เรื่องเล่ารายวิน 8 “วินกะดึก”

อย่างที่เคยได้กล่าวไปว่าวินฯที่ผมประจำการอยู่นั้น มีสมาชิกมากหน้าหลายตาร่วมๆแปดสิบกว่าชีวิต สลับสับเปลี่ยนกันออกมาหากินกันไป บางคนมาแค่ช่วงเช้า บางคนมาแค่ช่วงเย็น หรือบางคนก็อยู่เฝ้าทั้งวันไปเลยแล้วแต่ว่าใครจะชอบจะพอใจแบบไหน ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็นว่าจะต้องมาเวลานั้นเวลานี้ใดๆ มันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของตัวเอง ซึ่งตรงนี้แหละที่มัน”อิสระ”กว่าอาชีพอื่นๆ ทีนี้มันจะมีอีกกลุ่มนึงที่จะอยู่จนดึกจนดื่น ถึงประมาณห้าทุ่มหรือห้าทุ่มครึ่ง ผมเรียกกลุ่มนี้ว่า “วินกะดึก” ช่วงแรกที่ผมเข้าไปขับวินฯใหม่ๆ ผมจะอยู่ดึกทุกวัน(ยอมรับว่าช่วงนั้นร้อนเงินมาก) คือยอมเสียเวลาอีกสองสามชั่วโมง เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินอีกเพียงน้อยนิดเท่านั้นเอง คุณอาจจะคิดว่าอยู่ดึกคนน้อยรายได้จะงามใช่ม้า? เปล่าเลยครับมันตรงกันข้ามด้วยซ้ำ การที่จะอยู่กะดึกนั้นต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูงเลยทีเดียว อดทนต่อระยะเวลาที่ต้องรอคอย เพราะกว่าจะมีลูกค้าออกมาแต่ละคนนั้นนานแสนนานเหลือเกิน ไหนจะยุงที่มันจ้องจะดูดเลือดดูดเนื้อเราอย่างเคียดแค้นปานว่าเราได้ไปเผาบ้านมันไว้เมื่อชาติ ปางก่อนอีก55555 และบางทีนะรอมานานครึ่งค่อนชั่วโมงลูกค้าเรียกให้ไปส่งตรงเนี้ย ใกล้ๆได้ค่าโดยสาร 10 บาท!! แล้วกลับมาต่อคิวใหม่ มันเป็นอะไรที่โคตรช้ำเลยนะ ฉะนั้นจึงเป็นอย่างที่ผมว่านั่น แหละว่าวินกะดึกน่ะ ไม่ใช่ว่าจะรายได้งามอะไรหรอก แต่ที่เค้าอยู่กันเพราะอะไรรู้มั้ยครับ ผมคิดว่าเค้าอยู่กันเพื่อความสบายใจมากกว่า… ที่ว่าอยู่เพื่อความสบายใจนั้นหมายถึงว่า เหล่าขาประจำที่อยู่ดึกเค้าจะพูดคุยกันสัพเพเหระ คุยสนุกสนานสบายใจ ผมสังเกตเห็นว่าไม่มีใครเอาเรื่องเครียดๆมาคุยเลยนะ มีแต่สนุกสนานเฮฮาเหมือนได้ผ่อนคลายความเครียดที่สะสมมาทั้งวันแล้วในตอนดึกๆก่อนจะเข้าบ้านไปพักผ่อนแค่นั้นเอง ในช่วงแรกๆจะมีไม่กี่คันหรอกที่ อยู่ดึก มีผมเบอร์ 60 มีเบอร์ 1 เบอร์ 39 ไอ้อ้วนเบอร์ 79 ละก็เจ๊ผู้หญิงเบอร์ 13 ที่พูดมานี่คือขาประจำนะ บางวันก็จะมีเบอร์อื่นๆมาร่วมด้วยสนุกสนานกันไป เจ๊เบอร์ 13 แกจะไม่ได้มาร่วมคุยอะไรกับพวกผมมากนักหรอก แกจะนั่งฟังละก็หัวเราะตามไปกับเรื่องราวในแต่ละกัน แกจะหิ้วงานเสริมมาทำที่วินระหว่างช่วงรอลูกค้าตลอดนะ บางวันก็ถักกระเป๋าใบเล็กๆ บางวันก็ร้อยเชือกอะไรไม่รู้ งานทำนองเนี้ยนิดๆหน่อยๆพอได้เงินค่านมลูก แกว่างั้น… มีอยู่คืนนึง คืนนั้นฝนตกตั้งแต่หัวค่ำ ขาประจำคนอื่นๆเค้านัดแนะกันไปสังสรรค์กันที่ร้านยาดองร้านนึงที่เค้าว่าสาวๆเด็ดนักเด็ดหนาเนี่ยแหละ ผมปฏิเสธคำเชิญชวนของพวกเค้าเนื่องด้วยห่วงเงินที่จะต้องได้ในช่วงดึก จึงจำใจอยู่ต่อกะว่าคงมีเพื่อนอยู่ด้วยล่ะวะ ที่ไหนได้คืนนั้นอยู่คนเดียวเลย ด้วยอากาศอันหนาวเหน็บเพราะฝนยังคงตกปรอยๆและตัวผมก็เปียกมาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว บวกกับลูกค้าที่ทยอยออกมาโบกกันอย่างไม่ขาดสาย สรุปคืนนั้นผมวิ่งไม่ทัน! ไม่ทันนี่คือ รับคนนึงไปส่ง อีกคนนึงออกมาไม่เจอวินเค้าก็ไม่รออะไรประมาณเนี้ยครับ จะเร็วมากก็ไม่ได้ถนนมันลื่น ล้มไปไม่คุ้มอีก ถามว่าเสียดายมั้ยต้องบอกว่าเสียดายนะ อยากจะรับให้ได้ทุกคนเลยจริงๆเพราะถ้าได้ทุกคนล่ะก็อิ่มแน่นอน 55555 แต่ก็อย่างว่า ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นล่ะครับ ดีกว่าไม่มีใครอยู่วินเลยปล่อยให้ลูกค้าเดินกันหมด ถึงหนาวก็ต้องทนไปก่อนล่ะนะ คืนนั้นผมอยู่รอจนหยดสุดท้ายเลยประมาณห้าทุ่มครึ่ง จนแบบรปภ.หน้าโรงงานมองแล้วอะว่านี่มึงยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ ไม่มีใครเค้ามาขึ้นมึงแล้ว! อะไรประมาณนี้ ผมจึงค่อยๆบิดรถกลับบ้านอย่างหนาวๆ และผลสุดท้ายตื่นเช้าม ป่วย!!!  ทนพิษบาดฝนไม่ไหว5555 ช่วงหลังๆมาผมสังเกตเห็นว่ามีวินมาอยู่รอสมทบช่วงดึกเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น จนเยอะ… ผมจึงไม่ค่อยได้อยู่ดึกแล้วเพราะลำพังอยู่กันสามสี่คันนี่ก็แทบจะไม่ได้อะไรเพิ่มอยู่แล้ว นี่เพิ่มมาอีกเพียบขนาดนี้ผมขอบายดีกว่า เค้าคงคิดว่าอยู่ดึกรายได้คงดีละมั้ง “ดังที่ผมบอกไปว่าขาประจำที่อยู่ดึกนั้น เค้าไม่ได้หวังเรื่องเงินอะไรหรอก เค้าแค่หาความผ่อนคลายให้ชีวิตเท่านั้น” บางครั้งบางทีเราเครียดจากสิ่งรอบข้างมาทั้งวัน การได้หัวเราะอย่างเบิกบานนี่มันเป็นตัวช่วยบำบัดความเครียดชั้นดีเลยนะครับ เค้าถึงได้มีคำกล่าวว่าคนที่ร่าเริงเนี่ยมักจะอายุยืน ซึ่งผมว่ามันก็น่าจะมีเค้าความจริงนะ เพราะอย่างน้อยการหัวเราะมันไม่ได้ทำร้ายเราเหมือนความเครียดหรอกจริงมั้ย และผลพลอยได้จากการอยู่ดึกก็คือ เงินเล็กๆน้อยๆจากการส่งผู้โดยสารกะดึกเช่นกัน ถือว่าสบายใจทั้งสองฝ่ายนะ… Photo Credit : http://tokyostreet.photo http://2wheelsstory.blogspot.com

สำหรับวิน… กลิ่นตัวไม่ใช่เรื่องตลก

เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ การสัมผัสกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่ออกมาจากตัวของผู้คนรอบข้างมาบ้างไม่มากก็น้อยใช่มั้ยครับ ยิ่งถ้าไปประสบในสถานที่ๆมีผู้คนแออัดอย่างเช่นบนรถเมล์รถไฟฟ้า หรือที่อื่นๆแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าเห็นนรกรำไรๆอยู่ตรงหน้าเลยแหละ

Bangkok Cinematography 5 แฟชั่นฟิล์มไทย Unlock โลเคชั่นเก๋ใหม่ๆในกรุงเทพ

พูดไปก็หาว่าอวย เรามาเปิดมุมมองกับ 5 แฟชั่นฟิล์มโดยคนไทยที่ทำให้รู้สึกว่า “กรุงเทพเก๋ขนาดนี้เลย!” และยังเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึงที่จะชวนให้คุณออกไปสำรวจได้ไม่รู้จบ

ป่าคอนกรีตในเมืองกรุง ใครว่าไม่สวย

กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย ที่ผู้อาศัยอยู่ส่วนใหญ่ ต่างบอกว่าเป็นเมืองที่วุ่นวายและแออัด การเปลี่ยนแปลงไปของบ้านเมืองเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อโลกวิวัฒนาเดินหน้าต่อไป สรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง …..จากวิถีชีวิตของผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ในแนวราบ เริ่มเปลี่ยนไปเป็นแนวดิ่ง จากที่อยู่กันเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว กลายเป็นตึกสูงลิ่วเสียดฟ้า ใช้ชีวิตอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากขึ้น มีผนังกั้นเป็นห้องๆ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ลดน้อยลงไปทุกที ความเหนื่อยล้าและอ่อนแรงทำให้เราเกียจคร้านที่จะพาตัวเองออกไปที่ไหนไกลๆ บางครั้งอาจก่อให้เกิดปัญหาโรคกลัวการเข้าสังคม หรือโรคซึมเศร้ามากขึ้น …..เราต่างเรียกร้องหาความสุข หลายคนเรียกร้องให้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นเพื่อพักผ่อนหย่อนกายา ต้องรอวันหยุดหรือเวลาว่างเพื่อออกไปชมวิวสวยๆข้างนอกเมืองนั่น แต่หารู้ไม่ ว่าป่าคอนกรีตที่เต็มไปด้วยตึกสูงเนี่ย ก็เป็นวิวที่ใช้พักผ่อนหย่อนหัวใจได้เหมือนกัน ยังไงหนะเหรอ คุณเคยเหม่อมองฟ้าในเมืองบ้างหรือเปล่าหละ ปล่อยให้สมองได้พักผ่อนจากสิ่งต่างๆรอบกาย ด้วยการเก็บสมาร์ทโฟนไว้ในกระเป๋า เปิดเพลย์ลิสต์เพลงโปรดของตัวเองคลอไว้ เสมือนว่าโลกทั้งใบนี้ มีแค่ตัวเราเองเท่านั้น เอาหละ ถ้าพร้อมแล้ว ปล่อยหัวใจ ให้ได้ไปชมวิวเมืองกรุงเทพด้วยกันเลย . แค่เปลี่ยนมุมมอง …..เราชอบขึ้นไปบนดาดฟ้าสักที่ แล้วชมวิวและทิวตึกจากมุมนั้น จ้องมองอยู่นานพอควร ไม่ได้มองจริงๆหรอก อาจค่อนไปทางเหม่อซะมากกว่า บนตึกสูงๆอากาศดีมากเลยนะ แตกต่างไปจากทุกวันที่เคยใช้ชีวิตข้างล่างนั่น กรุงเทพฯยิ่งถ้าเป็นตอนเช้าบรรยากาศดีมาก มีทั้งเสียงนกร้อง เสียงเพลงจากตึกข้างๆ เสียงเคาะเหล็กและตอกเสาดังอึกทึกมาจากระแวกนั้นบริเวณที่เป็นเขตก่อสร้าง เสียงเด็กน้อยเจื้อยแจ้วดังมาจากโรงเรียนอนุบาลแถวๆนั้น หรือจะเป็นคุณลุงที่นั่งจิบกาแฟอยู่ บางคนกำลังมุ่งหน้าไปทำงานในตอนเช้า บางคนก็ออกมารดน้ำต้นไม้ เรายืนนิ่งๆและซึมซับบรรยากาศ ทุกชีวิตดำเนินไปอย่างเนิบช้า ความไม่เร่งรีบท่ามกลางความเร่งรีบ […]

พระเอกในวันวานกับบทบาทที่เปลี่ยนไป Wow-space ในเมืองกรุงกับวิถีชีวิตที่ไม่เคยหยุดเปลี่ยน

หากย้อนถอยหลังกลับไปเมื่อ 20-30 ปีก่อน ศูนย์กลางมนุษย์วัยรุ่นเมืองกรุงคงจะหนีไม่พ้นกระจุกตัวอยู่ในย่านสยามสแควร์ ทั้งในเรื่องของการคมนาคม ตัวเลือกของสถานที่นัดพบ ศูนย์การค้ารูปแบบใหม่เอี่ยม ปัจจัยเรื่องของ trend และ fashion และปัจจัยอีกหลายอย่างที่ทำให้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่รวมพลของคนมากมายในยุคนั้น

เมืองที่ไม่เคย “ดีพอ” สำหรับเรา อาจเป็นเมืองที่ “พอดี” สำหรับใคร

เคยรู้สึกไหม ว่าทำไมการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่มันช่างวุ่นวายขนาดนี้ หลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ชอบเมืองนี้เลย เหนื่อยเหลือเกินแล้ว อยากหนีออกไปอยู่ที่อื่นให้พ้นๆ ทำไมถึงไม่มีความสุขเลย ความสุขหาได้จากที่ไหนหรอ ทำไมชีวิตถึงไม่มีเรื่องดีๆเลย มีแต่เรื่องแย่ๆเต็มไปหมด

กรุงเทพฯ เมืองรถติด? หลากหลายสาเหตุและวิธีการแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน

รถติดสำหรับคนกรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นเพียงปัญหา แต่มันคือวิถีชีวิต เท่าที่จำความกันได้ ตั้งแต่เมืองเริ่มพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ คนกรุงเทพฯ ไม่เคยต้องหยุดเผชิญกับปัญหาทางการจราจรเลย แม้ว่าเราจะมีทางเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน ก็ยังดูเหมือนว่าเราจะไม่มีวันแก้ไขปัญหาอันเป็นอมตะนี้ได้ สำหรับปัญหารถติด หากมองดีๆ แล้ว พวกเราไม่สามารถยกเพียงสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งขึ้นมา และพิจารณาเพื่อแก้ปัญหากันตรงๆ เพราะที่มาของปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานครนั้นมีมากมายและเกี่ยวพันกันอย่างซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการวางผังเมืองที่ไม่เป็นไปตามความเหมาะสมและขาดความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ระบบขนส่งมวลชนที่ไม่ดำเนินการตามแผนงานที่มีประสิทธิภาพ และสาเหตุย่อยๆ อย่างการบริหารเวลาของสัญญาณไฟจราจรที่ไม่สอดคล้องกับภาพรวมการจราจรของทั้งเมือง ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นความพยายามมากมายในการแก้ปัญหาจราจรนี้บ้าง แต่หากจะให้พูดถึงวิธีที่ทรงประสิทธิภาพจริงๆ ก็คงจะนึกกันไม่ค่อยออก ไม่ใช่เพียงกรุงเทพมหานคร หลากหลายเมืองหลวงที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกรุงเทพฯ แต่เขาก็สามารถลดทอนและแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัดได้ เรามาดูกันว่านอกจากความพยายามของผู้ใช้ถนนด้วยกันแล้ว รัฐและผู้มีอำนาจจากหลายๆ ที่บนโลกที่เผชิญปัญหาด้านการจราจรแบบเรา พวกเขามีวิธีในการแก้ไขมันอย่างไร ไม่ใช่เพียงเพื่อลดปัญหารถติด แต่ยังเป็นการสร้างลักษณะของการคมนาคมที่ดีให้กับประชากรในเมืองนั้นๆ อีกด้วย 1. การเก็บค่าธรรมเนียมรถยนต์ เป็นมาตรการที่ทรงประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจนมาก เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Congestion Charge Zone ปัจจุบันมหานครใหญ่ๆ อย่าง London หรือกรุง Stockholm ประเทศสวีเดน ก็ใช้วิธีนี้ในการแก้ปัญหาจราจร เป้าหมายก็คือลดปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลในเขตเมืองชั้นในที่มีการจราจรหนาแน่น และมีระบบขนส่งมวลชนคอยให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งวิธีนี้เป็นการกึ่งบังคับให้ผู้ใช้รถยนต์หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนนั่นเอง โดยผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวที่เข้าเขตเมืองชั้นในไปในเวลาที่มีข้อห้าม ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียม ซึ่งรัฐจะนำไปพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้ดียิ่งๆ ขึ้นควบคู่กันไป การเก็บค่าธรรมเนียมรถยนต์นี้ได้ผลดีมากกับช่วงเวลาเร่งด่วน […]

ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนอะไรก็ได้ในกรุงเทพฯ คุณจะเปลี่ยนอะไร? – EP.1

ถ้าเกิดคุณสามารถเปลี่ยนอะไรก็ได้ในกรุงเทพฯ มหานครอันแสนวุ่นวายที่มีพร้อมทุกอย่าง ขาดบ้าง เกินบ้าง ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง คุณอยากจะเปลี่ยนอะไร? พอนึกถึงว่ามีอะไรที่อยากให้ปรับปรุง เน้นความอยากให้เป็น ไม่ต้องเน้นความเป็นไปได้ อันดับแรกๆ เราก็นึกถึง Infrastructure หรือสิ่งก่อสร้างพื้นฐานก่อนเป็นอันดับต้นๆ เพราะมันเปรียบเสมือนสิ่ง Built-in ที่ก่อให้เป็นเมือง ไม่ว่าจะเป็นถนน ตึก สะพาน เสาไฟ สายไฟ ระบบสาธารณูประโภคต่างๆ เพราะถ้ามีโครงสร้างพื้นฐานที่เปรียบเหมือนวัตถุดิบที่ดีตั้งแต่ต้น เมืองก็น่าอยู่ไปแล้วครึ่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เกิดและโตและใช้ชีวิตในเมืองกรุงแห่งนี้ เวลาไปไหนมาไหนย่อมเห็นข้อดีและปัญหาของสิ่งต่างๆ รอบตัว เลยเกิดเป็นซีรีส์ “ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนอะไรก็ได้ในกรุงเทพฯ คุณจะเปลี่ยนอะไร?” ขึ้นมา ประเดิมตอนแรกด้วย ฟุตพาท สิ่งก่อสร้างพื้นฐานที่ทุกคนต้องได้ใช้ในทุกๆ วัน ฟุตพาทคือทางเท้าสำหรับคนเดิน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “foot = เท้า” “path = ทาง” แต่ทุกวันนี้น้อยฟุตพาทนักที่จะน่าเดิน หรือเอื้อกับการเดิน อุปสรรคในการเดินที่เราพบเจอนั้นมีมากมายหลากหลายรอบทิศทาง จากการสอบถามความเห็นประชากรชาวออฟฟิศใจกลางเมืองแห่งหนึ่งที่ต้องใช้ฟุตพาทเพื่อเดินมาทำงานและไปทานข้าวเที่ยงทุกวันจำนวน 4 คนถ้วน กับคำถามเดียวกันนี้ ก็ได้คำตอบว่า “อยากเปลี่ยนฟุตพาทไม่ให้เป็นกับระเบิดอะค่ะ” “ไม่เอาอิฐแผ่นๆ ค่ะ” […]

6 อีเวนต์ในเดือนกันยายน ที่คนรักหนังสือและศิลปะพลาดไม่ได้

Unseen Lithuania ไปมองโลกในมุมใหม่กันมั้ย? Marius Jovaisa ช่างภาพชาวลิทัวเนีย เลือกนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ของประเทศบ้านเกิดของเขาในมุมที่คนทั่วไปไม่เคยเห็นมาก่อน ผ่านชุดภาพถ่าย “Unseen Lithuania” ภาพถ่ายของลิทัวเนียในมุมสูง ใครสนใจก็ตามไปดูกันได้ ส่วนใครที่อยากพูดคุยกับศิลปินเจ้าของภาพถ่ายเหล่านี้ก็ไปเจอได้ในแรกของนิทรรศการ (6 ก.ย.) ที่ House of Lucie เอกมัย ซอย 8 เลยจ้า Where : House of Lucie เอกมัย ซอย 8 When : 6 – 23 Sep 2017 6.00 PM How much : Free BANGKOK ART BOOK FAIR 2017 งานนี้คนรักหนังสือและศิลปะห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะปีนี้เป็นปีแรกที่จะมีเทศกาลหนังสือและสิ่งพิมพ์ศิลปะประจำปี ซึ่งจะจัดขึ้นในบ้านเรา งานนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของเหล่าศิลปิน นักออกแบบ นักวาดภาพที่อยากจะจัดพิมพ์และเผยแพร่ผลงานของตัวเอง […]

FYI

‘งานอิสระ เสี่ยงตาย ค่าใช้จ่ายเยอะ’ คุยกับวินมอเตอร์ไซค์ อาชีพเส้นเลือดฝอยของเมือง

ในช่วงเวลาที่เร่งรีบ ภาพของหนุ่มสาวที่ยืนต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบรอใครสักคนที่จะมาพาพวกเขาไปยังที่หมายคงเป็นภาพที่คุ้นตาของใครหลายๆ คน วันนี้เราก็เป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังยืนรออยู่ที่เดียวกับพวกเขา แต่เปล่า เราไม่ได้จะให้ใครมารับเราไปส่งที่ไหน เพราะจุดหมายปลายทางของเราอยู่ตรงนี้แล้ว

5 ห้องสมุดสุดคูลในเมืองกรุง

หากใครเบื่อความวุ่นวายในเมืองกรุงและกำลังมองหาที่สงบๆ นั่งทำงาน อ่านหนังสือกันอยู่ วันนี้เราได้คัดห้องสมุดสุดคูลในกรุงเทพมาให้เลือกกันแบบเน้นๆ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

1 11 12 13 14

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.