในเวลากลางคืนให้ระมัดระวัง ไม่ควรขับขี่ด้วยความเร็วสูงเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ