เมื่อเมืองเหงาจนเห็ดเรางอก! สำรวจความเหงาจากพื้นที่เมืองในโปรเจกต์ Otterlone.BKK

หลายคนอาจเคยได้ยินสังคมเหงาๆ และการแยกตัวอยู่คนเดียวแบบ ‘ฮนจก’ ซึ่งหมายถึงวัฒนธรรมการแยกตัวอยู่คนเดียวของเกาหลีใต้ หรือ Hitoribotchi ของสังคมญี่ปุ่นที่ Kazuhisa Arakawa ผู้เชี่ยวชาญด้านความโสดกล่าวถึงข้อมูลใน White Paper ของรัฐบาลญี่ปุ่น ปี 2020 ว่า ครัวเรือนญี่ปุ่นมีคนโสดเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 38 เปอร์เซ็นต์จากปี 1980 แถมในโตเกียวยังมีครัวเรือนที่อยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 52 เปอร์เซ็นต์ แต่นอกจากเมืองญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้ว ตอนนี้ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เองก็กลายเป็นเมืองที่มีความเหงาและการแยกตัวออกจากสังคมสูงไม่ต่างกัน Urban Creature เลยอยากแนะนำ ‘Otterlone.BKK’ ซีเนียร์โปรเจกต์ของ ‘ซันซัน-ณิชารีย์ ทรัพย์ประพฤทธิ์’ นิสิตภาควิชาการสื่อสารมวลชน สาขาวิชาการออกแบบและผลิตสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่พูดถึงปรากฏการณ์ความเหงาของคนในเมือง ซึ่งอาจไม่ได้เกิดจากชีวิตส่วนตัวของเราอย่างเดียว แต่เป็นผลจากเมือง การขาดพื้นที่สาธารณะ หรือสภาพกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้เอื้อให้เราคลายเหงาได้ง่ายขนาดนั้น โปรเจกต์นี้แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) Lonely Very Mush เว็บไซต์ Interactive หน้าตาน่ารักที่จะชวนทุกคนไปสำรวจตัวเองและชีวิตเหงาๆ […]

Khaokheow Zoo Application โปรเจกต์ของคนอยากลองออกแบบ UX/UI ให้คนไทยและนักท่องเที่ยวทัวร์สวนสัตว์ได้สะดวกขึ้น

มะมะมะหมูเด้ง ยังจำฮิปโปแคระขี้โมโหตัวนี้กันได้อยู่หรือเปล่า ถ้าวันนี้เหนื่อย อยากเติมยีราฟ แมวน้ำ หรือหมูเด้ง แล้วปุบปับออกเดินทางไปสวนสัตว์ในไทยเลยโดยไม่ได้หาข้อมูลล่วงหน้า ก็อาจจะเจอปัญหาทั่วๆ ไปอย่างการไม่รู้ขนาดของสวนสัตว์ เดินไม่ถูก อยากไปดูคาปิบารา ต่อด้วยโคอาลา แต่ดันเลี้ยวซ้ายไปเจอลิงเสียอย่างนั้น หรือบางทีก็ไม่รู้ว่าตั๋วที่นี่ราคาแพงแค่ไหน ใช้บัตรนักเรียนนักศึกษาลดได้ไหม และอีกมากมายหลากหลายคำถามที่หาคำตอบไม่ได้สำหรับการเที่ยวสวนสัตว์ในไทย เมื่อเปรียบเทียบกับอีกหลากหลายสวนสัตว์ในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน หรืออเมริกา สวนสัตว์เหล่านั้นมีระบบการจัดการที่แม่นยำและเข้าใจง่ายกว่ามาก เช่น กดตั๋วเข้าสวนสัตว์ล่วงหน้าได้ มีแอปพลิเคชันดูโซนของสวนสัตว์ว่าห่างกันแค่ไหน หรืออยากหาจุดเติมน้ำ เข้าห้องน้ำก็ดูผ่านสมาร์ตโฟนได้เช่นกัน เนื่องจากสวนสัตว์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่นักเดินทางทั่วโลกมักไปเยี่ยมเยือน ไม่ใช่เพียงคนในประเทศเท่านั้น การพัฒนาระบบให้เข้าใจง่ายจึงเป็นหนึ่งในประเด็นที่จำเป็น คอลัมน์ Debut ขอชวนมารู้จักกับ ‘แมวน้ำ-ศิลปี กอบกิจวัฒนา’ และ ‘พัท-นนทพัทธ์ ชลวิทย์’ ที่ร่วมกันทำโปรเจกต์ UX/UI ออกแบบแอปพลิเคชันให้สวนสัตว์เปิดเขาเขียวเที่ยวง่ายและสนุกกว่าเดิม เปิดประตูสู่โลกของเหล่าสัตว์ โปรเจกต์นี้เริ่มต้นขึ้นจากการเดินทางไปเที่ยวที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวของเขาทั้งสอง ด้วยแรงใจที่อยากจะไปเจอหมูเด้ง ฮิปโปแคระหน้าตาน่ารัก แก้มอมชมพู ผู้เป็นที่รักของคนทั่วโลก แต่การตัดสินใจไปเที่ยวที่นี่โดยไม่ได้หาข้อมูลให้ละเอียดก่อน ทำให้ทั้งคู่เจอปัญหาหลักๆ อย่างการไม่รู้เลยว่าบ้านของหมูเด้งอย่างสวนสัตว์เปิดเขาเขียวที่จังหวัดชลบุรีนี้มีขนาดใหญ่ถึง 5,000 ไร่ ซึ่งถ้าหากอยากดูสัตว์ให้ครบภายในหนึ่งวัน ย่อมเดินเท้าไปเรื่อยๆ […]

‘RUBIX SQUARE’ พื้นที่สาธารณะที่ตั้งใจให้คนออกกำลังกาย ผ่านการออกแบบจากแนวคิดเรขาคณิต

Rubix Square ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยของเมืองฝูโจว ประเทศจีน ผลงานจากสตูดิโอสถาปัตยกรรม 100architects รังสรรค์ปรับปรุงพื้นที่สาธารณะธรรมดาๆ ให้กลายเป็นพื้นที่สร้างเสริมจินตนาการจากเหล่าเรขาคณิต ประกอบด้วย 5 ส่วนหลักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬาและกิจกรรมต่างๆ โดยมี ‘Rubix Square’ เป็นประติมากรรมขนาดยักษ์ที่เข้าไปใช้งานได้จริงตั้งอยู่ใจกลางลานกว้าง อาคารรูปทรงแปลกนี้เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่จำลองมาจากลูกบาศก์รูบิก มีพื้นที่สามชั้นที่ผู้คนเข้าไปสำรวจและเล่นได้ ซึ่งข้างในก็มีความสูงที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับปีนป่าย ฝึกการเคลื่อนไหวของเด็กๆ และยังทำให้ได้เห็นวิวที่ต่างกันออกไปในแต่ละมุม รวมถึงสไลเดอร์และ Tic-tac-toe ขนาดใหญ่ให้ได้เล่น XO กันบนกระดานที่ทั้งสูงและกว้าง The Hashtag ที่คล้ายเขาวงกตธรรมดาๆ แต่กลับแทรกลูกเล่นไว้มากมาย ทั้งรูปร่างต่างๆ อย่างวงกลม กากบาท ให้เด็กๆ แทรกตัวเข้าไป มีชิงช้าซ่อนไว้แอบๆ หรือจะสไลด์ลงมาผ่านท่อขนาดใหญ่ก็ยังได้ รวมถึง Basket Triangle ที่มีห่วงบาสเกตบอลที่จัดเรียงอย่างสวยงาม หมดปัญหาแย่งกันโยนลงห่วงเดียว เพราะที่นี่มีห่วงนับสิบเรียงรายเป็นรูปสามเหลี่ยม นอกจากนั้นยังมี Wall Ball กำแพงที่มีเป้าสำหรับฝึกซ้อมฟุตบอล และ Heli-Skate สวนสเกตขนาดเล็ก สำหรับคนที่เริ่มๆ ฝึกสเกตให้มีพื้นที่ฝึกซ้อมที่ทั้งกว้างและไม่อันตรายเกินไป พื้นที่ทั้งหมดถูกออกแบบด้วยพื้นสีสันสดใส ไม่ว่าจะเหลือง เขียว […]

‘Sydney Fish Market’ ตลาดปลาแห่งใหม่ในซิดนีย์ที่ตั้งใจเป็นแหล่งท่องเที่ยว และช่วยฟื้นฟูพื้นที่ไปด้วย

ตลาดปลาในอดีตอาจไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการท่องเที่ยวนัก แต่ในปัจจุบันหลายๆ เมืองที่นำเอาอาหารทะเลมาเป็นจุดขายก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ตลาดปลาให้น่าเดิน และเพิ่มพื้นที่สำหรับกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากการซื้อขายอาหารทะเลอย่างเดียว เช่นเดียวกับ ‘Sydney Fish Market’ ตลาดปลาแห่งใหม่ของซิดนีย์ที่ย้ายมาอยู่บนอ่าว Blackwattle ด้วยขนาดกว่า 3.6 เฮกตาร์ หรือประมาณ 36,000 ตารางเมตรที่กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของเมืองที่ชักชวนผู้คนให้มาลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ พร้อมซึมซับบรรยากาศสวยงามจากการเดินริมทะเล ตลาดปลาแห่งใหม่นี้เป็นการร่วมมือกันของสตูดิโอ 3XN, BVN และ Aspect Studios ที่มีเป้าหมายในการเพิ่มชื่อเสียงแห่งการเป็นจุดหมายด้านอาหารทะเลของเมืองซิดนีย์ ด้วยการทำให้พื้นที่แห่งนี้มีทั้งร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และตลาดอาหารทะเลสด เพื่อดึงดูดทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวให้แวะมาเยี่ยมเยียนตลาดแห่งนี้ รวมไปถึงการฟื้นฟู Blackwattle Bay ให้มีชีวิตชีวาขึ้น สิ่งที่ทำให้ตลาดปลาแห่งนี้ไม่เหมือนใครคือ โครงสร้างหลังคาความยาวกว่า 200 เมตรที่มีการออกแบบให้คล้ายเกล็ดปลา โดยทำขึ้นจากไม้และอะลูมิเนียม มีคุณสมบัติด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืน ช่วยเรื่องระบายอากาศ กักเก็บน้ำฝน รองรับความต้องการในการใช้น้ำ มีแผงโซลาร์เซลล์ที่ใช้แสงอาทิตย์ช่วยผลิตไฟฟ้าใช้ภายในตลาด และสกายไลต์ให้แสงแดดส่องเข้าไปในตัวอาคาร เพิ่มความสวยงามให้ดูสดใส น่าเดินจากแสงธรรมชาติภายนอก ด้วยความที่ตลาดปลาตั้งอยู่บนน้ำและสวนสาธารณะ ภายนอกอาคารจึงมีทางเดินริมทะเลรอบๆ เพื่อเชิญชวนให้ผู้คนเดินเล่นในเส้นทางริมน้ำ รับบรรยากาศสบายๆ รวมถึงมีพื้นที่สาธารณะที่เหมาะเป็นพื้นที่สังสรรค์และสร้างปฏิสัมพันธ์ของชุมชนอีกด้วย Sources :3XN […]

‘Plaza del Zarrón’ จัตุรัสสำหรับทุกคน ที่ผสานเมืองเก่าและความร่วมสมัยบนพื้นที่ลาดของเมือง

จัตุรัสแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับทุกคนในเมืองอัลมาซาน ประเทศสเปน โดยมีความตั้งใจสร้างการเชื่อมต่อระหว่างย่านเมืองเก่ากับพื้นที่สร้างใหม่ ผ่านตัวพื้นที่ที่ถูกร้อยเรียงด้วยรากฐานทางประวัติศาสตร์ของเมืองอัลมาซาน ผสมผสานกับชีวิตสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพและความปัจเจกชน การเข้าถึงที่นี่สามารถเข้ามาได้จากหลากหลายเส้นทาง เพื่อเน้นย้ำถึงการเข้าถึงของทุกคน ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงระดับความสูงของพื้นอย่างแนบเนียนด้วยการสร้างฐานลาดเอียงและซิกแซ็กสลับไปมา ภายในจัตุรัสมีจุดชมวิว โดยแต่ละจุดมีการวางมุมที่ไม่เหมือนกันเพื่อแสดงทิวทัศน์และแสงที่แตกต่างกัน ส่วนด้านในของพลาซาเป็นที่ตั้งของที่นั่ง ต้นไม้ และประติมากรรม Zarrón ที่ถูกย้ายมาจากพลาซาเมเยอร์ (Plaza Mayor) หรือจัตุรัสใหญ่กลางกรุงมาดริด เพื่อจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันนักบุญปาสกาล ไบลอน (San Pascual Bailón) พร้อมด้วยการเต้นรำซาร์รอนแบบดั้งเดิม ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 17 พฤษภาคมของทุกปี กิจกรรมนี้นับเป็นกิจกรรมสำหรับแหล่งท่องเที่ยวระดับภูมิภาค ซึ่งการย้ายมาจัดที่นี่นั้นช่วยเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของอัลมาซานกับชีวิตสมัยใหม่ในเชิงสัญลักษณ์ได้ อีกทั้งยังแสดงว่าที่นี่เป็นพื้นที่สำหรับทุกๆ คนโดยแท้จริง ไม่ว่าจะการเต้นรำ เฉลิมฉลอง หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตโดยทั่วไปก็ล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ด้านการออกแบบ จัตุรัสนี้ผสานมรดกของเมืองกับการออกแบบร่วมสมัย โดยเลือกใช้วัสดุที่สอดคล้องกับความสวยงามดั้งเดิมของอัลมาซานอย่างแผ่นคอนกรีตเก่า ไม้ และโครงโลหะ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโรงหล่อและงานไม้ดั้งเดิมของเมือง โดยเฉพาะคอนกรีตเก่าที่สะท้อนถึงโทนสีและพื้นผิวของเมืองเก่า รวมถึงใช้รูปแบบการปูพื้น ประกอบด้วยแผ่นสี่เหลี่ยมขนาด 8 x 8 และ 16 x 16 เหมาะสำหรับการเป็นพื้นที่จัดกิจกรรม การรวมตัว และการพักผ่อน ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่นั่งเล่นยังถูกจัดไว้อย่างเป็นระบบ […]

Beitang Street Section of the Grand Canal สร้างความผูกพันระหว่างคลองและผู้คน ด้วยทางเดินสีฟ้าริมน้ำยาว 3.6 กิโลเมตร

เดี๋ยวนี้เรามักเห็นหลายๆ เมืองเริ่มปรับปรุงพื้นที่ริมน้ำให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะแนวยาว เพื่อดึงดูดใจให้ผู้คนออกมาใช้ชีวิตริมน้ำกันมากขึ้น เช่นเดียวกับ ‘Beitang Street Section of the Grand Canal’ ทางเดินสีฟ้ายาว 3.6 กิโลเมตรบนถนนเป่ยถังที่ขนานไปกับตัวคลอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงและยกระดับคลองขนาดใหญ่ปักกิ่ง-หางโจว ในส่วนของเมืองอู๋ซี เมืองอุตสาหกรรมเก่าในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน เพื่อเชื่อมสวนสาธารณะเป่ยเจี้ยนและเขตสวนสาธารณะตามคูน้ำของเมืองโบราณเข้าไว้ด้วยกัน Beitang Street Section of the Grand Canal ประกอบไปด้วยทางเดินสีฟ้าและต้นไม้สีเขียวที่ให้ความรู้สึกเย็นสบายตลอดสองข้างทาง ออกแบบมาอย่างเป็นมิตรต่อเมือง และผู้สูงอายุ เพื่อให้ทุกคนใช้งานพื้นที่ได้อย่างเพลิดเพลิน บริเวณท่าจอดเรือสำหรับขนถ่ายสินค้าขนาดเล็กที่มีความยาวประมาณ 100 เมตร ก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้ผสมผสานเข้ากับพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมระหว่างพ่อแม่และลูก อย่างลานออกกำลังกายริมน้ำ สนามเด็กเล่น และพื้นที่สำหรับพักผ่อน ที่คำนึงถึงความรู้สึกและความต้องการของผู้ใช้งานด้วย รวมไปถึงมีการออกแบบพื้นที่บางส่วนที่ยื่นเข้าไปในคลองหรือยกตัวขึ้นจากความสูงปกติ เพื่อเป็นจุดชมวิวที่จะทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินไปกับวิวริมน้ำที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของพื้นที่ ในขณะที่พื้นที่ใกล้ๆ ยังมีป้ายให้ความรู้ที่เปรียบเหมือนพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กคอยให้ข้อมูลประวัติของพื้นที่แห่งนี้อีกด้วย ทางผู้ออกแบบหวังว่า พื้นที่สาธารณะแห่งนี้จะเพิ่มความน่าดึงดูดใจของพื้นที่ริมน้ำด้วยภูมิทัศน์ที่เป็นมิตร จนทำให้เกิดการสนทนากับชุมชนโดยรอบ ไปจนถึงช่วยสร้างความผูกพันระหว่างคลองใหญ่และผู้คนได้ Source : ArchDaily | t.ly/LoY6k

Ghost Public Space ถ้ามีพื้นที่สาธารณะให้ผีทำกิจกรรม คนก็ไม่ต้องกลัวผีออกมาหลอกอีกต่อไป

พื้นที่สาธารณะของผีจะมีหน้าตาเป็นแบบไหนกันนะ คนที่ตายไปแล้วก็น่าจะอยากได้พื้นที่ทำกิจกรรมของตัวเองด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าไม่มีพื้นที่รองรับความต้องการนี้ การออกไปเดินเล่นข้างนอกตอนกลางคืนและปรากฏตัวให้คนเห็นจนกลายเป็นการหลอกหลอน ก็คงกลายเป็นเรื่องเดียวที่เหล่าผีสามารถทำได้ในยามว่าง สำหรับฮาโลวีนปีนี้ คอลัมน์ Urban Sketch จะขอมาเอาใจประชากรในปรโลก ด้วยการออกแบบพื้นที่สาธารณะสำหรับผีที่คนเองก็ใช้งานได้ โดยเปลี่ยนสุสานที่นานๆ ครั้งจะมีคนเข้ามาเยี่ยมเยือนตามโอกาส ให้กลายเป็นพื้นที่เพื่อผีบ้าง 1) Public Housing : เปิดบ้านพักให้ผีทุกตัวไม่ต้องเป็นวิญญาณเร่ร่อน แม้ว่าจะเป็นสุสาน แต่ผีทุกตัวที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่ว่าจะมีที่อยู่ทั้งหมด บางตัวอาจเป็นผีไม่มีญาติ ทำให้ไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง หากมีลูกหลานของใครบางคนเผาตึกหรือคอนโดฯ กระดาษไปให้ อากงอาม่าก็นำไปเปิดเป็นที่พักให้กับผีเร่ร่อนอาศัยร่วมชายคา ช่วยเหลือกันแม้ในยามที่ไม่มีชีวิตอยู่ เพื่อช่วยให้เหล่าผีได้มีความสุขดีในโลกหลังความตาย หรืออาจจะเปิดให้ผีตัวอื่นๆ เช่า สร้าง Passive Income ในอนาคตต่อไป ลูกหลานจะได้ไม่ต้องเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ทุกวันไหว้ 2) Community Space : พื้นที่สร้างสังคม ให้ทั้งคนและผีมีปฏิสัมพันธ์กัน ปกติแล้วพื้นที่ในสุสานมักเป็นลานกว้างๆ ให้ญาติๆ เข้ามาเยี่ยมเยียนหลุมศพของคนในครอบครัวตัวเองเท่านั้น เราเลยขอเพิ่มศาลาหลบแดด เพื่อให้คนทั่วไปและคนที่เข้ามาเยี่ยมหลุมศพได้นั่งพักหลบร้อน รวมตัว พบปะกับผู้คนใหม่ๆ ที่มาเจอกันที่นี่ ส่วนตอนกลางคืน เหล่าผีก็สามารถใช้พื้นที่นี้ในลักษณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการพบปะ พูดคุย ทำความรู้จักกับผีใหม่ๆ เพื่อสร้างสังคมแบบผีๆ […]

‘เกาะ Manresa’ อดีตเกาะโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทำลายธรรมชาติ สู่พื้นที่สาธารณะเพื่อการศึกษาและฟื้นฟูระบบนิเวศ

อดีตพื้นที่อุตสาหกรรมส่วนใหญ่หากไม่ได้ถูกทิ้งร้างไว้เฉยๆ ก็อาจถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ แต่ ‘Manresa’ อดีตเกาะที่ตั้งของโรงไฟฟ้าถ่านหินในช่องแคบลองไอแลนด์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐคอนเนตทิคัตที่มีประวัติพื้นที่น่าสนใจมาอย่างยาวนาน กำลังได้รับการฟื้นตัวเพื่อเป็นพื้นที่สาธารณะเปิดรับชาวเมืองให้เข้ามาใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเต็มที่ เดิมที Manresa เป็นพื้นที่พักผ่อนอยู่แล้ว จนในปี 2493 ได้มีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินจนถึงปี 2555 ซึ่งการมีอยู่ของโรงไฟฟ้าก่อให้เกิดปัญหาระบบนิเวศมานานกว่า 60 ปี และหลังจากที่ปลดระวางโรงไฟฟ้าไป พื้นที่แห่งนี้ก็มีการฟื้นตัวทางระบบนิเวศตามธรรมชาติ โดยมีป่าเบิร์ช (Birch) ที่เติบโตบนขี้เถ้าถ่านหินเก่า และนกออสเปรย์ที่ทำรังอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้ระบบนิเวศของพื้นที่ชุ่มน้ำเจริญรุ่งเรืองและมีความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ ทาง ‘Bjarke Ingels Group (BIG)’ บริษัทสถาปนิกชื่อดังจากเดนมาร์ก และ ‘SCAPE’ บริษัทสถาปัตยกรรมภูมิทัศน์ในนิวยอร์ก มองเห็นถึงประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงพื้นที่นี้ให้เป็นสวนสาธารณะขนาด 125 เอเคอร์ หรือประมาณ 505,857 ตารางเมตร จึงร่วมมือกันออกแบบให้ Manresa กลายเป็นศูนย์กลางการพักผ่อนหย่อนใจ ศูนย์กลางการศึกษาและการฟื้นฟูระบบนิเวศ เกาะ Manresa ในรูปแบบใหม่นี้จะมาพร้อมพื้นที่กลางแจ้งหลากหลายรูปแบบ และมีไฮไลต์อย่างสนามหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่ ชายหาดที่มองเห็นช่องแคบลองไอแลนด์และนิวยอร์ก สะพานคนเดิน รวมไปถึงท่าเทียบเรือที่ได้รับการฟื้นฟูเพื่อให้คนเข้ามาใช้พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจทางน้ำกันด้วย อย่างไรก็ตาม โครงสร้างและส่วนประกอบเก่าๆ ของโรงไฟฟ้าที่หลงเหลืออยู่อย่างอาคารหม้อไอน้ำ ห้องกังหัน อาคารสำนักงาน […]

The Hub ศูนย์รวมความบันเทิงสีสันสดใสในอียิปต์ พื้นที่สาธารณะที่ดึงดูดให้ผู้คนออกมาใช้ชีวิต

พื้นที่สาธารณะลักษณะวงกลมหลากหลายสีสันบน Marassi จุดหมายปลายทางริมชายฝั่งทางเหนือของประเทศอียิปต์ คือสถานที่ที่ดึงดูดให้ผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างมีชีวิตชีวา ซึ่ง ‘The Hub’ คือชื่อเรียกของสถานที่แห่งนั้น The Hub ถูกตั้งเป้าให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านความบันเทิงที่ล้ำสมัย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตร จากการออกแบบของ ‘100architects’ สตูดิโอออกแบบที่มักดึงเอาสีสันสดใสมาใช้ในการออกแบบพื้นที่สาธารณะ เช่นเดียวกับ The Hub ที่ถูกสร้างสรรค์โดยดึงเอาสีสัน แสงไฟ และการใช้ไดนามิก มาออกแบบด้วยแนวคิด Big Bang ที่จะดึงดูดสายตาผู้เยี่ยมชมให้เดินเข้าสู่พื้นที่วงกลมเล็กใหญ่ที่ถูกจัดวางไว้เป็นโซนหลักทั้งหมด 3 โซน ได้แก่ โซนอเนกประสงค์สำหรับจัดงาน โซนสนามเด็กเล่น และ Kids Town สีสันที่ว่ายังมาพร้อมกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมายให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์กลางแจ้ง ลู่โกคาร์ต ลานโรลเลอร์สเกต สนามกีฬา เกมตู้อาเขต และพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานตามความต้องการ ตั้งแต่จัดคอนเสิร์ต ตลาดนัด หรือเวิร์กช็อปศิลปะ ที่ออกแบบมารองรับกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นเด็กและวัยรุ่นเป็นหลัก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม สร้างพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งสังสรรค์ และเปิดโอกาสให้กับการแสดงออกของเยาวชน ในขณะที่ยังอยู่ภายใต้การออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความสวยงามและความมีชีวิตชีวาได้อย่างลงตัว Sources : 100architects | 100architects.com/project/the-hubDesignboom | […]

คุยกับผู้อยู่เบื้องหลัง STEP INTO SWING เมื่อเสียงเพลงและสเต็ปเท้าอาจพาเราไปสู่กรุงเทพฯ ที่ดีขึ้น

เย็นวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567 สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) คลาคล่ำไปด้วยผู้คนในชุดวินเทจ เสียงเพลงสวิงดังกึกก้อง ฟลอร์เต้นรำเริ่มขยายพื้นที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มไปทั่วทั้งบริเวณ อาจกล่าวได้ว่า สิ่งเหล่านี้คือตัวชี้วัดความสำเร็จของ STEP INTO SWING : Take the A Train at Hua Lamphong อีเวนต์สวิงโดย 2 ทีมงานเบื้องหลังอย่าง The Stumbling Swingout วงดนตรีสวิงแจ๊สที่ก่อตัวขึ้นจากกลุ่มนักเต้นสวิง และ Jelly Roll Jazz Club โรงเรียนสอนเต้นสวิงที่ตั้งใจสร้างนักเต้นใหม่ๆ เพื่อให้สวิงกลายเป็นคัลเจอร์ที่แข็งแรงในอนาคต หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เฝ้ามองแวดวงการเต้นสวิงในไทยมาตั้งแต่ยุคก่อนโควิด-19 ในเวลานั้นหลายคนอาจจินตนาการไม่ออกว่า วันหนึ่งกรุงเทพฯ จะมีอีเวนต์ SWING IN THE PARK เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะขยายตัวลามเลยออกไปสู่สถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งอาคารลุมพินีสถาน ไปรษณียาคาร ลานชุมชนต่างๆ รวมถึงสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่ได้โคจรกลับมาจัดเป็นครั้งที่สองแล้ว การขยับขยายของฟลอร์สวิงแดนซ์จากในสตูดิโอสู่พื้นที่สาธารณะต่างๆ […]

‘ปารีส’ เมือง 15 นาที ที่อยากให้ผู้คน ‘ใกล้ชิด’ กับ ‘ชีวิตดีๆ’ มากขึ้น

ย้อนไปเมื่อปี 2020 แอนน์ อีดัลโก (​​Anne Hidalgo) นายกเทศมนตรีแห่งกรุงปารีส ได้เสนอแนวคิดที่จะเปลี่ยนเมืองหลวงของฝรั่งเศสที่แสนจะวุ่นวายและเต็มไปด้วยกิจกรรมคึกคัก ให้กลายเป็น ‘เมือง 15 นาที’ (15-minute City) แนวคิดนี้คือการปรับปรุงและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยการสร้างเมืองที่ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ในระยะเวลา 15 นาทีด้วยการเดินหรือปั่นจักรยาน เพื่อลดการเดินทางจากบ้านไปยังสถานที่ต่างๆ ให้เหลือน้อยที่สุด เช่น สถานที่ทำงาน โรงเรียน โรงพยาบาล สวนสาธารณะ ร้านอาหาร ร้านค้า ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นไปโดยหวังว่าปารีสโฉมใหม่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนให้คล่องตัว มีสุขภาพดี และยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงต้องการสร้างสังคมที่โอบรับคนทุกกลุ่มและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมา 4 ปี มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นกับปารีสบ้าง และมหานครแห่งนี้เข้าใกล้การเป็นเมือง 15 นาทีมากขนาดไหนแล้ว คอลัมน์ City in Focus ขอชวนไปสำรวจและหาคำตอบพร้อมกัน เปลี่ยนจากการขับรถเป็นปั่นจักรยาน เป้าหมายแรกของกรุงปารีสคือการเปลี่ยนให้คนใช้รถยนต์น้อยลง และหันมาปั่นจักรยานมากขึ้น นายกฯ อีดัลโกอธิบายว่า การใช้จักรยานในเมืองจะแสดงให้เห็นว่าชาวปารีสสามารถปรับวิถีชีวิตของตัวเองได้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กรุงปารีสได้ออกข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ เช่น กำหนดให้เขตเมืองเป็นเขตควบคุมมลพิษต่ำ และกำหนดให้ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเป็นวันปลอดรถยนต์ […]

‘The Green Skyline Project’ พื้นที่สาธารณะจากพื้นที่ว่างเลียบชายหาด ที่สร้างสีสันอันโดดเด่นบนเกาะ Hengqin

พื้นที่สาธารณะที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมักเป็นพื้นที่ที่ต้องมีการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น พบปะพูดคุย ออกกำลังกาย เดินเล่น หรือกระทั่งเป็นสถานที่ที่หลายครอบครัวมาใช้เวลาด้วยกันในวันพักผ่อนได้ จากโจทย์นี้เอง นำมาซึ่งโครงการที่น่าสนใจอย่าง ‘The Green Skyline Project’ ที่เปลี่ยนพื้นที่ว่างเลียบชายหาดและไม่ได้มีการใช้งานให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะสีสันสดใสและมีการใช้งานหลากหลายรูปแบบ บนเกาะ Hengqin ประเทศจีน Green Skyline ออกแบบโดยบริษัท 100 Architects จากเซี่ยงไฮ้ ที่เน้นการดีไซน์สถานที่ให้มีองค์ประกอบน่าสนใจและดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้โปรเจกต์นี้โดดเด่นด้วยสีฟ้าและสีเหลือง รวมถึงมีการใช้แถบไฟ LED ส่องสว่างในตอนกลางคืน เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้คนที่มาเดินเล่นในพื้นที่ และได้รับพลังงานบวกจากการทำกิจกรรมที่นี่ด้วย และอีกหนึ่งไฮไลต์ของ Green Skyline คือจุดทำกิจกรรมต่างๆ ที่รวมอยู่ในพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ เช่น จุดตั้งกล้องดูดาว พื้นที่พักผ่อน โซนสนามเด็กเล่น และด้วยความที่ทำเลอยู่ติดกับทะเล ทำให้ผู้ใช้พื้นที่มองเห็นวิวของมาเก๊าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ นอกจากนี้ Green Skyline ก็ยังทำหน้าที่เป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ บนเกาะ เนื่องจากตัวพื้นที่ได้รับการออกแบบให้ผู้คนมาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ตลอดเวลา เพราะเปิดใช้งานทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน Sources :100 Architects | tinyurl.com/37hxpyyjDesignboom | tinyurl.com/c93afpde

1 2 3 4

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.